“ไชยโรจน์ - ความรุ่งโรจน์บนถนนศรีอยุธยา” ในช่วงกลางปี 2562 ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสฝึกงานที่ กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งมีที่ทำการอยู่บนถนนศรีอยุธยา แม้ว่าหน่วยงานที่ผู้เขียนมีโอกาสฝึกงานเป็นเวลากว่า 2 เดือนนั้น จะไม่ได้มีที่ตั้งรวมกับหน่วยงานอื่น ๆในกระทรวง แต่ด้วยความที่มีธุระปะปังที่กระทรวงเสมอ จึงทำให้มีภารกิจต้องมาที่ถนนศรีอยุธยาเป็นประจำ ถนนศรีอยุธยา นับว่าเป็นถนนสายอร่อยเส้นหนึ่งในกรุงเทพฯ ด้วยมีร้านอร่อยมากมายที่ทุกคนรู้จักกันดีหลายร้านได้แปรสภาพเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เช่น ไทยเจริญ และ จันทน์คณา ที่สี่เสาเทเวศร์ ในขณะที่หลายร้านยังคงมีอยู่มาจนปัจจุบัน เช่น ซี่โครงหมูที่โรงแรมฟลอริดา บ้านบุศรินทร์ที่อยู่ตรงข้ามกัน และหนึ่งในนั้นคือ #ไชยโรจน์ ครับ “ไชยโรจน์” เป็นร้านอาหารสไตล์ #กุ๊กช็อป คือไทยปนจีนไหหลำและฝรั่ง ตัวร้านเป็นตึกแถวสองคูหา ตรงข้าม โรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย บรรยากาศของร้านออกจะดูมืดทึมนิดๆ แต่เมื่อพิจารณาดูจะเห็นชัดว่า ที่ทำให้บรรยากาศดูทึมๅ นั้นไม่ใช่เพราะอะไร แต่เป็นเพราะคนครับ คนมาทานอาหารกลางวันกันที่นี่มากมายจริงๆไม่ว่าจะเป็นข้าราชการในหน่วยงานต่างๆ หรือพนักงานออฟฟิศแถวนั้น แม้แต่คนเด่นคนดังหลายคน เช่น ท่านรัฐมนตรีว่าการ ดอน ปรมัตถ์วินัย แห่งกระทรวงการต่างประเทศ หรือ ท่านอดีตอัครราชทูตที่ปรึกษา ประภัสสร เสวิกุล ศิลปินแห่งชาติผู้ล่วงลับ ก็ได้ข่าวว่า นักการทูตทั้งสองท่าน เป็นลูกค้าประจำของไชยโรจน์เหมือนกัน ทีนี้เรามาดูกันครับว่า “ไชยโรจน์”มีอะไรดีบ้าง เริ่มด้วยลำดับแรก คือ #สตูลิ้นวัว ซึ่งเป็นพระเอกของกุ๊กช็อปทุกร้าน สตูลิ้นวัวที่นี่ทำได้เลิศจริงๆ คือ หั่นชิ้นหนาใหญ่โต แต่ตุ๋นมาได้นุ่ม น้ำซอสเข้มข้นและออกหนืดกว่าร้านอื่น แต่ก็เป็นอีกแบบที่ชอบเหมือนกันครับ ถ้าสตูลิ้นวัวเป็นพระเอก นางเอกก็ต้องเป็น #สลัดเนื้อสัน ตัวเนื้อสันนั้นเค้าทอดมาแบบเกมเกรียมเนื้อมีความหอมหวานชุ่มฉ่ำดีมาก เคียงผักสลัดราดน้ำใส รสเปรี้ยวหวาน ก็กลมกล่อมดีมากใครชอบรสเข้มเข้มจะใส่ซอสไก่งวง สูตร ม.ล.เงียบ ทินกร ลงไปหน่อยก็ไม่ผิดกติกา ต่อมาคือ #พอร์คช็อป ครับ ไชยโรจน์ทอดเนื้อสันหมูติดกระดูกเคล้าแป้งบางๆ ราดน้ำเกรวี่ถั่วลันเตาหวานๆ เค็มๆ ใส่ซอสไก่งวงเข้าไปหน่อย อร่อยจนฝันถึงเลยครับ จากฟากตะวันตก เรามาฟากตะวันออกกันบ้างครับ เพื่อความสะใจของชีวิตเราต้องเริ่มต้นฟากตะวันออกด้วย #ปลาดุกผัดเผ็ด เขาทอดปลาดุกมาอย่างกรอบๆ กินได้ทั้งก้าง ผัดเข้ากับเครื่องแปลงยังได้รสชาติกลมกล่อม จานนี้ด้วยความดีความชอบมากมาย ผมงี้เรียกเติมข้าวกันจนหม้อแหกเลยครับ ต่อมาคือ #ตับทอดกระเทียม เค้าทอดตับ ที่ผ่านการหมักมาอย่างดีจนนุ่มนวล ไม่แข็ง อร่อยกว่ากินฟัวกราส์มากมาย ( อย่าลืมวิดน้ำมันมาราดข้าวด้วย ! ) หลังจากจัดหนักมา 5 รายการเห็นทีต้องหาอะไรซดให้คล่องคอหน่อย คงไม่มีอะไรจะวิเศษไปกว่า... #ต้มยำขาหมู ซึ่งเค้าเอาขาหมูไปเผาไฟจนหนังเกรียมอ่อนๆ สุกหอม นุ่มนิ่ม แล้วจึงนำไปต้มกับเครื่องต้มยำหอมกรุ่น ปรุงรสมาอย่างเข้มข้น ครบสามรสและเผ็ดได้กำลัง เรียกเหงื่อได้หลายลิตรทีเดียวครับ แต่...ข้าวก็ยังไม่หมดหม้อครับ ชาวคณะจึงสั่ง #หอยลายผัดกะเพรา มาเสริมทัพ พร้อม #ปลาหมึกทอดกระเทียม และ #ผัดผักบุ้ง มาเป็นกำลังสนับสนุน ตัดทอนความเผ็ด เรียกได้ว่า มาร้านนี้หนเดียว ท้องบานไป 3 วัน ครับ