มื้อกลางวัน

ทุกวันนี้ ไม่ว่าจะไปที่ไหน เราก็จะเห็น Culture ของเกาหลี เต็มไปหมด โดยเฉพาะ #ปิ้งย่างเกาหลี ที่แทบจะกลายเป็นมื้ออาหารหลักในช่วงเย็นของใครหลายๆ คนไปซะแล้ว กินได้ไม่อั้นยิ่งดี ราคาโดนๆ ยิ่งชอบ ถึงหัวจะเหม็น แค่ขอให้ได้กินอะไรหอมๆ ย่างๆ อะไรก็ยอม แต่จะเป็นยังไง ถ้าร้านนั้น เป็นร้านบุฟเฟ่ ที่เราจะได้ทานทั้งเนื้อหมูและวัวแบบไม่อั้น เครื่องเคียงเพียบ ของทานเล่นอีกนับไม่ถ้วน หรือจะเป็นต้มรามยอนเองพร้อมใส่เครื่องอินฟินิตี้ และอยู่ฝั่งธนฯ ด้วย ร้านนั้นก็คือ SINSA Korean BBQ & Bar ในย่านพุทธมณฑลสาย 2 ที่คนเกาหลีคอนเฟิร์มว่ารสชาติออริจินัลแน่นอน ร้าน SINSA Korean BBQ & Bar จะอยู่ในซอยศาลาธรรมสพน์ โดยเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือจะแท็กซี่ก็ได้ บนถนนพุทธมณฑลเกือบสุดเส้นทาง โดยก่อนถึงวนเวียนจะถึงปากซอย เลี้ยวซ้ายเข้าซอยมาอีกประมาณ 200 เมตร จะเจอป้ายร้านใหญ่ๆ ด้านนอก ขับเข้ามาจอดในร้านได้เลย ที่จอดเยอะมาก ตัวร้านจะมีอยู่ 3 โซนหลักๆ โซนแรกจะอยู่ด้านนอกที่จะมีการทำบรรยากาศเหมือนอยู่เกาหลี มีป้ายรถเมล์เป็นจุดเช็กอินชิๆ ร้อมกับน้องกบตัวเบ้งๆ รอต้อนรับอยู่ นอกจากนี้หากมาในช่วงกลางวัน จะเจอแก๊งเป็ด 4 ตัวมายืนอาบแดดที่เราเดินเข้าไปใกล้ๆ เพื่อถ่ายรูปได้อีกด้วย ส่วนอีก 2 โซนจะเป็นตัวร้านที่เป็นห้องแอร์ ด้านหน้าจะเป็นโซนทานอาหารปิ้งย่างที่เราจะมารีวิวกันวันนี้ แต่งในสไตล์แบบ Retro เน้นสีสัน แต่ที่นั่งต่างๆ ยังมีความเรียบง่ายอยู่พอสมควร และอีกโซนที่จะเป็นโซนบาร์ ซึ่งจะเปิดให้บริการในช่วงเย็นรวมทั้งให้บริการแอลกอฮอล์พร้อมดนตรีสด เสียแค่โซนนี้ไม่รองรับปิ้งย่างนะ ใครอยากกินทั้ง 2 ต้องสลับโต๊ะไปนั่งอีกที การสั่งอาหารร้านนี้จะเป็น Touchless ทั้งหมด เราไม่ต้องมานั่งติ๊กในกระดาษ แล้วยื่นให้พนักงาน เพียงแค่เราสแกนบิลที่มี QR Code เราก็จะเห็นเมนูทุกอย่าง อยากกินอะไรกดเข้าไปตามที่คิดว่าไหว แล้วกดส่งเมนู จากนั้นรออย่างเดียว ราคาเองก็ดีงาม เริ่มต้น 399++ ที่จะเน้นทานหมูเป็นหลัก แต่ถ้า All you can eat เพิ่มอีก 100 บาท เป็นเซ็ต 499++ จะได้ทานเนื้อวัว และกุ้งอีกด้วย ส่วนเครื่องดื่ม ราคา 39++ บาท ซึ่งกดได้ไม่อั้นเหมือนกัน ทานได้ทั้งหมด 90 นาที เพื่อให้รู้ว่าร้านนี้มีอะไรดีบ้าง วันนี้จะมารีวิวเซ็ต 499++ กัน เริ่มต้นด้วยแก๊งเนื้อสัตว์ต่างๆ อย่าลืมสั่งกระเทียม พริกสด มาย่าง รวมทั้งสั่งผักห่อก่อนย่างเนื้อ หมูสามชั้น อันนี้เป็นซิกเนเจอร์ที่ต้องห้ามลืมสั่งเป็นอันขาด ขอให้ได้เพียงจี่กระทะ เราก็จะได้ยินเสียงซู่ซ่า คอยพลิกเพื่อไม่ให้ไหม้จนเกินไป วิธีการย่างขึ้นอยู่กับฝีมือเราเลยว่าจะไหม้ก่อน หรือจะกรอบกำลังดี แนะนำว่าให้รีบย่างเพราะเตาร้อนแรงมากๆ และการดูดควันคือดีมาก แทบไม่มีกลิ่นติดตัวเลยเมื่อออกจากร้าน ส่วนอีกอันที่อยากให้สั่งสุดๆ คือ สามชั้นหมักซอส เนื้อนุ่มกว่าไม่หมัก เคี้ยวแล้วแทบละลาย มีกลิ่นหอมเนยนิดๆ และรสชาติเผ็ด ตัดความเค็มด้วยซอสเต้าเจี้ยวนิดๆ อร่อยเลย สเต็กสันคอหมู มาแบบชิ้นโตๆ ไม่มีกั๊กแต่อย่างใด เนื้อจะมีความนุ่มที่น้อยกว่าสามชั้น แต่ก็ถือว่าดีเช่นกัน การย่างอยู่ที่ฝีมือล้วนๆ ย่างนานไปก็ไหม้ทันที เหมาะกับการนำมาห่อผักเป็นอย่างยิ่ง ปกติแล้วเวลาทานอาหารเกาหลีจะไม่มีเสิร์ฟมันหมู แต่ร้านนี้มี หลักๆ ก็จะนำมาทากระทะ แต่เชื่อว่าใครหลายๆ คนที่ชอบทานแบบเกรียมๆ กรอบๆ ทำได้เหมือนกันและไม่ต้องรอนาน นอกจากนี้ก็มี เบคอนพันเห็ดเข็มทอง ใครชอบความกรอบๆ ของเบคอนและกลิ่นเฉพาะตัว พร้อมกับเห็ดเข็มทองกรุบๆ ตอนสุก สั่งก่อนเลยนะ เสือร้องไห้ มีให้เลือก 2 แบบที่เป็นเนื้อออสเตรเลียแท้ และ Thai-French ความแตกต่างแทบไม่มีเพราะนุ่มมากทั้งคู่ แนะนำให้ปิ้งไม่นาน แล้วรีบขึ้น มีความชมพูอยู่นิดๆ คือ Perfect จิ้มกับน้ำจิ้มงาผสมเกลือ จะได้รสชาติที่ชัดเจนกว่าการนำไปห่อผัก จะสั่งแบบราดซอสหรือไม่ก็ได้ รสชาติไม่ต่างกันมาก ลิ้นวัว อันนี้ก็เป็นทีเด็ดเหมือนกัน ที่ร้านจะคัดเฉพาะส่วนโคนลิ้นที่นุ่มกว่า สไลด์ให้บางที่สุดเท่าที่จะทำได้ เวลาย่าง หากชอบกรึบๆ เคี้ยวนานๆ จะย่างนานหน่อยก็ได้ แต่ส่วนตัวชอบแบบนุ่มๆ เคี้ยวแล้วขาด ก็จะย่างให้กึ่งสุกกึ่งดิบมากกว่า จิ้มกับซอสน้ำมันงาผสมเกลือก็คือดีสุด อย่าไปห่อผักมันเสียรสชาติ กุ้งดอง ปกติแล้วเวลาทานอาหารเกาหลี เราจะเจอปูม้าดอง กันเป็นส่วนใหญ่ แต่กุ้งดองน่าจะมีแค่คนไทยที่นิยม ทางร้านใช้กุ้งทะเลมาดองในซีอิ๊วเกาหลีโรยด้วยพริก เวลาทานให้สั่งสาหร่ายมาห่อ ตามด้วยข้าว จากนั้นนำเข้าปากพร้อมกัน เนื้อกุ้งนุ่มหอมมัน ไม่คาวแต่อย่างใด ตักกระเทียมใส่ด้วยเพิ่มความแสบปาก ควรค่าแก่การสั่งเยอะๆ ที่สุดแล้วสำหรับเมนูนี้ ถัดมาก็จะเป็นเมนูของทานเล่นที่หากเลือกเป็น 399++ ก็สามารถสั่งได้ไม่อั้น - รามยอน เมนูนี้เราจะต้องเป็นคน DIY เอง โดยทางร้านจะนำถ้วยกระดาษ และเส้นรามยอนมาให้ จากนั้นเราก็ไปปรุงที่บริเวณเคาเตอร์รามยอน ซึ่งจะมีเครื่องต้มโดยเฉพาะ ปรุงตามใจชอบ อยากใส่อะไรก็ใส่ จากนั้นวางบนเครื่องต้ม รอเวลาประมาณ 3 นาทีก็จะได้ทาน มีไข่ให้ด้วยแต่แนะนำว่าใส่ตอน 30 วินาทีสุดท้ายจะได้ไม่ไหม้ก้นถ้วยซะก่อน รสชาติอร่อยหรือไม่อยู่ที่เรา ชอบเผ็ด ก็เติมพริกเยอะๆ สายเครื่องแน่น ก็เติมได้ไม่อั้น เอาที่สบายใจ - ไก่ทอด จะเป็นไก่ป๊อปชิ้นโต มาแบบเย็นหน่อยๆ ยังมีความกรอบอยู่ เหมาะกับสั่งมาทานรอระหว่างรอย่าง - จับแช วุ้นเส้นเกาหลีผัดน้ำมันงาใส่ผักต่างๆ เส้นมีความหอมน้ำมันงา หนึบๆ อมน้ำมันพอสมควร รสชาติจืดสักหน่อย แต่ถ้าต้องการอะไรล้างปาก จานนี้ถือว่าดี - ซุปกิมจิ มาเป็นหม้อร้อน จะมีใส่กิมจิผักกาดขาวเป็นส่วนประกอบหลัก นอกนั้นก็เป็นหมูชิ้น และเต้าหู้ รสชาติไม่ได้เข้มข้นมาก เหมาะกับคนที่ต้องการอะไรร้อนๆ ซดซักเล็กน้อย - ซุปไข่ อันนี้จะหนักไปทางเค็ม เครื่องแน่นโดยเฉพาะไข่และสาหร่าย ไว้สำหรับแก้เลี่ยนโดยเฉพาะ หรือเพื่อให้คล่องคอกินต่อได้อีกจนกว่าเวลาจะหมด - สลัดมันฝรั่ง เมนูเอาใจคนชอบอะไรเลี่ยนๆ นุ่มๆ มันๆ เมนูนี้มีครบ รสชาติออกไปทางหวานกลมกล่อม ถ้าเกิดว่าเมนูนี้ไม่ใช่เมนูตัดกำลัง คงสั่งมากกว่า 1 ไปแล้ว แต่ถ้าทาน 499++ ก็จะมีเมนูพิเศษเพิ่มเติมขึ้นมาอีก - ไข่ตุ๋นลาวา เมนูเกาหลีไข่ฟูๆ ที่ดีต่อใจ มาแบบร้อนๆ ในหม้อร้อนเหมือนซุป รสชาติดีเน้นความหอมของเนยและความหวานมันของไข่ เสิร์ฟแล้วควรรีบคนๆ ไม่งั้นจะมีกลิ่นไหม้ติดก้นหม้อแล้วจะไม่โดน - ข้าวเขย่า เมนูสุดเรียบง่าย ที่เพิ่งจะได้มีโอกาสทานครั้งแรกก็ที่ร้านนี้เลย ประกอบด้วยข้าว ซอสโคชูจัง สาหร่าย แฮมกระป๋อง ไข่ดาวหน้าตาชวนกิน และกิมจิสับ ปิดฝา เขย่าอย่างรุนแรงให้เข้ากัน ก่อนเปิดทาน ให้รสชาติเหมือนเราทานบิบิมบับ แค่ไม่ร้อน เผ็ดหน่อยๆ มีความหวาน และเค็ม ที่ค่อนข้างกลมกล่อม นำเมนูนี้มากินกับกุ้งดอง เข้ากันได้ดีมาก ที่ไม่พูดถึงอีกอย่างไม่ได้คือ เครื่องเคียง โดยเริ่มต้นจะมีมาให้อยู่ 6 อย่าง มี ไช้เท้าดอง กิมจิผักกาดขาว กิมจิหัวไช้เท้า ผัดถั่วงอก ยำสาหร่าย และยำผักสด ตัวกิมจิมีความเข้มข้นสูง เปรี้ยว เผ็ดสะใจ ตัดเลี่ยนเนื้อสัตว์ได้ ที่ชอบอีกอย่างคือไช้เท้าดอง แก้เลี่ยนได้ดีไม่แพ้กิมจิเลย ทั้งหมดสั่งได้ไม่อั้น น้ำจิ้ม จะมีเริ่มต้นให้ 2 อย่างคือ ซอสเต้าเจี้ยว หรือซัมจัง และซอสน้ำมันงาเกลือ แต่ถ้าอยากได้เพิ่มเติม จะมีอีก 3 อย่าง คือซอสชินชาที่เป็นซอสออริจินัล ตัวนี้ใครได้ลองมารีวิวกันด้วยนะ เพราะแอดลืมสั่ง น้ำจิ้มซีฟู้ดสำหรับคนสั่งกุ้ง และซอสบูลโกกิ เหมาะกับคนเน้นทานเนื้อ เกือบสุดท้ายกับเมนูเครื่องดื่มที่ Refill ในราคา 39++ จะมีน้ำอัดลมกดไม่อั้น แต่ถ้าไม่อยากทานน้ำอัดลม ก็มีชาข้าวคั่วให้กด ซึ่งอร่อยเลย กดไปหลายรอบเหมือนกัน ปิดท้ายด้วยเมนูของหวาน ที่นี่จะมีไอศกรีมให้ตักได้ตามใจชอบ อยากกินกี่ถ้วยตักได้เลยไม่มีจำกัด นอกจากในเรื่องของรสชาติอาหารที่โดยรวมทำออกมาได้ดีแล้ว ปริมาณอาหารที่เสิร์ฟแต่ละครั้งอาจจะไม่ได้เยอะมาก แต่แบบนี้จะดีตรงที่เราไม่ต้องยัดทุกอย่างเข้าท้องโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะแอดเองที่หลังๆ นี้ก็ไม่ค่อยสู้เรื่องบุฟเฟ่เท่าไร อยากจะชิมทุกอย่างมากกว่า อย่างละนิดอย่างละหน่อยยิ่งดี ได้ทานหลากหลาย การบริการรวดเร็วทันใจ อาหารเสิร์ฟไวมาก แบบกำลังต้มรามยอนอยู่ อาหารที่สั่งไปคือมาเต็มโต๊ะแล้ว ขอความช่วยเหลืออะไรก็ซัพพอร์ตดีมากๆ เป็นร้านบุฟเฟ่ร้านนึงที่บริการดีเว่อร์ หวังแค่ว่ามาทานคราวหน้า ทุกอย่างจะยังได้มาตรฐานตามเดิมอยู่ เพิ่มราคาขึ้นอีกก็ได้ ยังไงก็คุ้ม! 💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻 🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin 🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha *กรณีต้องการนำรูปไปใช้งานให้ขออนุญาตและให้เครดิตทุกครั้ง มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์และแจ้งความทุกกรณี

  • 3
  • 0
23/02/13

Other Reviews

ร้านอาหารบริเวณใกล้เคียง