ร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีคอนเซปเฉพาะตัวสุดๆ กับวัตถุดิบสุดแปลกที่หาทานได้ยาก และหลายๆ อย่างก็คาดไม่ถึงว่าจะทานได้ ตำแหน่งร้านอยู่ในซอยพหลโยธิน 4 ซึ่งทางเข้าซอยจะแคบสักหน่อยแบบรถสวนกันยาก ดีที่สามารถขับรถมาจอดภายในร้านได้เลย แต่ที่จอดก็มีค่อนข้างจำกัดเช่นกัน สำหรับการจะมาทานอาหารร้านนี้ สามารถ Walk in เข้ามาได้ แต่ว่าวัตถุดิบแปลกประหลาดที่ทางร้านอยากแนะนำ อาจจะไม่ได้กิน ซึ่งคำแนะนำของผม อยากให้ลองดูก่อนว่า มีเมนูหรือวัตถุดิบปริศนาอะไรที่น่าสนใจในเพจก่อน และจองวัตถุดิบนั้น แล้วค่อยจองโต๊ะอีกที จะมีโอกาสได้ทานมากที่สุดครับ แต่อันนี้ก็อยู่ที่ความเร็วด้วย เพราะบางวัตถุดิบเองก็หายากมากๆ เช่นเดียวกัน ที่มาของวัตถุดิบปริศนาของร้านนี้มีที่มาจากทะเลของทุกมุมโลก แล้วแต่ว่า Supplier ของงร้านจะเจออะไรมานำเสนอมากกว่า และอาจจะมีบางส่วนของเนื้อปลาที่ปกติเราไม่รู้ว่ามันทานได้ ก็มีให้เลือกสั่ง ตัวอย่างเช่นทูน่าส่วนติดกระดูก อันนี้หมดเร็วต้องจองล่วงหน้าอย่างเดียว แต่ไม่ได้หายากเท่ากับเมนูอื่นๆ เช่นงูทะเล ซึ่งอันนี้ก็ Legendary จริงๆ นอกจากวัตถุดิบปริศนาแล้ว ที่ร้านก็ยังมีเมนูซิกเนเจอร์อย่างปลาไหลย่างที่ไม่เหมือนที่ไหนเช่นเดียวกัน สำหรับเมนูอาหารที่ทานวันนี้ก็จะมี - Tennen Unagi ราคา 1400 บาท หรือในชื่อไทยคือข้าวหน้าปลาไหลธรรมชาติขนาดครึ่งตัว เสิร์ฟมาบนข้าวสวยญี่ปุ่นที่ราดซอสที่ไว้ย่างปลาโดยเฉพาะ มีเครื่องเคียงด้วยกันถึง 5 อย่าง ก็จะมี เต้าหู้เย็นไว้ปรับลิ้น ผักดองไว้ทานตัดเลี่ยน ต้นหอมย่างที่กรอบมากๆ มะเขือม่วงต้มซอสที่รสชาติออกหวานเหมือนขนมอะไรสักอย่าง และซุปใสเพิ่มความชุ่มคอ ซึ่งซุปนี้อร่อยจริงๆ และคลีนมากๆ ตัวปลาจะย่างไม่ได้ชุ่มซอสมาก ด้านในยังมีความขาวอยู่ เนื้อไม่แห้ง เคลียก้างปลาได้ดีแต่ก็มีอยู่อีกนิดหน่อย ส่วนหนังปลาคือกรอบที่สุดเท่าที่ร้านในเมืองไทยจะกรอบได้ โดยรวมคือเข้ากันมากๆ ทั้งตัวปลาและเครื่องเคียง - ซูชิหอยท้ายเภา ราคา 150 บาท ต่อ 1 คำ เป็นหอยพื้นเมืองของจังหวัดสตูล ซึ่งหาทานได้ยากอีกเช่นกัน โดยจะมีแค่ในช่วงปลายฤดูหนาวถึงต้นหน้าร้อนนี้เท่านั้น ทางร้านเสิร์ฟมาเป็นแบบซูชิที่พันด้วยสาหร่ายอีกที และทาซอส รสชาติมีความหวานละมุนเหมือนทานปลาหมึกสดๆเลย เคี้ยวได้เพลินไม่มีความเหนียวแต่อย่างใด อันนี้อยากให้ลองมากถ้ามีให้สั่งครับ - Kihada Maguro Zekedon ราคา 450 บาท ข้าวหน้าปลาทูน่าหางเหลืองพร้อมกับไข่แดงออแกนิก เวลาทานให้เจาะไข่แดงและทานพร้อมกับข้าวและทูน่า ส่วนของทูน่าที่ใช้เป็นอากามิที่ไม่รู้สึกแข็งกระด้าง ออกจะนุ่มละมุนด้วยซ้ำ ตัวไข่แดงเป็นเหมือนตัวประสานข้าวกับปลาให้รสชาติเข้มข้นขึ้น หวานขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อยากให้ตอกไข่แดงมากกว่า 1 ฟองน่าจะฟินกว่านี้ มีโรยต้นหอมขูดและงาขาวเพิ่มความหอมขึ้นไปอีก เป็นจานที่รู้สึกว่าคุ้มค่ามากๆ เช่นเดียวกับ 2 จานก่อนหน้า - Ore Saba ราคา 1800 บาท หรือในชื่อไทยคือปลาซาบะคอหัก สามารถเลือกได้ว่าจะเสิร์ฟ 2 แบบจาก 3 แบบ คือซูชิ มากิ หรือซาชิมิ โดยวันนี้เลือกแบบซูชิและซาซิมิ ทางร้านใช้ปลาทั้งตัวแล่ส่วนเนื้อออกมาโดยเฉพาะ แบ่งเป็นส่วนๆ ตามลำตัว ซึ่งถ้าทานแบบซาชิมิ จะได้ทานทั้งส่วนต้น กลาง ปลาย ที่จะให้รสชาติและความเข้มข้นที่ต่างกัน ช่วงต้นๆ ไขมันจะเยอะ มีความนุ่มละมุน และไม่รู้สึกคาวเหมือนเวลาทานซาบะย่าง ส่วนกลางและปลายจะมีความลีนมากกว่า และเป็นการแล่แบบยังมีหนังติดอยู่ด้วย รสชาติไม่คาวเช่นกัน มีความเข้มข้นแบบเฉพาะตัวของซาบะ ลองทานแบบซูชิก็อร่อยไปอีกแบบ แถมตัวข้าวยังชูรสชาติปลาได้ชัดมากขึ้นอีกครับ สิ่งที่ต้องยกนิ้วให้เลยคือการแล่ ปกติซาบะเป็นปลาที่ก้างเยอะมาก แต่อันนี้คือไม่มีเลย ทำออกมาได้ดีมากๆ แนะนำว่าให้แต้มวาซาบินิดหน่อยก่อนทาน และปิดท้ายแต่ละคำด้วยขิงดอง จะช่วยเคลียลิ้นได้ดีและไม่รู้สึกเลี่ยนเลย จบเมนูของคาวไปแล้ว ก็มาต่อกันด้วยของหวาน - ไดฟูกุ ราคา 120 บาท เป็นราคาต่อชิ้นซึ่งถือว่าราคาสูงมาก ทางร้านจะผ่าเป็น 4 ส่วนแบบยังไม่ขาดจากกัน ตัวสตรอเบอร์รี่หวานเจี๊ยบและฉ่ำน้ำมาก ส่วนแป้งจะบาง มีความหนึบ เคี้ยวได้เพลินๆ และรู้สึกหอมมาก - เจลลี่ซาบายอง ราคา 85 บาท เป็นฟรุตสลัดที่เสิร์ฟมาในหน้าตาของพุดดิ้ง มีความแข็งกระด้างหน่อยๆ ทานคู่กับซอสครีมสูตรเฉพาะของร้าน เป็นรสชาติที่คุ้นเคยแต่บอกไม่ถูกว่าคืออะไร อันนี้ก็ดีเช่นกัน ส่วนของเครื่องดื่ม สั่งเป็นชาร้อนแบบรีฟิว ราคา 40 บาท มีความขมๆ รู้สึกได้ถึงความเข้มข้นกำลังดีเลยทีเดียว ตัดเลี่ยนได้ดี รสชาติอาหารโดยรวมแล้ว ถ้าตัดเรื่องความแปลกของวัตถุดิบออกไปและให้คะแนนเฉพาะเรื่องรสชาติ ต้องถือได้ว่าทำออกมาได้ดีจริงๆ ทางเชฟเข้าใจในและสามารถดึงศักยภาพของวัตถุดิบนั้นๆ ออกมาได้เป็นอย่างดี ถ้าจะหาร้านแบบนี้ในไทยคงหาได้ยากครับ ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นห้องแล็บที่มีกลิ่นอายของร้านอาหารญี่ปุ่นจริงๆ การบริการตามมาตรฐานร้านอาหารญี่ปุ่น บริการรวดเร็วไม่ต้องรอนานแต่อย่างใด บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะกับมาสังสรรค์กับเพื่อนร่วมงานหลังเลิกงานเป็นอย่างยิ่ง 💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻 🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin 🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha *กรณีต้องการนำรูปไปใช้งานให้ขออนุญาตและให้เครดิตทุกครั้ง มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์และแจ้งความทุกกรณี