#Dec2018 CHAR Restaurant – ห้องอาหารสุดชิคบนชั้น 25 ของโรงแรม Indigo นี้เป็นสาขาที่สองต่อจากสาขาแรกที่เซี่ยงไฮ้ ด้วยคอนเซ็ปต์ Contemporary Grill ของร้าน บวกกับทักษะและความคิดสร้างสรรค์ของ Chef Nikolas Ramirez - Chef de Cuisine ชาวฮาวายผู้ผ่านประสบการณ์มาจากร้านอาหารชั้นนำใน California และยังเคยร่วมงานที่ Gaggan ในตำแหน่ง Creative Development อยู่ถึง 3 ปี ที่นี่จึงไม่ใช่แค่ Steakhouse ทั่วไป ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่อาหารประเภท Grill หากแต่มีหลากหลายเมนูที่ถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยเทคนิคขั้นสูงและรายละเอียดแสนปราณีตระดับ Haute Cuisine โชว์การผสมผสานรสชาติแบบ Eclectic Fusion – อาหารไร้พรมแดนที่แต่ละจานนั้นมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นประสบการณ์ที่น่าลิ้มลอง เมื่อทางร้านมีการออกดีลพิเศษในเดือนที่ผ่านมา เราจึงไม่ยอมพลาดเป็นอันขาดล่ะค่ะ ****-บรรยากาศ-**** อีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่ก็คือดีไซน์เก๋ชิคของสถานที่ ทั้งภาพวาดขนาดใหญ่กลางห้องที่ให้อารมณ์ลูกกรุงแบบไทยๆ ผสมผสานกับเฟอร์นิเจอร์สไตล์ร่วมสมัยได้อย่างกลมกลืน การให้แสง เครื่องตกแต่งตามมุมต่างๆ และผนังกระจกจรดพื้นจรดเพดานที่ทำให้เห็นวิวตึกระฟ้าย่านถนนวิทยุได้สวยงามเต็มตา มีห้อง Private สำหรับจัดเลี้ยงแยกต่างหาก และแอบถูกใจห้องน้ำที่ทำได้เกือบจะระดับเดียวกับโรงแรมห้าดาวในต่างประเทศเลยทีเดียว ส่วน Rooftop Bar นั้นจะอยู่สูงขึ้นไปบนชั้น 26 สามารถเดินขึ้นบันไดไปได้ค่ะ ****- Dinner Set -**** สำหรับชุด Dinner นี้มี 3 คอร์ส ในแต่ละคอร์สมีให้เลือก 3-4 เมนู เลยขอเม้นต์เฉพาะเมนูที่เลือกนะคะ ส่วน Amuse Bouche และ Petit Fours นั้นทางร้านเสิร์ฟแถมให้ โดยเมนูอาจเปลี่ยนไปเรื่อยๆแล้วแต่เชฟจะครีเอทขึ้น น่าสนุกดีค่ะ ตอนนี้ไม่มีดีลแล้ว ก็สามารถสั่งเมนูเหล่านี้แบบ A la carte ได้ ซึ่งเราลงราคาไว้ให้ดูพอเป็นแนวทาง แต่เรื่อง Serving Size ไม่แน่ใจว่าจะเท่าๆกันกับใน Set นี้รึเปล่านะคะ [Complimentary Bread] เป็น Brioche เสิร์ฟอุ่นๆ เนื้อขนมปังนุ่มๆ ทานเพลิน เนยที่เสิร์ฟวิปมานุ่มตักง่าย มีโรยกลีบกุหลาบมาด้วย สวยงามมากมาย [Amuse Bouche] เสิร์ฟมาเป็นคำเล็กๆ 3 อย่าง คือ: ● ชิ้นแรกเป็นรูปโดมผิวเบากรอบ ไส้ด้านในเป็นมะเขือเทศเคี่ยวปรุงรสเผ็ดนิดๆด้วย Mediterranean Chilli Paste โรยผง raspberry บางๆ รสชาติดีงามใช้ได้เลย ● Potato Tart – เอาเปลือกมันฝรั่งมาทำเป็นถ้วยทาร์ตกรอบๆ ได้อารมณ์คล้าย Potato Chips แต่มีความบางระดับไมครอนแถมกรอบกริ๊บขั้นกว่า ใส่ครีมชีสข้นๆจนเต็มถ้วย รสชาติครีมมี่หอมมัน บดผสม Smoked Salmon พอได้กลิ่นมาเบาๆ ...ชอบอีกแล้ว ● Chicken Taco – เป็นเมนูที่ได้ไอเดียจาก Taco แบบเม็กซิกัน เวอร์ชั่นของเชฟนี่มาเป็นลูกกลมๆแป้งนุ่มๆ ไส้เป็นเนื้อไก่ผสมครีม ส่วนด้านบนตกแต่งด้วย Pickled Radish เปรี้ยวๆหวานๆ โดยทำเป็นรูปดอกไม้น่ารัก เมนูนี้รสชาติกลางๆ แต่ชอบ presentation และความประณีตค่ะ [Starters] ● Crispy Crab Cake, Marinated Fennel, Clam Beurre Blanc (ราคา 690++ บาท) – เนื้อปูเน้นๆปั้นมาเป็นชิ้นกลมหนาๆ มีหอยลายวางประดับด้านบนไว้ 1 ตัว โรยส้มโอ pulp เล็กๆ เพิ่มความสดชื่น ท็อปด้วยแผ่น Cheese Tuile กรอบๆหอมๆ มีซอสครีมเข้มข้นราดไว้ก้นจาน เป็นการนำเสนอรสชาติของเนื้อปูในรูปแบบสุดครีมมี่ กลิ่นรสนมเนยมาเต็ม ซึ่งก็อร่อยไปอีกแบบ แต่ทานไปซักพักก็จะมีเลี่ยนนิดหน่อยนะคะ [From the Hearth] ● Roasted Barbarie Duck Breast (100 g.), Salted Local Figs, Foie Gras, Sauternes (ราคา 1,050++บาท) – เนื้ออกเป็ดสุกพอนุ่มๆเป็นสีชมพู สิ่งที่รู้สึกว้าวกว่าอกเป็ดที่เคยทานที่อื่นๆคือความบางกรอบของหนังเป็ด คือบางเฉียบแบบไม่มีไขมันส่วนเกินเกาะ แถมกรอบกริ๊บไม่แพ้เป็ดปักกิ่ง ได้กลิ่นหอมของหนังเป็ดย่างกรอบชัดเจนในขณะที่เนื้อในยังนุ่มฉ่ำ เด็ดจริงสมกับที่ทางร้านชูความโดดเด่นด้าน Grill ล่ะค่ะ ซอสราดนั้นเป็นส่วนผสมของ Local Figs, ไวน์ Sauternes และ Foie gras ที่มีเป็นชิ้นๆมาให้เห็นด้วย เคล้ากับเนื้อเป็ดฉีก รสชาติละมุนกลมกล่อม ดีงามระดับสิบค่ะ [Sweets] ● Homemade Yogurt Ice Cream, Passion Fruit, Virgin Coconut Oil – เมนูนี้คือปลื้มปริ่มมาก เพราะองค์ประกอบทุกอย่างในจานนี่ของโปรดเราทั้งนั้นเลย ทั้งเสาวรสสดเปรี้ยวๆหอมสดชื่น ทั้งไอศกรีมโยเกิร์ตเนื้อเนียน ทั้งแผ่น Meringue กรอบเบาหวานกำลังดีที่วางตกแต่งมาด้านบน มีกลิ่นตะไคร้แฝงมาเล็กน้อย โรยพริกป่นข้างๆจานให้มีเผ็ดนิดๆเพิ่มความซับซ้อนของรสชาติแบบเป๊ะเว่อร์ ฟินสุดๆไปเลย [Petit Fours] ปิดท้ายด้วย petit fours ที่ทางร้านยกมาแถมท้ายให้อีก 3 อย่างนี้ค่ะ ● Macaron ที่ทำจากแป้ง Brioche เลยได้ความกรอบที่เนื้อแน่นกว่า Macaron ปกตินิดนึงและมีกลิ่นรสแบบขนมปังหน่อยๆ ตัว Macaron ไม่หวานมาก พอมีสังขยาใบเตยราดมาก็เลยพอดีนะ ● Sangria Lollipop – ชิ้นนี้เป็นการนำเอา Cocktail สัญชาติสเปนอย่าง Sangria มานำเสนอในรูปแบบเก๋ไก๋เป็น Lollipop ลูกกลมๆ texture เป็นเยลลี่ที่เย็นเฉียบเป็นน้ำแข็ง ได้อารมณ์คล้ายไอติมหวานเย็น ผิวนอกชุบ White Chocolate ไว้ครึ่งลูก เสียบไม้มาหน้าตาเหมือน Lollipop ของจริงเปี๊ยบ ทานสนุกทีเดียวค่ะ ● Dark Chocolate ไส้ Mulberry Jam มี Chocolate Cookie แผ่นเล็กๆรองอยู่ด้านล่าง ทานเพลินใช้ได้ล่ะ ****- Surprise Menu -**** นอกจากการสั่งแบบ A la carte แล้ว ที่นี่ยังมีไอเดียน่าสนุกให้ลอง คือการสั่ง Surprise Menu ซึ่งจะเป็นอาหาร 9 คอร์ส ราคา 3,000++ บาทค่ะ โดยตอนโทร.จองสามารถแจ้งได้ว่าแพ้อาหารอะไร หรือไม่ทานอะไรบ้าง แล้วเชฟจะครีเอทเมนูแบบ “ตามใจเชฟ” มาให้ จากประสบการณ์ที่เราเจอในมื้อนี้ซึ่งเชฟ Nikolas Ramirez จะเป็นผู้ออกมาเสิร์ฟอาหารด้วยตัวเองและอธิบายเมนูต่างๆอย่างละเอียด ทำให้รู้สึกได้ถึง Passion ของเชฟในการครีเอทอาหารแปลกๆใหม่ๆแต่ละจานได้อย่างชัดเจน ฉะนั้น Surprise Menu จากฝีมือเชฟนี้จึงเป็นอะไรที่น่าสนใจมากทีเดียว ****- The Verdict-**** เป็นอีกมื้อที่น่ารื่นรมย์มากๆ บรรยากาศดี อาหารน่าสนใจ แม้รสชาติอาจจะยังไม่ได้สมบูรณ์แบบไปซะทุกจาน แต่โดยรวมแล้วอร่อยเป็นส่วนใหญ่ Presentation ประณีต และมีดีเทลที่ทานสนุก บริการจัดว่าดีเลิศ เป็นอีกร้านที่น่าหาโอกาสมาลองค่ะ