เมื่อมีความอยากจะทานเนื้อ ถ้าหากหาร้านแพงๆ เราก็จะเจอแต่ร้านที่ขายแต่เป็นกรัม ต้องหั่นเป็นชิ้นใหญ่ๆ มาทำเป็นสเต็กให้ทาน ซึ่งราคาค่อนข้างสูงมาก และบางที่เราอาจจะอยากทานเพียงแค่ชิ้นละ 100 กรัมเพราะอาจจะหนักท้องเกินไป แต่เมื่อลองค้นหาใน Facebook ก็มาเจอร้าน “ลุยไฟ” ร้านเนื้อย่างแบบเดลิเวอรี่ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 6 สาขาครอบคลุมกรุงเทพฯชั้นใน แต่ยังขาดสาขารอบนอกอย่างฝั่งธนฯ ดังนั้นวันนี้สาขาที่ใกล้ที่สุดคือสาขาสาทรนั่นเอง ร้านนี้ไม่ได้มีแค่เนื้อย่างเท่านั้นครับ ยังมีหมูย่างและไก่ย่างให้สั่งได้สำหรับคนที่ไม่ทานเนื้อครับ และทีเด็ดของร้านนี้อีกอย่างคือมีเครื่องจิ้มหรือดิปเยอะมากๆ ประมาณ 19 อย่างและหากบวกไข่ดองเข้าไปด้วย ก็จะมีด้วยกันถึง 20 อย่างด้วยกัน ถ้าหากอยากจะสั่งผ่าน FB จะมีคิด VAT เพิ่มทีหลังต่างหาก ดังนั้นผมอยากแนะนำว่าสั่งผ่าน Delivery เจ้าดังๆ ก็ได้เช่นกัน ทั้ง Lineman Grab และ Robinhood ก็สามารถสั่งได้เช่นกันครับ แต่ถ้าอยากประหยัดค่าใช้จ่ายที่สุด แนะนำให้สั่งผ่านร้าน และเรียก lalamove ไปรับอีกทีก็ได้เช่นกัน โดยร้านเปิดตั้งแต่ 10 โมงไปจนถึง 19:30 น. สำหรับวันนี้เน้นเป็น Project เนื้อล้วนๆ ซึ่งทางร้านเองก็จัดเมนูเนื้อๆ ที่เป็น Signature ด้วยกันถึง 4 เมนูด้วยกัน ซึ่งแต่ละตัวก็จะมีความอร่อยที่แตกต่างกันไป และทางร้านก็จับคู่เครื่องจิ้มที่เหมาะสมกับแต่ละเมนูให้เราได้ชิมกัน เมนูแรก เริ่มต้นด้วย Set เนื้อวากิวย่าง (Wagyu) ราคา 329 บาท: เนื้อ Australian Wagyu ปริมาณชิ้นขนาดประมาณ 150 กรัมเสิร์ฟมาในลักษณะ Medium Rare มาพร้อมกับข้าวเหนียวเขี้ยวงูนึ่งสมุนไพรอย่างใบมะกรูด และกระเทียม ให้กลิ่นและรสชาติที่นึกถึงต้มยำ และเครื่องดิป 4 อย่าง ก็จะมีเกลือวาซาบิสด เกลือหม่าล่า Spicy BBQ และยากินิกุ ถ้าเราดมจะได้กลิ่นโรสแมรี่แบบบางๆ ส่วนการย่างเนื้อคือดี นุ่มมากและส่วนของไขมันสุกกำลังดี ในเซ็ตนี้แนะนำว่าให้จิ้มกับเกลือวาซาบิสด จะได้ความเผ็ดขึ้นจมูกมาเสริมและลดความเลี่ยนของเนื้อได้เป็นอย่างดี ส่วนเกลือหม่าล่าได้ความเผ็ดแบบแสบๆ นิดๆ กำลังดี ส่วน Spicy BBQ ให้ความหวานซึ่งชูรสชาติได้เป็นอย่างดี และสุดท้าย ยากินิกุออกหวานๆ แบบน้ำที่ไหลออกมาระหว่างย่างและปรุงรสเค็มๆ เพิ่มเข้าไป ส่วนข้าวเหนียวกลิ่นหอมและสามารถตัดรสชาติกับเนื้อได้ดี ทำให้เมนูไม่น่าเบื่อเลย ต่อกันด้วยเมนูที่สอง อย่าง Set เนื้อนิวซีแลนด์สตริปลอยด์ย่าง ราคา 279 บาท: เนื้อส่วนยอดนิยมที่เสิร์ฟมาพร้อมกับข้าวเหนียวเขี้ยวงูสมุนไพร พร้อมกับดิป 4 อย่าง มี Salt & Pepper, เกลือสมุนไพร, BBQ และน้ำจิ้มแจ่ว ที่เหมาะกับเมนูนี้ เมนูนี้ทางร้านย่างออกมาเป็น Rare มากกว่า Medium Rare พอสมควร แต่ความนุ่มอร่อยดีกว่าแบบ Medium Rare แน่นอนครับ จะมีแค่ส่วนบนๆ ที่อยากให้ตัดออกหน่อยเพราะเป็นพังผืด ถ้าจิ้ม 4 อย่างเทียบกันแล้ว เราให้ Salt & Pepper เป็นที่ 1 เลยครับ เพราะให้ความเค็มและความหอมของพริกไทย ที่ตัดกับความเข้มข้นของเนื้อได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าชอบความหอมๆ แบบสดชื่นต้องจิ้มกับเกลือสมุนไพร แต่ถ้ารู้สึกว่ารสชาติเนื้อเข้มข้นเกินไป ลองจิ้มกับ BBQ จะให้ความหวาน หรือจะเป็นน้ำจิ้มแจ่วที่ให้ความแซ่บและดึงรสชาติแบบนัวๆ ถูกใจสายอีสานอย่างแน่นอน ตามมาติดๆ กับเมนูที่สาม คือ เนื้อท๊อปราวน์ดรายเอจ 28 วัน ราคา 179 บาท เป็นเซตที่มาเป็นเนื้อล้วนๆ ที่มาพร้อมกับดิปอีก 4 อย่าง เกลือกะเพรา เกลือกระเทียม เกลือน้ำมันงา และไข่ดอง เมนูนี้แนะนำให้สั่งข้าวผัดกระเทียมมาทานคู่กันจะตัดรสชาติได้ดีเลยครับ เนื้อท๊อปราวน์ดรายเอจ ปกติเป็นเนื้อที่ถ้าย่างไม่ดีจะเหนียวมากๆ แต่ร้านนี้ทำออกมาได้ดี เนื้อนุ่มไม่เจอเหนียวแบบทานไม่ได้เลย ได้กลิ่นโรสแมรี่ย่างนิดๆ ระหว่างทาน จากที่ลองจิ้มทั้ง 4 อย่าง ถ้าชอบแนวนัวๆ หวานๆ แนะนำให้จิ้มด้วยไข่ดอง และเอาไข่ดองมาทานกับข้าวผัดกระเทียมเพื่อเพิ่มรสชาติ ส่วนถ้าชอบหอมๆ ในปากต้องจิ้มเกลือน้ำมันงา ซึ่งพอจิ้มแล้วนึกถึงกลิ่นหอมๆ ของขนมโก๋ในปากเลยครับ ส่วนเกลือกะเพราและเกลือกระเทียมจะให้ความหอมแบบสมุนไพรนำและเค็มตาม ได้ความหลากหลายดีครับสำหรับเมนูนี้ ปิดท้ายด้วยเมนูเนื้อ Brisket ดรายเอจ 28 วันผัดโชยุ ราคา 249 บาท รู้จักกันดีในเนื้อส่วนเสือร้องไห้ซึ่งเป็นส่วนไขมันเยอะและมีความเหนียวไม่แพ้ใคร โดยทางร้านเลือกมาจากโคขุนไทยพันธุ์ดี นำมาสไลด์ให้บางเฉียบและผัดกับโชยุ พร้อมกับดิปอีก 4 อย่างด้วยกันที่ทางร้านจับคู่ให้ ก็จะมีเกลือผงกะหรี่ แจ่วหม่าล่า แจ่วบอง และวาซาบิดอง ที่ทางร้านจัด 4 อย่างนี้ให้เพราะเนื้อผ่านการผัดมาแล้ว หากจิ้มแค่เกลือทั่วๆไป รสชาติจะไม่เข้าเนื้อครับ ตัวเนื้อสไลด์ได้บาง นุ่ม ไม่เจอเหนียว ทานได้หมดครับ ดิปทั้ง 4 ก็จะให้รสชาติที่แตกต่างกันไป อย่างเกลือผงกะหรี่ จะได้ความหอมของผงกะหรี่ขึ้นมา ตัดเลี่ยนได้ดี แจ่วหม่าล่ามีความเผ็ดแสบลิ้น เพิ่มความหลากหลายในเมนูได้เป็นอย่างดี หรือจะแจ่วบองที่ผสมกับปลาร้า ชอบตรงที่ได้ความนัวและแซ่บที่เข้ากับเนื้อได้เป็นอย่างดี และปิดท้ายด้วยวาซาบิดอง เห็นแบบนี้แต่กลิ่นขึ้นจมูกมากครับ และที่สำคัญลองเอาวาซาบิดองไปจิ้มกับเมนูก่อนหน้า ก็อร่อยและตัดเลี่ยนได้ดีเช่นกันครับ นอกจากในส่วนของเมนูหลักในวันนี้ 4 อย่างแล้ว ก็มีเครื่องเคียงที่สั่งมาทานด้วยเช่นกัน เมนูแรก ข้าวผัดกระเทียมราคา 45 บาท ปริมาณเต็มชามแบบจุกๆ แบ่งทานได้ 2 คน กลิ่นกระเทียมและเนยเด่น ต่อด้วยส้มตำไทย ราคา 69 บาท กลิ่นจากปูนาเด่นเป็นสง่า และได้กลิ่นเปรี้ยวจากมะนาวที่ลอยขึ้นมา ทำให้น้ำลายไหลโดยพลัน รสชาติโดยรวมออกนัวๆ เปรี้ยวหวานกำลังดี รสชาติไม่เผ็ดมาก หากทานเนื้อย่างแล้วเริ่มรู้สึกเลี่ยน เมนูนี้ช่วยคุณได้ นอกจากนี้ก็ยังมีกิมจิ ราคา 69 บาท เป็นลักษณะสไตล์ญี่ปุ่นซึ่งจะเน้นไปทางหวานๆ เป็นหลัก ไม่เปรี้ยวโดดจนเกินไป แก้เลี่ยนได้ดี สายกิมจิชอบเน้นรสหวาน ตอบโจทย์เลย และทางร้านก็ยังใจดีให้ดิปมาชิมเพิ่มอีก 4 อย่างด้วยกัน ได้แก่ เกลือทรัฟเฟิลที่หอมฟุ้งๆ ตามสไตล์ทรัฟเฟิล เหมาะกับเนื้อย่างที่สุด ใครชอบรสชาติเนื้อแบบเข้มข้นและมีกลิ่นหอมไม่ควรพลาด เกลือโรสแมรี่อบ กลิ่นโรสแมรี่ชัดมาก ถ้าหากจิ้มกับเนื้อที่ย่างกับโรสแมรี่แล้ว รสชาติจะยิ่งชัดขึ้นไปอีกครับ หรือจะลองจิ้มกับเกลือดำ ที่ทานแล้วนึกถึงซอสแมกกี้เลยครับ และซอสทาวซันที่รสชาติไม่หวาน ลองจิ้มกับเนื้อ Brisket จะเข้ากันที่สุดครับ ปิดท้ายด้วยเมนูขนมหวาน พุดดิ้งมะพร้าวอ่อนโฮมเมด ราคา 69 บาท วุ้นมาเป็นชิ้นใหญ่ มีความนุ่มๆ ออกไปทางละลายในปากหน่อยๆ เนื้อมะพร้าวดีมาเป็นชิ้นๆ เต็มปากเต็มคำ และที่สำคัญ นมหอมมาก รสชาติอาหารโดยรวม เรื่องเนื้อไม่ห่วงเลยครับ ย่างได้ดี เนื้อนุ่มทุกชิ้น ส่วนดิปที่มีให้เลือกมากถึง 20 แบบนั้น แต่ละตัวก็จะให้รสชาติและความอร่อยที่แตกต่างกันไป ซึ่งอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนเลยครับ ว่าจะชอบแนวไหน เครื่องเคียงทำออกมาได้ดี ไว้ทานตัดเลี่ยนกับเมนูเนื้อย่างได้ดี ส่วนดิปนั้น ถ้าหากให้แนะนำ อาจจะต้องลองชิมหลายๆ อันดูก่อนครับ เพราะว่าที่ร้านจัดมาให้ พอเราชิมแล้ว อาจจะรู้สึกได้ว่าเหมาะกับอีกเมนูนึงด้วยเช่นกัน ซึ่งถ้าตรงนี้ทางร้านมีคู่มือแนะนำให้อ่านก่อนสั่งด้วย จะตอบโจทย์เลยครับ สุดท้ายนี้อยากแนะนำร้านให้กับ สายเนื้อย่างทั้งหลายทั้งแบบเตาถ่านหรือกระทะแบบสเต็ก ร้านนี้ตอบโจทย์ความคุ้มค้า ทั้งปริมาณ รสชาติ และความอร่อยครับ Note: ราคาอ้างอิงจาก App Robinhood 💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻 🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin 🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha *กรณีต้องการนำรูปไปใช้งานให้ขออนุญาตและให้เครดิตทุกครั้ง มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์และแจ้งความทุกกรณี