" เด็กน้อยได้ยินเรื่องราวกล่าวขานมานาน หากใครได้จับหิ่งห้อยมาเก็บเอาไว้ใต้หมอน นอนคืนนั้นจะฝันดีฝันเห็นดวงดาวมากมายฝันเห็นเจ้าชายเจ้าหญิงฝันแสนสวยงาม" พอได้มาเหยียบร้านวังหิ่งห้อยร้านนี้แล้วคิดถึงเพลงของวงเฉลียงเพลงนี้ขึ้นมาทันที พอจอดรถเสร็จก็จะมีพนักงานมายืนต้อนรับอยู่หน้าร้านค้าเข้ามาในร้านวังหิ่งห้อยแห่งนี้ การเดินเข้าตกแต่งด้วยกำแพงดินที่มาจาก 3 แหล่งในประเทศไทยดูอลังการสวยงาม จะมีพนักงานรีเซฟชั่นคอยอธิบายเรื่องราวของร้านตลอดการเดินทางเข้าไปสู่โต๊ะทานอาหาร ทางร้านจะปลูกต้นไม้กลางร้านให้ดูลักษณะเหมือนเราทานอาหารใกล้ชิดกับธรรมชาติมากที่สุดที่กรุงเทพสามารถทำได้ ช่วงนี้ยังเป็นช่วง soft opening ของทางร้านอยู่ แต่ทุกอย่างก็ดูลงตัวเหมาะสำหรับเป็นดินเนอร์สำหรับโอกาสพิเศษต่างๆได้อย่างดี เดินเข้าไปถึงห้องสุดท้ายจะเป็นห้องมืดมองออกไปด้านนอกจะมีหิ่งห้อยมากมายหลากหลายสายพันธุ์ส่องแสงระยิบระยับกันเสียดายถ่ายรูปมาไม่ได้ ร้านตกแต่งโดยใช้ไม้ที่มีกลิ่นหอมสะท้อนให้เหมือนกับธรรมชาติ มีดนตรีสดๆเบาๆให้ฟังเคล้า dinnerชิลดีมาก Concept ขออาหารร้านนี้จะเป็นธาตุดิน น้ำ ไฟ และจะเปลี่ยนไปทุก 4 เดือนวันนี้มา Concept ของอาหารจะเป็นธาตุดิน เชฟนิคเชฟหนุ่มไฟแรงที่มีจินตนาการและเชี่ยวชาญในการทำอาหารฝรั่ง จากร้านอาหารชื่อดังและเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่อเมริกา นำมาผสมผสานกับทีมงานเชฟอ้นและเชฟออฟ จนกลายเป็นอาหารสไตล์ Thai twist ที่ลงตัว ทางร้านจะเสิร์ฟอาหารเป็นคอร์ส ทางทีมchefจะเลือกสรรเมนู ตั้งแต่เมนูแรกถึงของหวานเมนูสุดท้ายจากขอนไม้สู่พื้นดิน เปิดประสาทรับรถในปากและปรับเมนูให้สมดุลกับเมนูต่างๆ อาหารเรียกน้ำย่อยแต่เสิร์ฟมาขอนไม้ตกแต่งได้สวยงาม ทางร้านดัดแปลงหมูสะเต๊ะมาเป็น ซี่โครงหมูที่ใช้หมูที่เลี้ยงอย่างอิสระหรือที่ผมชอบเรียกว่าหมู happyมาซูวี ซ๊อสและอาจาดนำเสนอมาได้น่าสนใจดีมาก ต้มยำกุ้งที่ทางร้านใช้ Tiger porn ย่างมาสุกกำลังดีแต่ไม่ถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ได้อรรถรสของเนื้อกุ้งที่สดอร่อย น้ำต้มยำทำเหมือนกับซุปล็อบสเตอร์บิสของฝรั่ง แต่ยังคงทั้งกลิ่นหอมของเครื่องเทศไทยและรสชาติที่เข้มข้นจัดจ้านกำลังดี ยำส้มโอและซอเบร์ที่ทำจากมะละกอ มัลเบอรี่เอามาล้างปากก่อนจะทานเมนคอร์ส ปลากระพงเสี่ยมาอย่างดีเนื้อหวานสดอร่อยเสิร์ฟมาคู่กับซอสฉู่ฉี่รสชาติอ่อนๆ เป็ดคอนฟีที่ด้านนอกหนังกรอบแต่ด้านในเนื้อนุ่ม #Rettysea