ช่วงโควิดแรกๆ เราเคยสั่งอาหารจากร้านนี้ผ่านเดลิเวอรี่แอพถึง 2 ครั้ง รสชาติยังคงทำออกมาได้ดีเหมือนทุกครั้ง ส่วน Sunday Brunch ที่นี่ เคยมาทานอยู่ 2-3 ครั้ง แต่น่าจะนานเกิน 8 ปี คุ้นๆ ว่าดูแกรนด์กว่านี้ อีกอย่าง ช่วงนี้คือ ช่วงเวลาที่ยังไม่ปกติ เพราะฉะนั้นรูปแบบการทานบุฟเฟ่ต์ก็จะไม่ค่อยเหมือนก่อนหน้านี้ ทางร้านเองมีมาตรการป้องกันโควิดหลายๆ อย่างที่ดีมาก เพื่อความปลอดภัยของลูกค้าทุกคน เช่น มีการวัดไข้, เช็คอินก่อนใช้บริการ, มีสเปรย์แอลกอฮอล์วางไว้บนโต๊ะ, มีถุงมือให้สวมก่อนไปตักอาหาร, เป็นต้น ส่วนอาหารสามารถสั่งได้ทั้งจากเมนู (scan QR code ผ่านมือถือ) และไปตักที่สเตชั่นต่างๆ ที่จัดพื้นที่เอาไว้ เท่าที่เราเห็นจะมีประมาณนี้: - Dosa Station: แป้งสดนำไปทอดในกระทะแบนๆ ใส่ไส้ด้านใน ทานคู่กับ condiments ต่างๆ นิยมทานเป็นอาหารเช้า อร่อยใช้ได้ถ้าทานตอนร้อนๆ - Taka Tak: ไม่ได้ชิมเพราะอิ่มก่อน หน้าตาเหมือนเนื้อสัตว์เอาไปผัดกับผัก - Chaat Station: street foods ที่เป็นที่นิยมเช่น Pani Puri (Golgappa), Aloo Pakora, เป็นต้น - Main (Non-Vegetarian) เช่น Fish Curry, Prawn Curry, Lamb Roganjosh, Murgh Tikka Masala, เป็นต้น - Main (Vegetarian) เช่น Gobhi Kashmiri, Zard Dal, Kadhai Paneer, Paneer Makhanwala, เป็นต้น - Lassi Station: รวมถึง soft drinks และ Masala chai - Desserts เช่น Gulab Jamun, Kesari Rasmalai, Gajar Ka Halwa, Mango Panna Cotta, Blueberry Cheesecake, Milk Cake, เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถสั่ง sparkling wine ได้คนละ 1 แก้วด้วย (แต่ครั้งนี้ไม่ได้ใช้สิทธิ์) จากที่ได้ชิม พวกแกงเคอรี่แบบอินเดียอร่อยหลายเมนูเลยโดยเฉพาะ Fish Curry ที่จะนำปลาไปทอดจนกรอบก่อนนำมาปรุง ส่วนเมนูย่างๆ แนะนำให้ชิม Murgh Tikka, Gilafi Seekh Kebab (Lamb), Ajwaini Macchli Tikka (Seabass), เป็นต้น อาหารที่สามารถสั่งได้ในเมนูคือ เยอะมากมายแบบไม่สามารถลองชิมได้ครบ เพราะแค่แป้งนานเอง ก็มีหลายไส้ให้ได้ลองชิม หยิบทานไปซัก 4 ชิ้นก็อิ่มจุกแล้ว แป้งนานที่นี่ จะทำกันสดใหม่และเสริฟร้อนๆ เมื่อสั่ง แนะนำให้ลอง Potato Kulcha, Olive & Jalapeno Naan, Cheese Kulcha, และ Garlic Naan แต่ที่เราคิดว่าน่าจะปรับปรุงให้ดีกว่านี้คือ Lassi เพราะไม่คิดว่าบุฟเฟ่ต์ระดับนี้จะใช้ผลไม้กระป๋อง, ผลไม้สำเร็จรูป ไม่ว่าจะเป็นมะม่วงหรือสตรอเบอร์รี่ รสเลยแอบเพี้ยนไปหน่อย นอกจากอาหารที่หลากหลายทั้งคาวและหวาน ทางห้องอาหารยังมีดนตรีสด เล่นกล่อมระหว่างทาน ถ้าอยากขอเพลงแขกก็น่าจะได้อยู่ เพียงแต่เราไม่รู้จักซักเพลง 😝อย่างวันนี้มีครอบครัวคนอินเดียหลายครอบครัวมาฉลองวันเกิดกันที่นี่ ทำให้เราได้ฟังเพลง Happy Birthday เวอร์ชั่นอินเดียไปไม่ต่ำกว่า 3 รอบ ☺️ ใครที่ชอบอาหารอินเดียแนว Fine Dining รวมทั้งอยากทำความรู้จักและลองชิมอาหารอินเดียเมนูอื่นๆ นอกเหนือจากแกง Tikka Masala หรือ Butter Chicken (Murgh Makhani) ที่หลายๆ คนคุ้นเคย แนะนำให้มาลอง Sunday Brunch ที่โรงแรมนี้ คิดว่าที่นี่น่าจะเป็นโรงแรมที่เสริฟอาหารอินเดียแบบบุฟเฟ่ต์ที่ดีที่สุดในไทยแล้วหล่ะ แต่จะมีจัดเฉพาะวันอาทิตย์เท่านั้น ช่วงเวลาอื่นๆ เสริฟเป็น a la carte ในส่วนของการบริการ ถือว่า ดีงามตามมาตรฐานโรงแรม 5 ดาว เพียงแต่จะไม่มีพนักงานคนไทย และเนื่องจากจำนวนลูกค้าที่ค่อนข้างเยอะ ก็อาจจะต้องรอนานนิดนึงสำหรับอาหารที่สั่งจากเมนู ราคาปกติ Sunday Brunch (รวมเครื่องดื่ม) สำหรับผู้ใหญ่ คือ 1,250++ บาท (~1,472 บาท net) นั่งทานได้ 3 ชม.เต็ม (12:00-15:00) #Happydecember