ปารีส มิกิ สาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซี

มื้อกลางวัน

#TGIF2019 Paris Mikki – ร้านขนมสไตล์ฝรั่งเศสจากฝีมือเชฟบุษบา (Chef Carol Boosaba) เชฟชาวไทยผู้ผ่านการฝึกฝนจากสถาบัน Le Cordon Bleu ที่ปารีสและเคยได้ร่วมงานกับร้านขนมแบรนด์ดังอย่าง Angelina และ Ladurée มาก่อน ขนมที่นี่จึงขึ้นชื่อเรื่องความละเอียดอ่อน ความปราณีตซับซ้อนที่ได้ออกมาเป็นความอร่อยที่โดดเด่น กลมกลืน และลงตัวแบบที่หาทานที่อื่นได้ยาก ปัจจุบันร้านมี 2 สาขา คือสาขาแรกที่ย่านอโศก และอีกสาขาบนห้าง Central Embassy โซน Open House ชั้น 6 ซึ่งก็คือสาขานี้ล่ะค่ะ ****-ทำเลที่ตั้ง / บรรยากาศ-**** ร้านนี้ตั้งอยู่ด้านหน้าโซน Open House เลย เห็นตู้เค้กตั้งเด่นเป็นสง่ายั่วยวนมาแต่ไกล บริเวณที่นั่งของโซนนี้จะรวมกับของร้านอื่นๆ เวลาสั่งขนมให้เดินไปสั่งและจ่ายเงินที่ร้านก่อนแล้วกลับมานั่งรอที่โต๊ะ พอได้ขนมที่สั่งแล้ว พนักงานของทางห้างก็จะเดินมาเสิร์ฟให้ค่ะ สำหรับบรรยากาศของโซนนี้ถ้าได้ที่นั่งติดผนังกระจกก็ดูวิวข้างนอกได้เพลินๆ ส่วนโซนด้านในก็จะแสงน้อยหน่อย ภายในโซนมีทั้งบริเวณสำหรับเด็กเล่น ร้านหนังสือ และร้านอาหารอื่นๆ ครบครันใช้ได้เลยนะ ****-เมนูที่สั่ง-**** สำหรับ Mille Feuille ที่เป็น Best Seller เมนูดังของที่นี่นั้นขอบอกว่าอยากทานต้องโทร.จองค่ะ กับครั้งนี้ไปแบบปุบปับไม่ได้แพลนล่วงหน้า เจ้า Mille Feuille ก็เลยถูกจับจองไปก่อนจนหมดเกลี้ยงตู้ อดลองไปตามระเบียบ แต่ก็สั่งขนมอื่นๆมาชิมกันอีกหลายอย่างตามนี้เลย ● St. Lucia (ราคา 185 บาท) – เค้กรูปโดมสีเขียวเข้มท็อปด้วยครีมสดและสตรอเบอร์รี่สด ทีเด็ดคือเมื่อผ่าปุ๊บก็จะมีลาวาซอสเสาวรสผสมมะม่วงไหลออกมา รสชาติเปรี้ยวๆหวานๆสดชื่น หอมมะม่วงปนกลิ่นเสาวรสชื่นใจ อร่อยแบบต้องจ้วงกันรัวๆเลย ชอบมากที่สุดในบรรดาขนมที่สั่งมาครั้งนี้ค่ะ ● Tarte Aux Figues (ราคา 205 บาท) – เป็น French Fig Tart ที่วางลูก Fig หรือมะเดื่อฝรั่งลูกเล็กๆเรียงเต็มชิ้นทาร์ต แป้งทาร์ตเนื้อบาง อบมาหอมเนยกรุ่น ที่ชอบคือเนื้อสัมผัสของครีมด้านในเปลือกทาร์ตนั้นนุ่มนวลลื่นคอ บ่งบอกว่าใช้แต่นมและครีมสดอย่างดีเท่านั้น รสชาติคือหวานอ่อนๆ สดชื่นด้วยกลิ่นรสของ Fig ที่ผสมอยู่ เข้ากับรสสัมผัสของลูก Fig สดด้านบน ได้ความอร่อยที่ไม่หนักเลี่ยน ถ้าไม่เกรงใจเรื่องราคาก็สามารถจัดได้คนละหลายๆชิ้นเลยล่ะค่ะ (555) ● Lady Pinske (ราคา 190 บาท) – มูสเค้กรูปโดมประดับด้วยกลีบกุหลาบ ฐานเป็นแป้งทาร์ตผสมอัลมอนด์ เนื้อมูสสีขาวหอมกรุ่นด้วยกลิ่นกุหลาบ ด้านในมีเนื้อเค้กนุ่มๆแทรกอยู่ชั้นล่าง ส่วนชั้นบนเป็น Raspberry กวนผสมเนื้อลิ้นจี่ อร่อยแบบเบาๆ หอมหวานนุ่มนวล ทานแล้วรู้สึกเป็นเลดี้สมชื่อขนมเลยทีเดียว ● Suzuki (ราคา 200 บาท) – เติมความหวานมันหนักแน่นขึ้นอีกนิดกับขนมชิ้นนี้ที่ทำออกมาได้ซับซ้อนมีหลาย Layer แต่เข้ากันได้ลงตัว รวมเอาความอร่อยของมูสกาแฟ เนื้อเค้กนุ่มๆ และความกรุบกรอบของวอลนัท เสริมด้วยช็อกโกแลตเนื้อเบาเคลือบด้านนอก เป็นอีกเมนูที่เห็นได้ชัดเจนถึงความละเมียดละไมใส่ใจในรายละเอียดของขนมเค้กสไตล์ฝรั่งเศส ดีงามสมราคาล่ะค่ะ ● Éclair Fraisier (ราคา 135 บาท) – เอแคลร์รสสตรอเบอร์รี่ที่ไส้เป็นสตรอเบอร์รี่กวนหวานหอมอมเปรี้ยวสดชื่น เติมความนุ่มนวลให้รสชาติโดยรวมด้วยความหวานนุ่มๆของครีมสตรอเบอร์รี่ที่ทามาด้านบน เนื้อสัมผัสของแป้งเอแคลร์จัดว่ากำลังดี ไม่แข็งกระด้าง แต่ก็ไม่นิ่มยวบไป ชอบอีกแล้ว ● Éclair Lemon (ราคา 135 บาท) – ชิ้นนี้แต่งด้านบนมาด้วยครีมเลมอนหอมๆ ลูก Raspberry สด และชิ้นผิวเลมอนเชื่อมหั่นเต๋า ไส้เป็นแยม Raspberry กวนเปรี้ยวๆ ใครชอบขนมแนวๆเปรี้ยวสดชื่นน่าจะถูกใจเลยล่ะ ● Hot Americano (ราคา 120 บาท) – มีขนมหวานแล้วก็ต้องสั่ง Hot Americano มาแกล้มถึงจะเข้ากัน กาแฟที่นี่มีติดเปรี้ยวบางๆ ชงมาไม่เข้มมาก จิบได้เพลินๆนะ โดยรวมแล้วประทับใจมากทีเดียวกับร้านนี้ ขนมที่ใช้ฝีมือประณีตซับซ้อนระดับนี้หาทานไม่ได้ง่ายๆ แม้ราคาจะสูงหน่อย แต่ก็คุ้มที่ได้ลองค่ะ เป็นร้านที่เน้นความโดดเด่นเรื่องรสชาติขนมอย่างเดียวจริงๆแบบไม่ต้องพึ่งกิมมิค จะจิ้มชิ้นไหนก็อร่อยไปหมด มีถูกใจมากบ้างน้อยบ้างตามความชอบส่วนบุคคล ส่วนบรรยากาศคือธรรมดาๆ เครื่องดื่มกลางๆ แต่ถ้าอยากทานขนมอร่อยสไตล์แบบนี้ก็ต้องร้านนี้เท่านั้นเลยล่ะค่ะ