สำหรับรอบนี้ด้วยความบังเอิญที่กดจองได้ช่วงต้นเดือนพอดี เลยได้ทานติดๆกันในรอบที่ 3 สำหรับรอบนี้ที่ร้านเริ่มมีความแตกต่างจากเดิมเล็กน้อย โดยจะมีตู้ Dry aged เนื้อมาตั้งอยู่ พร้อมกับเนื้อที่กำลังบ่มอยู่ในตู้พอดี จากการสอบถามจะพบว่าเริ่มมีเนื้อต่างชาติเข้ามา ที่เห็นชัดๆ ก็จะมีวัวจากสเปน และ Black Angus และที่ร้านก็เริ่มทำ Dry Aged เองแล้วนั่นเอง ก็หวังว่าคราวหน้าจะได้ชิมเนื้อส่วนนี้กัน สำหรับเมนูอาหารรอบนี้เหมือนจะน้อยลงกว่า แต่มีส่วนพิเศษเพิ่มเข้ามาอย่าง Flat iron และ Chuck arm และมี Wagyu ribeye ที่ปกติจะเป็น Black Angus แต่รอบนี้มาเป็น Wagyu เลยทีเดียว เมนูอาหารรอบนี้เลยจะโหดๆหน่อยๆ ก็จะมี 1. แฮชบราวน์ ราคา 85 บาท: เป็นเมนูทานเล่นที่แนะนำให้สั่งมาทานครับ กรอบนอก ด้านในนุ่มมีความได้เคี้ยวมันฝรั่งนิดหน่อย จิ้มกับมายองเนส 2. เนื้อน่องลายลวกจิ้ม ราคา 230 บาท: เป็นเมนูอีกจานที่เพิ่งได้ทานครั้งแรกครับ จะต่างจากเนื้อตุ๋นตรงที่จะลวกแบบออกจืดๆ แต่เนื้อจะมีรสชาติเค็มๆ เหมือนหมักอะไรสักอย่างมาครับ และมีกลิ่นของผักชีฝรั่งที่เข้าใจว่านำมาดับกลิ่น เสิร์ฟมาพร้อมกับกระเทียมสดและพริกน้ำปลาที่ปรุงให้ออกหวานๆหน่อยๆ เนื้อจะมีความนุ่มแต่ยังได้เคี้ยวหน่อยๆ ไม่เหนียวครับ ลดความเลี่ยนด้วยน้ำจิ้ม ส่วนเอ็นเหมือนจะแข็งแต่พอทานแล้วนุ่มใช้ได้แต่ไม่ถึงขั้นเยลลี่ 3. สลัดผลไม้ น้ำสลัดส้มยูสึ ราคา 165 บาท: มาทุกครั้งต้องสั่งครับ รอบนี้เปลี่ยนจากผักเป็นผลไม้แทน ทางร้านปรุงรสชาติมาพอดีมากๆครับ คือยังได้ความอร่อยของตัวผลไม้และยูสึไม่โดดออกมาจนทำให้ภาพรวมเปลี่ยนครับ มีความลงตัวอย่างที่สุด แก้เลี่ยนได้ดี ผลไม้ที่ใส่ก็จะมี องุ่น มะเขือเทศ กีวี่ และแก้วมังกรครับ รองจานด้วยผักอีกที 4. พิคาน่า ราคา 420 บาท: รอบนี้ใช้เนื้อส่วนเดียวกันกับที่ทานครั้งแรก นุ่มอร่อยกว่าครั้งที่ 2 และรสชาติดีเยี่ยมเหมือนเดิม แนะนำว่าต้องทานกับหอมเจียวครับ 5. ข้าวอบมันเนื้อ ราคา 320 บาท: รอบนี้เปลี่ยนเนื้อที่วางบนหน้าเป็น Flat iron ครับ ส่วนการปรุงรสชาติรู้สึกว่าจะเค็มน้อยกว่า 2 รอบที่แล้ว ซึ่งถือว่าโอเครเลยรอบนี้ และน่าจะลดความมันลงอีกทำให้ทานแล้วไม่รู้สึกเลี่ยน เนื้อ Flat iron อร่อย มีความนุ่มและฉ่ำๆ ขณะที่กลิ่นเองก็ไม่แรง 6. Rib Eye mb6 (Wagyu) ขนาด 440 g ราคา 1550 บาท: เป็นจานใหญ่จานแรกของวันนี้ เสิร์ฟมาพร้อมกับหอมเจียว วาซาบิดอง และผักเคียงจาน เนื้อจะคล้ายๆกับพิคาน่า เพียงแต่หั่นใหญ่กว่ามาก และเนื้อเองจะมีไขมันล้อมเนื้ออีกที มีความแทรกนิดๆ แต่ไม่เยอะมาก รสชาติจะให้ความเข้มขึ้นมาอีก 1 ระดับแต่ไม่รุนแรงจนเกินไป มีความเหนียวแต่ในขณะเดียวกันก็นุ่มเคี้ยวได้สบายๆ ชอบในส่วนไขมันที่ทำออกมาได้ละลายกำลังดี ทำให้โดยรวมไม่เหนียวจนเกินไป จานนี้เหมาะกับทานคู่วาซาบิดองมากครับ 7. ลิ้นวัวย่าง ราคา 280 บาท: รอบนี้พิเศษกว่าตรงที่ยังไม่ได้สุกแบบร้อยเปอร์เซ็น ทานแล้วรู้สึกว่าเหมือนมีไขมันแทรกอยู่เล็กๆ กรอบนอก นุ่มใน อร่อยครับ 8. Flat iron ใบพาย 550 g ราคา 1950 บาท: ส่วนนี้เป็นส่วนที่แพงที่สุดของวันนี้ครับ เนื้อ Flat iron เราจะได้ทานตั้งแต่ในข้าวอบมันเนื้อครับ เพียงแต่รอบนี้มาเป็นชิ้นใหญ่ๆ เต็มจานครับ เหมาะสำหรับมากันหลายคนแล้วแชร์กันทาน ถ้ามากันน้อยอาจจะจุกได้ เนื้อจะมีความเข้มข้นที่อ่อนกว่า Rib Eye แต่จะได้เรื่องความนุ่มแบบฟินๆครับ อร่อยแบบบอกไม่ถูก จานนี้จะเสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำจิ้มแจ่ว หอมเจียว และเกลือที่คลุกกับอะไรสักอย่างที่สีออกม่วงๆ จะดึงความหวานของเนื้ออกมาได้อีกหน่อยๆ อันที่จริงถ้าเนื้อส่วนนี้ได้ชิ้นที่เล็กลงกว่านี้จะดีมากครับ ขนาดค่อนข้างจุกเกินไปครับ 9. สละลอยแก้ว ราคา 55 บาท: เข้าใจว่าน่าจะเป็นของซัพพลายเออร์ที่ทางร้านสั่งมาอีกทีครับ รสชาติจะออกหวานกำลังดี ไว้ทานล้างปากปิดเมนู ตัวสละอร่อยเลยครับ หวานแบบกลมกล่อม โดยรวมแล้วรสชาติอาหารถือว่าดีเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือพิคาน่ากลับมาอร่อยแล้ว ส่วนอื่นๆ ที่น่าสนใจที่สุดของวันนี้ ขอยกให้ Flat iron เนื้อที่ไขมันน้อย แต่ทำออกมาได้นุ่มกว่า Rib eye มากๆ ส่วนการบริการดีเหมือนเดิมครับ service ค่อนข้างไว และพนักงานมีความเป็นมืออาชีพมากครับ และทางร้านก็ยังรับแต่เงินสดและเงินโอนเหมือนเคยครับ