ร้าน Poulet ร้านอาหารฝรั่งเศสชื่อดังจากสิงคโปร์ที่มีถึง 10 สาขารอบเกาะเซ็นโทซ่า มาเปิดสาขาแรกในประเทศไทยที่ CentralwOrld ชั้น 6 ใกล้ๆกับบันไดเลื่อน เดินทางก็สะดวกไม่ว่าจะนั่ง BTS มา หรือจะขับรถยนต์ส่วนตัวมาก็ตาม ภายในร้านตกแต่งออกแนวเรียบหรู ไม่เน้นความอลังการ เพื่อให้คนที่เดินผ่านไปมา หรือกำลังมองหาร้านอาหาร สะดุดตาและตัดสินใจเดินเข้ามาทานได้ง่ายขึ้น Signature Dish ของร้านนี้ก็คือ ไก่อบสไตล์ฝรั่งเศส ที่ใช้เวลาในการหมักอย่างยาวนานถึง 48 ชั่วโมง ก่อที่จะนำไปทอดและอบเพื่อทำให้น้ำในตัวไก่ดูดกลับเข้าไป เนื้อไก่จึงมีความฉ่ำ หอมกลิ่นเครื่องเทศ และให้รสชาติที่ซับซ้อนตามสูตรอาหารที่หมักไก่ไว้นั่นเอง หากไม่อยากทานทั้งตัว ก็สามารถสั่งเฉพาะครึ่งตัวในราคาเริ่มต้นที่ 290 บาทเท่านั้น นอกจากเมนูไก่ย่างแล้ว ยังมีเมนู A la carte อื่นๆ ที่สามารถสั่งมาทานเป็นจานเดี่ยวๆ ก็ยังได้เช่นกัน ขอเริ่มต้นด้วยเมนูเบาๆ อย่าง Fresh Onion Soup ราคา 150 บาท ซุปหัวหอมที่เบสจากเนื้อวัวอีกที มีความเข้มข้นและหวานแบบธรรมชาติจากหัวหอมที่ผ่านการทอดจนออกสีน้ำตาลหรือ Caramelised หากไม่ทานเนื้อวัว สามารถสั่งเป็นซุปเห็ดสูตรเข้มข้นของร้านแทนได้เช่นกัน อีกเมนูที่เป็น Starter เหมือนกัน และอยากให้สั่งเป็นอย่างยิ่งกับ Salad de Saison หรือสลัดชีสรีคอตต้าผลไม้ตามฤดูกาล ราคา 280 บาท ให้โทนอาหารออกไปในแนวเฟรชๆ ทานแล้วสดชื่นด้วยน้ำสลัดเลมอนหอมๆ ใส่ผักและผลไม้ตามฤดูกาล ชอบความผสมผสานระหว่างชีสรีคอตต้าเนื้อนวล กับน้ำสลัดเลมอนที่ตัดกันอย่างลงตัว แวะคั่นด้วยเมนู Potpie Australian Beef Stew Oxtail ราคา 350 บาท เทคนิคการทำอาหารให้ร้อนด้วยการหุ้มปากถ้วยหรือโถด้วยแป้งพาย จากนั้นอบในเตาอบจนสุก สิ่งที่อยู่ในโถก็จะสุกตามไปด้วย ด้านในทางร้านจะใส่เป็นเนื้อหางวัวที่ผ่านการตุ๋นมาแล้ว ผสมกับมันฝรั่งบดจนเนื้อเนียน รสชาติจะมีความหวานเค็มจากตัวสตูหางวัว เนื้อนุ่มมีกระดูกติดมาด้วยนิดหน่อย และมันฝรั่งเนื้อเนียนๆ เสิร์ฟแบบร้อนๆ ตัวแป้งพายเองก็สามารถทานได้เช่นกัน อีกเมนูที่เป็นอาหารอิตาเลียนเลย แต่เสิร์ฟในร้านอาหารฝรั่งเศสแบบนี้ ก็คือ รีซอสโต โดยวันนี้ได้ทานทั้งซิกเนเจอร์ดิชส์ และเมนูพิเศษประจำ Season Seafood แบบนี้ มีความแตกต่างกันในเชิงของรสชาติพอสมควร Truffle Mushroom Risotto ราคา 250 บาท จานนี้จะเน้นความเป็นเห็ดทรัฟเฟิลแบบจัดเต็ม กลิ่น รส มาเต็ม ข้าวหนึบหนับสุกกำลังดี หนักเนยและชีสพอสมควร ใครไม่ชอบเลี่ยน แนะนำให้สั่งอีกจาน Rose Seafood Risotto ราคา 350 บาท รีซอสโต้ครีมชีสสีส้ม เสิร์ฟคู่กับเมนูซีฟู้ดอย่างกุ้งและหอยแมลงภู่นำเข้า ตกแจ่งด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์และโต้วเหมี่ยว ส่วนตัวชอบจานนี้มากกว่าด้วยเหตุผลที่ว่า รสชาติเบาๆ ไม่เลี่ยนถึงแม้จะใส่ชีสกับเนยเยอะไม่แพ้กัน มีความเปรี้ยวนิดๆ รวมทั้งมีเนื้อสัตว์ทำให้ Texture ดูหลากหลายมากกว่า นอกจากนี้ทางร้านเองก็เอาใจคนรักเส้นพาสต้าด้วยเช่นกัน โดยจัดเต็มมาถึง 3 จาน 3 รสชาติ ด้วยเส้นแองเจิลแฮร์แบบสำเร็จรูป Tiger Prawn Aglio Olio ราคา 350 บาท เมนูเส้นแองเจิลแฮร์ผัดกับมะเขือเทศ พริกแห้งและเครื่องปรุงต่างๆ ออกไปทางเฟรชๆ รสชาติไม่เลี่ยนอย่างที่คิด มีมะเขือเทศราชินีและเนื้อไก่ผัดซอสสไปซี่ กุ้งลายเสือตัวโตใช้ได้ ทำออกมาได้กำลังดี เนื้อมีความกรอบเด้ง Spicy Seafood Angel Hair Pasta ราคา 300 บาท เมนูใหม่ประจำ Season ด้วยการเสิร์ฟในรสชาติขี้เมา มีความเผ็ดจัดจ้านเต็มสูบ ตัดเลี่ยนกับทุกเมนูของร้านได้เป็นอย่างดี เครื่องทะเลมาเต็ม ทั้งกุ้งแก้วกรอบๆ ปลาหมึก และหอยแมลงภู่ เส้นดูดซึมรสชาติเต็มๆ ยกให้จานนี้เป็น The Best อีกจานของร้านในวันนี้เลยก็ว่าได้ Classic Vongole ราคา 350 บาท กลับมาในแนวคลาสิกอีกครั้ง กับการผัดเส้นแองเจิลแฮร์ออกมาในแนวเฟรชๆ ทานคู่กับหอยตลับที่ไม่คาวเลย รสชาติไม่หนักมาก มาแนวเปรี้ยวหวานเค็มเบาๆ ใครไม่ทานเผ็ดแนะนำเมนูนี้ มาถึงเมนูซิกเนเจอร์จานหลักในวันนี้อย่าง ไก่อบฝรั่งเศส ในราคาเริ่มต้นที่ 290 บาทสำหรับไซส์ครึ่งตัว และถ้าเต็มตัวจะอยู่ที่ 540 บาทและ 640 บาทสำหรับเครื่องเคียงอีก 2 อย่าง ซึ่งสามารถเลือกได้ตามเมนูที่กำหนด มีซอสให้เลือกอยู่ด้วยกันทั้ง 4 แบบ - Mushroom Cream Sauce แบบคลาสิก เด่นตรงที่ใส่ชินนามอนต์ลงไปด้วย กลิ่นและรสชาติเลยจะออกไปทางอบเชยเป็นหลัก แต่ยังได้ความมันจากครีมซอส และความนวลจากเนื้อเห็ดที่ผสมลงไป - Creamy Tom Yum Sauce สีจะออกน้ำตาลอ่อนๆ ติดหวานไปสักหน่อย รวมทั้งใส่ครีมเยอะ เลยทำให้รสของเครื่องสมุนไพรยังไม่สามารถออกมาได้เต็มที่ - Black Pepper Sauce ซอสตัวนี้จะผสมกับเบอร์รี่ด้วย ทำให้รสชาติออกไปในทางหวานๆ แต่ยังมีความเผ็ดหอมของพริกไทยเม็ดที่บดผสมเข้าไปด้วย เสิร์ฟมาพร้อมกับมัสตาร์ดซอสกลิ่นฉุนขึ้นจมูก ตัดเลี่ยนกับซอสได้เป็นอย่างดี - Tamarind Sauce ด้วยความที่ตัวไก่อบก็คล้ายๆ กับไก่ย่างของไทย ทางร้านเลยทำซอสมะขามออกมาต่างหาก เสิร์ฟคู่กับข้าวคั่ว และแจ่ว ที่แยกส่วนออกมาจากซอสมะขาม เวลาทานกับไก่ ให้จิ้มเรียงลำดับจากซอสมะขาม ข้าวคั่ว และแจ่ว รสชาติก็จะเหมือนกับจิ้มแจ่วเลย แต่ถ้าจิ้มซอสมะขามอย่างเดียวจะออกหวานๆแบบมะขามเปียก นอกจากนี้ยังมีเสิร์ฟข้าวเหนียวเพื่อให้ครบเครื่องอีกด้วย ส่วนของตัวไก่เอง ขนาดไม่ได้ใหญ่มาก แบ่งทานได้ 4 คนสบายๆ มีความชุ่มฉ่ำสมราคาคุย ผ่านการทอดด้านนอกและอบเพื่อรักษาน้ำในตัวไก่ไว้ น่องจะฉ่ำกว่าส่วนของอกเป็นพิเศษ ส่วนตัวชอบทานคู่กับซอสเห็ดและพริกไทยดำที่ดูจะเข้ากันกับไก่อบได้ดีที่สุด เครื่องเคียงที่เหมาะกับไก่อบ ส่วนตัวจะแนะนำ Truffle Potato Mash และ Saute Mushroom หรือเห็ดผัดซอสสูตรต้นตำรับของร้าน จะช่วยตัดรสชาติได้ดีกว่า หมดเมนูของคาวกันไปแล้ว ต่อกันด้วยเมนูของหวานอย่าง Strawberry French Toast – Vanilla เมนูขนมปังอบเนยฉ่ำๆ ครีมนมสดท่วมๆ ท๊อปด้วยไอศกรีมที่แอบอยู่ด้านในและซอสสตรอเบอร์รี่ และมีผลไม้หวานอมเปรี้ยวอย่างเบอร์รี่ต่างๆ มาช่วยตัดเลี่ยนอีกเช่นกัน สังเกตได้ว่าวิปปิ้งครีมจะไม่หวานเลย เหมือนกับเอาครีมนมมาตีให้ขึ้นล้วนๆ แล้วทานตัดรสชาติหวานกับตัวไอศกรีมและซอสแทน ทำให้รสชาติดูไม่หนักจนเกินไป ขนมปังเองก็ดี มีความหอมเนย แต่ถ้าใส่เนยเยอะกว่านี้อีกนิดจะประทับใจเลย ปิดท้ายกันด้วยเมนูเครื่องดื่ม ซึ่งได้ลองทั้ง 3 เมนู 3 สไตล์ Homemade Iced Lemon Tea ราคา 90 บาท ชาดำผสมเลมอน เน้นความสดชื่นเป็นหลัก ไม่หนักหวาน ทานได้เรื่อยๆ แก้เลี่ยนบางเมนูได้เป็นอย่างดี Lady Jasmine ราคา 120 บาท เป็นเมนูเครื่องดื่มที่ใส่ลิ้นจี่ ที่ส่วนตัวไม่ได้ชอบลิ้นจี่อยู่แล้ว แต่ด้วยวิธีการทำ ทำให้รสชาติเหมือนกำลังกินนมเปรี้ยวอยู่ ไม่ได้หนักท้อง ให้ความรู้สึกแบบเดียวกับถ้วยแรกเลย Strawberry Apple Tea ราคา 120 บาท ไม่เน้นหวานเช่นกัน ออกไปทางเปรี้ยวเฟรชๆ ผสมกันระหว่างตัวแอปเปิ้ลกับสตรอเบอร์รี่ มีความขมนิดๆ จากตัวชา ส่วนตัวคิดว่าร้านนี้ออกไปในแนว Fine Dining ที่ออกจะ Casual หน่อยๆ ไม่จำเป็นจะต้องมาทานในโอกาสพิเศษอย่างเดียว วันธรรมดา มื้อกลางวันมื้อเย็น ก็ตอบโจทย์เช่นกัน วัตถุดิบที่ใช้ก็คัดสรรมาเป็นอย่างดี สามารถนำมาทำอาหารและขายในราคาที่สมเหตุสมผล ก็ถือว่าสุดยอดมากๆ แล้ว และทางร้านเองก็กำลังจะขยายสาขาเพิ่มในประเทศถึงอีก 3 สาขาด้วยกัน และไปต่างประเทศอย่างเวียดนาม และเดือนหน้า จะมีเมนูใหม่ๆ เข้ามาให้เพื่อนๆ ได้ลองชิมกันเพิ่มเติมอีกนะ 💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻 🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin 🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha *กรณีต้องการนำรูปไปใช้งานให้ขออนุญาตและให้เครดิตทุกครั้ง มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์