มื้อกลางวัน

Le Normandie - ห้องอาหารฝรั่งเศสของโรงแรม Mandarin Oriental แห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นระดับตำนานของกรุงเทพฯที่คงความเป็นเลิศในทุกด้านมาโดยตลอด นอกจากจะเป็นร้านเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงมาแต่แรกเริ่มแล้ว ภายใต้การนำของ Chef Arnaud Dunand-Sauthier ทางร้านก็ได้คว้ารางวัล 2 Michelin Stars จาก Michelin Guide Bangkok ติดต่อกันมาทุกปีตั้งแต่ปีแรกจนถึงปีล่าสุดคือ 2021 ที่เพิ่งประกาศไปสดๆร้อนๆนี้ด้วย จัดเป็นร้านที่คนชอบอาหารฝรั่งเศสควรต้องหาโอกาสมาลองให้ได้เลยล่ะค่ะ 🔥 Découverte (Discovery Lunch)🔥 เป็นอาหารกลางวัน 4-6 คอร์ส ที่ให้บริการทุกวันจันทร์-เสาร์ 12.00 – 14.30 น. (last order 14.00) โดยที่เมนูจะมีการปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามฤดูกาล สำหรับเมนูที่เราทานครั้งนี้จะมีแค่จนถึง 19 ธันวาคม 2563 นี้นะ ✅ [Amuse Bouche] ➡ เปิดฉากมาคำแรกด้วย Parmesan Cheese Cracker กรอบๆหอมๆสอดไส้ด้วย Beaufort mousse ผสม walnut ที่บดผสมมาจนเป็นเนื้อเดียวกันเนียนๆ ทานเพลินกรุบกริบ สั่งเครื่องดื่มมาจิบแกล้มกันได้เลย จากนั้นก็เป็น canape อีก 3 อย่าง จัดวางมาบนกล่อง 2 ชั้น สวยหรูราวกับหีบสมบัติ โดยทางร้านแนะนำให้ทานเรียงลำดับกันตามนี้ค่ะ ➡ คำแรกเป็น Razor Clam หรือหอยหลอดลวก ปรุงรสด้วย Zucchini Puree และมะเขือเทศ รสชาติกลมกล่อมสมดุลไร้ที่ติเลยทีเดียว ➡ คำที่สองเป็นมูสสีเขียวๆซึ่งก็คือ French Herb Sauce แต้ม Egg Yolk Gel ไว้ด้านบน สอดไส้ด้วยปลาไหลรมควันนุ่มๆชิ้นจิ๋ว ดีงามอีกเช่นกัน ➡ คำที่สามเป็นขนมปังแผ่นกลมพอดีคำ ทา Mango Chutney แล้วท็อปด้วย Foie gras โรยผงกาแฟบางๆค่ะ ➡ จานสุดท้ายเป็น Burgundy Escargot ที่ไม่ได้เสิร์ฟแบบราดเนยกระเทียมมาในจานหลุมแบบทั่วๆไป แต่ใช้วิธีปรุงรสแล้วนำไปชุบแป้งทอด เสิร์ฟมาเป็นก้อนกลมพอดีคำกรอบนอกนุ่มในที่มีไส้เป็นหอยทาก escargot หนุบๆ ทานร้อนๆก็ดีใช้ได้เลยล่ะค่ะ ✅ [Bread & Butter] ขนมปังมีให้เลือกทั้ง Baguette, Brioche และ Sourdough เสิร์ฟที่อุณหภูมิห้องไม่ได้อุ่นร้อนห่อผ้ามาแบบบางที่ แต่เนื้อขนมปังดีเลิศมากทุกอย่าง อร่อยจนต้องขอเบิ้ลกันเลย ในส่วนของเนยที่นี่ใช้ของ Bordier มีทั้งเนยจืด เนยเค็ม เนยสาหร่าย และเนยหัวหอม (seasonal) ให้เลือก ชิมแล้วเราชอบเนยหัวหอมมากที่สุดเลย ได้เนยดีๆแบบนี้นี่แค่ทาขนมปังง่ายๆก็ฟินแล้วล่ะค่ะ ✅ [Course I] ➡ Normandie Oyster, Watercress, Sea Buckthorn จานนี้ presentation สวยงามราวกับภาพวาดเลยทีเดียว หอยนางรมจากนอร์มังดีลวกพอสุก ตกแต่งด้วยไข่ปลาคาเวียร์และมูสที่ทำจากลูก Sea Buckthorn วางมาบน Watercress sauce ที่รสชาติประณีตซับซ้อน ได้รสพริกไทยบางๆเสริมความอร่อย ปลื้มปริ่มสุดๆไปเลย ✅ [Course II] ➡ Octopus, Endive, Grape, Shiso หนวดปลาหมึกยักษ์จากมหาสมุทรแอตแลนติก ต้มมานุ่มละมุน วางมาบนจานที่ป้ายด้วย Pickled Shizo Paste สีเขียว ราดซอสครีมข้นที่ทำจากเหล้า Bourbon และไวน์ขาว เคียงด้วยใบ endive ที่ตุ๋นจนนุ่ม มีรสขมหน่อยๆ แต่ทานรวมกันกับองค์ประกอบอื่นๆคือลงตัว แถมด้วยองุ่นผ่าซีก 1 ลูกช่วยตัดรสและเพิ่มความสดชื่น เป็นอีกจานที่ทำให้ประทับใจค่ะ ✅ [Course III & IV] ➡ Red Mullet, Black Garlic, Liquorice ปลา Red Mullet (ปลากระบอก) เนื้อนุ่มฉ่ำ ราดซอสสีดำที่ทำจาก Black Garlic (กระเทียมที่บ่มจนมีสีดำ ทำให้ปราศจากกลิ่นฉุน) และชะเอม ตัดรสเค็มด้วยไส้กรอก Chorizo จากสเปน หั่นเป็นชิ้นจิ๋วๆ อร่อยดีอีกเช่นกัน ➡ Game Bird Pie, Cabbage, Juniper จานปลาว่าดีแล้ว จานนี้เราว่าเด็ดกว่า แป้งพายบางๆทรงโดมสอดไส้เนื้อนกที่สุกกำลังดี นุ่ม และไม่มีกลิ่นสาบใดๆเลย ท็อปด้วย Foie gras หอม-มัน ละลายในปาก ราดซอสรสชาติกลมกล่อมลงตัว เคียงด้วยกะหล่ำปลีที่ตุ๋นในน้ำซุปเป็ดจนนุ่มละมุน ดีงามน้ำตาจิไหล ✅ [Course V – Choice of Delicacies] เป็นคอร์สของหวานที่มีตัวเลือกอยู่ 5 อย่าง เราไปกัน 2 คนก็เลือก 2 จานนี้มาค่ะ ➡ Crêpes Suzette ; Crêpes Suzette Flambéed at Your Table, Vanilla Ice Cream เมนูนี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็น signature dessert ของที่นี่ไปแล้ว เพราะน่าจะเป็นไม่กี่ที่ในเมืองไทยที่มาทำ Crêpes Suzette ให้ดูถึงข้างโต๊ะ เคี่ยวน้ำส้ม ใส่น้ำตาล เติมเหล้า แล้ว Flambé จนไฟลุกพรึ่บแบบถูกต้องตามตำราทุกขั้นตอน ไม่มีการลักไก่ใช้แยมส้มสำเร็จรูปแล้วแค่จุดไฟโชว์อย่างที่หลายๆร้านชอบทำกันแน่นอน รสชาติ Crêpes Suzette ที่นี่จึงอมหวานอมเปรี้ยวกำลังดี แป้งเครปเนื้อนุ่ม ดูดซับน้ำซอสส้มจนฉ่ำ ทานคู่กับไอศกรีมโฮมเมดรสวานิลลาเข้ากันสุดๆเลย ➡ Caramel Mille-Feuille เป็น Mille-Feuille ที่พรีเซนต์มาแบบเรียงเป็นแนวนอนเก๋ๆ แป้ง pastry กรอบกริ๊บ มีเคลือบน้ำตาลบางๆ แฝงรสเกลือมาเพียงเล็กน้อย ไส้เป็นไอศกรีมวานิลลา เคียงด้วยครีมสดราดซอสคาราเมลเข้มข้น จัดเป็น Mille-Feuille ที่อร่อยที่สุดที่เคยทานมาเลยล่ะค่ะ ✅ [Coffee or Tea] มีรวมให้ใน Lunch Set อยู่แล้ว เราเลือกเป็นกาแฟดำ Long Black เบลนด์กลมกล่อม หอมเข้ม ดีใช้ได้เลยนะ ✅ [Petit Fours] ➡ Parisian Flan พายไส้ครีมคัสตาร์ดที่เบิร์นด้านบนมาพอเป็นรอยไหม้หอมๆ ทานกับกาแฟก็เพลินดีค่ะ ➡ Artisanal Chocolate Bon Bon ใส่กล่องมาให้เลือกละลานตา เราเลือกไส้ Tonka Bean, Hazel Nut, Lemon Cream และ 70% Dark Chocolate อร่อยถูกใจทุกชิ้นเลย 🎁 [ของแถมกลับบ้าน] ตามธรรมเนียมของที่นี่ พนักงานจะเตรียมขนมใส่ถุงเล็กๆไว้มอบให้ลูกค้านำกลับบ้านหลังทานเสร็จ สำหรับครั้งที่ไปนี้เป็น Kouign-Amann ขนมจากแคว้น Brittany ที่เป็น pastry ซ้อนกันเป็นชั้นๆ กรอบๆหอมเนย ผิวนอกโรยน้ำตาล ทานเพลินดีจริงๆ ในภาพรวม Le Normandie ก็ยังรักษามาตรฐานได้ดีสมกับชื่อเสียง อาหารประณีต โชว์ทักษะฝีมือได้ซับซ้อน รสชาติละมุนละไม บรรยากาศงดงาม บริการดีเลิศ ไม่ใช่แค่ไร้ที่ติแต่ดีเกินความคาดหวังได้ตลอด ราคาสูงตามคุณภาพ จะมาจัดมื้อประทับใจในโอกาสพิเศษต่างๆ หรือจะให้รางวัลตัวเองเป็นครั้งคราวก็เหมาะค่ะ #SantaRelax

  • 9
  • 0
20/12/22

Other Reviews

ร้านอาหารบริเวณใกล้เคียง