ร้านชาบูสุกี้พรีเมี่ยมร้านดังใน Gaysorn Village ชั้น 3 สำหรับร้านนี้หากใครอยากจะมาทาน แนะนำให้โทรจองล่วงหน้าครับ เพราะบางวันที่ลูกค้าเต็มร้าน อาจจะต้องยืนรอครับ และถือเป็นการจองเวลาเข้าทานไปในตัวครับ บรรยากาศในร้านจะแบ่งเป็นโซนๆครับ ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวอยู่พอสมควรครับ พนักงานจะนำ Course มาให้เราเลือกครับ ซึ่งหลักๆจะมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ และแต่ละแบบก็จะมีความต่างของเมนูอาหารที่จะได้รับประทานแตกต่างกันไป สำหรับวันนี้ผมเลือกทานเป็น Shabu-Shabu Course ซึ่งจะมีให้เลือกย่อยลงไป 3 แบบคือ Oumi-Gyu, Wagyu และ Kurobuta ซึ่งแบบ Oumi-Gyu จะเป็นเนื้อวัวพรีเมี่ยมที่สุดของที่ร้านครับ แต่เนื่องจากมาลองทานครั้งแรก เลยเลือกเป็น Wagyu ราคาที่ 1190 บาทยังไม่รวม Service Charge และ VAT ครับ ในเมนูนี้จะประกอบด้วย 1. Appetizers มีด้วยกัน 2 อย่างซึ่งเป็นเมนูที่ต้องลุ้นว่า แต่ละวันเชฟจะจัดอะไรให้ครับ โดยวันนี้ได้ทานวากิวเบิร์นที่ท๊อปด้วยอูนิและราดซอสสูตรของที่ร้าน เนื้อนุ่มอร่อย หวานเจี๊ยบและได้ความอูมามิเล็กๆจากอูนิ และอีกตัวเป็นแซลมอนทาร์ทาร์ รสชาติออกหวานเปรี้ยวนิดๆ เพิ่มเติมความสดชื่น 2. Meat เนื้อวากิวลายสวยมาเป็นกล่องใหญ่ด้วยกัน และเราไม่ต้องลงมือทำ พนักงานจะเป็นคนทำให้เองครับ โดยจุ่มลงไป และพนักงานจะปาดเนื้อไปมา ประมาณ 7 วินาที และนำมาเสิร์ฟไว้ให้บนจานเลยครับ เนื้อนุ่ม ละลายในปาก ถ้าอยากได้รสชาติ มีน้ำจิ้มอยู่ 3 แบบแล้วแต่ชอบเลยว่าจะจิ้มกับแบบไหน ส่วนตัวชอบจิ้มกับน้ำจิ้มงาขาวเพราะทำให้เนื้อหวานมาก แต่ถ้าแก้เลี่ยนก็จิ้มกับแบบเปรี้ยวและจิ้มไข่ครับ นอกจากนี้มี Side Dish เป็นเต้าหู้สีขาว ที่ราดซอสพอนซึนิดหน่อย แล้วทานครับ อันนี้ผมก็ชอบเช่นกัน 3. Royal Project Vegetables มีทั้งหมด 20 ชนิดด้วยกัน โดยพนักงานจะวนถือมาให้เราเลือก หรือเราจะ Request กับพนักงานได้เลยครับว่าจะทานตัวไหน แนะนำให้เลือกอันที่ชอบก่อนนะครับ เพราะถ้าบอกให้พนักงานใส่ทั้งหมด เราจะได้กินทั้งที่เราชอบและไม่ชอบทั้งหมดเลยครับ ที่ผมชอบเลยจะมีรากไม้ญี่ปุ่น กินแล้วได้ความกรุบๆและหอมๆ และมีฟองเต้าหู้ที่ขอแบบจัดเต็มมากๆ อร่อยจริงๆ ครับ ส่วนผักอื่นๆก็สดดีครับ แต่พอหลังๆเริ่มรู้สึกว่าผักเหี่ยวๆหน่อยๆครับ ส่วนน้ำซุปรสชาติจะออกจืดเลยครับ ต้องใช้เวลาต้มนานมากๆ ถึงจะได้ความหวานจากเนื้อและผัก 4. Meal เป็นเหมือนอาหารปิดท้ายของคาวครับ จะมีอยู่ 2 เมนูย่อย a. Kamaage Udon: โซบะเย็น โดยปกติจะจุ่มลงไปในน้ำสีดำ แต่วันนี้เปลี่ยนเป็นน้ำจิ้มงาขาวที่ออกส้มๆ ปรุงตัวน้ำจิ้มด้วยไช้เท้าขูด สาหร่าย และต้นหอม คนให้เข้ากัน แล้วนำเส้นจิ้มลงไป รสชาติค่อนข้างพอดีครับ ออกเค็มนิดๆ ส่วนเส้นนุ่มอร่อย b. Ochazuke: ข้าวหน้าหมูท๊อปด้วยวาซาบินิดๆ มีสาหร่ายมาให้เติมต่างหาก เติมน้ำซุปลงข้าวแต่พอประมาณแล้วคนให้เข้ากัน และทาน รสชาติดีเลยครับ น้ำซุปจะออกเค็มๆ แบบพอดี 5. Dessert วันนี้ได้ทาน 2 ตัวด้วยกันครับ a. Anmitsu: ขนมโมจิพร้อมถั่วแดงบด ไอศกรีมวานิลลา ด้านล่างมีใส่วุ้นมะพร้าว ราดน้ำเชื่อมที่ทำจากน้ำตาลทรายแดงลงไปที่ตัวโมจิ พร้อมกับรับประทานอย่างอื่นรวมๆกัน รสชาติโมจิจะออกหวานหลังจากราดน้ำเชื่อมลงไป รสสัมผัสกำลังดี นุ่มอร่อย ส่วนอื่นๆก็เสริมความอร่อยให้กับโมจิได้เป็นอย่างดี b. Maccha Parfait: ตัวนี้จะแบ่งเป็น Layer ด้านบนจะมีคุกกี้แผ่นบางเฉียบตกแต่ง และไล่ตั้งแต่ไอศกรีมชาเขียว วิปปิ้ง และไอศกรีมชาเขียวอีกชุดใหญ่ด้านล่าง และถั่วแดงด้านล่างสุด ตัวนี้จะค่อนข้างเลี่ยนหน่อยๆครับ แต่ถ้าทานเรื่อยๆ ก็โอเครอยู่ครับ สำหรับโดยรวมของมื้ออาหารนี้ ถือว่าจุกเลยครับ แนะนำว่าผักไม่ควรสั่งเยอะ เพราะสุดท้ายจะเต็มหม้อเลยครับ เนื้อดีครับ ไม่ต้องติเลย ส่วนอาหารอื่นๆ ถือว่าโอเครครับ การบริการจากพนักงานดีเยี่ยมครับ ตามพนักงานค่อนข้างง่าย โดยเฉพาะขอเพิ่มผัก หรือต้องการเมนูถัดไปครับ ร้านนี้ Pednoii AhHa Recommended ครับ