มื้อกลางวัน

หลังจากทานก๋วยเตี๋ยว warm up กระเพาะอาหาร​มาแล้ว 1 ชาม ก็มาถึงมื้อกินเนื้อหนักๆ กันบ้าง ร้านเนื้อเปิดใหม่นี้ เริ่มต้นจากการที่เจ้าของร้านทำเนื้อทานกันเองในหมู่เพื่อน จนเป็นที่ติดอกติดใจกัน จึงรวมกันหุ้นทำร้านนี้ขึ้น เริ่มจากร้านเล็กๆ บนขั้นลอย (ปัจจุบัน)​ ทำร้านสไตล์ chef table รองรับลูกค้าได้รอบละ 6 ที่เท่านั้น ซึ่งกระแสตอบรับดีมาก จึงมีแพลนว่าจะทำร้านที่ชั้นล่างของร้าน ให้รองรับลูกค้าได้รอบละประมาณ 12 ที่ เนื้อของที่นี่ ทุกเมนูเนื้อวัวจะเป็นเนื้อ dry aged 35 วัน เนื้อวัวที่สั่งมาเป็นเนื้อวัวสายพันธุ์วากิวที่เลี้ยงในประเทศ​ไทย​ และ​สั่งระดับ A3 ขึ้นไป เท่่านั้น มาใช้ ทางร้านแนะนำเนื้อ rib eye (หรือ ribeye)​ หั่นออกมาชั่งได้ประมาณ 370 กรัม ราคาขีดละ ฿300 ชิ้นนี้ก็ประมาณ ฿1,100 เพื่อไม่ให้เสียชาติปอบ น้องปอบจึงสั่งความสุกระดับ blue rare เจ้าของร้านตกใจ บอกว่าเป็นลูกค้าตนแรกที่สั่ง blue rare น้องปอบเลยบอกว่าจริงๆ อยากกินแบบ raw ด้วยซ้ำ (ฮา) เนื้อสเต๊กทำออกมาแล้วนุ่มมากๆ ส่วนเนื้อนู๊มนุ่ม ส่วนไขมันไม่ต้องพูดถึงความนุ่ม มันนุ่มละลายอยู่แล้ว แต่มันโดดเด่นที่กลิ่นหอมของมันเนื้อวัวที่เลี้ยงด้วยอาหารอย่างดีและการทำ dry aged ไม่มีกลิ่นสาบแบบมันเนื้อทั่วไป บอกเลยว่าสายเนื้อห้ามพลาด อีกเมนูที่ได้ลิ้มลอง คือข้าวกะเพรา​เนื้อ ไข่ดองโชยุ ชามละ ฿200 ทางร้านใช้เนื้อ dry aged เช่นกัน และเมนูที่ลูกค้านิยมสั่งมากที่สุดคือข้าวหน้า​เนื้อ​ Gyu Don ข้าวกะเพราเนื้อ เนื้อหั่นเต๋าชิ้นโตๆ ทำ soys vide นุ่มมากๆ อร่อยฟินสุดๆ รสชาติกะเพราทานสบายๆ สำหรับน้องปอบแล้ว เผ็ดน้อยไป อยากให้ทานร้านทำระดับความเผ็ดให้เลือก แบบของร้าน Phed Mark จะช่วยเสริมความอร่อยให้เมนูนี้ได้อีกมากมายนัก อีกส่วนที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือไข่ดองโชยุ เหมือนไข่แดงไข่เค็ม แต่ทำได้อร่อยกว่าเยอะ มีกลิ่นหอมโชยุโดดเด่นมากๆ อยากกินสักสิบลูก มันหอมมันอร่อยฟินจริงๆ

  • 10
  • 2
19/12/24

Other Reviews

ร้านอาหารบริเวณใกล้เคียง