ร้านนี้เคยมีมาเปิดที่ทองหล่อ ด้วยคอนเซปต์เมนูที่ออกมาแต่ละ Chapter และไม่นานมานี้ ทางร้านได้ย้ายปราสาทมาตั้งที่ใหม่ ย่านทองหล่อเช่นเดิม แต่มาอยู่ที่ J Avenue แทนค่ะ ซึ่งมาพร้อมเมนูที่จัดเต็มกว่าเดิม สถานที่ที่จุคนได้มากกว่าเดิม และบรรยากาศที่ดูดีกว่าเดิม สำหรับเส้นทางมาร้าน จะอยู่ใน J Avenue ใกล้ซอยทองหล่อ 15 และขึ้นมาชั้น 4 บริเวณ Rooftop ได้เลยค่ะ ร้านเปิดเวลา 11.00 – 01.00 (ตี 1) ค่ะ บรรยากาศร้าน จะเป็นปราสาทหลังใหญ่ดูแฟนตาซีน่าค้นหา มีที่นั่งทั้งด้านในและด้านนอก ช่วงกลางวัน จะทานอาหารต่อด้วยขนมและจิบเครื่องดื่ม ก็นั่งสบายๆ หรือจะมาตอนเย็น นั่งดริ๊งก์ชิวๆยามค่ำคืน รับลมเย็นๆด้านนอก ก็ได้บรรยากาศหลากหลายแบบดีค่ะ เมนูที่นี่จะมีทั้งอาหารคาว ของหวาน และเครื่องดื่ม คล้ายๆกับที่เก่า แต่ว่าจะมีเพิ่มเติมเมนูที่น่าสนใจมากขึ้น ส่วนเมนูฮิตๆและอื่นๆ เช่น Inferno Mountain ก็จะยังมีอยู่คงเดิมค่ะ ซึ่งแต่ละเมนู จะมีสตอรี่ในตัวมันเอง เพิ่มความน่าสนใจ น่าค้นหา และน่าลิ้มลอง ซึ่งทางร้าน ยังมีการพรีเซนต์บางเมนูได้น่าสนใจด้วยค่ะ มาปราสาทหลังใหม่ทั้งที เราก็เลยขอจัดเมนูใหม่ๆมาฝากเพื่อนๆ และเมนูอื่นๆที่น่าสนใจด้วยค่ะ ซึ่งมีทั้งอาหารคาว ของทานเล่น ของหวาน และเครื่องดื่มค่ะ - Castle of Dawn & Twilight 480 บาท เมนูนี้พรีเซนต์อลังการ ด้วยควันพวยพุ่งรอบๆปราสาท พร้อมยินดีต้อนรับทุกคนที่จะมาเยือนค่ะ กำแพงปราสาทเป็นขนมนุ่มๆสอดไส้ช็อคโกแลตหวานหน่อยๆ อร่อยดีค่ะ ลองทลายกำแพงปราสาทแต่ละชิ้นก็จะเจอไอศกรีมหลากรสที่ซ่อนอยู่ด้านใน สามารถจะเลือกได้ 4 รสค่ะ เราชอบไอศกรีมรส Sea Salt Caramel, Cookie Monster (สีฟ้า) และ Strawberry Cheesecake ส่วนรส Matcha พอทานคู่รสอื่น แอบรสอ่อนไปนิดค่ะ แนะนำว่าควรทานรส Matcha รสเดียวจะได้รสขมนิดๆมากกว่าค่ะ - Dragon's Fire Breath 420 บาท มาเป็นโดมสายไหมสวยงาม เหมือนภูเขาหิมะ ก่อนจะถูกไฟจากมังกรเผาจนละลาย และจะเห็นบานอฟฟี่ทาร์ตด้านใน ซึ่งมีไอศกรีมอีก 2 รสด้วยค่ะ กลิ่นกล้วยหอมๆมาก่อนเลยค่ะ ช็อคโกแลตกับกล้วยทานเข้ากันดีอยู่แล้วค่ะ เพิ่มเติมรสด้วยไอศกรีมก็เข้ากันดี ซึ่งไอศกรีมรส Chocolate Peanut Butter ก็หอมๆดีค่ะ - Brulee Valley 120 บาท เป็นขนมตามคอนเซปต์ภูเขา สวยงามมีความเป็นธรรมชาติ ครีมบูเร่เนื้อนุ่มหอมหวานมัน กับครีมด้านบนที่โรยด้วยดอกไม้เล็กๆ รสขมมัทฉะนิดๆอร่อยดีค่ะ รอบๆมีครัมเบิ้ลรสมัทฉะ เข้มข้นหอมชาเขียว กรุบกรอบถูกใจสุดๆคะ เมนูนี้ชอบค่ะ - Fairy Land 195 บาท ดินแดนแห่งภูตน้อย เป็นเค้กชิฟฟ่อนด้านนอกเคลือบช็อคโกแลต ท้อปด้านบนด้วยดอกไม้หลากสีสัน ทานได้ด้วยนะคะ เค้กชิฟฟ่อน เนื้อนุ่มฟู สลับชั้นกับครีมช็อคโกแลตหวานๆ มีครัมเบิ้ลรสมัทฉะโรยด้านบนตัดให้มีรสขมนิดๆ และยังมีแครนเบอร์รี่สด เพิ่มรสเปรี้ยว ทานรวมๆกันหมดก็ได้หลายรสชาติดีค่ะ เราชอบช็อคโกแลตที่เคลือบรอบๆเค้กจัง - Northern Light 155 บาท แสงเหนือ ชอบคอนเซปต์นี้มากค่ะ เพราะสีสวยจริงๆ คือถ้ากระทบกับแสงไฟในร้านจะเป็นสีฟ้า แต่ถ้ากระทบกับแสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามาในร้านก็จะเป็นสีเขียว เหมือนแสงเหนือเลยค่ะ เหมาะเลยที่จะสั่งมาถ่ายรูปก่อนชิมค่ะ เป็นน้ำฝรั่งใส่ไซรัปบลูคราโซ่ ล่างสุดเป็นเยลลี่อัญชัน รสชาติเปรี้ยวหวานสดชื่นดีค่ะ แนะนำว่าควรทานจากปากแก้ว (แทนการใช้หลอด) ซึ่งปากแก้วจะมีเกลือเกาะอยู่ เราก็ค่อยๆยกดื่ม จะได้รสเปรี้ยวหวานจากน้ำสีฟ้า นุ่มหนุบจากเยลลี่อัญชัน และเค็มจากเกลือไปพร้อมๆกันค่ะ - Morph Potion 155 บาท น้ำยาสรรพรส คอนเซปต์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่อง แฮรี่พอตเตอร์ ใครที่ได้ดื่มก็จะสามารถเปลี่ยนร่างเป็นคนอื่นได้ชั่วคราว งั้นเรามาลองดื่มกันค่ะ อิอิ เป็นมัทฉะยูซุ เปรี้ยวหวานสดชื่นดีมาก ชอบๆค่ะแก้วนี้ ท็อปด้วยเจลลี่หนอน มีความหนุบๆ เพิ่มลูกเล่นของเมนูนี้ให้น่าถ่ายรูปมากขึ้นค่ะ และพอเราดื่มแก้วนี้ก็เปลี่ยนร่างเป็นหนอนเพราะมัวแต่จ้องหนอนตอนถ่ายรูปนี่แหละ 55 - Love Potion 155 บาท เครื่องดื่มจากภูตดอกไม้ สีม่วงเข้มและอ่อนไล่ระดับสีดูน่าค้นหา แก้วนี้จะเป็นน้ำแข็ง Cube ที่มีดอกไม้สีสันสดใสด้านใน ได้รสเปรี้ยวหวานจากบลูเบอร์รี่และองุ่น มีใส่โซดาเพิ่มความซ่าด้วย แก้วนี้ก็สดชื่นอีกแก้วดีค่ะ - Tavern's Tales Rib Eye Steak 690 บาท จะมีซอสให้เลือก 3 แบบค่ะ คือ Infused Black Peppercorn Sauce, Red Wine Reduction Sauce หรือ Magic Mushroom Sauce ซึ่งเราเลือกซอสเห็ดค่ะ เนื้อชิ้นใหญ่ มีความหนุบๆ แอบเหนียวไปนิดนึงสำหรับเรา ต้องทานชิ้นบางๆก็จะโอเคเลยค่ะ เราชอบกลิ่นของเนื้อ ทำมาหอมดีค่ะ ทานคู่กับซอสเห็ดที่หอมเห็ดมาก คือถูกใจซอสมากค่ะ รอบๆยังมีมันบดนุ่มๆดี และผักอื่นๆที่ทานเข้ากัน ถูกใจค่ะ และชอบถ้วยใส่ซอส เป็นมงกุฎสวยงามดีค่ะ - Swanling Duck with Balsamic 240 บาท เมนูสลัดที่จัดเต็มด้วยโปรตีนจากเป็ดและวิตามินจากผัก เป็ดมีความนุ่มๆหนุบๆ ราดซอสมาได้รสชาติพอดี ทานคู่ผักสลัดที่ราดบัลซามิกรสเปรี้ยวหน่อยๆ ทำให้ตัดรสกันดีค่ะ - Salmon Stick with Nachos 260 บาท อาหารทานเล่น ที่นำแซลมอนมาทอดเป็นแท่งสติ๊ก จัดมาคู่นาโชส์ค่ะ แปลกดีค่ะ ทอดมาได้ไม่อมน้ำมันดี แต่พอจิ้มทานคู่น้ำจิ้มที่มีรสเค็มเผ็ดนำ ทำให้กลบรสแซลมอนไปนิดค่ะ ส่วนตัวรู้สึกว่าปลาทอดทานคู่ซอสทาทาร์น่าจะเข้ากว่า แต่ว่าเมนูนี้มีนาโชส์มาด้วย ซึ่งจิ้มกับซอสแล้วเข้ากันดีค่ะ แต่นาโชส์อร่อยอยู่แล้ว คือทางร้านทำมาได้ฟูกรอบดี และมีปรุงรสมานิดหน่อย เลยทานได้แบบไม่ต้องจิ้มซอสได้เลยค่ะ แผ่นนาโชส์จะมีแบบสีเหลืองอ่อน กับสีเหลืองเข้ม ซึ่งสีเหลืองอ่อนจะฟูกรอบคล้ายเกี๊ยวทอดเลย ชอบๆค่ะ ส่วนสีเหลืองเข้มจะแข็งกว่าหน่อยค่ะ - Lemon Meringue 150 บาท เมนูนี้อาจจะไม่ได้มีการพรีเซนต์หน้าตาสวยงามแบบอลังการ เพราะว่ามีความน่าทานด้วยตัวชิ้นเค้กเองอยู่แล้วค่ะ เลมอนมีความเปรี้ยวกับเมอแรงก็ที่มีความหวานแต่ไม่หวานมากไป ทำให้ทานรวมกันได้รสเปรี้ยวหวานพอดีค่ะ แต่มีตินิดนึงตรงฐานทาร์ต แอบแข็งไปหน่อยค่ะ ใช้ช้อนตัดยากค่ะ เรามีได้ทานเครื่องดื่มมิลค์เชคที่อยู่ใน Chapter 5 : Unleash the Undersea อีก 2 เมนูด้วยค่ะ - "Blueberry & Strawberry Cheese Cake" Milk Shake 175 บาท เป็นเครื่องดื่มมิลค์เชคที่ทำจากไอศกรีมสูตรพิเศษของทางร้าน มีรสบลูเบอร์รี่ช็อคชิปและรสสตรอเบอร์รี่ชีสเค้ก ทำให้มี 2 สีสลับกันน่าทาน รสออกหวานๆละมุน ไม่ค่อยเปรี้ยวเด่นมากนัก น่าจะเหมาะกับคนชอบทานแนวนมปั่นหวานหอมค่ะ - "Cookie Mint Monster" Milk Shake 175 บาท เป็นมิลค์เชคที่ทำจากไอศกรีมรสซิกเนเจอร์ของร้านเลย คือรสคุ้กกี้มิ้นท์มอนสเตอร์ค่ะ รสหอมหวานละมุนมีกลิ่นมิ้นท์นิดๆ ทานแล้วก็หวานสดชื่นดีค่ะ สีสวยด้วย ชอบ บรรยากาศที่นั่ง ชอบค่ะ มีการตกแต่งดูน่านั่งหลายมุม ซึ่งจะมีโซน VIP ด้วยนะคะ เป็นบันไดวนขึ้นชั้น 2 ซึ่งต้องสั่ง 2,000 บาท ถึงจะสามารถนั่งโซนนี้ได้ค่ะ ทางร้านมีดนตรีสดด้วยค่ะ ชอบเลย ซึ่งเล่นกันตั้งแต่กลางวัน ถ้าใครมาเสาร์ อาทิตย์ จะมีดนตรีเล่นสด เวลา 12.30-15.00 น. ส่วนวันธรรมดา ทางร้านแจ้งว่า น่าจะเริ่มมีเดือนหน้า เวลา 21.00-23.00 น. ค่ะ เพิ่มเติมกว่านั้น ทางร้านมีชุดคอสเพลย์! ด้วยค่ะ จะขอสักครั้งเป็นแฮรี่พอตเตอร์ หนูน้อยหมวกแดง หรือตัวการ์ตูนอื่นๆ ก็ตามชอบเลยค่ะ นี่ถ้าทางร้านมีไม้กายสิทธิ์เพิ่มด้วยนี่ จะยิ่งครบเลยค่ะ อิอิ โดยรวมประทับใจทั้งการตกแต่งแต่ละเมนู บรรยากาศ และการบริการ อยากให้เพื่อนๆได้มาลองชมปราสาทหลังนี้กันนะคะ #retpost