หลังจากตระเวนขับรถหลงไปมา เข้ามาตามซอยซอกหลืบ ในที่สุดเราก็มาเจอโอเอซิส โรงแรม U หรูหราท่ามกลางตึกราม ทำให้เห็นถึง contrast อย่างชัดเจน ชั้น 2 ของโรงแรม เป็นที่ตั้งของร้าน J'aime (Fr. Je aime ลดรูป อ่านว่า เชม) ซึ่งเราได้ซื้อดีลเซ็ทอาหารไว้ในราคา ฿1,599++ ในเซ็ทอาหารประกอบด้วย Starter หรือ appetizer เลือกเป็น Canadian Lobster Bisque Served Cabonara Style ซุปข้นที่มีกลิ่นอายความเป็นซีฟู๊ด หอมมัน รสละมุน มีเนื้อ lobster เด้งๆ หนึบๆ อร่อยมาก Main course น้องปอบเลือก Pan-seared Ostrich Served With Sweet and Sour Vegetable Parmentier and Citrus หรือเว๊าง่ายๆ คือสเต๊กเนื้อนกกระจอกเทศ ซึ่งน้องปอบไม่เคยทานเนื้อนกกระจอกเทศในรูปแบบของสเต๊กมาก่อน น้องพนักงานให้คำแนะนำว่า สั่งความสุกตามชอบได้เหมือนเนื้อวัวเลย เพราะเนื้อแทบไม่มีกลิ่นสาบเลย จึงสั่งมาเป็นแบบ rare เนื้อนกกระจอกเทศนี้ แม้ว่าจะมาจากฟาร์มเลี้ยงในประเทศไทย แต่การันตีเรื่องความสะอาด เป็นฟาร์มที่เลี้ยงเพื่อส่งออก และสเต๊กเนื้อนกกระจอกเทศก็ทำออกมาได้ดีอย่างเหลือเชื่อค่ะ ความสุก rare สุกแค่ผิวๆ ลงไปไม่เกิน 3 มิลลิเมตร สีเนื้อสวยมาก เนื้อ lean มากๆ ไม่มีไขมันแทรก แต่ไม่เหนียว เนื้อนุ่มหนึบกำลังเคี้ยวอร่อย ไม่มีกลิ่นรบกวนประสาทสัมผัสเลย ชอบมากๆค่ะ Dessert เลือกเป็น Mille-feuille "Napoleon" แม้ว่าน้องปอบจะไม่ค่อยนิยมของหวานสักเท่าไร แต่เมื่อได้ชิมเจ้า Mille-feuille ชิ้นนี้แล้ว บอกเลยว่ามัน irresistible มากๆ ชิมคำแรกแล้วมันหยุดไม่ได้จริงๆ ซัดจนเกลี้ยง บวกไปร่วมพัน KCal อร่อยฟินเว่อร์ค่ะ ในเซ็ทมีตบท้ายด้วยชาหรือกาแฟ น้องปอบจึงสั่งกาแฟลาเต้ร้อนมาจิบถ้วยนึง กาแฟก็มิใช่ไก่กา แต่มีเมนูเมล็ดกาแฟมาให้เลือกตาม origin ที่ชื่นชอบด้วย น้องปอบจึงเลือก blend ที่มีกาแฟจากเอธิโอเปียผสม รสชาติออกมาตรงใจเลยค่ะ นอกจาก BRW set แล้ว ยังสั่ง lunch set มาอีกที่ ซึ่งเป็นเซ็ทที่ทางร้านจัดทำขึ้นในราคา ฿1,200 net โดยน้องปอบเลือก main course เป็นปลา (จำชนิดไม่ได้) เชฟปรุงได้อร่อยมากๆ เนื้อปลาสุกกำลังดี ไม่แข็งเกินไป หนังปลาปรุงรสเค็มเข้มนิดนึง เพื่อเพิ่มรสชาติให้เนื้อปลาซึ่งจืดกว่า กลิ่นคาวแรงๆของเนื้อปลาแทบไม่มีเลย ทำได้เพอร์เฟ็คท์มากๆค่ะ ของหวานของเซ็ทนี้ รสชาติไม่ค่อยโดนใจสักเท่าไร แต่รูปแบบและการนำเสนอ เก๋ไก๋กระไดลิงจิงโจ้มากๆ เริ่มจากเอาจานที่ทา white choc เป็นลายใบไม้มาวาง บนจานมีครัมโรยเป็นฐาน เสมือนว่าเป็นดิน จากนั้นพนักงานจะถือกระบะไม้เล็กๆ ที่ใส่ครัมมาเต็มๆ ใต้ผิวครัมจะมีก้อนขนมผิวสีน้ำตาลอ่อน ทำเป็นรูปหัวมันฝรั่ง เหมือนว่าขุดหัวมันฝรั่งสดๆ จากดินมาเสิร์ฟให้บนจาน ว๊าวมากค่ะ ส่วนรสชาติ เป็นรองรูปแบบและการนำเสนอ แต่ก็ได้ความประทับใจไปไม่น้อย