มื้อเย็น

ให้อาหารบอกเล่าเรื่องราวของแต่ละธาตุแห่งชีวิต จบที่การหลอมรวมของธาตุทั้ง 4 ด้วยธีม LIFE ร้านที่เปิดเพียง 18 เดือนตามวงจรชีวิตของหิ่งห้อย (ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์)​ ซึ่งที่นี่จะจัดอาหารตามธีม ดิน น้ำ ลม และไฟ โดยเปลี่ยนไปตามช่วง ช่วงที่เรามาเป็นธีมสุดท้าย ชื่อว่า ฟิลาเน่ ธีม ที่รวมทุกธีมไว้ที่ธีมสุดท้ายนี้ค่ะ เรามาถึงก็เจอกับทางเข้าที่ดูอลังการ มีประตูทางเข้าเป็นกำแพงดิน มีเชือกที่ห้อยลงมาจากกำแพงดิน เพื่อเพื่อสะท้อนลักษณะใต้ท้องของเจ้าหิ่งห้อย ที่ส่องแสงเปล่งประกายระยิบระยับในยามค่ำคืน ซึ่งสีของไฟจะเปลี่ยนไปตามเวลาที่เรานับถอยหลังโบกมือลาวังหิ่งห้อยค่ะ พอเดินมาอีกหน่อย เราก็จะเจอโครงเหล็ก ซึ่งสื่อถึงลม และก็มีบ่อน้ำสไตล์สระบัว ซึ่งสื่อถึงน้ำ แล้วก็จะเจอประตูบานใหญ่ที่มีเล่นแสงสีรุ้งเคลื่อนไปมาให้ดูมีชีวิตชีวาดีค่ะ พอเข้ามาด้านใน บรรยากาศในร้านออกสลัวๆ โทนสีน้ำตาลดำ มีดนตรีบรรเลงสไตล์เบาๆให้เราได้ทานแบบผ่อนคลายสบายๆ ซึ่งประตูจะถูกปิดหมด ทำให้ตอนจะออกจากร้าน เราต้องมีถามพนักงานว่าประตูทางออกอยู่ตรงไหน >.< อาหารของร้านวังหิ่งห้อยเป็นอาหารสไตล์ Thai-Inspired Cuisine โดยนำอาหารไทยมาทวิสต์ให้น่าสนใจและแตกต่างไปจากเดิม ผ่านแรงบันดาลใจจากธาตุแห่งชีวิต คอร์สอาหารมีทั้งหมด 10 คอร์ส ซึ่ง Main Course จะมีให้เลือก 1 ใน 4 เมนู ส่วนคอร์สอื่นๆจะได้เหมือนกันหมดค่ะ เริ่มด้วยการเสิร์ฟ Welcome Drink ก่อน ได้รสเปรี้ยวๆหวานๆสดชื่นดี ออเดริฟ เป็นขนมปังใบเตย ทานคู่แยมสตรอเบอรี่ เริ่มเรียกน้ำย่อยแล้วค่ะ LIFE Set Menu 10 คอร์ส ราคา 3,290++ บาท/เซต เริ่มด้วย ###Amuse Bouche### 🔼 The Four Element จะเสิร์ฟมา 4 อย่าง พร้อมกับน้ำซุปถ้วยเล็กๆ การทานควรเริ่มจากการดื่มน้ำซุปลาเต้ก่อน แล้วค่อยทานทีละคำจากขวาไปซ้ายค่ะ ลาเต้ ถ้วยน่ารัก เป็นน้ำขิงมันม่วงโฟม ได้รสและกลิ่นหอมๆ และก็เริ่มทานเมี่ยงกลีบบัว มีความเปรี้ยวๆสดชื่นดี ต่อด้วยไข่มดแดงบนใบชะมวงที่ได้รสเค็มและเผ็ด มีความเข้มข้นขึ้น ต่ออีกคำด้วยความนุ่มๆของมันฝรั่ง มีรสเผ็ดหน่อยๆ หวานหอมรสพริกเผา จบด้วยคำสุด ท้ายเป็นรสเข้มข้นอีกคำที่ได้ทั้งรส เค็ม เปรี้ยว เผ็ด กับแผ่นกรอบๆที่เข้ากันดี 🔼 Pupa ขนมจีบบะกุ๊ดเต๋หมู ด้านนอกเป็นฟองเต้าหู้ ไส้หมู แปะทองคำเปลวด้านบนสวยๆ ใบชะพลูที่ด้านบนโรยด้วย พิตาชิโอ กระเทียมเจียว และเซียงจา(บ๊วยแผ่นที่บดมาละเอียด)​ เวลาทานให้หยิบขนมจีบห่อกับใบชะพลู ทานรวมกันคำเดียว ไม่ควรกัดคำแยก เพราะน้ำจะออกมา ความรู้สึกเหมือนทานเกี๊ยวหมูน้ำ มีน้ำซุปหวานหอมกลมกล่อมตอนที่เรากัดขนมจีบ และเหมือนได้ทานผักปรุงรสด้วยกระเทียมเจียวและหวานๆมันๆจากบ๊วยและถั่ว ก็อร่อยดีค่ะ ###Appetizer### ⬆️ Ride The Wave เป็นการรวมตัวของซีฟู้ดที่มีทั้งหอยนางรม หอยเชลล์ ปลาหมึก และปลา ท็อปด้วยพาเมซานชีส และมอสซาเรนล่าชีส มีต้นกระเทียมทอดกรอบและไข่ปลาแซลมอนเพิ่มความสวยงาม ส่วนเม็ดสีชมพูจะตกแต่งมาเฉยๆทานไม่ได้นะ เข้มข้นอร่อยมาก คือได้ความนุ่มหนุบ ชีสรสหอมๆมันๆ มีรสเค็มนิดๆ คือลงตัวอร่อยมากค่ะ มีอีกสักฝามั้ย😅 ⬆️ Honey Trap รังผึ้งหลวง ที่มีตัวอ่อนด้วย ด้านล่างทำจากมะม่วงสุกและเสาวรส เชฟมีมาราดสุราบนรังผึ้งไป 1 ช้อน ซึ่งกลั่นจากมะขามป้อม และเกสรดอกมะพร้าว เพื่อเพิ่มรสขมและหวานหอม จานนี้ เชฟนิคออกมาอธิบายด้วยตัวเองค่ะ เวลาทาน เราควรรวบทั้งหมดตักทานคำเดียว เพื่อให้้เราได้ความเย็นก่อน ต่อด้วยความหนุบ ต่อด้วยรสหวาน รสเปรี้ยว รสเค็มนิดๆจากตัวอ่อน  และขมตอนจบค่ะ ถึงจะมีคำเดียว แต่ครบรสเลยค่ะ ⬆️ Habitat ซี่โครงหมูไปซูวีแล้วจุ่มกับน้ำจิ้มสะเต๊ะก่อนนำไปย่าง เสิร์ฟคู่พีนัทบัตเตอร์ซอสและถั่วพิตาชิโอ ข้างๆมีแตงกวาเคลือบอาจาด ดอกไม้ทานได้แต่ยกเว้นเกสร ซี่โครงหมูนุ่มมาก น้ำจิ้มสะเต๊ะก็หอมๆเข้มข้นดี ซอสข้นๆเปรี้ยวหน่อยเพิ่มรสชาติมากขึ้น ส่วนดอกไม้ เราลองมาชิมสักกลีบ แอบขมจังเลย เลยไม่ทานค่ะ ###Salad### 🥗 Firework สลัดผลไม้แนวมัลเบอร์รี่ รอบๆเป็นซอส 3 สี มีซอสใบเตย ส้ม และบีทรูท โรยด้วย Popping Candy หรือผงเป๊าะแป๊ะ ผลไม้รสเปรี้ยวๆหวาน กับซอสที่ได้ทั้ง รสหวานจากใบเตย รสเปรี้ยวจากส้ม และรสเค็มจากบีทรูท มีแตกเป๊าะแป๊ะๆในปากสนุกดี ###Soup### 🥣 Muddy Lake ซุปสไตล์ต้มยำที่มีกุ้งลายเสือตัวโตๆ กุ้งเนื้อเด้งหนุบมาก ซุปก็เข้มข้น มีรสเปรี้ยวต้มยำอร่อยเข้มข้นหอมๆดี ในระหว่างที่รออาหารจานหลัก พนักงานก็จะมาเชิญไปดูหิ่งห้อย ซึ่งหิ่งห้อยจะอยู่ในห้องชมหิ่งห้อย พอเข้ามา เราก็จะเห็นแสงระยิบระยับสวยงาม สามารถถ่ายรูปได้ แต่ห้ามใช้แฟลช ซึ่งจะมีโซฟาให้เรานั่งดื่มด่ำ​ชมหิ่งห้อยด้วยค่ะ ###Main### 🍱 Lavagyu เมนูนี้ต้องเพิ่มราคาอีก 600++ บาท เป็นเนื้อเทนเดอลอยด์ ความสุกแบบmedium rare ทำมาสไตล์เสือร้องไห้  มีผักชีฝรั่งคลุกกับเฟตต้าชีส เาิร์ฟพร้อมซอส 2 แบบ มี ต้มแซ่บมาเปผ้นถ้วย ส่วนซอสแจ่วจะใส่มาเล็กน้อยในจาน( 3 จุด)​ เนื้อเทนเดอลอยด์ สีแดงสวยงามน่าทาน เนื้อนุ่มมาก อร่อยละมันลิ้น ซอสต้มแซ่บ เข้มข้นหอมอร่อยถูกใจ กับซอสแจ่ว ก็เปรี้ยวๆเค็มๆ เข้มข้นอีกเช่นกัน ###Dessert### 🧁 Fallen Angel เสิร์ฟมาเป็นโดมสวยๆ ไอเดียมาจากลอดช่องน้ำกะทิ ทำจากแป้งใบเตย โดมไวท์ช๊อคโกแลต มีมูสเมล่อน เมอแรงเลม่อน และ ซอสกะทิค่ะ โดมนุ่มๆ ตัดไปด้านในจะเจอลอดช่องน้ำกะทิที่มาแบบเย็นๆเหมือนทานไอศกรีม รสหอมหวานมัน มีเค็มนิดๆจากซอสรอบๆ ทุกอย่างหอมและเข้ากันได้ดี 🧁 Terra เปียกปูนที่ทำหน้าตาเหมือนโมจิ ด้านนอกเป็นไวท์ช็อคโกแลต ไส้เป็นชาร์โคลล์ เสิร์ฟพร้อมครัมเบิ้ลงาดำ กับไปด้านในจะนุ่มๆหวานหอม กับครัมเบิ้ลที่มีรสเค็มเบาๆ จานนี้จึงได้รสหวานๆเค็มๆค่ะ และที่เสิร์ฟมาคู่กัน เหมือนไส้กรอกปิ้งเลย😁 มีควันพวยพุ่งสวยๆ คือไอศกรีมแท่งแบบโบราณ เป็นรสฝรั่งแช่บ๊วย เปรี้ยวๆหวานๆ ทานแล้วสดชื่นดีค่ะ ###เครื่องดื่ม### 🍹'Fai' (FIRE) "ไฟในชีวิต" รสชาติของค็อกเทล "ไฟ" ตัวนี้ที่สร้างขึ้นมาจากแนวคิดที่คอนทราสต์กัน ระหว่างไฟร้อนแรงที่แผดเผาทุกอย่างที่เข้าใกล้ และความอบอุ่นละมุนที่ไฟมอบให้กับทุกชีวิต เครื่องดื่มแห่งธีม LIFE นี้จึงพิเศษ เพราะให้ทั้งความร้อนและอ่อนโยนไปพร้อมๆกัน แต่เราสั่งแบบม็อคเทล จึงมีส่วนผสมของ ขิง แอ๊ปเปิ้ลเขียว และไข่ขาว เสิร์ฟพร้อมเชอร์รี่ รสชาติเปรี้ยวๆหวานๆ สดชื่นดีค่ะ ควรรีบทาน เพราะทิ้งไว้นานไข่ขาวจะแข็งตัวและอาจจะคาวได้ค่ะ เป็นมื้อที่จบด้วยความประทับใจค่ะ ได้เข้าถึงความเป็นธรรมชาติ มองเห็นแสงระยิบระยับของหิ่งห้อยที่ทำให้เราได้อมยิ้มมองเวลาที่มันบินไปมา ได้รับรสอาหารที่แม้จะคืออาหารไทยที่เราคุ้นเคย แต่เราก็ทำให้ความรู้สึกต่างจากแค่อาหารไทยธรรมดาได้ สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อสำรองที่นั่ง โทร. 091-979-6226

  • 15
  • 3
20/01/12

Other Reviews