ตรงข้ามกับโรงเรียนมหิดลฯ จะมีร้านราเม็งอยู่อีก 1 ร้านที่มีปรากฏการณ์ต่อคิวยาวเหยียด ทั้งๆ ที่ Location ไม่น่าจะขายได้ดีขนาดนี้ แต่คนต่างถิ่นก็ยังดั้นด้นมาจนได้ นั่นคือร้าน “Shindo Ramen” ที่ชื่อเป็นญี่ปุ่น แต่เจ้าของเป็นคนไทยที่หลงรักในการกินราเม็งนั่นเอง ตำแหน่งร้านสามารถมาขับรถมาตาม Location ใน Google Map ได้เลยครับ แนะนำว่าเดินทางมาด้วยรถสาธารณะจะสะดวกกว่าครับ แต่ถ้าขับรถมา หน้าร้านจะไม่มีที่จอดครับ ต้องไปจอดที่ริมถนนที่ไม่มีตีเส้นแดงขาวด้านนอกแทนครับ แต่ยังมีที่จอดอยู่บ้างบริเวณซอยก่อนหน้าครับ แต่ต้องลุ้นเอาว่าจะว่างหรือเปล่าครับ สำหรับการมาทานร้านนี้ไม่ยาก แต่ต้องอดทนขั้นสุดครับ อย่างแรก ไม่รับจองล่วงหน้า ต้องมาจองคิวที่หน้าร้านอย่างเดียว และในแต่ละวันก็จะจำกัดจำนวนคิวเพราะว่าวัตถุดิบใช้ต่อวันค่อนข้างจำกัดสุดๆ แนะนำว่าถ้าสะดวกควรมาทานในวันธรรมดาช่วงเย็น ที่จะเปิดรับคิวตั้งแต่ 4 โมง จำนวน 25 คิว ไม่จำเป็นต้องรีบมา เพราะไม่ค่อยมีลูกค้ามาลงคิวเท่าไร ส่วนถ้ามาวันอาทิตย์ อาจจะต้องมาเร็วกว่าปกติหน่อยๆครับ แต่จะรับเยอะกว่าประมาณ 40 คิวต่อรอบ ซึ่งจะเปิดถึง 2 รอบด้วยกัน พอลงคิวแล้ว ไปเดินเล่นที่ไหนก่อนก็ได้ครับ ทางร้านจะโทรตามอีกที ก่อนเข้าไปนั่งทาน เราจะต้องสั่งอาหารที่ด้านหน้าให้เรียบร้อยก่อนครับ แนะนำว่าระหว่างรอคิวก็ถ่ายรูปเมนูไปดูได้เลยครับ ตอนสั่งจะได้ไม่เสียเวลาทวนออเดอร์ เมนูอาหารจะมีตั้งแต่ ราเมน ข้าวหน้าต่างๆ ของทานเล่น และออฟชั่นท๊อปปิ้งเพิ่มเติม ซึ่งจะเพิ่มลงไปในชามเลย ไม่ได้ใส่แยกจานต่างหากเหมือนร้านอื่นๆ ให้ครับ ดังนั้นมาร้านราเม็งแล้ว เราต้องเลือกเมนู Signature ตามชื่อร้านอย่าง ชินโดะราเมน ราคา 175 บาท ตัวนี้ขอเพิ่มท๊อปปิ้งอย่างหน่อไม้ญี่ปุ่น ราคา 39 บาท ส่วนหมูเราจะเลือกได้ 3 แบบ โดยเลือกเป็นสามชั้นตุ๋นซีอิ๊ว หน้าดู Minimal เรียบง่าย แค่หมูสามชั้น หน่อไม้ และเส้นที่พับอย่างบรรจง ท๊อปด้วยต้นหอมซอย ตัวน้ำซุปรสชาติจะออกเค็มและมันแบบเบาๆ กลิ่นดี ไม่ต้องลดเค็มเพิ่มก็กำลังดีแล้วครับ ตัวเส้นก็ดีเช่นกัน มีความหนึบๆ เด้งๆ เหมือนกินบะหมี่แต่เป็นเส้นกลม เป็นเส้นที่ให้รสสัมผัสดีที่สุดเท่าที่เคยทานมาเลยครับ ส่วนสามชั้นยังมีความแข็งๆ ไม่ละลายเหมือนร้านอื่นๆ หน่อไม้ก็ดีเช่นกัน ไม่มีกลิ่นเลย จานนี้ควรรีบทานตอนอุณหภูมิสูงๆ ถ้าปล่อยไว้ให้เย็น รสชาติจะแปลกประหลาดและไม่อร่อยเลยครับ เมนูตัวท๊อปของร้านอีกจาน คงต้องเลือก โนโคซึเคเมน ราคา 249 บาท ราเม็งสไตล์จุ่มๆ ตัวนี้จะเสิร์ฟแยกมา 2 ชาม โดยตัวเส้นจะใช้เวลาลวกค่อนข้างนานกว่าปกติ มีความหนึบๆ และแข็งกว่าที่เคยทาน แต่พอจุ่มแล้ว ซอสติดดีและดรอปความเค็มของตัวน้ำซุปได้พอดีมากๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับ หมูชาชูซูวี หน่อไม้ นารูโตะมากิ แนะนำว่าจุ่มหมูชาชูในซุปดีที่สุดครับ อร่อยแบบบอกไม่ถูก บวกกับเนื้อหมูนุ่มด้วยเลยค่อนข้างพิเศษมากๆ ส่วนตัวซุปเสียดายที่ไม่มีให้เติมน้ำซุปดาชิสำหรับกินปิดท้ายครับ (ไม่แน่ใจว่าจริงๆ อาจจะมีแต่ไม่ได้ถามพนักงานครับ ยังไงก็ลองถามพนักงานดูนะครับ) ส่วนของทานเล่นที่สั่งมาลองเป็นเกี๊ยวซ่า ราคา 59 บาท มีด้วยกัน 5 ชิ้นมาพร้อมกับถ้วยน้ำจิ้มที่ดูขัดใจสุดๆ เนื้อแป้งดีครับ นุ่มอร่อย ทอดแบบกรอบล่าง ด้านบนนิ่ม ไส้ด้านในปรุงออกเค็มๆหน่อย ความอร่อยโดยรวมคือดีครับ วัตถุดิบทั้งหลายที่เป็นเครื่องเคียง หรือจะตัวเส้นเองก็ทำออกมาได้ดีประทับใจครับ ส่วนที่อยากให้ปรับคงจะมีเรื่องอุปกรณ์ที่ใช้ อย่างถ้วยน้ำจิ้มเองอยากให้เป็นแบบกระเบื้องหรือเป็นจานมีหลุมน้ำจิ้มไปเลย และสามชั้นที่อยากให้นุ่มกว่านี้ครับ ส่วนการบริการ บริการดี เสิร์ฟค่อนข้างเร็ว และใช้เวลาทำต่อชามไม่นาน ยกเว้นตัวสึเคเม็นที่ต้องรอหน่อยครับ 💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻 🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin 🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha #Happymarch2021