ร้านพาสต้าเส้นสด ที่เป็นกระแสตั้งแต่ช่วงโควิท จนปัจจุบันนี้ขยายไปแล้วด้วยกัน 4 สาขา อยู่ตรงไหนก็เดินทางง่าย อย่างสาขานี้ที่อยู่ในซอยทองหล่อ 13 ใกล้กับโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท โครงการ RQ49 ที่สามารถขับรถมาจอด และสแตมป์บัตรที่จอดรถได้ทันที แนะนำว่าก่อนมาควรโทรจองก่อน เพื่อให้ได้ที่นั่งริมหน้าต่างสวยๆ ของที่สาขานี้ การตกแต่งของทุกสาขาเหมือนกันตรงที่เน้นความเป็น หวาย และไม้ ทำให้ร้านดูเรียบง่ายออกไปในทาง Minimal แต่ยังความหรูหราได้ในระดับนึงเลยทีเดียว มีทั้งเป็นโต๊ะยาวสำหรับกรุ๊ปใหญ่ โต๊ะเล็ก และเคาเตอร์บาร์หากใครมาคนเดียวก็ตอบโจทย์สุดๆ เมนูอาหาร มีความหลากหลายระดับนึง แต่ไม่ได้มีให้เลือกเยอะ อย่างเส้นพาสต้าเอง จะมีอยู่ประมาณ 20 กว่าชนิด อยากทานแบบไหน ทานกับซอสอะไรเข้ากันได้ดี สอบถามพนักงานได้เลย นอกจากนี้ ก็มีพวกเมนูทานเล่นใน Portion เล็กๆ เหมาะกับ Sharing แบบได้ทานหลายๆเมนู สเต็กต่างๆ ก็มีเช่นกัน รวมทั้งเครื่องดื่ม ช่วงนี้ก็มีโปรทานครบ 1000 แล้วชำระเงินด้วยบัตร ttb และ Mastercard อื่นๆ ก็จะได้คราฟโซดาของ Castown ไปทานด้วยอีก 1 ขวด เริ่มต้นกันด้วย Mushroom Soup ราคา 100 บาท ซุปเห็ดรสชาติหนักเค็มพอสมควร มีขนมปังเพิ่มความกรุบกรอบ ทานไปเรื่อยๆ จะรู้สึกรสชาติเบาลง เพราะเมนูอื่นรสชาติหนักกว่าอีก แต่ความเข้มข้นคือดีเลยนะ ตามมากับเมนูที่ 2 อย่าง Salmon wasabi ราคา 250 บาท ที่เลือกเมนูนี้เพราะต้องการเมนูอะไรสักอย่างมาตัดเลี่ยน ซึ่งเมนูนี้ทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดี มีความฉุน ตัดเลี่ยนจากเมนูอื่นๆ ที่จะรีวิวต่อได้ ออกเปรี้ยวแบบเฟรชๆ เน้นความสดชื่นเป็นหลัก ลองสั่งเมนูของทอดอย่างแรกของร้านกับ Fried Calamari ราคา 240 บาท เสิร์ฟคู่กับมายองเนสที่เบสจากซอสศรีราชา ปลาหมึกจะไม่ได้ชุบแป้งจนทั่ว ไม่แน่ใจว่าเกิดจากความจงใจที่จะพรีเซ้นวัตถุดิบ หรือแป้งไม่เซ็ตตัวก็ไม่แน่ใจ แต่รสชาติคือใช้ได้ ความกรอบอาจจะยังไม่ถูกใจ เนื้อสัมผัสออกไปทางค่อนข้างเหนียว เพราะไม่ได้ผ่านการลวกก่อนมาทอดอีกที มาถึงจานหลักของร้านจานแรกอย่าง Mac & Cheese ราคา 270 บาท ที่จะใช้เส้น Conchiglie ที่หน้าตาเหมือนหอยสังข์ ใส่ชีสเยอะๆ ผ่านการเบิร์นด้วย Blow Torch ที่ให้รสชาติและกลิ่นที่พิเศษ รวมทั้งความหอมของเบคอนที่ใส่อยู่ด้านใน ทานพร้อมกันคือดี แต่ต้องแลกกับความเลี่ยนระดับ 10 กันไปเลย อีกจานที่อยากลองมานานกับ Carbonara ราคา 260 บาท เลือกเป็นเส้น Bucatini ที่คล้ายๆ เส้นสปาเก็ตตี้ แต่จะมีความหนากว่าถึง 2.6 mm เมื่อเทียบกับ 1.9 mm ของสปาเก็ตตี้ ให้ Texture ที่หนึบหนับ แต่ยังคงความเป็น Al dente ได้ดี ซอสรสชาติเข้มข้น เลี่ยนไม่แพ้จานก่อนหน้า เบคอนชิ้นค่อนข้างใหญ่ เคี้ยวยากพอสมควร ปิดท้ายด้วย Corn Cake with Sour Cream ราคา 195 บาท เมนูของทอดที่สั่งมาทานทีหลังสุด หน้าตาเหมือนของทอดที่ขายกันช่วงเทศกาลกินเจ แต่รสชาติซับซ้อนกว่า มีความกรอบนอกนุ่มในที่กำลังดี ตัดเลี่ยนด้วยซาวครีมออกนุ่มๆ เปรี้ยวนิดๆ มีเบคอนที่ผัดกับพริกเผาออกหวานไปเลย และซอสเบซิลที่ให้ความ Herb อยากแนะนำว่าถ้าใช้ข้าวโพดขาวของญี่ปุ่น น่าจะฟินเลย ความอร่อยโดยรวมแล้ว ถือว่าประทับใจ โดยเฉพาะเรื่องเส้นและซอส อันนี้ไม่มีติ แต่ถ้าเป็นเรื่องของการนำวัตถุดิบเนื้อสัตว์มาใช้ อาจจะต้องปรับกระบวนการให้ดีกว่านี้ อย่างเบคอนเอง ค่อนข้างแข็งเลย จะกรอบก็ไม่ จะนุ่มก็ไม่ หรือจะเป็นหมึกที่ค่อนข้างจะเหนียวอยู่ การปรุงรสชาติค่อนข้างหนักเค็มพอสมควรเลย แต่เข้าใจได้เพราะใช้ชีสเยอะจริงๆ การบริการดีกว่าที่คิด พนักงาน Service ดีถึงแม้ที่ร้านจะไม่มี Service Charge ก็ตาม แต่อย่างไรก็ตามก็ยังคิด VAT ต่างหากเหมือนเดิมนะ 💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻 🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin 🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha *กรณีต้องการนำรูปไปใช้งานให้ขออนุญาตและให้เครดิตทุกครั้ง มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์และแจ้งความทุกกรณี