มื้อเย็น

เปิดตัวแล้วสักทีกับ ร้านเบอร์เกอร์ เจ้าดังจากเมกาอย่าง SHAKE SHACK กับสาขาแรกในไทยที่ CentralWorld หรือ เซ็นทรัลเวิลด์ ที่เราคุ้นเคยกันดี เปิดให้บริการตั้งแต่เช้าจนถึงห้างปิด คิวยาวหน่อย แต่เสิร์ฟอาหารไว รสชาติอาหารจะเป็นอย่างไร เบอร์เกอร์ของ Shake Shack รายการไหนที่ต้องสั่ง เครื่องดื่มเมนูไหนที่ต้องโดน และของหวานดีสมคำร่ำลือหรือไม่ คุณภาพกับราคาเหมาะสมหรือไม่ วันนี้เราจะมารีวิวกัน ร้าน Shake Shack ร้านเบอร์เกอร์เจ้าดังจากนิวยอร์กซีตี โดยคุณ Danny Meyer ที่เริ่มต้นจากการขายเมนูฟาสต์ฟู้ดง่ายๆ อย่างฮอทดอก เริ่มเพิ่มเมนูอาทิเช่น เบอร์เกอร์ มันฝรั่งทอด มิลค์เชค และอื่นๆ อีกมากมาย และจุดหมายล่าสุดของร้านนี้คือประเทศไทย โดยเปิดสาขาแรกที่ Central World ชั้น G ใกล้ๆ กับพระตรีฯ สะดวกสบายในการเดินทางสุดๆ ตั้งแต่ร้านเปิดวันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา คิวก็แน่นมาก บางวันถึงขนาดต่อคิวยาวไปถึงด้านนอกห้างกันเลยทีเดียว แต่ถ้ามาช่วงวันธรรมดา อาจจะเป็นช่วงเย็น บางทีคิวอาจจะสั้น ต่อแถวไม่ถึง 10 นาทีก็ได้สั่งอาหารแล้ว ซึ่งระหว่างรอ พนักงานก็จะนำเมนูมาให้เราดูก่อน สงสัยอะไรสอบถามพนักงานได้ทันที และหลังจากสั่งอาหารรวมทั้งชำระเงินเสร็จ ก็จะได้เครื่องเรียกรับอาหาร รอประมาณ 10 นาทีก็ได้แล้ว ซึ่งถือว่าเร็วมากๆ กับร้านที่ลูกค้าแน่นขนาดนี้ เมนูอาหาร ถ้าแบ่งเป็นประเภท ก็จะมีอยู่ด้วยกัน 5 อย่างหลักๆ เริ่มต้นด้วย เบอร์เกอร์ ที่เป็นเมนูซิกเนเจอร์เมนู มีให้เลือกหลายรสชาติ แต่เนื้อสัตว์จะมีให้เลือก 3 แบบ คือเนื้อ ไก่ และชรูม เมนูวีแกนที่แทนเนื้อสัตว์ ต่อด้วย ฮอทดอก ซึ่งจะเป็นไส้กรอกเนื้อ เลือกได้ว่าจะราดชีสหรือไม่ เฟรนช์ฟรายส์ มันฝรั่งแท่งหยักทอดกรอบ เครื่องดื่มหลากหลายแต่ที่อยากให้ลองคือ มิลค์เชค ที่มีเมนูพิเศษเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น ปิดท้ายด้วย ของหวาน หรือ Concretes ที่เป็นไอศกรีมปั่นผสมกับเครื่องต่างๆ เดี๋ยวเราจะมาเจาะลึกแต่ละเมนูกันไปเลย เริ่มต้นกันด้วยเบอร์เกอร์เนื้ออย่าง Shack Burger ราคา 230/340 บาท เมนูออริจินัล เลือกได้ว่าจะใส่เนื้อ 1 หรือ 2 ชิ้น โดยทางร้านจะใส่เนื้อแองกัส 100% นำเข้า ที่ไม่ได้มีการใช้ยาใดๆ รวมทั้งไม่ผ่านการ Frozen เพื่อให้ได้เนื้อที่นุ่ม Juicy ไม่แห้งกระด้างเหมือนร้านอื่นๆ ทานคู่กับชีส ผักกาดหอม มะเขือเทศ และ ShackSauce ตัวแป้งขนมปังใช้ทรงสี่เหลี่ยม มาผ่ากลางแบบยังไม่ขาดจากกัน มีความนุ่มๆ ไม่แห้งเลย และด้วยความที่ขนมปังไม่ขาดจากกัน ทำให้หยิบทานได้ง่าย ไม่หกเลอะเทอะ เนื้อมีความฉ่ำๆ ที่กำลังดี กลิ่นอาจจะไม่ค่อยชัด ทานรวมๆ กันรสชาติจะออกหวานเค็มกำลังดี ใครชอบรสชาติเบาๆ แนะนำเมนูก่อนหน้า แต่ถ้าชอบเปรี้ยวเผ็ด ทานแล้วไม่เลี่ยน แนะนำ Smoke Shack ราคา 275/385 บาท ที่จะมีใส่ชีส เบคอนรมควัน พริกเชอร์รี่ แทน ให้รสชาติโดยรวมไปในทางเปรี้ยวตามด้วยเผ็ดแบบกำลังดี ทานคู่กับมิ้ลค์เชคคือตัดเลี่ยนกันสุดๆ ส่วนใครไม่ทานเนื้อ ก็มีเมนูเบอร์เกอร์ไก่อย่าง Chicken Shack ราคา 210 บาท ความต่างจาก 2 เมนูก่อนหน้าคือไก่ที่ผ่านการทอดจนกรอบ ให้ Texture ที่กรอบสะใจมากๆ ตามด้วยแตงกวาดองที่ช่วยตัดเลี่ยนจากซอส Buttermilk mayo ที่ให้ความรู้สึกเหมือนทานโยเกิร์ตที่ไม่เปรี้ยวมากแบบนั้นเลย แล้วถ้าเกิดว่าไม่ทานเนื้อสัตว์เลยล่ะ ที่ร้านก็จะแนะนำเมนูอย่าง Shroom Burger ราคา 320 บาท เมนูนี้แพงที่สุดแล้ว แต่ขายดีกว่าเมนูบนๆ อีกนะ ด้วยความที่ไส้ตรงกลาง จะใช้เห็ดพอร์โทเบลโลมาชุบแป้งทอด สอดไส้ด้วยมันนสเตอร์ชีสและเชดด้าชีส เวลากัดลงไปจะกรอบและหอมมันในคราวเดียว ตัดกับความนุ่มของขนมปัง บอกได้เลยว่า ขายแค่เมนูนี้ก็พอแล้วจริงๆ นอกจากนี้มีใส่ผักกาดหอม มะเขือเทศ และซอสแบบเดียวกับเมนูอื่นๆ ก่อนหน้า ต่อกันด้วยเมนูแรกเริ่มของร้านอย่าง Cheese Dog ฮอทดอกราดชีส ราคา 195 บาท แป้งแบบเดียวกับที่ใช้ในเบอร์เกอร์ แต่เสิร์ฟมาเป็นแท่งยาวๆ หยิบทานง่ายมาก ไส้กรอกจะไม่ได้มี Texture กรุบกรอบมาก ออกไปทางนุ่มๆ ด้วยซ้ำ แนะนำว่าให้ราดซอส กับมัสตาร์ด จะทำให้เมนูนี้น่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีก มีเบอร์เกอร์ ก็ต้องมี Crinkle Cut Fries ราดชีสเข้าไปจะเป็นราคา 155 บาท เฟรนช์ฟรายส์แบบหยักชิ้นโต ปริมาณอาจจะไม่เยอะ แต่ถ้ากินเบอร์เกอร์ด้วย ปริมาณนี้อาจจะเหมาะสมแล้ว แนะนำว่าอย่าให้ทางร้านราดชีสมาด้วย เพราะจะทำให้ตัวมันฝรั่งทอดของเรานิ่มไปสักหน่อย เมนูนี้อาจจะต้องทอดให้นานกว่านี้อีกสักหน่อย เพื่อให้ยังคงกรอบถึงแม้จะซื้อกลับบ้าน จบของคาวกันไปแล้ว ขอต่อด้วยเครื่องดื่มอย่าง มิ้ลค์เชค หรือ Classic Shakes ราคา 190 บาท ที่มีรสชาติเริ่มต้นอย่าง วานิลลา ให้ Texture ที่นุ่มๆ แบบนำไอติมมาปั่นจริงๆ ออกหวานละมุน อร่อยชนิดที่ว่าหาร้านในไทยที่ทำได้ขนาดนี้ยากมากๆ ส่วนรสชาติอื่นๆ แล้วแต่ชอบเลย แต่ที่เป็นเมนูแนะนำเฉพาะประเทศไทย คงหนีไม่พ้นเมนูอย่าง Pandan Sticky Rice Shake ราคา 230 บาท มิลค์เชคข้าวเหนียวเจลลีใบเตย ที่ใช้ไอศกรีมวานิลลามาปั่น แต่เพิ่มเติมด้วยน้ำนมข้าว น้ำตาลโตนด จากนั้นเติมข้าวเหนียวมูนและเจลลีใบเตย เพิ่ม Texture หนึบๆ กับลื่นๆ แบบได้เคี้ยวเข้าไปอีก ไปให้สุดด้วยวิปปิ้งครีม ที่บอกได้ว่าดีไม่แพ้ร้านอื่นๆ เลย รสชาติจะหนักหวานกว่าเมนู Classic อีก ถ้าไม่ทานหวานมาก ไม่แนะนำเมนูนี้ นอกจากมิ้ลค์เชคแล้ว เมนูที่คนเมกันชอบทานกับเบอร์เกอร์คือรูทเบียร์ ซึ่งที่ร้านจะใช้ของยี่ห้อ abita ซึ่งเป็นแบรนด์เบียร์คราฟของแอลเอ แต่เค้าก็มีขายรูทเบียร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์เช่นกัน รสชาติก็คือเมนูน้ำยาหม่องที่คนไทยหลายๆ คนอาจจะไม่ถูกใจสิ่งนี้ มีความนุ่มๆ สมุนไพรหนักพอประมาณเลยทีเดียว ปิดท้ายกันด้วยของหวานอย่าง Coconuts Abut You ราคา 190/260 บาท เมนูนี้ได้แรงบันดาลใจจากทับทิมกรอบของไทยๆ มาเปลี่ยนเป็นไอศกรีมวานิลลา ปั่นผสมกับเนื้อมะพร้าวและคุกกี้ชอร์ตเบรด ตกแต่งด้วยทับทิบกรอบ และโรยด้วยถั่วทองหรือถั่วลิสงป่นให้รสสัมผัสอย่างครัมเบิ้ล รสชาติจะแตกต่างจากมิ้ลค์เชคตรงที่เข้มข้นกว่า หอมมะพร้าวและกะทิ ตัดกับทับทิบกรอบได้แบบกำลังดีเลย เสียดายที่ละลายเร็ว ซื้อกลับบ้านไปตุนไว้ก็ลำบาก เป็นครั้งแรกที่ทานฟาสฟู้ดแล้วถูกใจมาก รสชาติอาหารโดยรวมคือดี ดูไม่ออกเลยว่าเป็นวัตถุดิบที่เตรียมไว้แล้ว นึกว่าทำกันสดๆ เลย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะวัตถุดิบต่างๆ ไม่ได้ผ่านการ Frozen รวมทั้งเพาะปลูก เลี้ยงดูแบบธรรมชาติ เวลาทานแล้วก็จะไม่รู้สึกหนักท้อง แม้จะทานเยอะก็ตาม แต่ก็ต้องแลกกับราคาที่สูง เห็นสั่งเยอะขนาดนี้ก็สองพันบาท ++ กันเลยทีเดียว ด้วยความที่ร้านนี้เป็นแนวฟาสฟู้ด เน้นเสิร์ฟไวไม่ต้องรอนาน ดังนั้นการบริการจะเน้นเป็นในเชิง Self Service ถ้าอยากได้อุปกรณ์ใดๆ เพิ่มเติม สามารถไปหยิบได้ที่เคาเตอร์ Self Service ที่จะมีพวกทิชชู ช้อนส้อมและมีด ตู้กดซอสมะเขือเทศและมัสตาร์ดไม่อั้น ส่วนใครทานแล้วมือเลอะ ก็ไม่ต้องเดินออกไปหาห้องน้ำ ที่ร้านจะมีเครื่องล้างมืออัตโนมัติ ที่จะพ่นฟองสบู่ และน้ำเปล่าให้ล้างจนกว่าจะพอใจกันไปเลย 💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻 🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin 🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha *กรณีต้องการนำรูปไปใช้งานให้ขออนุญาตและให้เครดิตทุกครั้ง มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์และแจ้งความทุกกรณี

  • 2
  • 0
23/04/13

Other Reviews