ร้านอาหารแนวฟิวชั่นยุคเก่าแก่ที่เปิดมาแล้วไม่ต่ำกว่า 80 ปี โดยจะเป็นแนวอาหารไทย-ฝรั่งและจีนไหหลำ 3 ชาติผสมผสานกัน ตำแหน่งร้านอยู่ในพระราม 9 ซอย 7 ซึ่งสามารถขับรถทะลุมาเส้นด้านหลังของเซ็นทรัลพระราม 9 และขับรถมาจอดบริเวณหน้าร้านหรือภายในร้านก็ได้เช่นกัน ตัวร้านจะเป็นอาคารเก่าๆ ชื่อทาบโลกา อยู่ที่ชั้น 1 ถ้าหาร้านไม่เจอให้สังเกตป้ายร้านที่วางอยู่ตรงเกาะกลางถนนครับ ภายในร้านจะเป็นร้านแบบสไตล์ยุค 90 ที่ดูโทรมๆ ไปตามกาลเวลา แต่ยังมีกลิ่นอายและความขลังตามแบบฉบับร้านเก่าแก่ของไทย มีที่นั่งทั้งโต๊ะกลม และแบบโซฟาที่จะมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า วันที่ไปทานมีลูกค้าแค่ 2-3 โต๊ะเท่านั้น ถือได้ว่าเงียบกว่าที่คาดไว้ เมนูอาหารจะเป็นแนวอาหารตามสั่ง โดยจะมีเมนูแนะนำที่ช่วยให้เราเลือกอาหารได้ง่ายขึ้น เหตุผลที่มาร้านนี้เพราะมีสตูลิ้นวัวที่หาทานไม่ได้ง่ายๆ ด้วยนั่นเอง สามารถเลือกข้าวหรือขนมปังทาเนยไว้ทานเคาร์โบไฮเดรตหลักของมื้อนี้ได้ วันนี้เมนูที่ทานทั้งหมดก็จะมีด้วยกัน 5 อย่าง - ซี่โครงหมูอบ ราคา 200 บาท: จะเป็นซี่โครงหมูที่นำไปอบจนด้านนอกกรอบ ราดด้วยน้ำซอสเหนียวๆ ออกไปทางหวานเค็มกลางๆ กำลังดี พร้อมกับโรยถั่วลั่นเตากระป๋อง เนื้อหมูค่อนข้างนุ่มกว่าที่คิด แต่ก็ควรจะรีบทานตอนร้อนๆ พอเริ่มเย็นจะเหนียว เข้ากับตัวน้ำซอสอย่างบอกไม่ถูกโดยไม่ต้องปรุงรสชาติเพิ่มแต่อย่างใด ส่วนตัวน้ำซอส ลองมาราดกับขนมปังแล้วทานก็อร่อยเช่นกัน - สตูลิ้นวัว ราคา 230 บาท: เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านเสิร์ฟลิ้นวัวที่ผ่านการตุ๋นมาอย่างยาวนาน พร้อมกับมันฝรั่งและถั่วลันเตา ตัวลิ้นวัวทำออกมาได้นุ่มกำลังดี มีความได้เคี้ยวนิดๆ แบบไม่ต้องออกแรงแต่อย่างใด มีความนมๆ ตามสไตล์เนื้อวัว น้ำซอสจะออกเปรี้ยวหวานตัดกับตัวลิ้นได้เป็นอย่างดี จานนี้ลองทานพร้อมกับขนมปังทาเนย มันเข้ากันมากๆ - ไก่ทอดสิงคโปร์ ราคา 160 บาท: หน้าตาดูดีและปริมาณเยอะใช้ได้ น่าจะใช้ไก่ปริมาณ ¼ ของทั้งตัว หั่นเป็นชิ้นๆ มาให้แล้ว เราแค่ตัดแบ่งให้เล็กลงก่อนทาน เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มไก่ธรรมดาทั่วๆไป หนังทอดได้กรอบมากไม่แพ้ของ KFC เลย ยังสงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมร้านส้มตำไก่ทอดถึงทอดไม่ได้แบบนี้ เนื้อด้านในยังมีความฉ่ำ โดยเฉพาะส่วนสะโพกไม่เจอแห้งเลย จิ้มกับน้ำจิ้มไก่เข้ากันดี หรือจะลองเอาน้ำซอสสตูมาราดแล้วทาน ก็อร่อยไปอีกแบบเหมือนกัน - ยำอากาเว่ ราคา 180 บาท: ยำซิกเนเจอร์ของร้าน ที่นำกะเพาะปลาแบบแห้งๆกรอบๆ ที่ยังไม่ได้ทำอะไร มาคลุกกับหอมหัวใหญ่ซอย เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และน้ำยำรสชาติเผ็ดจัดจ้านพร้อมกับความเปรี้ยวกลางๆ รสชาติจะออกเผ็ดสักหน่อย ส่วนกะเพาะปลาอันนี้ไม่ชอบเท่าไรมีกลิ่นหืนนิดๆ - ซุปไก่ รสจัด ราคา 190 บาท: เมนูซุปที่ได้แรงบันดาลใจมาจากซุปหางวัว เพียงแต่เปลี่ยนจากหางวัวเป็นเนื้อไก่สับ เสิร์ฟมาในรูปแบบมักกะโรนีต้มๆ รสชาติออกเปรี้ยวแบบต้มยำแต่ไม่มีความเผ็ด เป็นความเปรี้ยวที่กลมกล่อมและถูกปากมากๆ เนื้อไก่สับจะมีความแห้งนิดๆ แต่พอทานกับซุปแล้วไปด้วยกันได้ รวมทั้งมักกะโรนีเองจะช่วยลดความเปรี้ยวลงทำให้ทานได้ง่ายขึ้นเช่นกัน เป็นเมนูที่ช่วยลดความเลี่ยนจากจานอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี โดยภาพรวม รสชาติอาหารจะเป็นแนวร้านอาหารสมัยเก่าๆ ที่เน้นรสชาติที่กลมกล่อม ไม่เผ็ดหรือจัดจ้านจนเกินไป รวมทั้งกรรมวิธีที่เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน ทำให้การจะหาร้านที่ทำเมนูเหล่านี้ได้อร่อยนั้น หายากขึ้นเรื่อยๆ ถ้ามีโอกาสหรืออยากจะลองเปลี่ยนแนวอาหาร เชิญชวนให้มาลองร้านนี้ครับ ในส่วนของการบริการเองก็รวดเร็ว พนักงานก็จะแต่งตัวแบบร้านอาหารจีนสมัยเก่าๆ เลยที่จะเป็นเสื้อเชิ้ตแขนสั้นและกางเกงขายาวสีกรมที่ดูมีความเป็นมืออาชีพ ส่วนการชำระเงินจะรับแค่เงินสดที่เป็นแบงค์กระดาษ และบัตรเครดิตที่ขั้นต่ำ 1000 บาท ที่ระบุว่าชาร์จ 3% แต่พอเข้าจริงไม่ได้มีการชาร์จเพิ่มแต่อย่างใด 💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻 🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin 🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha *กรณีต้องการนำรูปไปใช้งานให้ขออนุญาตและให้เครดิตทุกครั้ง มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์และแจ้งความทุกกรณี