SPACE Q by Bar B Q Plaza, The Taste Thonglor

Sudarath Poonlarppanich 226 Followers

มื้อกลางวัน

"Space Q" ปิ้งย่างที่ต่อยอดมาจากบาร์บีคิวพลาซ่า ให้เป็นมากกว่าแค่ร้านอาหาร ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าทุกเพศทุกวัย เน้นทั้งคนวัยทำงานและกลุ่มครอบครัว มาที่นี่เราจะได้ทานทั้งแนวปิ้งย่างและชาบู ซึ่งจุดเด่นของที่นี่เด่นเลยคือ กลิ่นไม่ติดตัว หัวไม่เหม็น แต่ทางร้านก็มีแจกผ้ากันเปื้อนและหมวกคลุมผมให้เราด้วยนะคะ เลยเอามาเป็นพร้อพถ่ายรูปสวยๆ แต่ก็ไม่ได้ใช้ เพราะอยากจะลองดูว่ากลิ่นจะติดมั้ย และบอกเลยว่ากลิ่นไม่ติดตัวจริงๆค่ะ ซึ่งที่ร้านบอกว่า มีระบบดูดควัน 360 องศารอบเตา กับระบบโอโซน และจุดเด่นอีกอย่างคือ ทุกเมนู ถ่ายรูปสวยค่ะ เหมาะกับคนชอบแชะก่อนทานอย่างเราเลย อิอิ   ร้านอยู่ชั้น 2 ในโครงการ Taste ทองหล่อ อยู่ที่ซอย ทองหล่อ 11 ค่ะ เปิดบริการจนถึงเที่ยงคืน สายแฮงค์เอาท์ยามดึกก็มาได้ มีที่จอดรถสะดวก สามารถแสตมป์บัตรจอดฟรี 3 ชั่วโมงค่ะ   คำว่า “Space Q” มาจากการผสมผสานของ 2 คำ ซึ่งคำว่า Space หมายถึง พื้นที่แห่งความสุขที่ทุกคนจะมาร่วมแบ่งปัน ส่วน Q มาจาก Bar B Q คือ ร้านปิ้งย่างที่ทานแล้วจะมีแต่รอยยิ้ม ซึ่งร้านนี้ได้ยกระดับการปิ้งย่าง ให้มีความหลากหลายและความพรีเมี่ยมมากกว่าเดิม ด้วยเตาปิ้งย่างพร้อมหม้อแบบใหม่ ที่ทานสนุก ที่นั่งสบาย แต่ยังคุ้มราคาค่ะ   บรรยากาศร้าน จะดีไซน์มาให้เหมือนถ้ำมังกร ถ้าใครมาแนะนำให้อยู่จนถ้ำเปิดไฟสีเขียวสวยๆค่ะ เสียดายที่เรามากลางวันเลยไม่ได้เก็บภาพมาฝากเพื่อนๆค่ะ และที่เคยบอกว่าเน้นคนนั่งทำงานด้วย เนื่องจากแต่ละโต๊ะ จะมีปลั๊กไฟและช่องเสียบ USB มี Wifi ฟรีด้วย ระหว่างโต๊ะก็ไม่มี Partition กั้น สามารถคุยข้ามโต๊ะได้ เป็น Coworking Space ได้เลยในตอนกลางวันค่ะ   มาครั้งนี้เราได้ทานแบบจัดเต็ม ทั้งหมู เนื้อ ชาบู ของทานเล่น ของหวาน และเครื่องดื่เลยค่ะ   เริ่มด้วยอาหารกันก่อนค่ะ - Truffle U.S. Angus Beef Set 750 บาท (ถ้าไม่ใส่ทรัฟเฟิลจะราคา 630 บาท) เป็นเนื้อวัวแองกัสจากอเมริกา จานนี้จัดเนื้อวัวที่คัดมา 2 ส่วนคือ ใบพาย และริบอาย ลายสวยบอกความเป็นไขมันกำลังดี โรยหน้าด้วยเห็ดทรัฟเฟิลสไลด์ และพาร์เมซานชีส เสิร์ฟพร้อม ทรัฟเฟิลบัตเตอร์ ก่อนจะย่าง ก็ราดทรัฟเฟิลบัตเตอร์บนเนื้อกันก่อน แล้วก็คีบเนื้อทั้งชิ้นลงไปย่างไม่เกิน 7 วินาที อย่าลืมหยิบทรัฟเฟิลไปด้วยนะคะ สุกแบบพอดีมีเนื้อแดงหน่อยๆ จะได้ความนุ่มหนุบ อร่อยมาก และหอมมากกก ได้ทั้งกลิ่นย่างหอมๆ กลิ่นทรัฟเฟิล กลิ่นเนยและชีส คือลงตัวสุดๆค่ะ   - Volcano (หมู 590 เนื้อ 700 บาท) หมู/เนื้อ แบบคลาสสิกและแบบชาบูสไลด์บาง เราสั่งแบบหมูมาลองค่ะ เมนูนี้อลังการด้วยการนำเสนอ ใส่มาในภาชนะรูปแบบภูเขาไฟ ก่อนที่จะเทน้ำตรงกลางปล่อง ให้เกิดควันสีขาวพวยพุ่ง ตื่นตาตื่นใจน่าถ่ายรูปมากค่ะ ซึ่งจะมีหมูสันคอ แบบเป็นชิ้นวงกลม ซึ่งเหมาะกับการปิ้ง และหมูสันไหล่ แบบชิ้นยาว ที่เหมาะกับการวนในหม้อต้มชาบู แต่ใครอยากจะย่างก็ได้ไม่ว่ากันค่ะ เนื้อหมูแบบปิ้ง รสชาตินุ่มหอมอร่อย คล้ายๆกับที่เราเคยทานที่บาร์บีคิวพลาซ่า แต่ส่วนที่เป็นชิ้นยาวต้มแบบชาบู มีความติดมันได้ความนุ่มหนุบ จุ่มน้ำจิ้มตามชอบก่อนเข้าปาก อร่อยละมุนลิ้นดีค่ะ แนะนำว่าควรจุ่มแค่ 6-7 วินาที เพื่อให้ไม่สุกเกินไปค่ะ   เพิ่มเติมว่าใครเป็นสมาชิกบัตร Space Q และบาร์บีกอนคลับ เมื่อซื้ออาหารชุด Space Q Super Signature ชุดไหนก็ได้ แล้วสั่งเมนู Volcano จะได้ลดทันที 150 บาทค่ะ (จำกัด 1 สิทธิ์ต่อ 1 ครั้ง)   - Kurobuta Pork Steak ชุดหมูคุโรบุตะสเต็ก 400 บาท มีหมูให้เลือกถึง 3 แบบ คือ สันคอหมูคุโรบุตะจากหมูดำพันธุ์ดี ไส้กรอกเปปเปอร์ และบิ๊กไบท์เบคอนที่รมควันด้วย Natural Woodchip เสิร์ฟพร้อมชุดผักและเส้นอุด้ง เมนูที่เหมาะสำหรับคนชอบทานหมูหลายๆแบบ คือ สันคอหมูคุโรบุตะที่หั่นมาหนา 1 เซน แต่ยังคงความนุ่มหนุบ ได้เนื้อเต็มๆคำ หรือจะเบคอนที่หนาเช่นกัน เมื่อความมันโดนไฟก็จะหอมมันยิ่งขึ้น กัดแล้วจะได้เนื้อที่มีความกรอบนิดๆมีมันผสมหน่อยๆ ก็อร่อยเลย และแบบไส้กรอก ที่มีความกรอบเด้งๆของไส้กรอก ยังมีผักและอุด้งใช้ต้มในชาบู ให้ได้ทานทั้งแบบปิ้งและแบบต้มซดคล่องคอไปพร้อมๆกันค่ะ   - Space Q Pork Toro คอหมูหมักต้นหอม 235 บาท เป็นสันคอหมูชิ้นโตที่หมักซอส โรยหน้าด้วยต้นหอมญี่ปุ่นและกระเทียม ปิ้งลงไปทั้งชิ้น เพื่อเวลาปิ้งจะยังคงเก็บความชุ่มชื่น แล้วค่อยหั่นให้พอดีคำก่อนทาน แนวสุกก่อนหั่นทีหลังค่ะ เคี้ยวแล้วจะได้ความนุ่มหนุบ กลิ่นหอมๆของกระเทียมและต้นหอม ซอสน้ำมันงา ที่เพิ่มให้เมนูนี้มีความเด่นขึ้นมาดีค่ะ   น้ำจิ้มมี 3 แบบให้เลือกตามชอบ แบบแรก น้ำจิ้มพอนสึ ที่รสออกเปรี้ยวหน่อยๆ ก่อนทานก็ใส่หัวไชเท้าลงไป ถ้วยนี้เหมาะที่จะทานคู่ชาบู แบบที่ 2 น้ำจิ้มแบบออริจินอล แบบเดียวกับที่บาร์บีคิวพลาซ่า สามารถเติมพริกกระเทียมและมะนาวเพิ่มความที่เราชอบได้เลย แบบสุดท้าย เป็นน้ำจิ้มแบบใหม่ที่ผสมแอ๊ปเปิ้ลลงไปปั่นด้วย ให้รสชาติออกหวานและกลิ่นหอมๆ   มาต่อกันที่อาหารทานเล่น และอาหารจานเดียว   - Garlic Beef Steak on Rice ข้าวหน้าเนื้อการ์ลิคสเต็ก 170 บาท เสิร์ฟมาสวยน่าทานกว่าในรูปเมนูอีกค่ะ คือเนื้อย่างมาสุกน่าทานมาก ราดซอสและโรยกระเทียม รสชาติโอเค แต่ว่าหั่นเนื้อมาชิ้นหนาไปหน่อยค่ะ ทำให้ต้องเคี้ยวนานนิดนึง ถ้าหั่นมาบางกว่านี้ น่าจะละมุนขึ้นเยอะกว่านี้ค่ะ   - Shabu Pork Salad สลัดหมูชาบู 235 บาท เป็นเมนูแนวสุขภาพ ที่มีผักสดกรุบกรอบ กับหมูชาบูชิ้นใหญ่ไม่มีติดมัน แต่ไม่เหนียวนะคะ ออกแนวเคี้ยวหนุบๆ กับน้ำสลัดแนวครีมโรยงาญี่ปุ่น ได้รสหอมๆ อร่อยและสุขภาพดีด้วยค่ะจานนี้   - Fried Garlic Chili Pork Belly หมูสามชั้นทอดพริกเกลือ 140 บาท เป็นของทานเล่นแนวกับแกล้ม หมุสามชั้นชิ้นเล็กรสหวานเค็มๆ มีความหอมกระเทียม เผ็ดไม่มาก แนวทานเรื่อยๆเพลินๆค่ะ แนะนำว่าควรทานตอนร้อนๆ เพราะพอเริ่มเย็น จะแอบเหนียวไปนิดค่ะ   - Cheese Lava Prawn Balls ทอดมันกุ้งไส้ชีส 160 บาท มาเป็นลูกกลมๆน่าทาน ด้านนอกฟูกรอบดี กัดแล้วมีชีสยืดๆ เนื้อมีความหนุบๆกลิ่นหอมกุ้งดีค่ะ แต่ว่าปริมาณแอบน้อยไปนิด ทานหมดเร็วอ่ะ แหะๆ   - Carbonara Gyoza เกี๊ยวซ่าคาโบนาร่า 170 บาท เกี๊ยวซ่าที่ทอดมาแป้งฟูกรอบ ไส้นุ่มชุ่มๆหอมๆ ราดมากับซอสคาโบนาร่ากลิ่นหอมเนยที่มีเบคอนมาด้วย แต่ส่วนตัวเราว่าซอสกับเกี๋ยวไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่ แยกทานน่าจะดีกว่า   - เครื่องเคียง 6 อย่าง ที่มาทั้งแนวไทย ญี่ปุ่น และเกาหลี ที่ทำให้เราเพลิดเพลินได้ในระหว่างที่รออาหารสุก ชอบมากๆคือ ลูกเต๋าไข่กุ้งวาซาบิ ที่มีความกรึบๆของไข่กุ้งได้รสเค็มๆมันๆเผ็ดซ่าๆ คือลงตัวความอร่อยที่เราชอบค่ะ รองมาคือ ทาโกะวาซาบิ ปลาหมึกหนุบๆเค็มๆ คือทานเพลิน และถั่วแระญี่ปุ่น ที่ทานได้เพลินๆอีกเช่นกัน ส่วน กิมจิ ก็ได้ความแตกต่างให้ความรู้สึกเหมือนวาร์ปไปเกาหลีแว๊บๆ ส่วนปลากรอบ และยำถั่ว ก็แนวกรอบๆมันๆดีค่ะ   ตบท้ายด้วยของหวาน และเครื่องดื่ม   - Green Tea ice Cream with Warabi Mochi ไอศกรีมวาราบิโจิ 140 บาท มีไอศกรีม 2 รสให้เลือก ถ้วยนี้เลือกไอศกรีมรสชาเขียว เมนูนี้เครื่องอัดแน่นน่าทานดีค่ะ มีทั้งวาราบินุ่มหนุบ โมจิหนุบขึ้นมากว่าวาราบิอีกหน่อย มีโรยข้าวพองกรอบๆ และถั่วแดงบดให้ทานคู่ไอศกรีมชาเขียว แต่ว่าไอศกรีมรสชาเขียวแอบหวานไปนิดนึง ทำให้ทานรวมกันจึงหวานไปนิดค่ะ น่าจะถูกใจเด็กๆค่ะ   - Kinako Ice Cream Parfait with Coffee Jelly คอฟฟี่เจลลี่พาร์เฟต์ 130 บาท เมนูนี้เราเลือกไอศกรีมอีกรส คือไอศกรีมรสคินาโกะ มีความเรียงชั้นสวยๆ ล่างสุดเป็นเจลลี่กาแฟ นุ่มหนุบได้รสขมหน่อยของกาแฟ ถูกใจค่ะ ต่อด้วยน้ำแข็งใสให้ทานแล้วสดชื่น มีไอศกรีมคินาโกะที่ไม่หวานเท่าไหร่ กลิ่นหอมๆดี ทำให้ทานได้เรื่อยๆ ท้อปปิ้งคล้ายเมนูก่อนหน้า มีทั้งโมจิ ถั่วแดงบด และข้าวพอง โดยรวมเมนูนี้จะไม่หวานไปสำหรับเรา ซึ่งน่าจะเหมาะกับผู้ใหญ่มากกว่าเด็กค่ะ   - Lemon Brown Sugar Frappe เลมอนบราวน์ชูการ์ 140 บาท ได้รสหวานๆเปรี้ยวๆ ทานแล้วสดชื่นดีค่ะ มีกลิ่นหอมของน้ำตาลทรายแดง คือถูกใจค่ะ ได้รสกลมกล่อมหอมๆดีด้วย ชอบๆแนะนำค่ะ   - Sugar Cane Frappe ชูการ์เคน 140 บาท น้ำอ้อยปั่น กลิ่นหอมหวาน สดชื่นอีกเมนูค่ะ   - Space Q Yuzu Tea สเปซคิวชาส้มยูสุ 140 บาท มาแบบสวยๆ เห็นชิ้นส้มในแก้ว เพื่อนบอกรสชาติออกขมไปนิด อาจจะเป็นที่เปลือกส้ม แต่ก็หอมกลิ่นส้มดีค่ะ   - เครื่องดื่มแนว Fruit Soda จะแยกชั้นสวยๆระหว่างสีสันกับโซดา ท้อปด้วยผลไม้ เช่น GrapeFruit Orange Soda, Yuzu Vanilla Soda, Plum Blossom Soda, Lychee Berry Soda และ Watermelon Lime Soda   โดยรวม ที่นี่มีความแปลกใหม่ มีหลายๆอย่างที่น่าสนใจ และราคาก็ไม่ได้แรงเกินไปด้วยค่ะ ใครมาย่านทองหล่อ อย่าลืมมาแวะลองกันนะคะ