แสตนทอลล์ คอฟฟี่

มื้อกลางวัน

#Dec2018 ในฐานะคนติดคาเฟอีนที่หลงใหลในกลิ่นรสของกาแฟ ก็ต้องขอบคุณกระแส Third Wave Coffee ที่ก่อให้เกิดร้านกาแฟ Specialty coffee shops และ Micro Roasters ขึ้นมากมาย แม้แต่ทำเลใกล้ชายหาดบางแสนที่ดูเผินๆเหมือนจะมีแต่ร้านที่ค่อนข้าง Touristy ก็ยังมีร้านเล็กๆของเหล่าบาริสต้าที่เชี่ยวชาญเรื่องกาแฟอย่างแท้จริงอย่าง Standtall Coffee ให้เราได้แวะไปรื่นรมย์กับหลากหลายเมนูกาแฟกันค่ะ ****-เมล็ดกาแฟ-**** ที่นี่นำกาแฟ Single Origin จากหลายแหล่ง หลายสายพันธุ์มาคั่วเอง โดยเลือกที่จะคั่วในระดับ Medium Roast เพื่อรักษาสมดุลระหว่าง Acidity และความหวานของเมล็ดกาแฟไว้ เมื่อคั่วเสร็จบาริสต้าก็จะนำแต่ละ batch มาชิมเพื่อปรับวิธีการคั่วให้เหมาะสมที่สุดค่ะ นอกจากจะมีกาแฟ Single Origin ให้เลือกสั่งแล้ว ที่นี่ยังนำเมล็ดกาแฟ Single Origin แต่ละชนิดนั้นมา Blend เอง ได้เป็น Blended Coffee ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของทางร้าน อวดทักษะฝีมือเบลนด์ของเหล่า Barista ได้อย่างน่าลิ้มลองทีเดียว ถ้าสั่งมาชิมที่ร้านแล้วถูกใจก็สามารถซื้อเมล็ดกาแฟของทางร้านกลับไปชงดื่มเองที่บ้านได้ด้วยนะ ****-เทคนิค / วิธีการชง-**** นอกจากจะ “เล่น” กับกลิ่นรสของเมล็ดกาแฟนานาสายพันธุ์แล้ว เรื่องเครื่องไม้เครื่องมือและเทคนิคการชงก็เพียบพร้อมครบครัน ตั้งแต่การชงด้วยเครื่อง Espresso ไปจนถึง Hand Brews ที่มีทั้งการใช้ Aeropress, Pour Over, และ Cold Drip อีกทั้งยังมีการครีเอทเครื่องดื่มแนวกาแฟที่แต่งกลิ่น-ปรุงรสต่างๆ ให้เลือกสั่งด้วย ****-เมนูที่สั่ง-**** ● Single Origin Coffee (ราคา 100 บาท) – กับกาแฟ Single Origin ที่แต่ละชนิดต่างก็มีโปรไฟล์รสชาติของตัวเองซึ่งมีทั้งลักษณะเด่นและลักษณะด้อยตามธรรมชาตินั้น การชงด้วยวิธี Drip ถือเป็นการ play safe ที่สุด ซึ่งทางร้านก็ย่อมมีให้สั่ง แต่ถ้าจะนำมาชงด้วยเครื่อง Espresso ก็ต้องใช้ทักษะของบาริสต้าทั้งการคัดเลือกชนิดของเมล็ดกาแฟและวิธีการคั่ว เพื่อให้กลิ่นรสที่เข้มข้นจากการผ่านความดันสูงนั้นช่วยชูลักษณะเด่นโดยไม่ทำให้มีรสที่ไม่พึงประสงค์ปะปนมาด้วย และยิ่งถ้าคิดจะชงแบบ Espresso แล้วใส่นมด้วย ความท้าทายก็ยิ่งเพิ่มขึ้นอีก ต้องอาศัยบาริสต้าที่มี nose ที่ดีมากทีเดียวนะ ด้วยเหตุที่จริตดั้งเดิมเราชอบกาแฟสายดันมากกว่าดริป กับมาถึงที่ร้านทั้งทีก็ย่อมอยากลองฝีมือบาริสต้าที่นี่ดู เราเลยเลือกสั่ง Single Origin แบบ Espresso + Milk 150 ml. โดยบาริสต้าจะช่วยแนะนำเลือกเมล็ดกาแฟแบบที่เราชอบให้ ใครชอบกาแฟรสชาติแนวไหนบอกได้ ของเราเลือกได้เป็น Ethiopia เสิร์ฟมาในอุณหภูมิกลางๆเกือบๆเย็น ไม่ต้องห่วงเรื่องเติมน้ำตาลแล้วจะไม่ละลาย เพราะรสชาติมาเป๊ะอยู่แล้ว ไม่ควรไปเติมให้เสียสมดุลอีก กลิ่นรสกาแฟหอมชัดเจนมีเอกลักษณ์ ผสานกับรสนมมันๆ ติดเค็มนิดๆ เข้มข้นลงตัวกำลังดี ชิมแล้วต้องชมเลยว่านายแน่มาก ... เป็นแก้วที่ชอบที่สุดของที่สั่งมาลองค่ะ ● Espresso (ราคา 75 บาท) – เป็น Espresso ที่ใช้ Blended Coffee ของทางร้าน ให้กลิ่นรสที่มี Character แตกต่างจากกาแฟเบลนด์ของแบรนด์ใหญ่ๆที่คุ้นเคยกัน รสชาติน่าสนใจทีเดียวค่ะ ● Long Black (ราคา 75 บาท) – Espresso แบบเดิมแต่เพิ่มน้ำจนเต็มแก้ว รสชาติก็จะบางๆลงหน่อยนะ ● Iced Mocha (ราคา 95 บาท) – ลองเครื่องดื่มผสมบ้าง แก้วนี้สัดส่วนกาแฟกับโกโก้กำลังดี ไม่หวานเกินไป อร่อยค่ะ ● Iced Chocolate (ราคา 75 บาท) – ได้รสช็อกโกแลตเข้มข้นได้ใจ แต่แอบหวานไปนิดนึงสำหรับเรานะ ● Banoffie Pie – จิบกาแฟแล้วก็ต้องมีขนมแกล้ม Banoffie Pie ที่นี่ชั้น Chocolate Crumble ด้านล่างค่อนข้างหนา และกล้วยที่ใช้แอบงอมเกินงามไปนิด เลยจะหวานไปหน่อยค่ะ ● Blueberry Cream Cheese Pie – เมนูเบสิก รสชาติธรรมดาทั่วไปนั่นล่ะ โดยรวมแล้วถ้าวัดกันด้วยเรื่องกาแฟบอกได้เลยว่าที่นี่ไม่แพ้ใคร ส่วนขนมคือกลางๆ ไม่ดีไม่แย่ แต่ก็ชอบที่อุตส่าห์มีให้สั่ง (จิบกาแฟแล้วจะไม่มีขนมแกล้มก็ดูจะขาดอะไรไปนะ) ในฐานะที่มี concept เป็นร้านที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านกาแฟ น้ำหนักคะแนนเลยต้องตัดสินที่กาแฟเป็นหลักใหญ่ไว้ก่อน เลยขอให้ 3ดาวเต็มนะคะ