มื้อกลางวัน

ร้านอาหารเกาหลีลับร้านนึง อันที่จริงถ้าไม่ทราบว่าร้านนี้ได้ User Choice ก็คงพลาดที่จะไม่ได้ทาน ตำแหน่งร้านจะอยู่ในตึก SV พระราม 3 ที่จอดรถจะอยู่ชั้นใต้ดินของอาคาร ซึ่งค่อนข้างจะงงๆ ทางเข้าจากที่จอดรถจะมี Mart อยู่ข้างๆ และเดินเข้าไปจนเจอบันไดเลื่อน ให้ขึ้นไปชั้นบน ร้านจะอยู่ทางด้านขวาของน้ำพุครับ หรือถ้าหาไม่เจอ ให้หาร้านที่ใหญ่ๆ และมีเก้าอี้นั่งรอหน้าร้านเยอะๆครับ สำหรับร้านนี้ถ้าหากมาทานวันหยุดสุดสัปดาห์ แนะนำว่าให้มาตั้งแต่ร้านเปิดประมาณ 11 โมง ถึง 11 ครึ่ง เพราะถ้ามาหลังจากนั้นได้นั่งรอยาวๆครับ และที่ร้านเองค่อนข้างทำอาหารช้า บวกกับต้องใช้เวลาทาน ดังนั้นก็จะรอนานยิ่งขึ้นไปอีกครับ สำหรับวันนี้มาตั้งแต่ 11 โมงครึ่ง เลยไม่ต้องรอและเข้าไปนั่งได้เลยครับ ที่นั่งจะมีสองแบบคือนั่งโต๊ะกับนั่งพื้น แนะนำว่านั่งพื้นจะได้อารมณ์กว่าแต่ก็จะเมื่อยกว่า เบาะนั่งเองก็แบนราบไม่นิ่ม เหมือนนั่งกับพื้นจริงๆมากกว่า เมนูอาหารจะเป็นเมนูอาหารเกาหลีแบบที่ทุกคนรู้จัก ทั้งบิมบิบับ หมูย่าง ซุปเกาหลี และอื่นๆ ครับ ถ้าหากอยากทานแบบปิ้งเอง ต้องสั่งชุดปิ้งย่างแบบแพงมาครับ ถ้าสั่งแบบแยก ทางร้านจะปิ้งมาให้เลยครับ สำหรับเมนูที่ทานวันนี้ก็จะมี 1. ซัมเกียบซัล (SamGyeopSal) ราคา 250 บาท: หมูสามชั้นย่างนั่นเอง จะเสิร์ฟมาพร้อมกับผักกาดหอม กระเทียม พริกชี้ฟ้า ทานคู่กับซอสเต้าเจี้ยวหรือน้ำมันงา เนื้อหมูย่างมาค่อนข้างดี ยังได้ความมันและหอมของสามชั้น ตัวซอสเต้าเจี้ยวรสชาติค่อนข้างที่จะเค็มเกินไป ถ้าปรับให้อ่อนลงจะดีมากครับ ส่วนน้ำจิ้มงาให้ความหอมได้ดีแต่จะเลี่ยนไปสักหน่อยครับ 2. กิมจิ จอน (KinChi-Jeon) ราคา 180 บาท: แพนเค้กเกาหลีที่ใส่ซอสกิมจิและผักลงไปในเนื้อแป้ง ทำออกมาเป็นแผ่นใหญ่ๆ แบ่งกินได้สี่คนสบายๆ รสชาติจะออกจืดแต่มีความหอมของกิมจิ ถ้าเอาไปจิ้มกับซอสกิมจิ โอเครเลยครับ อร่อยมาก และที่สำคัญ เสิร์ฟมาตอนร้อนๆเลยครับ 3. คิมจี จีเค (Kimchi-jjigae) ราคา 180 บาท: ซุปกิมจิเข้มๆ ที่ใช้เบสเป็นซุปมะเขือเทศผสมกับกิมจิ ที่รสชาติกลมกล่อมมาก แนะนำว่าทานตอนร้อนๆจะอร่อยที่สุดครับ ในหม้อจะมีผักกาดขาว เต้าหู้ และหมูสามชั้นนุ่มๆ แนะนำครับ 4. บีบีมบับ (Bibibap) ราคา 180 บาท: ข้าวยำเกาหลีประกอบด้วยหมูสับ สาหร่าย ถั่วงอก ผัก แครอท และไข่ดาวปิดหน้า หลังจากถ่ายรูปเสร็จต้องรีบราดซอสกิมจิและคลุก เพราะหม้อร้อนมาก ถ้าทิ้งไว้นานด้านล่างจะไหม้ คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วทานครับ รสชาติจืดแต่อร่อยอย่างบอกไม่ถูก เข้าใจว่าตัวสาหร่ายน่าจะให้ความอร่อยแบบอูมามิครับ และยังได้ความอมเปรี้ยวเล็กๆจากซอสกิมจิ เป็นจานที่ดูไม่มีอะไรแต่อร่อยครับ 5. คุนมันดู (Gun mandu) ราราคา 150 บาท: เกี๊ยวทอดเกาหลีทำเอง โดยเห็นเจ้าของนั่งพับเกี๊ยวอยู่ โดยทางร้านนำไปทอดในหม้อทอดไฟฟ้า ทำให้แป้งด้านนอกกรอบและหอมมาก ไส้ด้านในจะมีหมูสับ กุยช่าย และวุ้นเส้นสับเป็นชิ้นเล็กๆ ปรุงรสชาติให้ออกเค็มนิดๆ จิ้มกับน้ำจิ้มของเกี๊ยวซ่า อร่อยครับ อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือเครื่องเคียงครับ ด้วยความที่เจ้าของเป็นคนเกาหลีแท้ๆ รสชาติอาหารจะค่อนไปทางเกาหลีแบบต้นฉบับ อย่างกิมจิรสชาติจะออกกลางๆ อมเปรี้ยว ผักกรอบๆ ไม่รสชาติโดดเหมือนที่ขายในไทย นอกจากนี้ก็ยังมีมะละกอกิมจิ ที่ซอยเป็นเส้นๆ และยังรักษาความกรอบได้ดี และรสชาติจัดจ้าน เผ็ดมากในครั้งแรก แต่สักพักจะชิน และยังมี แตงกวากิมจิ ผักผัดน้ำมันงา ไข่ตุ๋น ปลากิมจิ ผักกาดหอมราดซอส และมันฝรั่ง ให้ลองทานด้วยเช่นกัน อันที่จริงมาร้านอาหารเกาหลีเราต้องทานโซจู แต่เนื่องจากไม่ทานแอลกอฮอล์ ทางร้านก็มีเสิร์ฟเครื่องดื่มเป็นน้ำชาข้าวคั่ว ที่รสชาติชาค่อนข้างอ่อนจนเหมือนทานน้ำเปล่ามากกว่าครับ แต่ยังได้ความหอมของข้าวอยู่ในน้ำครับ โดยรวมแล้วรสชาติถือว่าออริจอนัลมากครับ และรสชาติเองก็ถูกปากคนไทยเช่นกัน สังเกตได้จากลูกค้าคนไทยที่มาทานร้านนี้เยอะมาก และนอกจากนี้ก็ยังมีลูกค้าต่างชาติที่น่าจะพักในโรงแรมที่อยู่ด้านหลังมาทานด้วยเช่นกันครับ ส่วนของการบริการอาจจะลำบากสักหน่อยเพราะพนักงานน้อยและลูกค้าเยอะถึงขนาดเต็มร้านครับ เลย Service ค่อนข้างช้าสักหน่อย และที่ดีสุดคือค่าอาหารล้วนๆ ไม่มี Charge ใดๆ เพิ่มเติม และรับบัตรเครดิตด้วยครับ ร้านนี้ แนะนำ ครับ

  • 8
  • 1
20/08/30

Other Reviews