มื้อเย็น

อาหารบอลติกที่เน้นรสชาติของวัตถุดิบเป็นหลักในบรรยากาศดีๆสไตล์ลัตเวีย ซึ่งร้านจะอยู่ในซอยทองหล่อ 9 ค่ะ พอเข้ามาในร้าน รู้สึกชอบบรรยากาศร้านค่ะ การตกแต่งที่ดูสวยงาม ศิลปะที่บอกเล่าความเป็นลัตเวีย ทำให้เราเริ่มสนใจอยากจะเห็นอาหารที่จะมาเสิร์ฟเราแล้วค่ะ ร้านอาหารที่นี่ เชฟ มาร์ติน บลูโนส (Martin Blunos) สุดยอดเชฟระดับสองดาวมิชลิน ได้ร่วมมือกับเชฟ อเล็กซ์ซานเดอร์ นาซิไคลอฟส์ (Aleksandrs Nasikailov) เพื่อร่วมกันนำเสนอและรังสรรค์อาหารในสไตล์บอลติก ที่วิธีการปรุงแต่งที่น้อย เน้นชูรสชาติที่แท้จริงของวัตถุดิบเป็นหลักค่ะ อาหารคอร์ส จะมีให้เลือก 2 แบบ คือ 6 คอร์ส ราคา 2,900 บาทเนท ส่วน 8 คอร์ส ราคาจะเป็น 3,400 บาทเนท เราเลือกทานแบบ 6 คอร์สค่ะ เริ่มด้วย 🍀"ต้นไม้สี่ฤดู" ที่บอกเล่าความเป็นลัตเวีย มีมูสทรัฟเฟิลที่อยู่ใต้ต้นไม้ ส่วนต้นไม้ จะมีใบไม้ 3 สี  คือ สีเขียว สีเหลือง และสีแดง บอกเล่าถึงฤดูที่เปลี่ยนไปในแต่ละปี ซึ่งเป็นแป้งกรอบที่มี 3 รส คือ เห็ดพอร์ชินี มัลเบอร์รี่(ลูกหม่อน)​ และสาหร่าย มูสทรัฟเฟิล จะมีความกรอบด้านนอก และแตกโป๊ะในปาก ควรทานทั้งคำ ไส้ด้านในได้ความนุ่มและหอมทรัฟเฟิลมาก ถูกใจค่ะ ส่วนใบไม้จะฟูกรอบ มีรสแตกต่างกันนิดหน่อย แทบจะรสคล้ายๆกันค่ะ และทางร้านก็เริ่มทยอยเสิร์ฟอาหารตามคอร์สค่ะ 🔮 "Pearl of Siam" น้ำแข็งก้อนกลมที่ห่อหุ้มอาหารด้านใน ก่อนจะถูกหลอมละลายด้วยไฟ ซึ่งด้านในหน้าตาจะคล้ายเมี่ยงคำ มี ใบชะพลู ดอกบัว และหอยแมลงภู่ เวลาทานควรทานทั้งคำรวมกัน จะได้กลิ่นใบชะพลูเด่น มีความสดชื่นจากหอย เป็นการเริ่มต้นมื้อที่ดีค่ะ 🍞 "Sourdough" ขนมปังซาวโดวจ์ ที่ใช้น้ำมะพร้าวหมักไว้ถึง 36 ชั่วโมง เป็นขนมปังอบมาอุ่นๆ ทานกับเนย 2 แบบ เป็นเนยเค็ม กับเนยกัญชง ซึ่งฟังดูอาจจะตกใจ แต่ชื่อแค่คล้ายแต่ไม่ใช่ชนิดเดียวกันค่ะ ขนมปังมีความหนุบๆแนวขนมปังฝรั่งเศส ส่สนเนยก็มันๆเข้ากันดีค่ะ 🦔 "Sea Urchin" อลังการด้วยการเสิร์ฟมาในจานที่เหมือนเปลือกหอยเม่น ด้านในมี อูนิ (Uni), แก่นฝางเสน (Sappan Tree) และฟองส้มซ่า สดชื่นมากค่ะ คือ อูนิสดอร่อย ไม่มีความคาวเลย มีรสเปรี้ยวๆจากฟองส้มซ่า สดชื่นจนไม่อยากให้หมดจานเลยค่ะ 🐳 "Mackerel" ปลาแมคเคอเรล ซึ่ง 2 ด้านจะทำมาแตกต่างกัน โดยด้านนึงจะดองคล้ายซาบะญี่ปุ่น ส่วนอีกด้านจะเผามีกลิ่นหอมๆ เสิร์ฟมาพร้อม Crispy Potato ที่ใส่ฮอร์สแรดิชซึ่งคนลัตเวียใช้ปรุงรสอาหาร จะมีรสและกลิ่นคล้ายวาซาบิของญี่ปุ่นค่ะ ปลามีความนุ่ม เค็มนิดๆ ได้รสเปรี้ยวหอมๆจากซอสบีทรูทที่ราดมาด้านบน ทานคู่มันฝรั่งทอดที่สอดไส้ครีมเปรี้ยวๆหอมกลิ่นวาซาบิ ลงตัวดีค่ะ 🐠 "Cold Smoked Salmon" แซลมอนรมควันสีสดใส เพิ่มความเป็นไทยด้วย กระเจี๊ยบ กุ้งแห้ง มูสแซลมอน และเจลมะนาว แซลมอนมีความนุ่มหนุบ ทานคู่กระเจี๊ยบ กุ้งแห้ง มูสแซลมอน และเจลมะนาว ได้รสเค็มๆมันๆเปรี้ยวๆดี แต้กุ้งแห้งแอบแข็งไปนิดนึง 🐷 "Sukling Pig" หมูนุ่มๆ ซึ่งพอมาเสิร์ฟที่โต๊ะ ก็จะมีการราดซอสแอ๊ปเปิ้ลให้ก่อนทาน หมูนุ่มมากค่ะ ละลายในปาก หนังย่างมากรอบดี และมีหนังหมูกรอบๆหอมๆให้ทานคู่กันด้วยค่ะ จานนี้คล้ายๆเราทานหมูหันค่ะ ต่อกันด้วยของหวาน ทางร้านขอนำเสนอขนมเล็กๆก่อน โดยเชฟ อเล็กซ์ซานเดอร์ นาซิไคลอฟส์ (เชฟหล่อบอกต่อด้วย😄)​ ขอยกถาดขนม มาทำไอศกรีมให้เราทานกันสดๆ ด้วยไนโตรเจนเกิดควันพวยพุ่ง ให้ครีมที่บีบออกมาแข็งตัวเป็นไอศกรีม และเสียบไม้เป็นไอศกรีมอมยิ้ม พอรับมา เราก็ยิ้มตามเชฟเลย😄 🍦Cherry Puree สีชมพูหวานแหวว รสหวานเบาๆสดชื่น มีกลิ่นเชอร์รี่นิดๆค่ะ 🍰 "Coconut" ของหวานตบท้ายที่มีส่วนผสมทั้งมะพร้าว ช็อคโกแลต ไวท์ช็อคโกแลต เจลลี่คาราเมล ครัมเบิ้ลมะพร้าว ครีมมะพร้าว ท้อปด้านบนด้วยไอศกรีมรสมะพร้าวที่ไปทำคาราเมลไลซ์จึงมีสีน้ำตาลอ่อนๆ มีความหวานหอมจากช็อคโกแลต มะพร้าว และคาราเมล เพิ่มเติมด้วยความกรุบกรอบจากคริสปี้ช็อคโกแลต มาพร้อมความสดชื่นจากไอศกรีม เป็นของหวานที่ตบท้ายมื้อได้สวยงามค่ะ ก่อนจะจบคอร์สแบบสมบูรณ์ ทางร้านมีให้เราได้เลือก Bon Bon Chocolate คนละ 2 ชิ้นด้วยค่ะ ซึ่งเป็นช็อกโกแลตสอดไส้รสต่างๆ เราเลือกรสชาไทย กับรสบลูเบอร์รี่ 🍫Bon Bon Chocolate รสชาไทย จะเป็นรูปทรงคล้ายปิรามิด ด้านนอกเป็นสีส้มลาย รสออกหวานมีกลิ่นชาไทยเบาๆ มีความมันๆกรุบๆจากถั่วช่วยลดความหวานช็อคโกแลตได้ดีไม่หวานไปค่ะ 🍫Bon Bon Chocolate รสบลูเบอร์รี่ จะเป็นรูปทรงคล้ายมัลเบอร์รี่ ด้านนอกเป็นสีครีมรสไวท์ช็อคโกแลต ไส้เป็นสีม่วง รสออกหวานนำ ส่วนตัวเราว่าทานเปล่าๆแอบหวานไปหน่อยค่ะ ควรทานคู่ชาร้อนน่าจะดีค่ะ มีน้องที่ไปทานด้วยกัน ไม่ได้ทานเป็นคอร์ส ซึ่งร้านก็มีสั่งแบบ A La Carte ได้เช่นกันค่ะ เราเลยได้ถ่ายรูปอีก 2 เมนูเพิ่มเติมด้วยค่ะ 🥕 Carrots in Soil 260 บาท เป็นแป้งกรอบไส้ไก่ปักลงในดินที่กินได้ซึ่งมีส่วนผสมของชาร์โคล เรามีได้ลองชิมดินด้วย รสจะเค็มนิดๆค่ะ 🍣 Smoked Salmon Tartare 290 บาท แซลมอนทาร์ทาร์กับมูสและไข่ปลาแซลมอน ที่ทำมาในรูปแบบตะกร้าข้าว ทานเป็นชิ้นพอดีคำ จบจากการทาน มีได้ถ่ายรูปคู่เชฟ 2 ท่านด้วยค่ะ ซึ่งน่ารักมากๆ เชฟ มาร์ติน บลูโนส ก็มีความเอ็นเตอร์เทน พูดเก่ง ส่วน เชฟ อเล็กซ์ซานเดอร์ นาซิไคลอฟส์ พูดไม่ค่อยเก่ง แต่ยิ้มที ใจละลายเลยค่ะ 55 โดยรวมประทับใจทั้งการนำเสนอ รูปแบบการจัดเรียงอาหารแต่ละเมนู รสชาติที่มีความแตกต่างในแต่ละจาน การเอาใจใส่ลูกค้่า เชฟมีออกมาอธิบายเรื่องราวของเมนูต่างๆ แม้เราจะแปลไม่ทันก็ตาม😅 ส่วนพนักงานก็จะคอยเติมน้ำเปล่าให้ตลอด บริการดีมากๆค่ะ เวลาเปิดปิด: Dinner ➡️ อังคาร - อาทิตย์ เวลา ‪18.00 - 22.00‬ น. Bar ➡️ อังคาร - อาทิตย์ เวลา ‪17.00 - 24.00‬ น. โทร.: ‪02-117-1255‬, ‪095-879-9075‬ อีเมล์: reservations@balticblunos.com เวปไซต์: https://www.balticblunos.com

  • 10
  • 2
19/09/18

Other Reviews