ในกรุงเทพฯร้านอาหารจีนแคะเหลืออยู่ไม่กี่ร้านแล้ว วันนี้เรามาลองทาน ร้านยกฮั้วแถววัดมังกรกมลาวาสกัน เพื่อเป็นการฉลองรถไฟฟ้าใต้ดิน เปิดใหม่จากรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานี วัดมังกร เดินมาที่ร้านใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ใกล้มาก แต่ถ้าจะช้าก็เพราะว่าหลงทาง หาร้านไม่เจอนั่นแหละค่ะ จะมาร้านนี้กดดู Google Map ก็ได้ค่ะตรงเป๊ะ ปากทางหรือซอยเข้าร้านไม่มีชื่อ หน้าร้านก็ไม่มีป้ายบอกว่าเป็นร้านอาหาร แต่ เป็นกระจกใส โชว์โต๊ะอาหาร โต๊ะกลมจีน เป็นความสนุกสนานอย่างหนึ่งที่จะหาร้านให้เจอ ก่อนทานต้อง ☎️ โทรมาจองนะคะเพราะร้านมีขนาดเล็ก โต๊ะน้อย ลูกค้าเต็มแล้วจะเข้าไม่ได้อีกเลย สั่งอาหารที่ร้านไม่ยากค่ะมีเมนูภาษาไทย หมูสามชั้นอบผักดำ (หั่มช้อยโกว, โหม่ยโช้ยยุก) หอมกลิ่นผักดำแห้งรสผักเปรี้ยวอมเค็มอร่อยดีหมูสามชั้นยังไม่นิ่มขนาดละลายในปากเมนูนี้ทานกับข้าวสวยอร่อยค่ะ ฟองเต้าหู้ทอด (จ๋าฟู้เกี้ยน) เต้าหู้แผ่นบางห่อด้วยหมูสับข้างใน นำไปทอดจนกรอบ ทานกับน้ำจิ้มบ๊วยเจี่ย หมูสับข้างในค่อนข้างจะแข็ง ไปหน่อยนึงชิ้นเต้าหู้ทอดก้อนเล็กไปนิดนึง แต่ทอดได้ดี กรอบ ทานคู่กับสับปะรดแก้เลี่ยน ไส้หมูทอด ไส้จะมีการกรีดผ่าครึ่ง หมักเครื่องจนเป็นสีดำเข้ม แต่ว่าอร่อยมากค่ะ มันจะกรอบแต่ยังมีความเหนียวนิดๆ กระเพาะหมูเปรี้ยวหวานผัดกับถั่วงอก เปรี้ยวหวานของคนแคะ จะต่างกับเปรี้ยวหวานของคนไทยเรา โดยความเปรี้ยวของเขาเกิดจากน้ำส้มสายชู ถั่วงอกที่นำมาผัดมีความกรอบอย่างมาก คาดว่าคงจะนำไปแช่ในอะไรสักอย่างหนึ่งที่เป็นความลับ กระเพาะหมูของที่นี่จะเป็นทีเด็ดของจานนี้เพราะชิ้นใหญ่ และมีความกรอบ จะต่างกับกระเพาะหมูตามก๋วยจั๊บของคนแต้จิ๋ว ผัดหมี่ขาว กับข้าวหมาก จานนี้จะได้สีสวยงาม ข้าวหมาก จะเคลือบเส้นหมี่ทั้งจานให้มีสีชมพู และข้าวหมาก จะให้กลิ่นที่หอมกับเส้นหมี่มาก ผัดหมี่ของคนแคะ จะไม่ซ้ำกับที่ไหนเลย อาเจ็กเจ้าของร้านแนะนำให้นำน้ำที่เหลือจากกระเพาะหมูผัดเปรี้ยวหวานมาราดผัดหมี่ข้าวหมาก จะเพิ่มรสชาติจี๊ดจ๊าดขึ้นค่ะ ลูกชิ้นไชเท้านึ่ง (โหล่วเพ็ดเหยี่ยน) จานนี้ใช้เวลานึ่งนานมากกว่าจะมาเสิร์ฟ ส่วนผสมของทางร้านยกครัวต่อลูกชิ้นไชเท้านึ่งนั้น มีความเหนียวเกินไป สูตรที่แนนแนนชอบ จะเป็นแบบให้ โหล่วเพ็ดเหยี่ยน นิ่มกว่านี้ มาก แม้จะมีตินั้นนิดหน่อยแต่ก็ยังชอบร้านอาหารจีนแคะ เพราะว่าหาทานยากไม่มีคนทำขายกันแล้ว