Beast Burger

มื้อเย็น

ร้านนี้เพื่อนรีเควส เลยจัดให้ตามคำขอ ใครมาร้านนี้ช่วงค่ำ โดยเฉพาะถ้ามากันเป็นกลุ่มใหญ่ แนะนำให้ขึ้นไปนั่งชิลด้านบน บริเวณที่นั่ง outdoor นั่งสบายเชียวค่ะ ช่วงที่เราแวะไป เป็นเวลา 2 ทุ่ม ที่นั่งด้านล่างในห้องแอร์เต็มทุกโต๊ะ ขนาดเป็นวันธรรมดานะเนี่ย บรรยากาศร้านเป็นแบบแคชวล ไม่มีเซอร์วิจที่โต๊ะนะคะ ลูกค้าต้องเดินไปสั่งอาหาร, จ่ายตังค์, และรับอาหารเองที่เคาน์เตอร์ด้านหน้า โดยพนักงานจะยื่น beeper ให้เมื่ออาหารพร้อม ซึ่งใช้เวลารอไม่นานนัก เมนูที่ร้านจะมีเมนูประจำและเมนูตามฤดูกาล ใครที่เคยมาทานที่ร้านแล้ว จะลองเปลี่ยนไปสั่งพวก seasonal menu ก็ดูน่าสนใจไม่แพ้เมนูปกติ อย่างช่วงที่เราไปมีเมนูที่ใส่ avocado ด้วย เพียงแต่เรามาเห็นตอนทานเสร็จเรียบร้อย ส่วนใครที่มาครั้งแรก จะสั่งเป็นเมนูชื่อเดียวกับร้าน ก็จะได้ไม่พลาดลองชิมซอสสูตรต้นตำรับ (beast sauce) ข้อดีของร้านนี้คือ ทุกเมนูสามารถสั่งได้ทั้งเนื้อหมูและเนื้อวัว รวมทั้งมีเฟรนช์ฟรายด์เสริฟมาด้วย ไม่จำเป็นต้องสั่งเพิ่ม ยกเว้นอยาก upgrade เป็น curly fries หรือ sweet potato fries ก็บวกเงินเพิ่ม 50 บาท หรืออยากเพิ่มชีสซอส ก็เพิ่มเงินอีก 60 บาท เรามากับเพื่อนที่ไม่ทานเนื้อวัว เลยสั่งมาทั้งเนื้อหมูและเนื้อวัว - The Beast (Beef) 190 บาท เนื้อบดความสุกมีเดียม, เชดด้าชีส, caramelized onion, เบคอน, ผักกาดแก้ว, มะเขือเทศ, และ beast sauce - Aioli Mushroom (Pork) 230 บาท+curly fries (50 บาท) หมูบด, สวิสชีส, ผัดเห็ดผสมเบคอน, caramelized onion, ผักกาดแก้ว, และซอสกาลิคมาโย รสชาติ: จุดเด่นของเบอร์เกอร์ร้านนี้คือ ขนมปังที่ทำออกมาดีมากๆ กรอบนอก นุ่มใน อร่อยจริงๆ ส่วนเนื้อวัวที่กริลมาก็มีความ juicy มีความลงตัวกับเครื่องทุกอย่างที่ใส่มา แบบที่ไม่จำเป็นต้องใส่ซอสเพิ่ม เฟรนช์ฟรายด์ที่เสริฟมาด้วยเป็นแบบโฮมเมดฟรายด์ที่มีความหนากำลังดี ทอดมาได้กรอบนิดๆ ก่อนโรยด้วยพริกไทยดำและเกลือป่น ส่วนชิ้นที่เป็น Aioli ก็มีความหอมของเห็ดผัด เราได้ชิมซอสไปหน่อยนึง รสชาติลงตัวเช่นกันนะคะ เพื่อนเราน่าจะถูกใจ เพราะทานหมดอย่างรวดเร็ว ส่วน curly fries ก็กรอบอร่อยเลยนะคะ เราชอบมากกว่าเฟรนช์ฟรายด์ปกติ โดยรวมถือเป็นร้านเบอร์เกอร์ที่อร่อยร้านนึงของเชียงใหม่เลย ใครที่ชอบทานเบอร์เกอร์ดีๆ เราแนะนำว่าควรลองชิมเลยค่ะ