มื้อกลางวัน

หนึ่งในเมนูยอดฮิตของคนเกาหลี และโด่งดังจนมาถึงไทยด้วยพลังแห่ง Soft Power นั่นก็คือ จาจังเมียน หรือ จาจังมยอน บะหมี่ราดซอสหมักถั่วดำ ที่เราจะจำภาพการส่งเมนูดังกล่าวด้วยมอเตอร์ไซค์ แถมมาถึงก็แค่แกะซีลออก และทานได้เลย จากนั้นทางร้านก็จะมาเก็บกลับไป พอมาถึงเมืองไทยแบบเราๆ ถึงแม้จะมีร้านอาหารเกาหลีผสมกับจีน ที่มีเมนูนี้จำหน่าย แต่ถ้าเทียบในเรื่องของความอร่อยแล้ว ยังไม่มีร้านไหนที่สู้ร้านนี้ได้ และร้านนั้นคือ “Jaguemsong” นั่นเอง ร้านจากึมซอง (Jaguemsong) ร้านอาหารสไตล์เกาหลีผสมผสานกับจีน เป็นร้านอาหารเกาหลีที่เปิดมาในไทยนานมากแล้ว โดยสาขาแรกอยู่ที่ Korean Town ในซอยสุขุมวิท 12 ชั้น 3 ซึ่งการไปสาขานี้อาจจะต้องเดินจาก BTS อโศกย้อนขึ้นมาไกลพอสมควร แต่กับสาขาใหม่ล่าสุดแกะกล่องอย่าง Siam Square One นั้น เพียงแค่ลงจากสถานีสยาม ก็เดินขึ้นลิฟต์ชั้น 5 ได้ทันที แถมบรรยากาศร้านที่ดูใหม่กว่า ตกแต่งได้เหมือนกับกำลังอยู่ในเกาหลีจริงๆ สำหรับเมนูอาหารมีการเพิ่มเติมขึ้นจากปกติ ที่จะมีแค่เมนูจานหลัก อย่างจาจังมยอน จัมปง และไก่ทอดราดซอส ก็จะมีของทานเล่นและซุปเพิ่มเติมขึ้นมา อย่างเช่น โอเด้ง หรือซุปหอยตลับ ซึ่งวันนี้จะมารีวิวรสชาติให้ได้อ่านกัน เริ่มต้นด้วยเมนูเบาๆ กับเมนูใหม่แกะกล่องอย่าง โอเด้งทัง ราคา 150 บาท เมนูสุดเรียบง่าย ที่นำเค้กปลา หรือลูกชิ้นแผ่นๆ ที่เราคุ้นเคยกันดี มาเสียบไม้และต้มในน้ำซุปสาหร่ายที่มีใส่กุ้งลงไปด้วย เพิ่มรสชาติด้วยต้นหอม พริกสับ และพริกไทย รสชาติอร่อย ทานแล้วรู้สึกอุ่นๆ ตัวลูกชิ้นเองก็อร่อยมีความเด้งหนึบกำลังดี ส่วนตัวซุปรสชาติใช้ได้ ทานแล้วรู้สึกคล่องคอ ต่อกันด้วยเมนูที่หาทานยากสักหน่อยกับ โจเกทัง ราคา 150 บาท เปลี่ยนจากใส่ Fish cake แบบจานเมื่อสักครู่ มาเป็นหอยตลับ โดยทางร้านใช้ไซต์ที่ค่อนข้างเล็กสักหน่อย แต่เน้นปริมาณที่เยอะขึ้น เนื้อหอยปรุงออกมาได้สุกกำลังดี ไม่มีกลิ่นคาว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าตัวซุปเองใส่พริกไทยเยอะมากจนฉุนเลยทีเดียว ซุปเองก็รสชาติกลมกล่อมแต่จะหนักเผ็ดพริกไทยเป็นพิเศษ ให้ความรู้สึกถึงก๋วยจั๊บน้ำใสที่ใส่พริกไทยแบบนั้นเลย และแล้วก็มาถึงจานหลักในวันนี้กับเมนู จาจังมยอน หรือจาจังเมียน ราคา 220 บาท มีอยู่ไซส์เดียว แต่คุ้นๆ ว่าสาขาหลักจะมีชามที่ใหญ่กว่านี้อีก แต่แค่นี้น่าจะทานไม่หมดแล้ว ปริมาณแบ่งทานได้ 3-4 คนสบายๆ ด้านบนจะราดซอสดำพร้อมกับเนื้อหมู และหัวหอม ทานคู่กับไช้เท้าดองสีเหลืองเพื่อตัดเลี่ยน รสชาติจะออกหวานมัน มีความกลมกล่อมที่พอดี ไม่มีรสขมแต่อย่างใด ซึ่งรสชาติที่กลมกล่อมแบบนี้ จะเจอเฉพาะร้านนี้ร้านเดียวเท่านั้น หากมาทานร้านนี้แล้ว ไม่ควรพลาดจานนี้ และสุดท้ายกับเมนู กันพุงกิ ราคา 300 บาท ไก่หรือหมูทอดราดซอสส้มหวาน ซึ่งจานนี้เลือกได้ว่าจะทานเป็นเนื้อหมู หรือเนื้อไก่ วันนี้เลือกเป็นไก่แทน หน้าตาก็คือของทอดที่ราดซอสเปรี้ยวหวานที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี และเพิ่มความ Advance จานนี้ด้วยการสั่งหมี่กรอบ หรือ ทวิกิมยอน ราคา 30 บาท แล้วนำกันพุงกิ มาราดลงไปอีกที ทำให้กลายเป็นเมนูใหม่อย่าง “บะหมี่กรอบไก่ทอดซอสส้มหวาน” นั่นเอง ตัวไก่จะผ่านการชุบแป้งทอดก่อนนำไปทอดเสมอ ทำให้ด้านนอกมีความกรอบและด้านในยังนุ่มอยู่ ซอสมีความกลมกล่อมออกเปรี้ยวหวานแบบส้ม ไม่หวานโดดจนเกินไป และมีหมี่กรอบที่มาช่วยลดความหวานแถมเพิ่มความกรอบให้กับไก่อีกต่างหาก ถือได้ว่าเป็นส่วนผสมที่ลงตัวสุดๆ รสชาติอาหารโดยรวมแล้ว มีความคล้ายคลึงกับสาขาแม่อย่าง Korean Town ไม่มีผิด อันนี้ยอมรับเลยว่ารักษาคุณภาพได้เป็นอย่างดี ในส่วนของเมนูใหม่ๆ รสชาติก็อร่อยเช่นกัน เหมาะกับเป็นทางเลือกให้กับใครหลายๆ คนที่รู้สึกว่าเมนูอาหารเกาหลีแบบนนี้จะแห้งหรือหนืดคอไปสักหน่อย อย่างน้อยมีซุปให้ซดชุ่มคอ ก็น่าจะเป็นตัวดึงดูดให้เข้ามาที่ร้านนี้ได้เป็นอย่างดี หากใครจะไปทานที่สาขานี้ สามารถ walk in เข้าไปที่ร้านได้เลย ซึ่งลูกค้าจะไม่ได้แน่นมาก และรออาหารไม่นานเช่นกัน 💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻 🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin 🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha *กรณีต้องการนำรูปไปใช้งานให้ขออนุญาตและให้เครดิตทุกครั้ง มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์และแจ้งความทุกกรณี #RettyBBQ

  • 5
  • 0
22/06/22

Other Reviews