รอยัล โอชา

มื้อเย็น

ทานครั้งที่ 4 เเล้วกับร้าน Thai fusion บรรยากาศสวยๆโรเเมนติก บริการดีมาก ครั้งนี้มากับดีลวงใน Welcome drink น้ำเก๊กฮวยผสมสปากกิ้งไวน์ รสหวานนิดของเก๊กฮวยผสมมากับน้ำโซดาสดชื่นมีรสเปรี้ยวบางเบา Amuse buch ลาบเห็ดทอด เห็ดเนื้อสัมผัสบางกรอบ กลิ่นสมุนไพร เครื่องลาบหอมฟุ้งถึงโพรงจมูก ความเผ็ดร้อนสดชื่นตามมาด้วยรสเปรี้ยวเบาๆ เป็นจานที่เปิดประสาทรับรสได้ดี Appetizer หอย Scallop seared กึ่งสุกเนื้อด้านในมีความใส ด้านล่างมีเเก่นตะวันpuree ซอสหอมใหญ่ เเละ ซัลซ่าปลาเค็ม ความหวานของหอยเชลล์ด้านนอกเเน่นนิดด้านในนุ่มฉ่ำ ตัดกับความเค็มคู่กับเครื่องซัลซ่าที่สดชื่น เเก่นตะวันทำให้รสชาติเนียนกลมกล่อมขึ้น Salad กุ้งเเม่น้ำย่าง กับยำงาขี้ม่อน โฟมมะกรูด ข้าวเกรียบกุ้ง ความสดของกุ้ง หวานฉ่ำ ย่างมาพอดีมาก เนื้อเด้งดึ๋งดึงออกมาได้ตั้งเเต่หัวยันปลายหาง มันหัวกุ้งเข้ากับน้ำยำสุดๆ มีความหอมสดชื่นของสมุนไพรไทยเเท้ๆ ตัดความเผ็ดด้วยข้าวเกรียบกุ้ง เข้ากันสุดๆ โฟมมะกรูดเพิ่มความหอม เเละความสวยงาม Soup ปลาเก๋านึ่ง คู่กับเกล็ดปลาผ่านความร้อนโดยราดน้ำมัน เคียงซุปต้มโคล้งปลาเก๋า มะเขือเทศจิ๋วเผา หอมเเดงเผา เสริมด้วย พริกปลาป่นปรุงรสเพิ่ม ความเเน่นหวานของเนื้อปลาเก๋า โดนมาก ปลากระพงชิดซ้าย ที่เด็ดกว่า คือเกล็ดปลา กรุบกรอบมาก มีความมันอมหวานนิดๆ ซุปต้มโคล้งสดชื่น เสิร์ฟมาในไซฟอนค่อยๆลนไฟเพื่อไปรับความหอมของสมุนไพร ก่อนค่อยบรรจงเทเสิร์ฟในจานสีขาวสะอาดตา ติเล็กน้อยรสชาติเผ็ดร้อน จนกลบความหวานของเนื้อปลาลง Main course 1.) วากิว ออสเตรเลีย ส่วนtenderloin (สันใน) ย่างเเบบ Medium ราดซอสเเกงกะหรี่ เฉพาะของทางร้าน เคียงคู่ผักผ่านน้ำมัน เนื้อฉ่ำมาก คู่กับซอสรสเผ็ด หวาน ตัดกับรสเนื้อ เหมือนเเกงกะหรี่เนื้อชั้นดี 2.) ปลากระพงย่าง ซอสเเกงส้ม ปลาย่างมาความสุดกำลังดีหนังกรอบ ซอสเเกงส้มเค็มยำ เผ็ดเปรี้ยวยังไม่ถูกใจเท่าที่ควร เลยทานคู่กับซอสเเกงกะหรี่เเบบที่เคยทานมา อร่อยส่งถึงสวรรค์เหมือนเคย Dessert ทับทิมกรอบ สามสี สามกลิ่น เเดง-สละ สีเขียว-ใบเตย สีน้ำเงิน-อัญชัน ราดน้ำเชื่อม เนื้อขนุน-มะพร้าว หั่นฝอย เสิร์ฟมากับ น้ำเเข็งใสจากน้ำกระทิเย็นฉ่ำความเค็มหวานมัน เวลาทานเท ทับทิมกรอบคลุกเคล้ากับน้ำกระทิเย็นฉ่ำ รมควันเทียมหอมๆ ฟินจริงไรจริง ในชามเบญจรงค์มากับ ขนมไทยโบราณ ขนมถั่วกวน ขนมข้าวตู่