มื้อกลางวัน

หลังจากเดือนที่แล้วมากินก็ยังไม่หนำใจ ยังเหลือสิทธิ์ที่จองไว้อีกครั้งนึงในเดือนนี้ก็เลยมาทานครับ รอบนี้มาทานช่วงกลางวันซึ่งเริ่มให้เข้าร้านตอนเที่ยงตรงในวันเสาร์ โดยจะมีที่จอดเพิ่มเติมนอกจากคราวที่แล้วคือ เราสามารถจอดที่ไปรษณีย์ตรงข้ามซอยได้เลยเช่นกัน แต่ต้องลุ้นเอาว่าจะเหลือที่จอดหรือไม่ครับ แต่จอดได้ฟรี สำหรับในรอบนี้จะทำอาหารช้ากว่ารอบที่แล้ว เพราะว่าลูกค้ามาพร้อมๆกันและสั่งเมนูจานใหญ่กันหลายโต๊ะเลยทีเดียว สำหรับรอบนี้เราจะมาเน้นที่ความอร่อยของเนื้อส่วน Second Cut และเนื้อส่วนที่ไม่ได้ทานรอบที่แล้วครับ ก็จะมี 1. เนื้อน่องแก้วอบ ราคา 230 บาท: เริ่มต้นมื้ออาหารด้วยเนื้อตุ๋นนุ่มๆ เสิร์ฟมาในหม้ออบสีขาวที่เก็บความร้อนไว้ได้อย่างยาวนาน ขนาดหม้อดูเล็กแต่เมื่อเปิดดูแล้วมีไม่ต่ำกว่า 5 ชิ้นใหญ่ๆ โดยจะเป็นเนื้อน่องแก้วที่มีเอ็นติดอยู่กับเนื้อ ส่วนของเนื้อให้ความนุ่มอร่อย ส่วนเอ็นแก้วจะไม่ได้ตุ๋นจนละลาย แต่สามารถเคี้ยวได้ง่ายไม่แข็งเลยครับ 2. ลิ้นวัวย่าง ราคา 280 บาท: ของดีประจำร้าน ให้ความเด้งและกรอบ ทานได้เพลินๆ หั่นเป็นชิ้นพอดี เสิร์ฟมาพร้อมกับพริกน้ำปลา หอมเจียว และไข่แดง แนะนำว่าจิ้มกับไข่แดง พริกน้ำปลา และหอมเจียวพร้อมกัน จะได้ Texture ที่ดีเลยครับ 3. ไข่ดอง ราคา 60 บาท: หลังจากบทเรียนคราวที่แล้วที่ไข่แดงแข็งเป้ง รอบนี้พอเสิร์ฟปุ๊บก็รีบคนให้แตก แนะนำว่าราดกับตัวที่เป็น Dry Aged จะชูรสชาติของเนื้อได้ดีเหมือนเหยาะเกลือครับ 4. สลัดผัก น้ำสลัดส้มยูซึ ราคา 110 บาท: อร่อยเหมือนเดิม โดยเปลี่ยนมาทานเป็นน้ำสลัดยูซึ ให้รสชาติเฟรชๆ 5. ข้าวอบมันเนื้อ ราคา 320 บาท: รอบนี้เสิร์ฟเป็นเนื้อส่วน Frank ครับ รสชาติรอบนี้เค็มน้อยกว่ารอบที่แล้ว ส่วนเนื้อนุ่มอร่อยมากครับ แนะนำว่าให้อบจนสุกดีกว่าครับ 6. แฮชบราว ราคา 85 บาท: เมนูของทอดทานเล่นแก้หิว กรอบนอกนุ่มใน ทำออกมาได้ดี 7. พิคาน่า picanha ราคา 420 บาท: ส่วน Second Cut Signature ของร้าน รอบนี้รู้สึกว่าค่อนข้างที่จะเหนียวไปหน่อย น่าจะหั่นหนาไปครับ รวมทั้งมีไขมันที่น้อยกว่า ทำให้ไม่นุ่มเหมือนที่เคยทาน เสิร์ฟมาพร้อมกับจิ้มแจ่วรสชาติดี แนะนำว่าทานกับไข่ดองอร่อยสุดครับ 8. Striploin 470g ไทย-ทาจิมะวากิว 90 days ราคา 1650 บาท: เป็นเมนูที่เล็งไว้รอบที่แล้ว รอบนี้พิเศษกว่าตรงที่เป็น Dry Aged ถึง 90 วันเลยครับ ถือว่าเป็นไฮไลท์ของวันนี้ครับ พอสั่งปุ๊บของหมดทันที หั่นออกมาค่อนข้างหนาเป็นพิเศษ ด้วยความที่ขนาดเนื้อใหญ่อยู่แล้วเลยคิดว่าจะเหนียว แต่พอทานแล้วโอเครเลยครับ ไม่ถึงกับนุ่ม ได้เคี้ยวและรู้สึกถึงความเข้มข้น ความรู้สึกดีกว่าทานวากิวที่ไม่ได้ Dry Aged ครับ ถือว่าเป็นบุญแล้วที่ได้ทานจานนี้ 9. Hanger เนื้อขั้วตับ ราคา 825 บาท: แนะนำว่าให้สั่งตัวนี้ถ้าวันนั้นมีของครับ เป็นส่วนที่ปกติจะไม่ค่อยมีใครนำมาทานเพราะกลิ่นจะแรงกว่า แต่ให้ความเข้มข้นสูงกว่า สมคำร่ำลือ พอทานแล้วมันให้รสชาติดีกว่าส่วนอื่นๆ มีความเข้มข้นแบบบอกไม่ถูก กลิ่นหอมจากการเบิร์น ทานแล้วเหมือนตัวลอยๆหน่อยๆ 10. Tenderloin สันใน 25 days dry aged ราคา 780 บาท: ปิดท้ายด้วยส่วนที่แพงที่สุดของวัว แต่ไม่แพงที่สุดในวันนี้ เนื้อส่วนนี้จะเป็นเนื้อล้วนๆ ไม่ค่อยมีไขมัน รสชาติเข้มข้นแต่ไม่เท่ากับ Hanger พอทานเทียบกันแล้ว Hanger ให้รสชาติที่ดีกว่าเลยครับ ส่วนนี้โรยเกลืออร่อยสุดครับ โดยรวมแล้วรสชาติอาหารอร่อยเหมือนเดิม เหมือนได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ ของเนื้อวัวเลยครับ ส่วนการบริการรอบนี้ดีเหมือนเดิมครับ ค่อนข้างไวกว่ารอบที่แล้วเพราะว่านั่งอยู่ใกล้ๆกับพนักงานเลยครับ

  • 3
  • 2
20/08/16

Other Reviews

ร้านอาหารบริเวณใกล้เคียง