เดอะ สไปซี่ เฮาส์ สาขาสามย่านมิตรทาวน์

มื้อกลางวัน

The Spicy House - ร้านอาหารขนาดค่อนข้างใหญ่บนชั้น 4 ของสามย่านมิตรทาวน์นี้ชู Concept เป็นร้านหมาล่าสไตล์สิงคโปร์ที่มีเมนูหลักๆอยู่ 2 อย่างคือ Mala Xiang Guo (หมาล่าแบบผัดแห้ง) และ Mala Tang (หมาล่า Hot Pot) และมีอาหารอื่นๆให้เลือกอีกนิดหน่อยค่ะ เห็นบรรยากาศร้านดูดี กว้างขวาง นั่งสบาย เป็นสัดส่วนสวยงาม ก็เลยขอเลี้ยวเข้ามาลองซักหน่อยนะ ****-วิธีการสั่ง-**** การสั่งอาหารที่นี่จะมี Format แบบเดียวกับร้านหมาล่าทั้งในจีนและสิงคโปร์ คือจะมีวัตถุดิบทั้งลูกชิ้นต่างๆ เนื้อสัตว์ ซีฟู้ด เส้น และสารพัดผักวางไว้ให้ลูกค้าเลือกหยิบเองแล้วส่งให้ร้านปรุง + คิดราคาให้ ไม่ต้องมานั่งต้มเองแบบร้าน Hot Pot ทั่วไป ขั้นตอนมีตามนี้เลยค่ะ 1. เลือกหยิบวัตถุดิบตามชอบ แยกภาชนะเป็นชามเล็กใส่เนื้อสัตว์และลูกชิ้นต่างๆ ชามใหญ่ใส่ผักและเส้น นำมาชั่งน้ำหนัก ราคาคิดตามวัตถุดิบ คือ : - ผัก (30 บาท / 100 กรัม) - เห็ดและส่วนผสมอื่นๆ (50 บาท / 100 กรัม) - เนื้อสัตว์ (70 บาท / 100 กรัม) - อาหารทะเล (80 บาท / 100 กรัม) - อาหารทะเลพรีเมี่ยม (100บาท / 100 กรัม) - Mala Sauce (40 บาท ต่อชาม) - อันสุดท้ายนี้ไม่ต้องเลือกหยิบ เพราะต้องบวกราคาเข้าไปโดยอัตโนมัติอยู่แล้วล่ะนะ 2. เลือกวิธีปรุงว่าจะเอาแบบผัดแห้ง (Mala Xiang Guo) หรือแบบเป็นน้ำซุป (Mala Tang) 3. เลือกระดับความเผ็ด มี 4 ระดับคือ ไม่เผ็ด / เผ็ดน้อย / เผ็ดปานกลาง / เผ็ดมาก 4. สั่งอาหารอื่นๆเพิ่มเติม (แต่ก็มีให้เลือกไม่มากนักนะคะ) 5. ชำระเงิน แล้วไปนั่งรออาหารมาเสิร์ฟถึงโต๊ะได้เลย สำหรับคนที่ไปกันแค่ 1-2 คน ทางร้านก็มีการจัดเซ็ทสำหรับ 1 ที่ และสำหรับ 2 ที่ อำนวยความสะดวกให้ด้วย สั่งแบบนี้ก็ง่ายและเร็วดีเหมือนกันนะคะ งบไม่บานปลายดีด้วย ****-เมนูที่สั่ง-**** สำหรับครั้งนี้เราเน้นลูกชิ้นต่างๆ หมู ไก่ ไม่ได้ลองอาหารทะเล และเลือกหยิบผักมาพอประมาณ สั่งเป็น Mala Tang ทั้งหมด โดยแบ่งเป็นเผ็ดปานกลาง 2 ที่ และแบบไม่เผ็ด 1 ที่ Serving Size แต่ละชามคือใหญ่บึ้ม (ก็หยิบกันรัวๆเองนี่นะ) แต่ทางร้านมีจานแบ่งเล็กๆให้ตามจำนวนคน นอกจากวัตถุดิบที่เราเลือกไปแล้ว อาหารที่ปรุงมาจะมีใส่ถั่วโรยผักชีแถมให้ทุกชาม รสชาติตามนี้เลย • Mala Tang ไม่เผ็ด - สั่งแบบไม่เผ็ดก็ได้มาแบบไม่เผ็ดจริงๆ แต่มีกลิ่นรสเครื่องเทศหมาล่าหอมๆชัดเจน รสค่อนข้างเค็มนำมากหน่อยค่ะ • Mala Tang เผ็ดปานกลาง – เรื่องระดับความเผ็ดนั้นแค่กลางๆ แต่ความเข้มข้นของเครื่องเทศคือจัดเต็มมาก น้ำซุปแค่ขลุกขลิก เค็มนำอีกเช่นกัน เรื่องหอมเครื่องเทศนี่หอมจริง แต่ความเข้มข้นระดับนี้ทำให้รู้สึกว่าซดทานเป็นซุปได้ไม่คล่องคอนัก และทำให้หนักท้องอิ่มเร็วกว่าปกตินะ ในส่วนของวัตถุดิบที่เลือกไป: ลูกชิ้นต่างๆ - รสชาติกลางๆทั่วๆไป จัดว่าโอเคล่ะ หมูยอ – นิ่มไปหน่อย เราชอบให้เด้งๆเนื้อๆกว่านี้อีกนิด เกี๊ยวปลา - เป็นแบบทั่วๆไป ไม่ได้แป้งบางหรือไส้แน่นเป็นพิเศษ ค่อนข้างเค็ม เนื้อหมู / เนื้อไก่ - ไม่ติดมัน/ติดหนังเยอะ และหมักได้ดีมาก นุ่มอร่อยถูกใจค่ะ ซี่โครงหมู - บางชิ้นนุ่ม บางชิ้นเหนียวแทะยาก อันนี้เวลาหยิบคงต้องดูดีๆเลือกเอาซี่โครงอ่อนนะคะ (แต่วันที่ไปก็ไม่ได้มีให้เลือกมาก) ชิ้นที่นุ่มๆนี่คือฟินเลย Meat Loaf - มีมันปนค่อนข้างเยอะ มีกลิ่นตับบดผสมอยู่ชัด ส่วนตัวรู้สึกไม่ค่อยเข้ากับหมาล่าเท่าไหร่ ครั้งหน้ามาคงไม่หยิบ เส้น - เลือกเป็นบะหมี่สดที่มีทั้งแบบเส้นแบนและเส้นเล็ก ชิมแล้วเส้นนิ่มมาก ใครชอบเส้นบะหมี่แบบนิ่มๆคงถูกใจ แต่ถ้าคนชอบแบบเส้นหนึบสู้ฟัน แนะนำให้ข้ามไปเลย กินแบบเกาเหลาน่าจะดีกว่าค่ะ ไส้หมู – ยังมีรสขมติดนิดๆนะ กระเพาะหมู - อันนี้โอเค ไม่มีกลิ่นอะไร ดีใช้ได้ค่ะ ผักต่างๆ - เลือกมาได้ดี ผักดูสดน่าหยิบทุกอย่าง มาเต็มใบ เต็มหัวไม่เป็นเศษๆ ชอบเลย • ข้าวผัดสไตล์จีน (ราคา 100 บาท) – สั่งมาเบรคความเข้มข้นของซุปหมาล่า ปรากฏว่าดีงามเกินคาด ข้าวเม็ดนุ่ม ผัดร่วนกำลังดี รสกลมกล่อม หอมอร่อยทีเดียว ในภาพรวมคือรสเครื่องเทศหม่าล่าที่นี่เข้มข้นมาก หอมนั้นหอมจริง ความเผ็ดได้ตามที่สั่ง แต่เวลาหยิบวัตถุดิบต้องยั้งมือไว้นิด เพราะความเข้มข้นทำให้ทานได้น้อยกว่าปกติ (มื้อนี้ไปกัน 7 คนยังเหลือต้องห่อกลับกันเลย) หรือจะสั่งข้าวมาทานด้วยกันก็น่าจะลงตัว ในแง่ราคาเทียบกับปริมาณคือพอรับได้ (ค่าเสียหายมื้อนี้ราวๆ 1,800 บาทโดยประมาณ) วัตถุดิบเฉลี่ยออกมาคือกลางๆ ถูกใจบ้าง ไม่ถูกใจบ้าง เฉยๆบ้าง คละกันไปค่ะ #eatandwalk #เพื่อแซลมอน