รู้หรือไม่ 💡เย็นตาโฟ 🍜 ทำไมต้องเป็นสีชมพู 💕

เพื่อน ๆ เคยสงสัยไหมว่า ทำไมเย็นตาโฟถึงมีน้ำซุปสีชมพู ไม่เหมือนเมนูก๋วยเตี๋ยวหรือบะหมี่อื่น ๆ ที่ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำซุปใส หรือถ้าเป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำตกก็จะมีน้ำตาลจากเลือด แต่ทำไมเย็นตาโฟกลับมีสีชมพูสดใส แล้วสีชมพูนี้มาจากไหน ถ้าเพื่อน ๆ สงสัย วันนี้ BESTER EATS มีคำตอบ

‘ย้องตัวฟู่’ 酿豆腐 (Yong Tau Fu) หรือเมนูเย็นตาโฟที่คนไทยรู้จักกัน สันนิษฐานว่าเป็นเมนูก๋วยเตี๋ยวที่เข้าไทยมาพร้อมกับชาวจีนแคะ และเป็นเมนูก๋วยเตี๋ยวที่มีเอกลักษณ์ เพราะเป็นก๋วยเตี๋ยวเมนูเดียวที่ใส่เต้าหู้ยี้ ซึ่งเป็นของคู่ครัวชาวจีนแคะ ทำให้ได้ก๋วยเตี๋ยวที่มีสีชมพู รสชาติหวานและเปรี้ยวแบบแตกต่างไม่ซ้ำใคร แถมยังมีวัถตุดิบที่หาได้แค่ในเย็นตาโฟอย่าง ปลาหมึกกรอบ และเห็ดหูหนูขาว เรียกได้ว่าเป็นเมนูก๋วยเตี๋ยวที่หลาย ๆ คนต่างชื่นชอบกันเลยล่ะ

ส่วนสาเหตุที่ทำให้เต้าหู้ยี้มีสีแดงหรือชมพูนั้นมาจาก ‘อั่งคัก’ หรือราข้าวสีแดง (Red Yeast Rice) ซึ่งเป็นราที่ใช้ทำเต้าหู้ยี้ โดยวิธีทำอักคั่งจะใช้ข้าวนึ่งสุกมาหมักกับราประมาณ 3 สัปดาห์แล้วนำมาบดจนเป็นผงจากนั้นก็จะนำมาทำเต้าหู้ยี้ จึงทำให้น้ำซุปเย็นตาโฟมีสีแดงแบบที่เรารู้จัก ถึงอย่างนั้นอั่งคักก็ไม่ใช้กับแค่เย็นตาโฟเท่านั้น แต่ยังใช้กับ หมูแดง กุนเชียง เป็ดปักกิ่งอีกด้วย

แต่ปัจจุบันหลาย ๆ ร้านก็หันมาใช้สีผสมอาหารแทนเต้าหู้ยี้เพื่อประหยัดต้นทุนในการทำเย็นตาโฟ แต่ทั้งนี้การใช้สีผสมอาหารก็ไม่ได้ทำให้รสชาติของเย็นตาโฟเปลี่ยนไปและไม่ได้มีโทษต่อร่างกายแต่อย่างใดเลย ซึ่งความแตกต่างระหว่างการใช้เต้าหู้ยี้หรือสีผสมอาหารก็มีวิธีที่สามารถแยกได้ด้วยนะ ซึ่งเย็นตาโฟชามไหนที่สีแดงหรือชมพูของซุปไปติดกับลูกชิ้น เนื้อสัตว์ หรือเส้น แสดงว่าชามนั้นใช้สีผสมอาหาร แต่ถ้าเส้นและพวกลูกชิ้นไม่มีสีติดก็แสดงว่าเย็นตาโฟชามนั้นใช้เต้าหู้ยี้ทำน้ำซุปนั่นเอง

สรุปแล้วที่ ‘เย็นตาโฟ’ มีสีชมพูนั้นก็เกิดจากซุปที่ใส่ซอสเต้าหู้ยี้ที่ทางร้านใช้มีส่วนผสมเป็น ‘อั่งคัก’ หรือราข้าวสีแดง โดยทำมาจากข้าวนึ่งสุกหมักกับราจนได้สีแดงแล้วนำมาทำเต้าหู้ยี้ แต่ปัจจุบันหลาย ๆ ร้านก็ใช้สีผสมอาหารมาแทน ซึ่งวิธีแยกก็ไม่ยากเลย ให้สังเกตที่เส้นและลูกชิ้นถ้ามีสีติดแสดงว่าใช้สีผสมอาหารแต่ถ้าไม่ติดก็คือใช้เต้าหู้ยี้นั่นเอง

รู้หรือไม่ 💡เย็นตาโฟ 🍜 ทำไมต้องเป็นสีชมพู 💕

เพิ่มเติม

ค้นพบร้านอาหารแนะนำ