มื้อกลางวัน

ย่านพระโขนง เป็นหนึ่งในย่านที่เต็มไปด้วยร้านอาหารอร่อยๆ และหนึ่งในประเภทอาหาร อย่างอาหารญี่ปุ่นนั้น ก็ต้องมีสักร้านเหมือนกันแหละที่เป็นหน้าเป็นตาให้กับย่านนี้ได้ เลยลองค้นหาข้อมูล ก็มาเจอว่ามีร้านอาหารญี่ปุ่นอยู่ร้านนึง ที่นำเสนอในแนวอิซากายะของโอกินาวา ที่ไม่ได้หาทานได้ง่ายๆ ในไทยแต่อย่างใด และรสชาติเองก็ดีจนใครหลายๆ คน recommend และร้านนั้นคือ “Okinawa Kinjo” ตำแหน่งร้านจะอยู่ในซอยสุขุมวิท 69 โดยสามารถเดินทางด้วย BTS ลงที่สถานีพระโขนง เดินมาจะเจอไปรษณีย์ไทยสาขาพระโขนง ให้เดินเข้าซอยประมาณ 100 เมตรจะเจอร้านอยู่ที่ฝั่งขวามือ หรือถ้าหากขับรถยนต์ส่วนตัวมา แนะนำให้จอดที่อาคาร Summer Point ที่ชั้นใต้ดิน โดยมีค่าจอดอยู่ที่ชั่วโมงละ 40 บาท ตัวร้านจะเป็นตึกแถวคูหาเดียว ที่เข้าไปแล้วจะเจอโต๊ะทันที เปิดให้บริการด้วยกัน 2 ชั้นโดยชั้นล่างจะเป็นแบบนั่งโต๊ะ ส่วนชั้นบนจะเป็นนั่งพื้นที่มีพนักพิง แนะนำว่านั่งชั้นบนจะมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า สภาพร้านดูโทรมๆ การตกแต่งร้านจะออกไปทางญี่ปุ่น มีกลิ่นอายของความเป็นโอกินาวานิดๆ เมนูอาหาร ด้วยความที่เป็นแนวอิซากายะ เลยจะเน้นไปที่ของทานเล่นคู่กับแอลกอฮอล์ แต่กระนั้นยังมีเมนูจานเดียวที่อิ่มได้ในชามเดียวเช่นเดียวกัน เมนูแนะนำหลักของร้านก็จะเป็นไก่ทอด และราเมนสไตล์โอกินาวา หากอยากรู้ว่าเมนูไหนอร่อยหรือเหมาะกับเรามากที่สุด สามารถสอบถามหรือให้พนักงานแนะนำก็ได้เช่นกัน สำหรับใครก็ตามที่ไม่ได้ทานแอลกอฮอล์ ที่ร้านก็จะมีชาร้อนและเย็นให้บริการแต่ไม่ได้เป็นรีฟิว และมีเมนูอย่าง ชิกุวาสะ ราคา 120 บาท เป็นน้ำผลไม้ในตระกูลซิตรัสหรือส้ม ที่ให้รสชาติเปรี้ยวแต่มีความหอมเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร รสชาติออกเปรี้ยวนำและหวานตาม ยังมีความขมๆ ปนมานิดๆ ที่ทำให้ถ้วยนี้รู้สึกแตกต่างจากน้ำส้มทั่วๆไป อย่างเห็นได้ชัด เครื่องเคียง 2 อย่างที่แนะนำให้สั่ง จะเป็นกิมจิ ราคา 58 บาท ปริมาณเยอะใช้ได้ มีความเข้มข้นออกไปทางเปรี้ยวและขมนิดๆ เหมาะกับการทานตัดเลี่ยนได้เป็นอย่างดี และอีกเมนูคือ เห็ดเข็มทองเคี่ยว ราคา 99 บาท ร้านนี้จะนำเสนอเห็ดเข็มทองในรูปแบบต้มซอส ที่จะออกไปทางนุ่ม ไม่กรึบๆ ทานง่าย รสชาติหวานเค็มกลมกล่อมกำลังดี เริ่มต้นของทานเล่นจานแรกกับ อิกายากิ หรือปลาหมึกย่างซอส ราคา 160 บาท หน้าตาจะดูเหมือนปลาหมึกผัดซอสมากกว่า รสชาติอร่อยออกไปทางเค็มๆ หวานมัน กลมกล่อมอย่างบอกไม่ถูก ให้ความรู้สึกเหมือนทานหมึกผัดไข่เค็มในระดับนึงเลย ส่วนเนื้อปลาหมึกย่างได้กำลังดี ไม่เหนียวแต่อย่างใด ของทานเล่นจานที่ 2 กับเมนู Kara Age หรือไก่ทอดญี่ปุ่น 6 ชิ้น ราคา 79 บาท เสิร์ฟมาพร้อมกับมายองเนส และมะนาว เวลาทานให้บีบมะนาวลงไปบนตัวไก่ ก่อนที่จะจิ้มมายองเนสอีกที ไก่มีความกรอบนอก และเนื้อด้านในยังมีความฉ่ำมากๆ ทานได้เพลินๆ และของทานเล่นจานสุดท้ายเป็นเมนู ลิ้นวัวย่าง ราคา 148 บาท ใช้ส่วนของโคนลิ้น ย่างมาได้ค่อนข้างดีไม่เหนียวมาก ก่อนทานให้บีบมะนาวสักเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความสดชื่น เมื่อมาทานร้านนี้แล้ว เมนูที่ไม่ควรพลาดเลยคือ โอกินาวาโซยบะ ราคา 230 บาท สามารถเลือกได้ว่าจะทานเส้นแบบไหน โดยแนะนำว่าจานนี้ควรสั่งเป็นเส้นบะหมี่สไตล์โอกินาวา หน้าตาดูเรียบง่าย ด้านบนจะมีหมูสามชั้นตุ๋นที่หน้าตาเหมือนหมูสามชั้นพะโล้บ้านเราดีๆ นี่แหละ เพียงแต่จะให้รสชาติที่กลมกล่อมออกหวาน ไขมันละลายในปาก และเนื้อหมูมีความนุ่มได้ออกแรงเคี้ยวนิดๆ มาพร้อมกับลูกชิ้นที่คล้ายๆ กับฮือก้วย โรยด้วยต้นหอม ส่วนเส้นจะคล้ายๆ กับบะหมี่เปาะที่เราคุ้ยเคยกันดี แต่จะไม่ได้ใส่ไข่ ให้ Texture ออกไปทางนุ่มๆ ไม่หนึบ ปริมาณเส้นเองก็เยอะทานจนจุก ซุปสีจะออกเข้มๆ รสชาติกลมกล่อมทานได้เพลินๆ เช่นกัน ชามนี้แนะนำว่าควรทานตอนร้อนๆ จะอร่อยที่สุด ส่วนอีกเมนูที่ลูกค้าหลายๆ คนมาแล้วชอบสั่ง จะเป็นเมนู Asari Udon ราคา 220 บาท อุด้งในซุปหอยตลับ ที่หน้าตาเรียบง่ายสุดๆ มีแค่เส้นอุด้ง หอยตลับประมาณ 7 ตัว และซุปใสที่โรยต้นหอม ปกติแล้วการนำหอยตลับมาต้มถือว่าเสี่ยงมาก เพราะตัวหอยตลับเองจะมีความคาวสูง ทำให้น้ำซุปมีโอกาสคาวไปด้วย แต่ร้านนี้มีกรรมวิธีเฉพาะตัวที่ทานแล้วรู้สึกว่า ซุปไม่คาวเลย มีความอุมามิแบบทะเลๆ กลมกล่อม สามารถดึงความอร่อยของหอยตลับออกมาในน้ำซุปได้ดี รสชาติไม่เค็ม ส่วนหอยเองก็รสชาติดีไม่คาว และเส้นอุด้งจะใช้เป็นเส้นใหญ่ ทานแล้วจะให้ความหนึบหนับ เคี้ยวเพลินๆ โดยรวมแล้ว รสชาติอาหารจะไม่ได้เน้นการปรุงให้จัดจ้าน แต่เน้นไปที่ความดั้งเดิมด้วยรสชาติเค็ม และหวาน เพิ่มเติมด้วยความอุมามิ เพื่อดึงศักยภาพของวัตถุดิบออกมาให้โดดเด่นมากที่สุด สังเกตได้จากตัวหมูตุ๋นที่จะมีความนุ่มอร่อยไขมันละลายในปากที่เฉพาะตัว หรือจะเป็นหอยตลับที่ทำออกมาได้ไม่คาวและยังชูรสชาติของซุปให้อร่อยยิ่งขึ้นได้อีก เป็นหนึ่งในอาหารญี่ปุ่นที่ทานแล้วไม่ได้รู้สึกหนักท้องแต่อย่างใด ส่วนของการบริการก็ค่อนข้างรวดเร็วดี ช้าแค่ในส่วนของอาหารบางเมนูที่ต้องมีกรรมวิธีพิเศษสักหน่อย หากอยู่ชั้นบนสามารถกดกริ่งเรียกพนักงานได้โดยไม่ต้องลงไปเรียกเองแต่อย่างใด อาหารญี่ปุ่นสไตล์โอกินาวา ปัจจุบันเองก็ยังหาทานได้ค่อนข้างยากเช่นกัน หากอยากจะเปลี่ยนแนวอาหารญี่ปุ่น มาลองอะไรที่เบาขึ้น แต่ยังได้ความอุมามิตามแบบฉบับต้นตำรับ สามารถโทรมาสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ และไม่แนะนำให้ walk-in ในช่วง Prime Time เพราะลูกค้าจะเยอะมาก 💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻 🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin 🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha *กรณีต้องการนำรูปไปใช้งานให้ขออนุญาตและให้เครดิตทุกครั้ง มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์และแจ้งความทุกกรณี

  • 6
  • 0
22/05/02

Other Reviews