ภัตตาคารจีน Stella Palace ที่ตั้งอยู่บนชั้น 79 ของโรงแรมใบหยกสกายนี้ น่าจะเป็นแห่งเดียวที่นำเอาอาหารแบบโต๊ะจีนมาจัดให้ทานได้ไม่อั้นแบบบุฟเฟต์ โดยมีขบวนรถคาราวานเข็นมาเสิร์ฟอาหารให้ถึงโต๊ะ สะดวกสบายไม่ต้องเดินตักเอง ได้อารมณ์แบบการนั่งทานอาหารจีนในภัตตาคารสุดหรู แต่เพราะเป็นบุฟเฟต์ก็เลยมีข้อดีว่าไม่ต้องรอให้ว่างมาทานพร้อมกันทีละหลายๆคน นึกอยากทานขึ้นมาเมื่อไหร่ก็จองไปได้เลย จะฉายเดี่ยวไปทานเลยก็ยังได้ ส่วนเรื่องคุณภาพและรสชาติอาหารที่ได้ฝีมือเชฟวิชัยมาดูแลนั้นบอกได้เลยว่าไม่แพ้ที่ไหนๆ ไม่ต้องกลัวว่าพอเป็นบุฟเฟต์แล้วจะเน้นแต่เรื่องปริมาณ เมนูอะไรที่ว่าหรูที่ว่าดัง ที่นี่มีครบถ้วนกระบวนโต๊ะจีน เห็นแบบนี้เมื่อมีโอกาสก็ต้องขอมาลองกันหน่อยค่ะ ยิ่งช่วงนี้ (ตุลาคม 2562) มีโปรโมชั่นด้วยก็ยิ่งน่าจัดนะ ****-ราคา-**** • ผู้ใหญ่ : 890 บาทสุทธิ / ท่าน • เด็กส่วนสูงไม่เกิน 120 ซม. : คิดครึ่งราคา • ลูกค้าที่มารับประทานอาหารสามารถขึ้นไปชมวิวที่หอชมวิวชั้น 77 และดาดฟ้าพื้นหมุนชั้น 84 ได้ฟรี (ปกติแล้วสำหรับคนทั่วไป ราคาบัตรขึ้นชมวิวจะต้องจ่ายคนละ 400 บาท) เปิดให้บริการในช่วงเวลา 17.30-23.00 น. โดยจำกัดระยะเวลาทานบุฟเฟต์ 2 ชั่วโมง ****-ไลน์อาหารในบุฟเฟต์-**** [คาราวานบุฟเฟต์ 15 คันรถ] ในส่วนของรถคาราวานนี้จะมี Concept เป็นอาหารโต๊ะจีนอย่างชัดเจน การเรียงลำดับของคันรถที่จะเข็นเข้ามาเสิร์ฟก็เลยเรียงตามคอร์สอาหารแบบโต๊ะจีนด้วย แต่ถ้าขบวนไหนผ่านไปแล้วอยากเรียกกลับมาซ้ำก็สามารถแจ้งพนักงานได้ค่ะ • ขบวนที่ 1 : ออเดิร์ฟทั้งร้อนและเย็น จัดมาเป็นถ้วยจิ๋วๆใส่รถเข็นมาให้เลือก มีทั้งสลัดกุ้งทอดผลไม้ ยำแมงกะพรุนน้ำมันงา ไก่แช่เหล้า หูหมูแก้วกรึบๆ ขาหมูเย็น กระเพาะปลาผัดแห้ง ฯลฯ เราหยิบมาลองอย่างละนิดละหน่อย ชอบขาหมูเย็นและยำแมงกะพรุนน้ำมันงาเป็นพิเศษค่ะ • ขบวนที่ 2 : ติ่มซำนึ่ง นอกจากจะมีติ่มซำนึ่งสารพัดอย่างมาให้เลือกจนละลานตาแล้ว คุณภาพและรสชาติยังดีงามจนแอบทึ่ง ทั้งซาลาเปาเนื้อนุ่มๆไส้แน่น ขนมจีบ ก้ามปูนึ่งผงกะหรี่หอมๆ และอื่นๆอีกมากมาย ทีเด็ดคือฮะเก๋าที่แป้งบางนุ่ม ไส้มีทั้งกลิ่นรสและสัมผัสของเนื้อกุ้งเด้งๆเต็มๆคำ เป็นติ่มซำระดับภัตตาคารที่จัดมาให้ทานได้ไม่อั้น ฟินเลย • ขบวนที่ 3 : ติ่มซำทอด ถึงคิวของติ่มซำทอดก็จัดเต็มมาทั้งก้ามปูทอด กุยช่าย ขนมผักกาด ฟองเต้าหู้ยัดไส้กุ้ง ขนมปังหน้ากุ้งทอด เผือกทอด ...ฯลฯ จะจิ้มน้ำจิ้มบ๊วยเจี่ยก็ดี จะลองน้ำจิ้มสามรสสูตรของทางร้านก็ยิ่งเลิศ เท่าที่ชิมดูรสชาติดีงามตามมาตรฐานทุกอย่าง แต่ที่ประทับใจเป็นพิเศษคือเผือกทอดที่ทอดมาดีไม่อมน้ำมัน ชั้นเผือกบางๆเนื้อนุ่มฟู ไส้แน่นๆหมูเน้นๆ หวานเค็มกำลังเป๊ะ ขอบอกเลยว่าเด็ดกว่าร้านอาหารจีนดังๆหลายๆแห่งซะอีกนะ • ขบวนที่ 4 : Spicy Salad ทั้งส้มตำ ยำผลไม้ และยำทะเลที่จัดเครื่องมาเต็มคันรถเข็น ตำกันสดๆเมื่อสั่ง สามารถเลือกใส่เครื่องได้ตามใจชอบ ฝีมือยำรสชาติจัดจ้านใช้ได้ ถึงจะไม่ใช่ขบวนที่โดดเด่นเป็นไฮไลท์ของมื้อ แต่ก็จำเป็นต้องมีเอาไว้ช่วยเปลี่ยนรส - ตัดเลี่ยนได้ดีเลยล่ะ • ขบวนที่ 5 : ฮือแซ ไม่อยากเชื่อว่าบุฟเฟต์ราคาแค่นี้จะมีของหาทานยากอย่างฮือแซ (ปลาดิบของจีนแต้จิ๋ว) รวมไว้ให้ด้วย เพราะปกติเมนูนี้ถ้าอยากทานต้องรวบรวมพลพรรคไปที่ภัตตาคารอาหารจีนใหญ่ๆหรูๆเท่านั้น ฮือแซของที่นี่เป็นปลากะพงสดๆแล่บาง ชิมแล้วเนื้อปลาสดหวาน หอมน้ำมันงา เอาห่อไชเท้าสด หัวไชโป๊ว แตงกวาและแครอทซอย แต้มน้ำจิ้มนิดคืออร่อยได้ใจ เสียอย่างเดียวว่าปลาบางชิ้นมีแล่ติดเอ็นบ้าง ถ้าบังเอิญเจอเข้าก็จะเหนียวเคี้ยวยากตรงเอ็นนิดนึงล่ะค่ะ • ขบวนที่ 6 : เป็ดปักกิ่งและเป็ดย่างหนังกรอบฮ่องกง รถเข็นขบวนนี้คือดีงามห้ามพลาด เพราะนอกจากมูลค่าจะคุ้มราคาบุฟเฟต์แล้ว รสชาติยังอร่อยเว่อร์แบบต้องปา 5 ดาวใส่รัวๆ เป็ดปักกิ่งนี่ใช้เป็ดตัวใหญ่ แล่กันสดๆชิ้นต่อชิ้น หนังเป็ดบางเฉียบกรอบกริ๊บแล่แผ่นโตเบ้อเริ่ม ห่อแป้งนุ่มๆใส่ต้นหอมแตงกวา ราดน้ำจิ้มซีอิ๊วหวาน ทานแล้วได้กลิ่นรสหนังเป็ดหอมๆเต็มปากเต็มคำ เล่นเอาชิ้นเดียวไม่พอต้องขอเบิ้ล ส่วนเป็ดย่างฮ่องกงก็แล่สดๆเช่นกัน เนื้อนุ่มฉ่ำละมุน หนังกรอบหอม มีน้ำราดรสกลมกล่อม จิ้มบ๊วยเจี่ยนิด แตะน้ำมันคั่วพริกเกลือหน่อย ถ้าใครไม่กลัวอิ่มเร็วจะขอข้าวสวยร้อนๆมาทานด้วยกันก็เหมาะนะคะ • ขบวนที่ 7 : หมูหันฮ่องกง หมูแดง และหมูกรอบ เป็นอีกขบวนที่ควรต้องจัดไปให้คุ้ม หมูแดงนุ่มๆหวานๆมีมันแทรกนิดๆกำลังดี หมูกรอบชิ้นโตหนังบางกรอบกริ๊บ หมูหันทานกับหมั่นโถวก็จัดว่าใช้ได้เลย แต่ส่วนตัวแอบรู้สึกว่าเมนูเป็ดจากขบวนที่แล้วจะทำได้โดดเด่นกว่าอยู่นิดหน่อยค่ะ • ขบวนที่ 8 : เป๋าฮื้อน้ำแดงและหอยหน่อไม้กระเพาะปลาน้ำแดง เสิร์ฟมาในหม้อดินร้อนๆทั้งเป๋าฮื้อน้ำแดงที่แล่เป๋าฮื้อใส่มาชิ้นโตๆ และกระเพาะปลาเนื้อดีใส่หน่อไม้ทะเลที่ตักมาแบบหนักเครื่องจริงจัง รสชาติกลมกล่อม ซดคล่องคอ ทานเพลินดีมากๆ • ขบวนที่ 9 : กุ้งอบวุ้นเส้นและบะหมี่ขาห่านอบหม้อดิน กุ้งอบวุ้นเส้นรสอ่อนๆ ใส่กุ้งตัวโต วุ้นเส้นเหนียวนุ่มทานเพลินทีเดียว ส่วนบะหมี่ขาห่านใช้เส้นบะหมี่เส้นกลมใหญ่ ผัดเคล้ากับน้ำซอส ใส่ขาห่านมาแบบจัดเต็ม รสชาติพอใช้ได้ค่ะ • ขบวนที่ 10 : บะหมี่เคาหยกและบะหมี่ไก่ซีอิ๊ว สำหรับสองเมนูนี้จะใช้บะหมี่เส้นเล็กบาง ส่วนใครไม่อยากทานเส้น จะจัดแต่เคาหยกหรือเนื้อไก่เน้นๆก็ย่อมได้ ส่วนตัวประทับใจเคาหยกเป็นพิเศษ เนื้อหมูสามชั้นนี่นุ่มละมุนสุดๆ ทั้งหนังทั้งมันละลายในปากแบบไม่หลงเหลือความเลี่ยน ส่วนที่เป็นเนื้อหมูก็ตุ๋นจนเปื่อย น้ำซอสและเครื่องปรุงซึมซาบเข้าเนื้อ อร่อยมากมาย • ขบวนที่ 11 : ซีฟู้ดฮองเฮา เมนูหม้อไฟที่ใส่เครื่องจัดหนักทั้งกุ้งแม่น้ำ กุ้งแชบ๊วย หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ปลาหมึก เนื้อปลา ปูม้า และผักต่างๆ ทีเด็ดคือน้ำซุปที่รสชาติดีหอมกลมกล่อมสุดๆ มีน้ำจิ้มแซ่บๆเคียงมาให้จิ้มกับอาหารทะเลที่เลือกด้วย หลังจากจัดหนักกันมาหลายขบวน ได้ปิดท้ายด้วยหม้อไฟร้อนๆนี่ทำให้รู้สึกสบายท้องดีเลยล่ะค่ะ • ขบวนที่ 12 : ผลไม้สด ขบวนผลไม้สดของที่นี่เรียกได้ว่าอลังการ เพราะไม่ได้มีแค่ผลไม้ตามฤดูกาลทั่วไปแบบแตงโม ฝรั่ง มะละกอ สับปะรดเท่านั้น แต่ยังมีแก้วมังกร แอ๊ปเปิ้ล มะม่วงน้ำดอกไม้สุก ส้มเช้ง แคนตาลูป เมลอน และองุ่นไร้เมล็ดหวานฉ่ำให้อีกด้วย ล้วนแล้วแต่คัดมาดีทุกอย่าง ใครอยากสั่งข้าวเหนียวมาทานคู่กับมะม่วงสุกด้วยก็ได้นะ • ขบวนที่ 13 : Crepe Suzette และไอศกรีม Crepe Suzette ที่นี่เข็นรถมา Flambe กันชิ้นต่อชิ้น ราดซอสส้มจุดไฟท่วมน่าตื่นตาตื่นใจ แต่ไม่ได้ใส่เหล้า เด็กๆก็ทานได้ค่ะ ส่วนไอศกรีมนั้นมี 2 รส คือรสวานิลลา และมะขาม เทียบความอร่อยกันแล้วเราว่ารสมะขามที่ทำเนื้อแบบ sorbet อมเปรี้ยวอมหวานสดชื่นนั้นเด็ดกว่า แต่ในแง่ของการเอามาทานคู่กับเครป รสวานิลลาดูจะเข้ากันได้ดีกว่า สรุปว่าควรจัดไปทั้งคู่เลยนั่นล่ะ • ขบวนที่ 14 : ขนมหวานร้อนและเย็นแบบจีน มีทั้งขนมหวานแบบร้อนใส่น้ำเชื่อมหรือน้ำขิง และขนมแบบเย็นใส่กะทิปั่นหรือแตงโมเกล็ดหิมะ บรรจุเครื่องขนมมาเต็มคันรถทั้งแปะก๊วย บัวลอยไส้งาดำ เนื้อแคนตาลูป เนื้อแคงโม สาคู ลูกตาล เลือก mix&match ได้ตามใจชอบ เราลองเป็นบัวลอยน้ำขิงใส่แปะก๊วย แป้งบัวลอยที่นี่จะมีการใส่เม็ดงาดำกรุบๆแทรกไว้ด้วย ส่วนไส้ก็เป็นงาดำหวานๆตามปกติ น่าลองทีเดียวค่ะ • ขบวนที่ 15 : เบเกอรี่และขนมอบสไตล์ฮ่องกง มีทั้งเค้กหลากชนิด ทาร์ตผลไม้ ทาร์ตไข่ฮ่องกง ...ฯลฯ บรรจุมาเต็มคันรถ แต่ตัวที่อร่อยชนะเลิศแบบต้องขอเน้นเลยว่าห้ามพลาดก็คือ “ลูกบอลลาวาไส้ครีมไข่เค็ม” ค่ะ เป็นก้อนกลมๆที่ texture คล้ายๆขนมงาพอง แต่มีความกรอบนอกนุ่มในที่ละมุนกว่า ด้านในกลวง สอดไส้ลาวาไข่เค็มเยิ้มๆ ขนาดว่าเราอิ่มของคาวมาจนพุงแทบปริแล้ว มาเจอความอร่อยเลเวลนี้เข้ายังต้องมีเบิ้ล ดีงามน้ำตาจิไหล ทานแกล้มชาจีนร้อนๆคือฟินมากๆ [ซุป - เลือกสั่งได้คนละ 1 ถ้วย] สำหรับซุปจะมี 5 อย่างให้เลือก ได้แก่ ซุปเป๋าฮื้อจักรพรรดิ / ซุปหูฉลามทรงเครื่อง / ซุปรังนก / ซุปเกี๊ยวกุ้งน้ำ / ซุปเยื่อไผ่ สามารถสั่งกับพนักงานแล้วนั่งรอให้ยกมาเสิร์ฟที่โต๊ะได้เลย เราเลือกเป็นซุปหูฉลามทรงเครื่อง แม้จะเสิร์ฟมาถ้วยเล็กๆ แต่ก็ใส่ทั้งเนื้อปูและหูฉลามมาให้เยอะพอควร น้ำซุปรสชาติกลมกล่อมกำลังดีเลยทีเดียว [เมนูข้าว – เลือกสั่งได้คนละ 1 อย่าง] เป็นเมนูที่ทำกันใหม่ๆร้อนๆเมื่อสั่ง มีให้เลือก 5 เมนู ได้แก่ ข้าวผัดหยางโจว / ข้าวผัดปลาเค็มไก่สับ / ข้าวอบสเตลล่า / โจ๊กฮ่องกง / บะหมี่ฮกเกี้ยน เนื่องจากไปหลายคนก็เลยได้ลองหลายอย่าง เมนูข้าวผัดต่างๆนั้นใช้ข้าวเม็ดนุ่ม ผัดร่วน หอมควัน ชิมแล้วรู้เลยว่าผัดไฟแรง นึกถึงภาพเชฟกระดกกระทะผัดแว่บขึ้นมาเลย ส่วนโจ๊กฮ่องกงนี่คือดีงามเกินคาด เนื้อโจ๊กนุ่มเนียน ความข้นกำลังพอดี รสอ่อนๆกลมกล่อม ทานเพลินมากๆ [Main Course – เลือกสั่งได้คนละ 1 จาน] มีให้เลือก 6 เมนูตามนี้ ขอเม้นต์เฉพาะจานที่ได้ลองนะคะ • ราดหน้ากุ้งแม่น้ำจัมโบ้ย่างมันเยิ้ม – จานนี้แค่ยกมาเสิร์ฟก็ตกตะลึงแล้ว กุ้งแม่น้ำตัวเบ้อเริ่ม จัมโบ้จริงสมชื่อเมนู เนื้ออวบเด้ง มันเยิ้มๆเต็มหัว ย่างมาหอมกรุ่น เสิร์ฟพร้อมเส้นใหญ่ที่ผิวนอกกรอบนิดๆผัดมาหอมควันได้ใจ น้ำราดรสอ่อนๆแบบราดหน้าทั่วไป แต่มีน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรพิเศษที่เชฟปรุงมาให้เหมาะกับกุ้งแม่น้ำโดยเฉพาะเสิร์ฟเคียงมาด้วย อร่อย-ดี-และคุ้มเว่อร์ค่ะเมนูนี้ • สะโพกเป็ดซอสส้ม – เมนูสไตล์กุ๊กช็อปกึ่งจีนกึ่งฝรั่ง เนื้อสะโพกเป็ด confit มาได้ดี เนื้อนุ่ม หนังกรอบ ราดซอสส้มรสออกหวานๆนิดนึง อร่อยใช้ได้เหมือนกันนะ • ซี่โครงหมูตุ๋นทอด - ขึ้นชื่อว่าเนื้อหมู หลายคนก็แอบเมินเพราะกลัวไม่คุ้มราคาบุฟเฟต์ แต่เรื่องฝีมือแล้วถือว่าเยี่ยมเลยนะ เนื้อหมูตุ๋นมานุ่มมากๆ ชุบแป้งทอดให้ผิวนอกกรอบๆ ราดน้ำเกรวี่รสละมุนใส่ถั่วลันเตา อร่อยค่ะ • สเต๊กเนื้อแบบจีน • สเต๊กหมูแบบจีน • สตูว์ลิ้นวัวแบบจีน [ไลน์บุฟเฟต์ที่สามารถเดินไปตักได้เอง] นอกจากอาหารจีนสไตล์เหลาที่สั่งจากรถคาราวานและจากเมนูแล้ว บริเวณด้านนอกห้องยังมีไลน์บุฟเฟต์ที่ให้เดินไปตักเองได้ไม่อั้นด้วย ที่เด่นๆคือซีฟู้ดเผาที่มีทั้งกุ้งแม่น้ำ (ไซส์เล็กกว่าที่ใส่ในราดหน้า) และปูม้า / Seafood on ice / Sushi และ Sashimi / ไข่เจียวทะเลเดือด / ก๋วยเตี๋ยว นอกจากนี้อาหารบางอย่างที่อยู่ในคาราวานอย่างติ่มซำทอด ก็มีวางไว้ให้มาหยิบเติมได้เองอีก งานนี้ไม่อิ่มก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วค่ะ [เครื่องดื่ม] • Welcome Drink (คนละ 1 แก้ว) - เลือกได้ระหว่างน้ำมะนาวปั่นและน้ำบ๊วยปั่น • ชาจีนและเก๊กฮวยทั้งร้อนและเย็น เติมได้ไม่จำกัดตลอดมื้อ ****-สถานที่/บรรยากาศ-**** บุฟเฟต์ที่ Stella Palace นี้จะไม่ได้จัดเป็นห้องใหญ่ห้องเดียวแบบบุฟเฟต์ทั่วไป แต่จะจัดเป็นห้องย่อยๆที่มีขนาดรองรับได้ตั้งแต่ 8 – 40 คน โดยรถคาราวานจะหมุนเวียนกันเข็นเข้าไปทุกห้อง ในแต่ละห้องจะมีพนักงานคอยดูแลเรียกรถคาราวานมาเสิร์ฟและรับออร์เดอร์อาหารที่ต้องสั่งจากเมนู แถมยังมีทีม Entertain มาแต่งชุดตัวตลก ปล่อยมุขฮาและแจกลูกโป่งกันถึงในห้องอีกด้วย ทั้งอร่อยทั้งสนุกเลยมื้อนี้ • ถ้าจองมาตั้งแต่ 8 คนขึ้นไป สามารถขอห้อง Private ได้ฟรี แต่ต้องระบุมาตั้งแต่ตอนจองนะคะ เนื่องจากห้อง Private มีจำกัด ก็เลยจัดให้แบบจองก่อนได้ก่อน อยากได้ก็ต้องรีบจองเนิ่นๆกันหน่อยล่ะ • สำหรับคนที่จองมาน้อยกว่า 8 คน ทางร้านก็จะจัดให้อยู่ในห้องที่มีขนาดใหญ่ร่วมกับลูกค้าท่านอื่นๆ แต่แยกโต๊ะใครโต๊ะมัน มีรถคาราวานเข็นเข้าไปเสิร์ฟในห้องเช่นเดียวกันค่ะ ในแต่ละห้องนอกจากจะตกแต่งสวยงามสไตล์จีนๆแล้ว ยังมีผนังกระจกให้ชื่นชมวิวระฟ้าของกรุงเทพฯได้ด้วย บรรยากาศดีทีเดียวนะ ****-โปรโมชั่นพิเศษเดือนตุลาคม 2562 -**** เพียงแสดงบัตรประชาชนว่าอายุ 60 ปีขึ้นไป รับสิทธิพิเศษเมื่อซื้อบัตรรับประทานอาหารทุกๆ 5 ใบ ฟรี!ทันที 1 ใบ (มื้อเย็น) รายละเอียดติดตามได้ทาง facebook ของร้านค่ะ