Bonjour ! Comment allez-vous ?? เอาล่ะครับ ทักทายกันเป็นภาษาฝรั่งเศสเรียบร้อย คงจะพอเดากันได้ใช่มั้ยครับว่าวันนี้เรามีความสนุกในรูปแบบฝรั่งเศสมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน เรียกว่าถูกครึ่งหนึ่งครับ เนื่องจากวันนี้เราจะพามา “ชิม” และมา “ชม” การเดินทางสุดพิเศษของเชฟชาวฝรั่งเศส ในนามของ “Le Petit Chef” ซึ่งจะมาทำอาหารอร่อยๆ จากนานาประเทศให้เพื่อนๆ ทานกัน ณ ห้องอาหาร Embassy Room โรงแรม Park Hyatt Bangkok โดยมีความพิเศษอยู่ที่วิธีการนำเสนอ ซึ่งทำออกมาได้น่าสนใจเอามากๆ เลยทีเดียว แนะนำตัวกันคร่าวๆ ก่อนว่าเชฟของเราเป็นเชฟที่ตัวเล็กที่สุดในโลก เนื่องจากมีขนาดเพียง 58 มิลลิเมตร เท่านั้น !! เฮ้ย แล้วตัวแค่นี้นะเหรอ จะมาทำอาหารให้พวกเราชิม ?? เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง แท้จริงแล้ว Le Petit Chef เป็นรูปแบบการนำเสนอการรับประทานอาหารเย็นแบบ Fine Dining 1 มื้อ ผ่านการเดินทางตามรอยเท้า Marcopolo ของเชฟตัวจิ๋วไปบนเส้นทางสายไหม (The Silk Road) โดยผูกเรื่องราวการเดินทางและฉายภาพลงบนหนังสือหน้าว่างๆ ที่ทางร้านเตรียมไว้ให้ รวมถึงผ้าปูโต๊ะด้วยระบบ 3D เป็นภาพ Animetion ของเชฟตัวจิ๋วเดินทางผ่านประเทศต่างๆ ตั้งแต่ Arabia , India ไปสิ้นสุดกันที่ประเทศจีน ฉายลงมาจากเครื่องฉายบนเพดาน โดยเชฟก็จะนำเสนออาหารจากประเทศต่างๆ ที่เดินทางผ่านไปให้เพื่อนๆ ได้เพลิดเพลิน พร้อมระบบแสงสีเสียงจัดเต็ม เสมือนเราได้มาดูการแสดง และได้ทานอาหารที่เข้ากับ Theme ประเทศต่างๆ ไปพร้อมๆ กัน โปรแกรมของทาง Le Petit Chef นั้น มีเส้นทางการรับประทานอาหารให้เลือกทั้งแบบ Journey A (ราคา 3,599++) และ Journey B (มี Menu บางอย่างเพิ่มเติม ราคา 4,599++) แต่ละ Journey ประกอบไปด้วยอาหาร 5 course แบ่งแยกตามพื้นที่ต่างๆ ที่เชฟเดินทางผ่าน ถ้าพร้อมกันแล้วก็ตามเชฟตัวจิ๋วไปลงเรือที่เมือง Marseille กันเลย **วันนี้เลือกเดินทางแบบ Journey A** - Amuse Bouche : หลังจากล่องเรือมาสักพัก เชฟก็พาเรามาถึงจุดพักเรือกลางทะเล พร้อมอาหาร course แรก ซึ่งเป็นชุดเรียกน้ำย่อยประกอบด้วย Duck Foie Gras Lollipop (ตับเป็ดรสเด็ด อัดเป็นลูกกลมๆ แบบอมยิ้ม จุ่ม Dip เชอร์รี่ อร่อยเลิศ) Bouillabaisse (ซุปปลามาในหลอดแก้ว ยกดื่มได้อร่อยชิลๆ) และ Foccacia & aïoli (ขนมปัง Foccacia แผ่นบางโปะด้วย Chesse) เสิร์ฟบนฐานไม้รูปร่างคล้ายเรือ - Arabia : แล้วเชฟตัวจิ๋วก็พาเราเดินทางมาถึงดินแดนแห่งแรกที่จะมาลิ้มลองอาหารกัน โดยอาหาร course นี้ รสชาติอาราเบียแท้ๆ ประกอบด้วย Lamb Skewer & Moharmara Mezze (เนื้อแกะสะเต๊ะจิ้มซอส หอมอร่อย) Roasted Eggplant, Sesame & Labneh (มะเขือม่วงย่างงาเสิร์ฟพร้อมโยเกิร์ตลาเบิน) และ Kisir Salad, Marinated Olives (เมนูสลัด Kisir เสิร์ฟพร้อมลูก Olives หมัก) ถือเป็น course อาหารที่รสชาติดี แต่คนที่ไม่ถนัดอาหารแขก อาจจะไม่ค่อยถูกปากนัก - India : มาคับ มา เชฟตัวจิ๋วเกาะหลังนกตัวเป้งเหินฟ้าจาก Arabia สู่ India ซึ่งเป็นเมืองแห่งสีสัน และเครื่องเทศ พร้อมอาหารรสเลิศอย่าง Goan Seabass curry (ปลากระพงขาวเนื้อนุ่มแน่นผัดผงกะหรี่แบบ India รสเลิศมากๆ) Chicken Vindaloo (ไก่ผัดเครื่องเทศ India เนื้อดี แต่กลิ่นแขกแรงไปหน่อย) และ Garlic Naan Bread (แป้ง naan นุ่มหอมหวานทานเพลิน) - Himalaya : เชฟตัวจิ๋วเกาะปีกนก (แอร์) ตัวเดิม เดินทางขึ้นทิศเหนือ มุ่งหน้าสู่ประเทศจีน แวะพักล้างปากด้วย Pear & Lime Sorbet ปรับลิ้นให้เป็นกลางกันบนยอดเขาปกคลุมด้วยหิมะ โดย Sorbet มาพร้อมกับ Gimmic สวยๆ ด้วยน้ำแข็งแห้งในถ้วยใต้ Sorbet แถมน้ำร้อนให้ราด เป็นควันขาวฟุ้งดูเหน็บหนาวราวอุณหภูมิ -30 องศา ส่วน Sorbet ก็รสชาติดีเยี่ยม ไม่เปรี้ยวจนเกินไป - China : นก (แอร์) ทะยานขึ้นท้องฟ้าอีกครั้ง พุ่งลดระดับลงสู่ประเทศมหาอำนาจฟากตะวันออก มองเห็นเก๋งจีน และมังกรตัวเป้งโบยบิน ก่อน course อาหารจีนสุดอร่อย (course นี้ คือโคตรอร่อยจริงๆ) เริ่มกันด้วย Abalone, Pak Choy & Shimeji Mushroom, Soy & ginger (เปาฮื้อสดๆ นุ่มหอมมากๆ แทบอยากขอเติม เสิร์ฟพร้อมเห็ด Shimeji และหอมซอย) และ Jasmine Rice (ขอบอกว่าข้าวหอมมะลิ แอดกินหมดเกลี้ยง แม้เปาฮืเอจะหมดแล้ว ถือเป็นข้าวที่หอมมะลิจริงๆ หอมเข้าไปในเนื้อ ใช้น้ำหุงข้าวที่เป็นน้ำดอกมะลิในการหุง ทำให้รสชาติสุดอร่อย) - Dessert : สิ้นสุดสู่จุดหมายปลายทาง เชฟตัวจิ๋วมาพร้อม 3D Graphic สุดอลังการงานสร้างในการทำขนม Crème Brulée ให้เพื่อนๆ ได้ปิดท้ายการเดินทางแบบฟินๆ พร้อม Cardamom Ispahan Sorbet ให้ล้างปากกันอีกที ก่อนปิดการเดินทางด้วยชาหรือกาแฟตามแต่คุณจะเลือก โดยสรุปแล้ว การเดินทางไปกับเชฟตัวจิ๋วนั้น เป็นการเดินทางที่เพลิดเพลินพอสมควร มี 3D Graphic ให้ชม เหมือนมาดูการแสดงเล็กๆ ประกอบการรับประทานอาหาร สำหรับผู้ที่ชื่นชอบประสบการณ์ใหม่ๆ สามารถจองโต๊ะผ่านทาง https://lepetitchef.asia/park-hyatt-bangkok ซึ่งเป็น website ของ Le Petit Chef โดยตรง (ควรจองล่วงหน้านานๆ นะจ๊ะ คิวเขาเต็มมาก) ขณะนี้ เปิดรอบการรับประทานถึงแค่สิ้นเดือนตุลาคมเท่านั้น รีบจองกันเข้ามานะคร้าบ