ศรีอนันตบวัน (Sri Ananda Bhawan Bangkok)

มื้อเย็น

เมื่อวานนี้ ผมได้รับเชิญจาก คุณหมอมัณฑนา ถวิลไพร แห่งเพจ ลุงกุ๊กชวนแdg และกลุ่ม อาหารอินเดียไปเรื่อย ให้ไปร่วมรับประทานอาหารมื้อค่ำที่ร้าน Sri Ananda Bhawan Bangkok บนถนนสีลม ไม่กี่ก้าวจากวัดพระศรีมหาอุมาเทวี หรือวัดแขก อันเป็นที่พึ่งทางใจของสาวๆ ก่อนจะกล่าวถึงเรื่องอาหาร ผมขอเล่าถึงผู้ร่วมโต๊ะแต่ละท่านเสียก่อน เริ่มที่ตัวการของความบันเทิงของเราในค่ำคืนนี้ คือคุณหมอมัณฑนา เธอเป็นแพทย์ด้านสาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉินและเวชบำบัดวิกฤต ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ขอนแก่น ความมหัศจรรย์ของคุณหมอนั้น คือการที่คุณหมอเป็นคนไทยคนแรก และสตรีไทยคนแรกที่ปีนเขา Manaslu ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดเป็นอันดับที่ 8 ของโลกที่เนปาลสำเร็จ ใครที่อยากอ่านเรื่องราวการปีนเขาของนารีเรืองนามคนนี้ ก็ขอเชิญอ่านได้ที่เพจ มัณฑนา ปีนเขา I dream of ascending the eight-thousanders. ต่อมาคือ พี่ชายที่เคารพ คือพี่อาร์ท ภาคภูมิ สุวรรณเตมีย์ แห่งร้านเจริญพุงโภชนา หนึ่งในกรรมการ เชลล์ชวนชิม และเป็นผู้ผลิตรีวิวดีๆ สู่เพจ ตามรอยตำนานร้านดัง และ เจริญพุงพเนจร ที่สามคือพี่อ๊อกซ์ ซึ่งเป็นผู้กว้างขวางแห่งย่านตลาดน้อย แห่งเพจ ตี๋อ็อกพาเจี๊ยะ Teeoxpajia ซึ่งมีลายแทงร้านอาหารดีๆ โดยเฉพาะอาหารจีนที่คุณๆ ไม่ควรพลาดเช่นกัน นอกจากกูรูด้านอาหารแล้ว ยังมีกูรูประวัติศาสตร์อีกสองท่าน คือพี่ปั๊บ แห่งเพจ Wild Chronicles - เชษฐา และพี่แชมป์ แห่งเพจ ย่อยประวัติ ที่มาร่วมสนุกกับพวกเราในค่ำคืนนี้ ---------------------------- ร้าน Sri Ananda Bhawan Bangkok หรือ ศรีอนันตภาวัน เป็นร้านอาหารอินเดียตามตำรับเมืองเจนไน ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของอินเดีย มีลักษณะทั่วไปคือค่อนข้างเผ็ด หนักเครื่องเทศ และหอมมันมะพร้าว เมื่อเราก้าวเข้าไปในร้านและนั่งลงสั่งอาหารแล้ว ไม่นานพนักงานจะแบกถาดใบใหญ่ ปูด้วยใบตองเขียวสดมาวางไว้ตรงหน้า ก็โปรดเข้าใจนะครับว่านี่แหละคือจานอาหารของเรา ซึ่งดูแล้วเหมาะแก่การใช้มือเปิบอาหารยิ่งนัก ในครั้งนี้ ทางร้านได้จัดให้เราเริ่มต้นมื้ออร่อยด้วย #แพะผัดพริก ที่เนื้อนุ่ม รสเผ็ดพริกไทยกำลังดี ใครที่กลัวว่าจะเหม็นก็วางใจได้เพราะเค้าทำมาอย่างสะอาด ปราศจากกลิ่นสาบที่ใครหลายคนรังเกียจ #ไก่ย่างติกก้า (Chicken Tikka) สดๆ ร้อนๆ จากเตาทันดูรี เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ ไม่แห้งผาก กินเคียงกับผักดอง รับรองต้องต่อชิ้นที่สอง สาม สี่ อย่างแน่นอน ของดีเด่นอีกอย่างหนึ่งคือ #แกงมะพร้าวใส่ปู หรือ Chettinad Crab Curry น้ำแกงสีเข้มข้นเหมือนจะเผ็ดจี๊ดจ๊าด แต่รสชาติออกไปทางเค็มและเผ็ดอ่อนๆ ที่สำคัญคือเครื่องแกงมีเค้าผสมมะพร้าวลงไปด้วย จึงหอมกลิ่นมะพร้าวกรุ่นๆ ที่ปลายจมูกตลอดเวลา แต่ด้วยความที่ปูตัวโต สับมาชิ้นใหญ่ๆ ทำให้ต้องใช้เครื่องมือบีบก้ามปูประกอบกับใช้เครื่องมือที่มีติดตัว เพื่อล้วง แทะ แคะ คุ้ยอยู่ตลอด ออกจะประดักประเดิดสักนิด จากนั้นมี #แกงกะทิแพะ เนื้อนวลๆ หวานอ่อนๆ มาดับความเผ็ดร้อนจากจานต้นๆ อย่างไรก็ตาม พอมาเจอจานถัดมา คือ #แกงไก่เกรละ (Kerala Chicken Masala) ไอ้ความเผ็ดทั้งหลายที่จางลงไปก็กลับมาอบอวลอยู่ในปาก ลำคอ เรื่อยไปจนถึงกระเพาะและลำไส้อีกครั้ง โอ้โห...มันเผ็ดมัสตาร์ดซะเกลือเกินครับ จนผมแทบจะเอาปากไปแช่น้ำเลยทีเดียว แต่ยิ่งเผ็ดก็ยิ่งตักเข้าปาก ก็แหม...มันอร้อย อร่อยจริงๆ นี่ครับ ส่วนใครที่อยากกินอาหารแขกที่ยกเสริฟกันมาเป็นถาดโตๆ ที่นี่ก็มี #ธาลี (Thali) ไว้ให้บริการทั้งแบบมังสวิรัติ แพะ ไก่ และปลา ที่สามารถเติมข้าวได้ไม่อั้น ที่สำคัญ แกงเค้ารสชาติเลิศทุกหลุมจริงๆ ของดีที่พลาดไม่ได้ของศรีอนันตภาวัน คือ อาหารฟิวชั่นระหว่างสองมหายักษ์ใหญ่แห่งตะวันออกไกล คืออาหารจีนที่ผสมผสานอาหารอินเดียนั่นเอง จานแรกคือ #ชีสแขกผัดเปรี้ยวหวาน (Paneer Manchurian) และ #ไก่ทอดผัดพริกเปรี้ยวหวาน (Chicken Manchurian) ที่ผัดไก่ทอดกรอบๆ เข้ากับเครื่องเคราต่างๆ ได้อร่อยครบรสอย่างมหัศจอรอหันยอการันต์ ส่วนบรรดาแป้ง ซึ่งเป็นอาหารคู่บุญกับแกงอินเดียทั้งหลายนั้น เค้าก็มีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น #PaperDosa ขนาดใหญ่เท่าขาคน ที่กรอบทน กรอบนาน จิ้ม chutney หรือแกงต่างๆ ก็เข้ากันดีนัก #Appam ซึ่งเป็นแป้งหมักรสเปรี้ยวอ่อนๆ #Uttapam แผ่นโตๆ เนื้อหนาฟู รวมถึงพวก #นานเนย (Butter Naan) #Paratha หรือ #Chapati ก็มีให้เลือกอย่างพร้อมพรั่ง ---------------------------- เอาละครับ บรรยายสรรพคุณกันมาเสียยืดยาว คงจะอยากไปลิ้มลองความอร่อยกันแล้ว ขอเรียนว่าร้านเค้าตั้งอยู่ปากซอยสีลม 15 เปิดตั้งแต่ 11 โมงเช้า เรื่อยไปจนถึง 5 ทุ่ม หนุ่มสาวท่านใดที่ไปพึ่งบารมีพระแม่วัดแขกให้ส่งใครมารักฉันที จะไปฝากท้องที่ร้านนี้ ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะอยู่ไม่ไกลกัน เผลอๆ อาจจะได้มองตาใครสักคนกันตอนจกแป้งจาปาตีก็ได้นะครับ