Wannarie Tanaporn
5
Followers
มื้อเย็น
ร้านอาหารวังหิ่งห้อยเป็นร้านที่มี concept ที่ชัดเจน แปลกใหม่และตกแต่งได้สวยงามมาก มีหิ่งห้อยจริงให้ชมบริเวณตรงกลางห้องอาหาร และร้านอาหารจะเปิดให้บริการเท่ากับช่วงอายุของหิ่งห้อยจริง ดังนั้นใครยังไม่เคยทานรีบกันเลยนะคะ อาหารที่นี่จะมี 2 ราคาให้เลือก และต้องจองก่อนไปทานโดยเฉพาะช่วงเทศกาล อาหารไทยรสชาติอร่อยทุกอย่าง ของหวานก็อร่อยมากค่ะ #july2018
4
1
Other Reviews
- ให้อาหารบอกเล่าเรื่องราวของแต่ละธาตุแห่งชีวิต จบที่การหลอมรวมของธาตุทั้ง 4 ด้วยธีม LIFE ร้านที่เปิดเพียง 18 เดือนตามวงจรชีวิตของหิ่งห้อย (ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์) ซึ่งที่นี่จะจัดอาหารตามธีม ดิน น้ำ ลม และไฟ โดยเปลี่ยนไปตามช่วง ช่วงที่เรามาเป็นธีมสุดท้าย ชื่อว่า ฟิลาเน่ ธีม ที่รวมทุกธีมไว้ที่ธีมสุดท้ายนี้ค่ะ เรามาถึงก็เจอกับทางเข้าที่ดูอลังการ มีประตูทางเข้าเป็นกำแพงดิน มีเชือกที่ห้อยลงมาจากกำแพงดิน เพื่อเพื่อสะท้อนลักษณะใต้ท้องของเจ้าหิ่งห้อย ที่ส่องแสงเปล่งประกายระยิบระยับในยามค่ำคืน ซึ่งสีของไฟจะเปลี่ยนไปตามเวลาที่เรานับถอยหลังโบกมือลาวังหิ่งห้อยค่ะ พอเดินมาอีกหน่อย เราก็จะเจอโครงเหล็ก ซึ่งสื่อถึงลม และก็มีบ่อน้ำสไตล์สระบัว ซึ่งสื่อถึงน้ำ แล้วก็จะเจอประตูบานใหญ่ที่มีเล่นแสงสีรุ้งเคลื่อนไปมาให้ดูมีชีวิตชีวาดีค่ะ พอเข้ามาด้านใน บรรยากาศในร้านออกสลัวๆ โทนสีน้ำตาลดำ มีดนตรีบรรเลงสไตล์เบาๆให้เราได้ทานแบบผ่อนคลายสบายๆ ซึ่งประตูจะถูกปิดหมด ทำให้ตอนจะออกจากร้าน เราต้องมีถามพนักงานว่าประตูทางออกอยู่ตรงไหน >.< อาหารของร้านวังหิ่งห้อยเป็นอาหารสไตล์ Thai-Inspired Cuisine โดยนำอาหารไทยมาทวิสต์ให้น่าสนใจและแตกต่างไปจากเดิม ผ่านแรงบันดาลใจจากธาตุแห่งชีวิต คอร์สอาหารมีทั้งหมด 10 คอร์ส ซึ่ง Main Course จะมีให้เลือก 1 ใน 4 เมนู ส่วนคอร์สอื่นๆจะได้เหมือนกันหมดค่ะ เริ่มด้วยการเสิร์ฟ Welcome Drink ก่อน ได้รสเปรี้ยวๆหวานๆสดชื่นดี ออเดริฟ เป็นขนมปังใบเตย ทานคู่แยมสตรอเบอรี่ เริ่มเรียกน้ำย่อยแล้วค่ะ LIFE Set Menu 10 คอร์ส ราคา 3,290++ บาท/เซต เริ่มด้วย ###Amuse Bouche### 🔼 The Four Element จะเสิร์ฟมา 4 อย่าง พร้อมกับน้ำซุปถ้วยเล็กๆ การทานควรเริ่มจากการดื่มน้ำซุปลาเต้ก่อน แล้วค่อยทานทีละคำจากขวาไปซ้ายค่ะ ลาเต้ ถ้วยน่ารัก เป็นน้ำขิงมันม่วงโฟม ได้รสและกลิ่นหอมๆ และก็เริ่มทานเมี่ยงกลีบบัว มีความเปรี้ยวๆสดชื่นดี ต่อด้วยไข่มดแดงบนใบชะมวงที่ได้รสเค็มและเผ็ด มีความเข้มข้นขึ้น ต่ออีกคำด้วยความนุ่มๆของมันฝรั่ง มีรสเผ็ดหน่อยๆ หวานหอมรสพริกเผา จบด้วยคำสุด ท้ายเป็นรสเข้มข้นอีกคำที่ได้ทั้งรส เค็ม เปรี้ยว เผ็ด กับแผ่นกรอบๆที่เข้ากันดี 🔼 Pupa ขนมจีบบะกุ๊ดเต๋หมู ด้านนอกเป็นฟองเต้าหู้ ไส้หมู แปะทองคำเปลวด้านบนสวยๆ ใบชะพลูที่ด้านบนโรยด้วย พิตาชิโอ กระเทียมเจียว และเซียงจา(บ๊วยแผ่นที่บดมาละเอียด) เวลาทานให้หยิบขนมจีบห่อกับใบชะพลู ทานรวมกันคำเดียว ไม่ควรกัดคำแยก เพราะน้ำจะออกมา ความรู้สึกเหมือนทานเกี๊ยวหมูน้ำ มีน้ำซุปหวานหอมกลมกล่อมตอนที่เรากัดขนมจีบ และเหมือนได้ทานผักปรุงรสด้วยกระเทียมเจียวและหวานๆมันๆจากบ๊วยและถั่ว ก็อร่อยดีค่ะ ###Appetizer### ⬆️ Ride The Wave เป็นการรวมตัวของซีฟู้ดที่มีทั้งหอยนางรม หอยเชลล์ ปลาหมึก และปลา ท็อปด้วยพาเมซานชีส และมอสซาเรนล่าชีส มีต้นกระเทียมทอดกรอบและไข่ปลาแซลมอนเพิ่มความสวยงาม ส่วนเม็ดสีชมพูจะตกแต่งมาเฉยๆทานไม่ได้นะ เข้มข้นอร่อยมาก คือได้ความนุ่มหนุบ ชีสรสหอมๆมันๆ มีรสเค็มนิดๆ คือลงตัวอร่อยมากค่ะ มีอีกสักฝามั้ย😅 ⬆️ Honey Trap รังผึ้งหลวง ที่มีตัวอ่อนด้วย ด้านล่างทำจากมะม่วงสุกและเสาวรส เชฟมีมาราดสุราบนรังผึ้งไป 1 ช้อน ซึ่งกลั่นจากมะขามป้อม และเกสรดอกมะพร้าว เพื่อเพิ่มรสขมและหวานหอม จานนี้ เชฟนิคออกมาอธิบายด้วยตัวเองค่ะ เวลาทาน เราควรรวบทั้งหมดตักทานคำเดียว เพื่อให้้เราได้ความเย็นก่อน ต่อด้วยความหนุบ ต่อด้วยรสหวาน รสเปรี้ยว รสเค็มนิดๆจากตัวอ่อน และขมตอนจบค่ะ ถึงจะมีคำเดียว แต่ครบรสเลยค่ะ ⬆️ Habitat ซี่โครงหมูไปซูวีแล้วจุ่มกับน้ำจิ้มสะเต๊ะก่อนนำไปย่าง เสิร์ฟคู่พีนัทบัตเตอร์ซอสและถั่วพิตาชิโอ ข้างๆมีแตงกวาเคลือบอาจาด ดอกไม้ทานได้แต่ยกเว้นเกสร ซี่โครงหมูนุ่มมาก น้ำจิ้มสะเต๊ะก็หอมๆเข้มข้นดี ซอสข้นๆเปรี้ยวหน่อยเพิ่มรสชาติมากขึ้น ส่วนดอกไม้ เราลองมาชิมสักกลีบ แอบขมจังเลย เลยไม่ทานค่ะ ###Salad### 🥗 Firework สลัดผลไม้แนวมัลเบอร์รี่ รอบๆเป็นซอส 3 สี มีซอสใบเตย ส้ม และบีทรูท โรยด้วย Popping Candy หรือผงเป๊าะแป๊ะ ผลไม้รสเปรี้ยวๆหวาน กับซอสที่ได้ทั้ง รสหวานจากใบเตย รสเปรี้ยวจากส้ม และรสเค็มจากบีทรูท มีแตกเป๊าะแป๊ะๆในปากสนุกดี ###Soup### 🥣 Muddy Lake ซุปสไตล์ต้มยำที่มีกุ้งลายเสือตัวโตๆ กุ้งเนื้อเด้งหนุบมาก ซุปก็เข้มข้น มีรสเปรี้ยวต้มยำอร่อยเข้มข้นหอมๆดี ในระหว่างที่รออาหารจานหลัก พนักงานก็จะมาเชิญไปดูหิ่งห้อย ซึ่งหิ่งห้อยจะอยู่ในห้องชมหิ่งห้อย พอเข้ามา เราก็จะเห็นแสงระยิบระยับสวยงาม สามารถถ่ายรูปได้ แต่ห้ามใช้แฟลช ซึ่งจะมีโซฟาให้เรานั่งดื่มด่ำชมหิ่งห้อยด้วยค่ะ ###Main### 🍱 Lavagyu เมนูนี้ต้องเพิ่มราคาอีก 600++ บาท เป็นเนื้อเทนเดอลอยด์ ความสุกแบบmedium rare ทำมาสไตล์เสือร้องไห้ มีผักชีฝรั่งคลุกกับเฟตต้าชีส เาิร์ฟพร้อมซอส 2 แบบ มี ต้มแซ่บมาเปผ้นถ้วย ส่วนซอสแจ่วจะใส่มาเล็กน้อยในจาน( 3 จุด) เนื้อเทนเดอลอยด์ สีแดงสวยงามน่าทาน เนื้อนุ่มมาก อร่อยละมันลิ้น ซอสต้มแซ่บ เข้มข้นหอมอร่อยถูกใจ กับซอสแจ่ว ก็เปรี้ยวๆเค็มๆ เข้มข้นอีกเช่นกัน ###Dessert### 🧁 Fallen Angel เสิร์ฟมาเป็นโดมสวยๆ ไอเดียมาจากลอดช่องน้ำกะทิ ทำจากแป้งใบเตย โดมไวท์ช๊อคโกแลต มีมูสเมล่อน เมอแรงเลม่อน และ ซอสกะทิค่ะ โดมนุ่มๆ ตัดไปด้านในจะเจอลอดช่องน้ำกะทิที่มาแบบเย็นๆเหมือนทานไอศกรีม รสหอมหวานมัน มีเค็มนิดๆจากซอสรอบๆ ทุกอย่างหอมและเข้ากันได้ดี 🧁 Terra เปียกปูนที่ทำหน้าตาเหมือนโมจิ ด้านนอกเป็นไวท์ช็อคโกแลต ไส้เป็นชาร์โคลล์ เสิร์ฟพร้อมครัมเบิ้ลงาดำ กับไปด้านในจะนุ่มๆหวานหอม กับครัมเบิ้ลที่มีรสเค็มเบาๆ จานนี้จึงได้รสหวานๆเค็มๆค่ะ และที่เสิร์ฟมาคู่กัน เหมือนไส้กรอกปิ้งเลย😁 มีควันพวยพุ่งสวยๆ คือไอศกรีมแท่งแบบโบราณ เป็นรสฝรั่งแช่บ๊วย เปรี้ยวๆหวานๆ ทานแล้วสดชื่นดีค่ะ ###เครื่องดื่ม### 🍹'Fai' (FIRE) "ไฟในชีวิต" รสชาติของค็อกเทล "ไฟ" ตัวนี้ที่สร้างขึ้นมาจากแนวคิดที่คอนทราสต์กัน ระหว่างไฟร้อนแรงที่แผดเผาทุกอย่างที่เข้าใกล้ และความอบอุ่นละมุนที่ไฟมอบให้กับทุกชีวิต เครื่องดื่มแห่งธีม LIFE นี้จึงพิเศษ เพราะให้ทั้งความร้อนและอ่อนโยนไปพร้อมๆกัน แต่เราสั่งแบบม็อคเทล จึงมีส่วนผสมของ ขิง แอ๊ปเปิ้ลเขียว และไข่ขาว เสิร์ฟพร้อมเชอร์รี่ รสชาติเปรี้ยวๆหวานๆ สดชื่นดีค่ะ ควรรีบทาน เพราะทิ้งไว้นานไข่ขาวจะแข็งตัวและอาจจะคาวได้ค่ะ เป็นมื้อที่จบด้วยความประทับใจค่ะ ได้เข้าถึงความเป็นธรรมชาติ มองเห็นแสงระยิบระยับของหิ่งห้อยที่ทำให้เราได้อมยิ้มมองเวลาที่มันบินไปมา ได้รับรสอาหารที่แม้จะคืออาหารไทยที่เราคุ้นเคย แต่เราก็ทำให้ความรู้สึกต่างจากแค่อาหารไทยธรรมดาได้ สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อสำรองที่นั่ง โทร. 091-979-6226 เพิ่มเติมSudarath Poonlarppanich 226 ผู้ติดตาม
- รู้จักร้านนี้เพราะดูรายการ the next iron chef ซึ่งเชฟออฟผู้ชนะรายการทำงานอยู่ ร้านนี้จะเปิดร้านแค่ 18 เดือน และหมุนเวียนคอรสห้าแบบด้วยกัน คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ และไฟนอล ซึ่งตอนนี้มาถึงคอรสไฟ ซึ่งเป็นคอรสรองสุดท้ายแล้ว อาหารเป็นแบบ fine dining ราคาสูง เมื่อมาถึงร้านก้อจะมี welcome drink ให้ จากนั้นก้อเป็น amuse bouche สำหรีบวันนี้คือ ignite เป็นฟรุทชัทนีย์และแป้งปาปาดัม กินคู่กับซุปมันหวานใส่ขิงโปะโฟมเบคอน จานนี้ดีมากกินแยกเฉยๆ พอกินด้วยกันเท่านั้นละ รสชาติเข้ากันพอดี ในปากนี่อบอวลด้วยกลิ่นเบคอน ฟินนน ต่อมาคือ sunbath เนื้อวางบนหินร้อน กินกับซอสเต้าหู้ยี้ เนื้อนุ่มมาก รสชาติจืด แต่พอกินกับซอสเหมือนช่วยดึงรสชาติออกมาให้ลึกล้ำมากขึ้น aurora มันคือการ reconstruction จับฉ่าย โดยที่เอาหมูสามชั้นไปซูวี และนำซุปจับฉ่ายผักใบเขียวไปปั่นเติมครีมเข้าไปเพื่อลดความขม ไอเดียดีค่ะ (ลืมถ่ายรูปตอนรินซุปลงไปค่ะ) จานเด็ดสุดของคอรสนี้คือจานที่เชฟออฟชนะเลิศจากโจทย์ความคิดสร้างสรรค์ เบอรเกอรเนื้อที่ไม่ใช้ขนมปังมาทำบัน แต่นำเอาเห็ดพอรททาเบลโลมาใช้แทน เนื้อ 80/20 กินกับซุปหัวหอมคาราเมลไลซ ยูเอสชีส มันเข้มข้นมาก พอกินกับมะเขือย่าง ก้อจะทำให้รสชาติสดชื่นขึ้น เบบี้คอรนแบบเมกซิโกก้อรสชาตินุ่มนวล หอมมาก จานนี้สำหรับเราคือตายไปเลย rising sun มันคือบิงซูเฉาก๊วยโรยด้วยเกล็ดกุหลาบ รสชาติบิงซูนมเหมือนทั่วๆไป เฉาก๊วยนุ่ม รสสัมผัสต่างจากตามท้องตลาดอาจเป็นเพราะทำทรงกลมมา ส่วนเกล็ดกุหลาบไม่ค่อยได้กลิ่นค่ะ ตอนนี้ทุกจานยังหากินได้ในคอรสไฟนะคะ ยกเว้นจานเบอรเกอรที่ไม่มีในคอรสไฟค่ะ ปอลอ ลานจอดรถกว้างขวางค่ะ แต่มืดมาก เพิ่มเติมSirinun Kongkijthavorn 9 ผู้ติดตาม
- ป ชวนขิม : Wanghinghoi วังหิ่งห้อย - เรื่องราว ประทับใจของเปลวไฟ ในวังหิ่งห้อย อาหาร : 9-course menu theme "spirit of fire" Welcone drink : กระเจี๊ยบ+แอปเปิ้ล+พีช - หวานนำเปรี้ยวนิดๆ หอมเย็น สดชื่นมากๆ ขนมปังบีทรูท กับแยมสตรอเบอรี่สด ขนมปังหอมมาก นุ่มใน นอกเกรียมนิดๆ อุ่นๆกำลังดี แต่ถ้าเป็นเนยจะฟินนกว่านี้ ตัวสตรอเบอรี่เหมือนสตรอปั่น ออกเหลวๆนิดนึง เหมาะกับการซด แหม่ เกรงใจง่ะ Amuse bouche : Ignite - ผลไม้แห้งโรยบนข้าวเกรียบรสเห็ดของอินเดีย เสิร์ฟพร้อมซุปขิงมันม่วงและโฟมเบคอน ซุปออกหวานๆแต่มีรสเบคอนและขิง โฟมออกมันๆนิดนึง poppadom บางกรุบกรอบ มีรสเห็ดเค็มปะแล่มๆนิดๆ ผลไม้แห้งออกหวานรสลูกเกดนำ แปลกดี จะว่าชอบก็ไม่ใช่ ไม่ชอบก็ไม่เชิง 55 มันก้ำกึ่งอะนะ Awake - หอยนางรมหมักด้วยส้มยูสุ ราดซอสฮอลันเดส เสิร์ฟพร้อม บลูเบอรี่กับ หอมแดง และคาร์เวียร์ อันนี้รสฝรั่งๆ หอยหวานสดอมเปรี้ยวนัวร์ๆ กินแล้วเย็นชื่นใจ Appetizer : Ashes - ปลาสลิดทอดกรอบ Salsa มะเขือเทศ และ เจลลี่ถ่านที่ทำมาจากน้ำยำ คลุกเคล้ากันก่อนกิน ว้าย อร่อยว่ะ ออกเป็นยำปลาสลิดนัวร์ๆน่ะ ชอบเจลลี่เย็นๆที่กัดแล้วมีรสเปรี้ยวตามด้วยเผ็ดติดปลายลิ้น ชุ่มลิ้น กินแล้วได้อารมณ์รักโลภโกรธเกลียดมากๆ .. อ้าว เปล่าโกรธเกลียดนะ แต่ภาษาพาไป 55 จานนี้รักเลย Sun bath - เนื้อส่วน striploin ย่างราดเหล้าดอกไม้ ชื่อ หมาใจดำ และ ซอสพริกที่มีถั่วเป็นส่วนประกอบ ซอสเหมือนสุกี้แต่มีความมันถั่ว น่าจะเป็นสุกี้เผ็ดร้อนบวกกะน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะที่ถั่วเนียนๆ เนื้อกริลล์บนหินร้อนฉ่า เนื้อนุ่ม อร่อยมาก เข้ากันกะซอส อยากกินอีกๆ จานนี้เอาใจไปเต็มร้อย Soup : Aurora - ซุปผักกับหมูสามชั้น ฟองเต้าหู้ทอด และ บร็อคคอลี่ เขาว่ามันคือต้มจับฉ่าย แบบหรูนั่นเอง กิ๊บเก๋มากค่ะเชฟ รสชาติ มันเนย ซุปน้ำออกใสไม่ข้นมาก จืดๆหน่อย หมูนุ่มมากถึงมากที่สุด ละลายในปากได้เลย ผักเขียวกรุบกรอบอร่อยเลยแหละ Salad : Firework - น้ำผลไม้อัดลม กับ มอคเทลเหล้ารัม มะพร้าว และสับปะรด กับ ลูกอมเม็ดเล็กๆละเอียดมาเทด้านบน เหมือนดอกไม้ไฟ จานนี้โคตรอร่อยยยย เนื้อมอคเทลข้นๆด้านล่างหอมมัน หยดๆสีๆที่กระจายเหมือนท้อฟฟี่หวานมันเข้มข้น เมนูนี้เป็นที่สุดของที่สุด อร่อยม๊ากๆ เข้ากะผลไม้เปรี้ยวๆหวานๆ หลงรักตรง texture กรุบๆของลูกอมที่ราดผสมมาด้านบนนี่ละ เอาอีกๆๆ น้ำแข็งใส พีชกับพริกชี้ฟ้า ล้างปากก่อนเข้า main course อันนี้หวานๆเปรี้ยวนิดๆออกหนึบๆยางๆหน่อย สดชื่นเหมือนยืนอยู่บนเนินเขา Main : มีให้เลือก 3 อย่าง Rage - เนื้อส่วน tenderloin เสิร์ฟกับ harsh brown และซอสแบบจีน Inferno - ปลาคังผัดฉ่า กับ ข้าวริซอตโต้ กุ้งแม่น้ำกับซอสมะขามและข้าวผัด เลือกเนื้อ ก็สายเนื้อเข้ากระดูกดำนี่นะ เนื้อดีสุดๆ นุ่มนวลละลายในปาก น้ำราดเป็นน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวน้ำตกเข้มข้นอร่อยมาก เข้ากะเส้นหมี่เหลืองกรอบด้านล่าง ไม่ต้องปรุงก็เริ่ด จานนี้ประทับใจจอร์จมากค่ะคุณ Dessert : ไอศครีมข้าวหมากใส่ซอสลำไย มันคือ ข้าวเหนียวเปีนกลำไยนั่นเอง เก๋อีกแล้ววว ลำไยแห้งข้างบน ไม่แห้งมากนะ หนึบอร่อยมีความสดอยู่ ไอติมถ้าไม่ข้าวหมากน่าจะดี เหมือนข้าวเหนียวกะทิแต่พอเป็นข้าวหมากจะอมเปรี้ยวและมีความเหล้าจางๆ Rising sun - บิงซูนมใส่ jelly เฉาก๊วยด้านบนและ โรยเกล็ด กุหลาบ แรงบันดาลใจอันนี้คือภูเขาไฟฟูจีที่มีดอกซากุระร่วงหล่นลงมา เฉาก๊วยเหนียวหนึบ มีความแป้งเยอะไปหน่อย บิงซูนมหอมมันหวานกำลังดีเนื้อเป็นเกล็บหยาบแต่นุ่ม เกล็ดกุหลาบไม่ค่อยรู้สึกแตกต่าง โดยรวมเย็นเฉียบ รสชาติใช้ได้ ชั้นไม่ใช่สายบิงซู สถานที่ : ตรง RCA เข้าถนนคู่ขนานกับเพชรบุรีตัดใหม่ น่าจะเป็นถนนกำแพงเพชร 7 เลี้ยวเข้าร้านเลย ที่จอดรถเพียบๆ หน้าร้านเป็นทางเข้าแบบกำแพงดินธรรมชาติ มีบานประตูหินใหญ่ๆ เปิดเข้าร้าน ชอบหน้าร้านตรงทางเข้า ตอนเย็นให้ความรู้สึกแบบนึง ตอนค่ำๆเปิดแสงสีโทนแดง เเหมือนเพลิงลาวา ตัดกับสีฟ้าของร้านอยู่ในโทนดาร์ค ตกแต่งเท่ๆ กลิ่นหอมพันธุ์ไม้หอมตลบอบอวน ชอบอะ โต๊ะนั่งหลวมๆ ตรงกลางเป็นสวนกระจกแบบหลังคาเปิดมีผ้าดำบางๆกั้นแสงบางส่วน ให้ 9 ด้วยความชอบส่วนตัว หักคะแนนการเดินจากโต๊ะไปเข้าห้องมืดดูหิ่งห้อยนะ หิ่งห้อยน่ะเยอะ สวยด้วย แต่ถ้าอยู่ตรงสวนกระจกกลางร้าน จะฟินนระดับ 10 บริการ - ดีเยี่ยม แทบอุ้มไปนั่งเก้าอี้ เป็นกันเอง อธิบายแต่ละเมนูอย่างแจ่ม ให้ 10 ตอนกลับแจกของที่ระลึกด้วย ชอบอะ ราคา : 2890+ บาท แพงอะ แต่ถ้าถามความคุ้ม ราคานี้ = การนำเสนอ + สถานที่ + วัตถุดิบดีๆ กับ การจัดจาน และ บริการระดับมิชลิน + แถมดูหิ่งห้อยเพียบๆ ที่เลี้ยงใน environment กึ่งธรรมชาติ ถือว่าโอเคเลย ให้ 8.5 ท้ายนี้ ฝากเฟสบุ้คพี่ ป ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยจ้า https://www.facebook.com/porchanchim/ เพิ่มเติมPek Kool 179 ผู้ติดตาม
- Thanasthorn Paisaranvisavadecho 18 ผู้ติดตามแอบไป Dinner มาทั้งอร่อย บรรยากาศเรียกว่าดีย์ มีหิ่งห้อยในร้านด้วย มาใน Concept ป่าใจกลางกรุงย่าน RCA เปิดเพียง 18 เดือนเท่านั้นนะ Wanghinghoi โดยแต่ละช่วงจะมีอาหารจะเป็นธีม ดิน น้ำ ลม ไฟ ธีมที่ไปลองคือน้ำ เรื่องราคาไม่ต้องพูดถึง เพราะที่นี่เสริฟเป็นคอร์ส เริ่มตั้งแต่ 4 คอรส์ ราคา2000++ เชฟได้รางวัลมากมาย ร้านนี้เหมาะกับมาดินเนอร์กับสามีมาก ใครจะขอใครแต่งงานแนะนำเลยค่ะ♥️♥️♥️♥️ #Retrest เพิ่มเติม
- " เด็กน้อยได้ยินเรื่องราวกล่าวขานมานาน หากใครได้จับหิ่งห้อยมาเก็บเอาไว้ใต้หมอน นอนคืนนั้นจะฝันดีฝันเห็นดวงดาวมากมายฝันเห็นเจ้าชายเจ้าหญิงฝันแสนสวยงาม" พอได้มาเหยียบร้านวังหิ่งห้อยร้านนี้แล้วคิดถึงเพลงของวงเฉลียงเพลงนี้ขึ้นมาทันที พอจอดรถเสร็จก็จะมีพนักงานมายืนต้อนรับอยู่หน้าร้านค้าเข้ามาในร้านวังหิ่งห้อยแห่งนี้ การเดินเข้าตกแต่งด้วยกำแพงดินที่มาจาก 3 แหล่งในประเทศไทยดูอลังการสวยงาม จะมีพนักงานรีเซฟชั่นคอยอธิบายเรื่องราวของร้านตลอดการเดินทางเข้าไปสู่โต๊ะทานอาหาร ทางร้านจะปลูกต้นไม้กลางร้านให้ดูลักษณะเหมือนเราทานอาหารใกล้ชิดกับธรรมชาติมากที่สุดที่กรุงเทพสามารถทำได้ ช่วงนี้ยังเป็นช่วง soft opening ของทางร้านอยู่ แต่ทุกอย่างก็ดูลงตัวเหมาะสำหรับเป็นดินเนอร์สำหรับโอกาสพิเศษต่างๆได้อย่างดี เดินเข้าไปถึงห้องสุดท้ายจะเป็นห้องมืดมองออกไปด้านนอกจะมีหิ่งห้อยมากมายหลากหลายสายพันธุ์ส่องแสงระยิบระยับกันเสียดายถ่ายรูปมาไม่ได้ ร้านตกแต่งโดยใช้ไม้ที่มีกลิ่นหอมสะท้อนให้เหมือนกับธรรมชาติ มีดนตรีสดๆเบาๆให้ฟังเคล้า dinnerชิลดีมาก Concept ขออาหารร้านนี้จะเป็นธาตุดิน น้ำ ไฟ และจะเปลี่ยนไปทุก 4 เดือนวันนี้มา Concept ของอาหารจะเป็นธาตุดิน เชฟนิคเชฟหนุ่มไฟแรงที่มีจินตนาการและเชี่ยวชาญในการทำอาหารฝรั่ง จากร้านอาหารชื่อดังและเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่อเมริกา นำมาผสมผสานกับทีมงานเชฟอ้นและเชฟออฟ จนกลายเป็นอาหารสไตล์ Thai twist ที่ลงตัว ทางร้านจะเสิร์ฟอาหารเป็นคอร์ส ทางทีมchefจะเลือกสรรเมนู ตั้งแต่เมนูแรกถึงของหวานเมนูสุดท้ายจากขอนไม้สู่พื้นดิน เปิดประสาทรับรถในปากและปรับเมนูให้สมดุลกับเมนูต่างๆ อาหารเรียกน้ำย่อยแต่เสิร์ฟมาขอนไม้ตกแต่งได้สวยงาม ทางร้านดัดแปลงหมูสะเต๊ะมาเป็น ซี่โครงหมูที่ใช้หมูที่เลี้ยงอย่างอิสระหรือที่ผมชอบเรียกว่าหมู happyมาซูวี ซ๊อสและอาจาดนำเสนอมาได้น่าสนใจดีมาก ต้มยำกุ้งที่ทางร้านใช้ Tiger porn ย่างมาสุกกำลังดีแต่ไม่ถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ได้อรรถรสของเนื้อกุ้งที่สดอร่อย น้ำต้มยำทำเหมือนกับซุปล็อบสเตอร์บิสของฝรั่ง แต่ยังคงทั้งกลิ่นหอมของเครื่องเทศไทยและรสชาติที่เข้มข้นจัดจ้านกำลังดี ยำส้มโอและซอเบร์ที่ทำจากมะละกอ มัลเบอรี่เอามาล้างปากก่อนจะทานเมนคอร์ส ปลากระพงเสี่ยมาอย่างดีเนื้อหวานสดอร่อยเสิร์ฟมาคู่กับซอสฉู่ฉี่รสชาติอ่อนๆ เป็ดคอนฟีที่ด้านนอกหนังกรอบแต่ด้านในเนื้อนุ่ม #Rettysea เพิ่มเติมภาคภูมิ สุวรรณเตมีย์ 1093 ผู้ติดตาม
- วังหิ่งห้อย (Wang Hinghoi) ร้านอาหารFine Dining ที่มี Concept อาหารเป็น Modern Thai และเปิดให้คนได้ลิ้มลองอาหารแค่ 18 เดือนเท่านั้น ตามอายุชีวิตหิ่งห้อย โดย 2 เดือนแรกจะเป็น Soft Opening และหลังจากนั้น จะเสิร์ฟอาหาร Modern Thai ตามธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม และไฟ โดยแบ่งเป็นธาตุละ 4 เดือน ซึ่งแต่ละธาตุ เชฟนิค-ณัฏฐพล ภวไพบูลย์ก็จะรังสรรค์เมนูขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ไม่ซ้ำกัน ผมมาในช่วงของธาตุดิน เริ่มจาก 🔹 Welcome Drink “Anchan Ale” ที่เป็นน้ำดอกอัญชัญ ผสม Ginger Ale สปาร์คกลิ้งรสเบาๆ ก่อนมื้ออาหาร 🔹 Amuse Bouche เป็น Appetite ที่เสิร์ฟมาบนขอนไม้ ตาม concept ธาตุดิน โดยเซ็ตนี้จะประกอบไปด้วย “ทะเลอบ” เสิร์ฟมาบนเปลือกหอย โรยหน้าด้วยคราเวียร์ “เมี่ยงคำ” ที่เสิร์ฟมาบนกลีบบัว รสชาตินวลครบรส “ลาบดิบ” ที่รองมาด้วยเเผือกทอด “ปาเต้ตับไก่” (แต่ผมไม่ทานตับ ทางร้านเลยเปลี่ยนเป็น “แคปหมู น้ำพริกหนุ่ม” มาให้แทน) 🔹 Pork Spare Ribs Satay (ซี่โครงหมูสะเต๊ะ) ที่ทางร้านนำมา Sous vide นานถึง 48ชั่วโมง กลิ่นหอม นุ่ม และเข้าเนื้อดีมากๆ ทานคู่กับซอสถั่วพิตาซิโอ ที่บดมาละเอียด และกระเทียมย่าง พร้อมด้วยแตงกวาดอง และเมล็ดทับทิม 🔹 Tom Yum Koong (ต้มยำกุ้ง) เมนูชื่อพื้นๆ หาทานง่ายๆ ทั่วไป เลยทำอยากรู้ว่าเชฟจะทำออกมารูปแบบไหน เชฟใช้กุ้งลายเสือตัวใหญ่ สด เนื้อแน่น มาวาง พร้อมกับครีม เห็ด และมะเขือเทศเชอร์รี่ แล้วค่อยราดตามด้วยน้ำซุป ที่นำเอาต้มยำกุ้งมาปั่นรวมกันจนละเอียด แบะ simmerจนได้เป็นซุปข้น ทำให้นึกถึงเมนู Lobster Bisque เลย เมนูนี้อร่อย เข้มข้นมากๆ ครับ 🔹 Pomelo Salad (ยำส้มโอ) ที่นำส้มโอ 2 สายพันธ์มาใช้เพื่อ ให้เกิดสีสัน และความแตกต่างในรสชาติ เปรี้ยว เผ็ดบางๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับสตอร์เบอร์รี่ และบลูเบอร์รี่ 🔹 ตะลิงปลิง Sorbet ที่ทางร้านเสิร์ฟเพื่อล้างปากก่อน main course เปรี้ยวมากกกกกกกกกกก เปรี้ยวจริงๆจังครับ ขนาดแค่ตอนนึกถึง น้ำลายยังสอเต็มปากอยู่เลยครับ 🔹 Main Course สามารถเลือกได้ว่าจะเป็น “แกงเผ็ดเป็ดย่าง” หน้าตาจะคล้ายๆ Duck Confit, “ฉู่ฉี่ปลากระพง” และ Grilled Wagyu Steak (+900 บาท) ผมเลือกเป็น Grilled Waguy Steak ชิ้นขนาด 150-200 กรัมได้ครับ เนื้อเป็นเนื้อจาก Tajimaประเทศญี่ปุ่น ซอสแจ่วนะคล้ายซอสพริกมากๆ 🔹 ขนมเปียกปูน เมนูปิดท้ายด้วยความเป็นไทยที่นำขนมเปียกปูนเน้อนุ่ม มาเคลือบด้วย White Chocolate ของ Valrhona ส่วนตัว Crumble เป็น Coconut Charcoal พร้อมบลูเบอร์รี่ และทับทิบครับ 🔹 Chilli Margarita เครื่องดื่มปิดท้ายเป็น Compliment ให้พิเศษ เปรี้ยวๆ หวานๆ ทานง่าย แต่แก้วนี้ได้พริกสด ที่ช่วยเพิ่มความเผ็ดร้อนขึ้นอีกเยอะเลยครับ เพิ่มเติมDanai Suphaluxana 423 ผู้ติดตาม
ร้านอาหารบริเวณใกล้เคียง
- เชฟซ้ง Chef Zong 曼谷最好的街头食品 เพชรบุรี, ฟาสต์ฟู้ด
- โดนาเบะ เพชรบุรี, ชาบู/สุกี้/หม้อไฟ
- ซวงตี้ สุกี้เสฉวน เพชรบุรี, ชาบู/สุกี้/หม้อไฟ
- น้ำเต้าหู้ พระราม 9 เพชรบุรี, ชานมไข่มุก
- ปุ๊ เย็นตาโฟ RCA พระราม9 เพชรบุรี, เมนูเส้น
- กินยำตำลาว เพชรบุรี, ยำ
- Fire Diamond Hotpot พระราม 9, บุฟเฟ่ต์
- ก๋วยเตี๋ยวเรือนรกแตก สาขา RCA รัชดา・ห้วยขวาง, ก๋วยเตี๋ยวเรือ
- Khao Yai Calm Cafe at RCA เพชรบุรี, กาแฟ
- ชัยโภชนา เฮียฮั้ว เพชรบุรี, ข้าวหมูแดง/หมูกรอบ
- Sawatdee Chinese Restaurant เพชรบุรี, อาหารจีน
- HA WA RACHA KHAO MOK KAI เพชรบุรี, อาหารจานเดียว
- เดอะ บีสต์ เพชรบุรี, ภัตตาคาร
- อาหารตามสั่งน้องจีจี้ เพชรบุรี, อาหารตามสั่ง
บริเวณใกล้เคียง
ประเภทอาหารที่คล้ายกัน
ค้นพบร้านอาหารแนะนำ
