มื้อเย็น

Caper by Dan Bark – เป็นโปรเจ็กต์ล่าสุดของเชฟ Dan Bark ชาว Korean-American ผู้เคยทำให้ร้าน Upstairs at Mikkeller ได้รับรางวัล 1 Michelin Star มาแล้วตั้งแต่ปีแรกที่มีการมอบรางวัลจนถึงวันที่ร้านปิดตัวลง ด้วย concept ที่ต้องการนำเสนอ Comfort Modern American Cuisine ในรูปแบบที่ผ่อนคลายและเข้าถึงง่าย ตรงตามความหมายของคำว่า “Caper” อันสื่อถึงการเต้นรำกระโดดโลดเต้นอย่างร่าเริงสนุกสนาน นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เชฟ Dan Bark ทำเมนูอาหารแบบ a la carte ให้เราสามารถเลือกสั่งเป็นจานๆได้ตามใจ มี serving size ที่สามารถแชร์กันทานได้ ให้อารมณ์แตกต่างจาก“Cadence by Dan Bark” ที่ตั้งอยู่ในอาคารเดียวกันและได้เปิดไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นร้าน Fine-dining ที่เชฟจะเสิร์ฟ course menu เต็มรูปแบบนะคะ ในส่วนของการตกแต่งร้านนั้นเป็นสไตล์ Art Deco ซึ่งดูเข้ากันกับความเป็นอเมริกันของอาหารที่นี่ได้ดี เริ่มจาก Drink Bar บริเวณด้านหน้าที่ชวนให้นึกถึง Prohibition Era และ Dining Area ด้านในที่ให้อารมณ์แบบงานเลี้ยงใน The Great Gatsby มีห้องครัวขนาดใหญ่กั้นด้วยกระจกใสอยู่ตรงกลางให้มองเห็นทีมเชฟขณะเตรียมอาหารได้ถนัด โดยบริเวณห้องครัวนี้จะเชื่อมกับร้าน Cadence ที่อยู่อีกฟากหนึ่งของตึกด้วยค่ะ *****-เมนูที่ลอง-***** ✅ [DRINK] ครั้งนี้ที่ไปทานเป็นดีล BRW 2020 จากแอพ Wongnai จึงมีเครื่องดื่มรวมอยู่ด้วย เป็นคล้ายๆ Lemon Soda ที่มีกลิ่นมะม่วงแฝงมาแค่เบาๆ มีสมดุลเปรี้ยวหวานที่ลงตัวสดชื่นเป๊ะเลย แม้จะเป็นเครื่องดื่มที่ดูง่ายๆ แต่เห็นฝีมือแล้วก็เชื่อว่าทั้ง Mocktails และ Cocktails ในเมนูหลักของร้านต้องดีแน่ๆเลยล่ะค่ะ ✅ [SNACK] ➡️ TRUFFLE TOAST | toasted brioche, truffle cheese, parmesan & fresh summer truffle shavings ขนมปังบริยอชที่อบมาจนผิวนอกกรอบกริ๊บแต่เนื้อในยังนุ่มนวล โปะมาด้วย truffle cheese ล้นๆฉ่ำๆ ขูดชีส parmesan โรยมาท่วมๆฟูฟ่อง แล้วท็อปด้วย summer truffle อีกที ได้ทั้งความหอมมันของชีสและกลิ่นรสทรัฟเฟิลกรุ่นอวลเต็มคำ เรียบง่ายแต่อร่อยไม่รู้ลืมเลยทีเดียว ✅ [STARTERS] ➡️ BEET SALAD & DUCK CONFIT CROQUETTE | romesco, black garlic & goat cheese เป็นสลัดที่มีองค์ประกอบซับซ้อนหลากหลายแต่นำมาทานร่วมกันได้ลงตัวสุดๆ เริ่มจากบีทรูทที่นำมาดองจนเนื้อนุ่ม ได้รสหวานอมเปรี้ยว/ croquette ที่ทำจากเนื้อเป็ด confit แล้วนำมาปั้นเป็นก้อนกลมชุบแป้งขนมปังทอดจนผิวกรอบ เนื้อเป็ดทั้งละมุนและหอมมากมาย / quinoa ที่นำมาต้มแบบ pasta ปรุงรสด้วยซอส romesco ที่มีส่วนผสมของมะเขือเทศ ไขมันจากเป็ด เกลือ ถั่ว พริกไทยใส่ black garlic ได้รสชาติออกมากลมกล่อมกำลังพอดี / ใส่ผักทั้งใบ rocket และหัวหอมซอย แล้วยังขูด goat cheese โรยมาทั่วๆ ทุกอย่างในจานมีการเสริมรส-ตัดรสกันเป็นอย่างดี อวดฝีมือการผสมผสานทั้งรสชาติและ texture ได้น่าประทับใจจริงๆค่ะ ➡️ SALMON CRUDO | cream cheese, grilled asparagus, greens & coconut vinaigrette Cured salmon ที่หมักด้วยบีทรูทจนมีสีแดงก่ำเนื้อแน่น-นุ่ม ราดด้วยครีมชีสและ vinaigrette ที่ทำจากกะทิผสม cherry vinegar และน้ำมันมะกอก ชิมแล้วได้รสหวานนำ-เค็มบางๆ-เปรี้ยวเบาๆ สมดุลกลมกล่อม มีกลิ่นรสกะทิชัดเจนจริงเสียด้วย โรยข้าวไรซ์เบอร์รี่ที่ทอดจนเป็นข้าวพองกรอบๆมันๆ ใส่ผักสด ผักชี ไชเท้าญี่ปุ่นฝานบาง และ Asparagus ที่เอาไปย่างให้หอมเสียก่อน ทั้งครีเอทและมีดีเทลที่ชวนให้ทึ่งเอามากๆ ✅ [MAIN DISHES] ➡️ SEARED DUCK BREAST | pumpkin puree, smoked cranberry & braised red cabbage เนื้ออกเป็ดจี่จนหนังด้านนอกกรอบกริ๊บ หนังเป็ดมีความหนาค่อนข้างมาก ด้านในจึงยังเป็นหนังนุ่มๆอยู่ แต่แปลกมากที่ทานแล้วไม่เลี่ยนแบบเป็ดหนังหนาทั่วไป แถมมีสัมผัสที่เคี้ยวสนุกไปอีก ส่วนเนื้อเป็ดก็สุกสม่ำเสมอกันเป็นสีชมพูสวย ทั้ง นุ่มละมุนและหอมมาก ซอสราดรสเค็มอ่อนๆกลมกล่อม แฝงกลิ่นอายแบบเอเชียนิดๆ ทานแกล้มกับ puree ฟักทองเนื้อเนียนละเอียด, กะหล่ำม่วงตุ๋น, smoked cranberries และ lemon sphere รสเปรี้ยวสดชื่นที่แต้มเป็นจุดๆอยู่บนจาน โรยเมล็ดฟักทองกรอบๆ ใส่ผักสดอีกนิดคือลงตัว อร่อยน้ำตาจิไหล ➡️ HOKKAIDO SCALLOPS | barley "risotto", roasted cauliflower & caper sauce เป็นอีกจานที่ฟินหนักมาก หอยเชลล์ชิ้นอวบ จี่มาพอให้ผิวเป็นรอยไหม้หอมๆสุกกลางๆเนื้อนุ่มกำลังดี Caper sauce ที่ราดมามีรสชาติกลมกล่อมลุ่มลึกละมุนลิ้น ทานกับ Risotto ข้าวบาร์เล่ย์นุ่มหนึบ ใส่ดอกกะหล่ำที่มีทั้งแบบต้มและแบบอบกรอบๆ โรยผักชีลาวเพิ่มกลิ่นหอม ปลี้มปริ่มมากบอกเลย ✅ [DESSERT] ➡️ BANANA BREAD & BACON | warm banana bread, bacon ice cream & rum maple syrup เป็นขนมปังที่ใส่กล้วยหอมบดผสมในเนื้อขนมปัง อบจนผิวนอกกรอบ เนื้อในนุ่มฉ่ำ ได้รสชาติกล้วยหอมแบบเต็มๆ เสิรฟ์อุ่นๆ ทานกับไอศกรีมรสเบคอนเนื้อละเอียดครีมมี่ โรย bacon bits กรอบๆเค็มๆ แล้วราด rum maple syrup เพิ่มความหอมหวาน ทานรวมกันทุกส่วนคือดีงามค่ะ ⭐️THE VERDICT⭐️ อาหารอเมริกันนั้นได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมอาหารของชนชาติต่างๆที่เข้าไปตั้งรกรากอยู่ในประเทศอเมริกาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงชาวอเมริกันสายเลือดเกาหลีอย่างเชฟ Dan Bark ด้วย อาหารที่นี่จึงมีการสอดแทรกรสชาติจากเอเชียเข้ากับอาหารตะวันตกได้อย่างมีเอกลักษณ์ มีไอเดียในการผสมผสานรสชาติที่น่าทึ่ง จากที่ได้ลองครั้งนี้ ถ้าให้สรุปง่ายๆในประโยคเดียวเลยก็คือ “อร่อยทุกอย่าง” ไม่ว่าจะเลือกลองจานไหนก็ดีงามไปหมด แม้จะเป็นอาหารที่สั่งจากเมนูได้แบบ a la carte แต่ก็เต็มไปด้วยดีเทลแสนประณีตใกล้เคียงกับอาหารคอร์สในร้านระดับ Fine Dining เป็นมื้อประทับใจที่ทานแล้วหลงรักร้านนี้ไปเลย ใครชอบอาหารแนวนี้บอกได้คำเดียวว่าห้ามพลาดค่ะ #Nov2020

  • 13
  • 1
20/11/16

Other Reviews

ร้านอาหารบริเวณใกล้เคียง