มื้อเช้า

ถึงแม้ศุกร์เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาจะช่วยเยียวยาให้ความเจ็บปวดทางกายบรรเทาลงไป แต่ความเจ็บปวดทางใจที่ได้จากค่ายนรกหนองตะกรู ยังคงประทับอยู่ในจิตใจของผมไม่จางหาย เพื่อรักษาความบอบช้ำครั้งนี้ ผมจึงต้องออกเดินทางตามหาสุดยอดเมนูขนมหวานที่สามารถเยียวยาได้ทุกสิ่งอีกครั้ง หลังจากไถดูในโลกโซเชี่ยล ผมก็ได้ตัดสินใจที่จะไปลิ้มลองอาหารที่ร้าน Clinton street baking company ที่สยามพารากอน ซึ่งเคลมว่าตัวเองเป็น new york’s number 1 pancake ในฐานะผู้ชื่นชอบแพนเค้กแล้วคงต้องไปลองสักครั้ง เพราะตอนไปนิวยอร์คไม่ได้กินเลย มัวแต่กินชีสเค้ก อีกหนึ่งเหตุผลที่ต้องไปก็คือเลื่อนเฟสไปเจอโปรโมชั่นของแอพ eatigo เข้าพอดี ซึ่งลดราคาถึง 30% แต่ต้องไปกินตอนสองทุ่ม ซึ่งไม่เป็นปัญหาแม้ตอนนี้จะเพิ่งหกโมงกว่าๆก็ตาม เดินห้างไปเรื่อยๆให้ครบหมื่นก้าวก็คงได้เวลาพอดี พื้นที่โฆษณา ตอนนี้ แอพ eatigo มีโปรชวนเพื่อนแล้วได้แต้มสะสมมูลค่า 200 บาท ด้วยนะ ได้ทั้งคนชวนและคนถูกชวน ใครยังไม่มี แอพนี้ ก็ไปโหลดกันดูได้ ผ่านลิ้งค์นี้ http://refer.eatigo.com/eati25l1u-1v8 ตอนสมัครจะมีช่องให้ใส่รหัส ถ้าจะใส่รหัสผมก็ eati25l1u ครับ กลับมารีวิวกันต่อ เมนูที่ผมสั่งวันนี้ มีสองอย่างด้วยกัน ได้แก่ ไข่กวนสไตล์สแปนิข และ บลูเบอร์รี่แพนเค้ก เมนูแรก ไข่กวนสไตล์สแปนิช กับไส้กรอก chorizo ราดชีส monterey jack และ หัวหอมผัดมะเขือเทศ แต่สองอันหลังหมดเลยใส่สลัดมาให้แทน สำหรับเมนูนี้ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากแต่แรก แค่อยากรู้ว่ามันจะสแปนิชยังไง ซึ่งกินจนหมดแล้วยังไม่รู้เหมือนเดิม รสชาติไข่จัดว่าจืด ไส้กรอกรสเหมือนกุนเชียง ชีสก็จืดไปนิด รวมๆแล้วเฉยมาก กลับมากิน ไข่เจียวกุนเชียงที่ไทยคงจะดีกว่า เอาคะแนนไป 5/10 พอ ซึ่งก็คงไม่แปลก เพราะจานเด็ดของที่ร้านคือ chicken&waffles ซึ่งเป็นไก่ทอดวางอยู่บนวาฟเฟิล แต่ผมไม่กินไก่ เลยข้ามลองเมนูนี้แทน เมนูของหวานวันนี้เป็น บลูเบอร์รี่แพนเค้ก เสิร์ฟพร้อม เมเปิ้ล ซอส แพนเค้กที่นี่สัมผัสจะไม่เหมือนร้านอื่นๆเนื่องจากปกติแพนเค้กที่เคยกินจะแบ่งเป็นสองค่าย คือค่ายแพนเค้กฟูนุ่มเช่นของ gram, letao และ ค่ายแพนเค้กแบนแน่นตามปกติ แต่แพนเค้กของร้านนี้จะเป็นแป้งที่ฟูขึ้นมาหนึ่งระดับ อยู่กึ่งกลางระหว่างแพนเค้กปกติกับแบบฟูนุ่ม ซึ่งอาจจะเป็นจุดนี้ที่สร้างความแตกต่างจนได้เป็นอันดับหนึ่งในนิวยอร์ค แต่เนื่องจากผมชอบกินแบบแน่นๆมากกว่า และแบบฟูมากๆก็เคยกินมาแล้ว พอมันฟูขึ้นมาแค่นี้เลยรู้สึกว่าจะฟูไปทำไมนะ รสชาติมันเลยกลางๆไม่สุดสักอย่าง ในส่วนของบลูเบอร์รี่ที่ราดมา น่าจะเป็นบลูเบอร์รี่กระป๋องของอเมริกา รสชาติอร่อยดีเข้ากับแพนเค้กและมีปริมาณพอเหมาะ เมเปิ้ล ซอส ที่ให้มาก็พอดีราดได้อีกแผ่น ถ้าหมดก็น่าจะขอเพิ่มได้ แต่ผมชอบแบบไซรัปมากกว่า ไม่ค่อยชอบแบบซอสที่ผสมครีมและนมมาด้วยทำให้ความหวานลดลงแต่เพิ่มความหอมและนุ่มนวลมาแทน โดยรวมแล้วจัดว่าอร่อย แต่สู้ร้านอื่นๆที่เคยกินมาไม่ได้ และมีราคาแพงพอสมควร ขนาดมีโปร ลด 30% ก็ยังโดนไปเกือบ 500 เพราะมีเซอร์วิสชาร์จและภาษีมาด้วย (ไข่คน 320 แพนเค้ก 280 น้ำเปล่า 40 ลดไป 200 กว่าๆ) ดังนั้น กลับไปกินที่ แพนเค้ก คาเฟ่ เหมือนเดิมดีกว่า ให้คะแนน 7/10 พอ ถึงแม้วันนี้การกินจะไม่ฟินเท่าที่ควร แต่ก็ทำให้ได้รู้จักแอป eatigo ซึ่งลดราคาได้เยอะดี ก็ถือว่ากล้อมแกล้ม คุ้มค่ากับการเดินทางเข้าเมืองได้ เอาไว้ค่อยแก้ตัวใหม่คราวหน้าแล้วกัน โปรดติดตามตอนต่อไป

  • 2
  • 0
19/09/24

Other Reviews

ร้านอาหารบริเวณใกล้เคียง