รอยัล โอชา

มื้อเย็น

ร้านอาหารไทยการันตีรางวัล User Choice จากวงในบนซอยร่วมฤดีครับ สามารถจอดรถได้ที่ร้านเลยครับ และเดินมาที่ด้านหน้าของซอยเพื่อเดินเข้าร้านครับ แนะนำว่าให้โทรจองก่อนเพื่อที่ทางร้านจะได้เตรียมที่นั่งไว้ให้ครับ ภายในร้านจะออกมืดๆ บรรยากาศดีมากครับ สำหรับวันนี้ผมได้ซื้อดีลจากวงในเซต 999 บาทและมีสั่งอาหารที่ร้านเพิ่มเติมครับ ก่อนอื่นเลยก็จะมารีวิวส่วนของดีลที่เป็นอาหารคาวก่อนครับ ก็จะมี 1. แสร้งว่ากุ้งสด: เป็น appetizer ที่เสิร์ฟมาบนหินอ่อน ด้านล่างเป็นแป้งทอดกรอบ ท๊อปด้วยกุ้งและเครื่องสมุนไพร รสชาติดีเลยครับ ทานแล้วออกเฟรชๆ 2. เปาะเปี๊ยะเป็ด: appetizer จานที่ 2 เสิร์ฟมาพร้อมกับแตงกวาที่หั่นเป็นชิ้นบางๆ และราดซอสไว้นิดหน่อย ตัวเปาะเปี๊ยะค่อนข้างกรอบ ส่วนไส้ด้านในแน่น เนื้อเป็ดอร่อยใช้ได้เลยครับ โดยจะมีการ Smoke มาก่อนแล้วค่อยเปิดออกก่อนรับประทาน ได้ 3. ไก่สะเต๊ะ: ทางร้านจะเสิร์ฟมาในถ้วยแก้วที่ด้านล่างมีใส่ปลากัดมาด้วยครับ ซึ่งทำให้จานนี้ดูน่าสนใจมากขึ้น ตัวไก่จะมีการชุบซอสมาเรียบร้อยแล้วครับ สามารถทานได้เลย เนื้อไก่นุ่มอร่อย ส่วนซอสด้านนอกจะออกหวานๆ 4. ยำส้มโอกุ้งแม่น้ำเผา: จานนี้ความคิดสร้างสรรค์มาเต็มครับ ตัวกุ้งเผาและยำจัดใส่ในจานขอนไม้ และด้านล่างรองด้วยน้ำแข็งแห้งและภาชนะจานสีดำ ทำให้ด้านบนยิ่งดูอลังขึ้นไปอีกครับ ตัวยำส้มโอรสชาติดี ออกเปรี้ยวหวานนิดๆ ส่วนกุ้งรสชาติใช้ได้ เนื้อน้อยไปสักหน่อย และมันกุ้งไม่คาวเลยครับ 5. หมูย่างจิ้มแจ่ว: Main Dish ของมื้อนี้ครับ ใช้ส่วนซี่โครงหมูมาหมักกับสมุนไพรที่ใช้ทำลาบ และเสิร์ฟมากับซอสสีแดง เนื้อนุ่มอร่อย สุกกำลังดีไม่มีเนื้อสีชมพู ได้รสชาติความหอมของข้าวคั่ว ส่วนซอสช่วยให้เนื้อไม่เลี่ยนจนเกินไปครับ ในส่วนของคาวที่สั่งเพิ่ม ก็จะมี 6. แสร้งว่าหอย ราคา 480 บาท: ราคาแรงใช้ได้เลยครับ ตัวหอยใช้เป็นหอยนางรมและเครื่องเดียวกันกับแสร้งว่ากุ้ง ส่วนตัวชอบจานนี้มากกว่าครับ เพราะหอยนางรมให้รสชาติที่เข้มข้นและอร่อยมากกว่าครับ 7. พะแนงเนื้อ ราคา 780 บาท: เป็น main course signature ของที่นี่เลยครับ จะใช้ส่วนของแก้มวัวมาตุ๋นจนเปื่อย เสิร์ฟมาในแกงพะแนงสูตรเข้มข้น เหมาะกับทานคู่กับข้าวสวย ตกแต่งด้วยเม็ดสาคูและใบโหระพา แก้มวัวตุ๋นได้นุ่มอร่อยมากๆครับ รสชาติซึมเข้าไปในเนื้อเลยทีเดียว แนะนำว่าให้ทานพร้อมกับใบโหระพา รสชาติจะครบเครื่องที่สุดครับ และจบ Main Course แล้วก็มาถึงของหวานกันครับ 8. ขนมโค: อยู่ในดีลของวงในครับ จะเป็นแก้วใส่ขนมโคโรยด้วยข้าวพอง ทานคู่กับขนมไทย เนื้อขนมโคยังไม่โดนสักเท่าไร เหมือนแป้งนุ่มๆมากกว่า แต่ความหอมของกะทิยังไม่ได้ และได้ความกรอบจากข้าวพองมาเสริมความอร่อยครับ 9. ครีมบูเลย์ ราคา 350 บาท: เป็นขนมหวานที่ดูแพงและอลังการเช่นกัน เสิร์ฟมาในกะลามะพร้าวที่ด้านล่างวางด้วยลูกมะพร้าวและน้ำแข็งแห้ง มีไอบางๆเย็นๆ ไหลออกมาเป็นระยะ รสชาติดีครับ ออกหวานกลางๆ เนื้อครีมนุ่มอร่อย เซตตัวได้ดีครับ สำหรับโดยรวมแล้ว ถือว่ารสชาติอาหารดีเลยครับ อาจจะติดบ้างเรื่องของหวานก็ยังพัฒนาต่อได้อีกครับ ส่วนการบริการดีเยี่ยมเลยครับ พนักงานแนะนำเมนูอาหารได้ดีและให้บริการได้อย่างรวดเร็วครับ ส่วนบรรยากาศร้านดีมาก เหมาะสำหรับนัดเดทหรือทานอาหารแบบครอบครัวเลยครับ นอกจากนี้ชั้น 2 ยังมีโซนให้ถ่ายรูปด้วยครับ ใครสายแชะไม่ควรพลาดร้านนี้เลยครับ #RettyGinza