มื้อเย็น

#hungry Omakase Course ร้าน Sanriku อโศก จานแรกเป็นครีบปลาฉลามหมักบ๊วย เสิรฟมาในถ้วยลายคราม จานที่ 2 วันนี้มีหอยนางรมสดเข้ามา เชฟเลยจัดมาให้ลอง จานที่ 3 Ankimo (Monkfish Liver) ฉายาฟัวกราทะเล ซูชิคำแรกเป็น Hirame (ปลาตาเดียว) ตามสูตร เชฟบอกว่าปลาเพิ่งเข้ามาวันนี้ จะเด้งกรอบเป็นพิเศษ ซูชิคำที่ 2 Madai (ปลากระพงแดง) ซูชิคำที่ 3 Toro Salmon (ส่วนท้องของปลาแซลม่อน) สงสัยเห็นว่าเป็นคนไทยเลยเสริฟแซลม่อนมาให้ ซูชิคำที่ 4 Otoro (ส่วนท้องปลายสุดของปลาทูน่า) แปลกใจเหมือนกันที่ร้านนี้เสริฟโอโทโร่ในโอมากาเสะคอส ซึ่งปกติจะไม่ทำกัน เพราะโอโทโร่รสชาติแรงเกินไป ซูชิคำที่ 5 Wagyu A3 Topped with Ponzu เชฟเลือกใช้เนื้อ A3 แทนที่จะใช้ A5 เพราะว่าอยากให้ได้รสของเนื้อมากกว่ารสของมัน ซูชิคำที่ 6 Ama Ebi Topped with Uni (กุ้งหวานท็อปด้วยไข่หอยเม่น) เชฟคิดขึ้นมาเอาใจคนไทยโดยเฉพาะ อุนิที่ใช้เป็นบะฟุนอุนิตามฤดูกาล มากิซูชิ 3 Kinds of Toro Temaki (Hand Roll โทโร่ 3 อย่าง) รวมโทโร่ของฮอนมากุโร่ แซลม่อน และฮามาจิ ตรงโคนสอดไส้ด้วยอิคุระ ทีเด็ดอยู่ที่สาหร่าย เชฟได้เลือกสาหร่ายพิเศษสำหรับคำนี้โดยเฉพาะ ซึ่งสาหร่ายชนิดนี้จะมีความกรอบหอมกว่าสาหร่ายปกติโดยที่ไม่ต้องนำไปย่างเพิ่ม เชฟแอบบอกมาว่าสาหร่ายอันนี้อาจจะดีที่สุดที่ทีอยู่ในกรุงเทพ ปิดท้ายด้วยไข่หวานตามสูตร เผอิญมาได้จังหวะที่เพิ่งย่างไข่เสร็จพอดี เลยได้ทานแบบร้อน

  • 10
  • 4
17/12/15

Other Reviews