ร้านอาหารเยอรมันที่เปิดในไทยมาอย่างยาวนาน ที่ส่วนใหญ่ลูกค้าจะเป็นชาวต่างชาติ แต่ถ้าหากเป็นคนไทย ร้านนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของเบียร์ที่มีให้เลือกหลากหลายมากที่สุดร้านนึงในไทย รวมทั้งสายดริ้งแอลต่างๆ อันนี้จัดเต็มสุดๆ เรียกได้ว่าครึ่งนึงเป็นอาหาร อีกครึ่งคือเครื่องดื่มล้วน ตำแหน่งร้านจะอยู่ในซอยสุขุมวิท 49 ขับรถยนต์ส่วนตัวมาก็ได้ เพราะที่จอดอยู่ตรงหน้าร้านเลย แต่อาจจะต้องคอยมาขยับรถอีกทีด้วยการจอดรถแบบซ้อนในซ้อน หรือจะเดินทางด้วยรถไฟฟ้า และลงตรงทาง Sky Walk ก็ได้ อาจจะเดินไกลนิดๆ แต่ขากลับถือว่าย่อยอาหารไปในตัว ภายในร้านจะตกแต่งเหมือนภัตตาคารที่ออก Casual หน่อยๆ ไม่จำเป็นต้องแต่งตัวอะไรมากขนาดนั้น ที่นั่งมีเยอะ และบรรยากาศค่อนข้างดีเสียงไม่ดัง มีห้องส่วนตัวด้วยสำหรับใครที่อยากจะเลี้ยงฉลอง เมนูอาหารหลักๆ ก็เน้นไปที่อาหารเยอรมันเลย ทั้งไส้กรอก ซุป และขาหมูเยอรมัน ที่เป็นซิกเนเจอร์ รวมทั้งเมนูแปลกๆ อื่นๆ ที่เราอาจจะไม่เคยเห็น ร้านนี้มีให้เห็น แต่ที่เน้นสุด คงจะเป็นเบียร์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่จัดเต็มสุดๆ แต่ถ้าไม่ทาน เครื่องดื่มอื่นๆ ก็ยังมีให้บริการ เช่น ชา กาแฟ ผลไม้ และมิลค์เชค เริ่มต้นด้วยซิกเนเจอร์ดิชอย่าง Bayrische Platte ราคา 1690 บาท รวมสารพัดเมนูของอาหารเยอรมัน ที่เรียกได้ว่า สั่งจานเดียวกินยังไงก็คุ้ม เพราะมี ขาหมูทอดกรอบ ไส้กรอกรวมย่าง ที่มีทุกชนิดที่ร้านมี กะหล่ำปลีดอง หอมทอด ขนมปัง และซอสเกรวี่ ก่อนทานก็ราดให้ทั่ว หรือจะเทตอนตักทานก็ยังได้ ตัวขาหมูกรอบอร่อย เน้นไขมันและเนื้อที่ยังมีความชุ่มฉ่ำ ส่วนไส้กรอก แต่ละตัวจะมีรสชาติแตกต่างกัน ตามเครื่องเทศที่ใส่เข้าไป อันนี้ก็ดี รวมๆ จานนี้ดี แต่ควรจะมาหลายคนถึงจะสั่งจานนี้ได้ ต่อกันด้วยสายคลีนอย่าง Norwegischer Raucherlachs ราคา 390 บาท เมนูนี้จะเน้นความเป็นแซลมอน ที่ผ่านการรมควันจนสุก เนื้อจะมีความแห้งหน่อยๆ สไลด์บางเฉียบ ก่อนทานให้บีบเลมอนเพิ่มความเปรี้ยว และทานคู่กับขนมปัง ราดด้วยซอสมัสตาร์ดที่ผสมกับน้ำผึ้ง จะได้รสชาติออกสมุนไพรนิดๆ ไม่เลี่ยนอย่างที่คิด นอกจากเมนูของหนักๆแล้ว ก็ยังมี Jagerschnitzel ราคา 380 บาท ถ้าใครทานข้าวซอย จะรู้สึกเลยว่า เส้นพาสต้าอันนี้เหมือนกันมากๆ ด้วยความที่ผสมไข่เยอะ เส้นจะออกหนา แต่ทานแล้วนุ่มเหมือนกินไข่เจียว เสิร์ฟคู่กับสเต็กหมูสันใน ซึ่งจะออกแห้งหน่อยๆ มีซอสเห็ดเพิ่มความชุ่มฉ่ำ ส่วนตัวคิดว่าถ้าจานนี้ไม่มีซอสเห็ดและแครนเบอร์รี่มาช่วยเพิ่มรสชาติ จะเป็นอะไรที่เลี่ยนมากๆ ถ้าอยากทานเบาๆ จะมีเมนู Bacon Chili ราคา 285 บาท สปาเกตตี้เส้นสด ผัดเผ็ดแบบพริกแห้ง พร้อมกับเนื้อสัตว์หลักอย่างเบคอน เป็นเมนูตัดเลี่ยนได้ดี และอิ่มได้ในจานเดียว นอกจากนี้ก็มีเมนูซุปอื่นๆ ด้วย ซึ่งรสชาติก็จะเบาๆ แบบเน้นตัดเลี่ยน (จริงๆ คือลืมถ่ายชื่อเมนูมา) ซึ่งถ้าใครอยากหาอะไรตัดเลี่ยนหรือเพิ่มความชุ่มคอนอกจากเครื่องดื่ม สิ่งเหล่านี้ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ส่วนของเครื่องดื่ม อยากแนะนำให้ลองมิ้ลค์เชควานิลลา ราคา 195 บาท รสชาติอร่อยเลยนะ แบบเอาไอติมมาปั่นกับวิปปิ้งครีมอีกที เนื้อเลยจะค่อนข้างเนียนกำลังดี ปิดท้ายด้วยเมนูของหวาน ที่ร้านจะมีเมนูที่โชว์อยู่ในตู้ ราคาก็ไม่แพงมากเช่นกัน เลยสั่งมาทานสองตัว ก็จะมีเค้กสตรอว์เบอร์รี่ และทิรามิสุ ซึ่งเนื้อสัมผัสจะออกนุ่มฟู ไม่แห้งกระด้าง แต่คิดว่ามีกลิ่นแปลกๆ และวันรุ่งขึ้นก็รู้เลยว่า น่าจะเริ่มไม่ค่อยดีแล้ว คิดว่าที่น่าจะเริ่มไม่โอเครน่าจะเป็นตัวสตรอเบอร์รี่นะ รสชาติอาหารโดยรวม ถือว่าปรับให้เข้ากับคนไทยพอสมควร เพราะปกติเมนูพวกนี้จะเค็มมากๆ แต่อันนี้คือเบาๆ ไม่หนักจนเกินไป เหมือนเน้นให้ทานเบียร์มากกว่า กลัวจะไปกลบรสเบียร์หมด ส่วนที่ไม่แนะนำคงเป็นเมนูของหวาน อันนี้เราก็ไม่รู้ว่าอยู่ในตู้นั้นมานานเท่าไรแล้ว การบริการดี ร้านนี้ไม่แน่ใจว่ามีชาร์ตอะไรเพิ่มเติมหรือไม่เพราะกลับมาก่อน แต่ที่แน่ๆ คือรับแต่เงินสดล้วนๆ 💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻 🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin 🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha *กรณีต้องการนำรูปไปใช้งานให้ขออนุญาตและให้เครดิตทุกครั้ง มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์