อันที่จริงเป็นห้องอาหารที่ปกติจะเปิดตั้งแต่ช่วงเช้ายันดึกครับ แต่ช่วงนี้จะเปิดแค่ช่วงเช้าอย่างเดียวสำหรับเป็นห้องอาหารทานบุฟเฟ่อาหารเช้าครับ โดยตำแหน่งจะอยู่ด้านบนสุดครับ ถ้าหากใครที่พักด้านบนจะเดินเข้าห้องอาหารนี้ค่อนข้างง่ายเลยครับ แต่ถ้าอยู่ด้านล่างลงไป เวลาขึ้นมาจะต้องนั่งรถรางขึ้นมา ซึ่งใช้เวลาค่อนข้างนาน แต่ที่รีสอร์ทเองก็มีบริการเรียกรถด้วยเช่นกันครับ ห้องอาหารนี้ค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว โดยจะมี 2 ชั้นด้วยกัน โซนริมระเบียงจะถูกจับจองจนเต็มเร็วมากๆครับ ถ้ามาช้าจะได้นั่งด้านในแทน สำหรับ 2 วันที่อยู่ที่นี่ นั่งที่ชั้นบนอย่างเดียวครับ เพราะชั้นล่างเต็ม อาหารที่สามารถตักได้จะอยู่ที่ชั้นล่างทั้งหมดครับ เลยลำบากต้องเดินถืออาหารขึ้นไปด้านบนครับ เมนูอาหารเช้าของที่นี่จะเปลี่ยนไปตามในแต่ละวันครับ โดยที่จะมีหลักๆเลยคือพวก Breakfast เช่นเบคอน ไส้กรอก ไข่ดาว ออมเล็ตเองก็ทำสดๆ โดยสั่งกับพนักงานแล้วค่อยมารับอีกที นอกจากนี้ที่เด่นๆ อีกอย่างคือสลัดครับ จะเปลี่ยนไปทุกวัน มีทั้งแบบตักเอง และทำเสร็จแล้ว ซึ่งอันนี้ก็โอเครเช่นเดียวกัน หรือถ้าอยากทานกับข้าวแบบไทยๆ ก็มีครับแต่จะน้อยหน่อย อย่างวันแรกมีผัดไท อีกวันเป็นผัดก๋วยเตี๋ยวแห้ง อีกอย่างที่ไม่พูดถึงเลยไม่ได้คือโจ๊กครับ โจ๊กของที่นี่อร่อยครับ แนะนำว่าให้ใส่ไข่ลวกจะดีมากครับ ถ้าหากอยากกินก๋วยเตี๋ยวก็มีด้วยเช่นกัน แต่ส่วนตัวไม่แนะนำเพราะไม่อร่อยครับ ส่วนของขนมปังเองก็มีให้เลือกอยู่ประมาณ 4 แบบครับ และมีเนยที่ละลายให้แล้วที่หยิบได้เลย หากอยากกินแป้ง ก็มีแพนเค้กทำสดๆ สามรูปแบบด้วยกัน และเลือกตักเครื่องที่ทานด้วยกันได้ และที่น่าสนใจอีกอย่างคือมีขนมถ้วยให้บริการด้วยเช่นกัน อาจจะไม่ค่อยกรอบสักเท่าไร แต่ตัวแป้งใช้ได้ครับ โซนของเครื่องดื่มเองก็จะมีน้ำผลไม้อย่างน้ำส้ม สับปะรด และมีน้ำสมุนไพรอย่างน้ำมะตูมด้วยครับ ส่วนกาแฟจะมีเครื่องชงของเนสกาแฟเลยครับ ชงแบบออโต้ ถ้าหากรู้สึกว่าอยากกินน้ำอื่นๆมากกว่า ที่นี่ก็มีเมนูผลไม้ปั่นด้วยเช่นกัน อย่างผมเองสั่ง มะม่วงปั่น แตงโมปั่น และน้ำมะพร้าวมาทานครับ ส่วนนี้ก็จะต้องจ่ายเพิ่มต่างหาก แต่เนื่องจากเราซื้อดีลก็เลยใช้จ่ายไปให้หมด สุดท้ายจ่ายเพิ่มเพียง 30 บาทเองครับ โดยรวมแล้วรสชาติอาหารถือว่าค่อนข้างดีครับ เมนูมีความหลากหลายและเติมค่อนข้างบ่อย ส่วนการบริการของที่นี่จะดีกว่าร้านอาหารด้านล่างครับ พนักงานจะประจำจุดเยอะกว่าและดูแลดีกว่า ทั้งๆที่เป็นชุดเดียวกันกับร้านด้านล่างครับ
ห้องอาหาร Just Thai ห้องอาหารไทยหนึ่งเดียวในโรงแรม The Emerald Cove เกาะช้าง ซึ่งอยู่บริเวณ Lobby ของโรงแรม ที่นี่เสิร์ฟอาหารไทยหลากหลาย ในราคาที่ถูกจนตกใจ - อาหารว่างรวมมิตร 199 บาท : เมนูนี้เป็น appetizer ของไทย 4 ชนิด ทั้งทอดมันปลา ไก่ห่อใบเตย หมูแดดเดียว และสะเต๊ะหมู - น้ำพริกกุ้งสด 199 บาท : น้ำพริกกุ้งสดๆ ไม่เผ็ดมาก เด็กๆ ทานได้สบายเลย รสออกเปรี้ยวนำ และหวานตามเล็ก เผ็ดปลายลิ้นหน่อยๆ เนื้อกุ้งเต็มๆ คำ - ส้มตำไก่ย่าง 159 บาท : เสิร์ฟมาเป็นเซ็ตส้มตำ และไก่ย่าง ไก่ย่างหมักมาดีมากๆ หอม อร่อย - ยำส้มโอ 199 บาท : ยำรสชาติดีเวล คลุกเคล้ากับกุ้งสด เนื้อเด้งๆ เข้ากันดี - ต้มยำกุ้ง 179 บาท - มัสมั่นเนื้อ 259 บาท : เมนูหาทานตามร้านอาหารยาก และเป็นที่นิยมสำหรับชาวต่างชาติมากๆ เครื่องแกงเข้มข้นดี เนื้อติดเอ็นนิดๆ เปื่อยกำลังดี - กุ้งผัดพริกไทยดำ 229 บาท : เมนูนี้เข้มข้นมากๆ ต้องเน้นทานกับข้าวเท่านั้น กุ้งทำเป็นกุ้งเหยียด ขนาดกำลังดี เรียงตัวสวยงาม - ปลาแซลมอนห่อใบตอง 299 บาท มองผ่านๆ นึกว่าห่อหมก แต่เป็นแซลมอนชิ้น Fillet เลย ย่างในใบตอง ได้กลิ่นกอมอ่อนๆ - ข้าวเหนียวมะม่วง 159 บาท เสิร์ฟมาสวยงามมากๆ ข้าวเหนียวทรงกรวย สามสีสวยงาม - Mango Cheese Cake 159 บาท ** ข้าวสวยของห้องอาหาร Just Thai จะมีให้เลือกทั้งข้าวขาว ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวดอกอัญชัญ โดยจะเสิร์ฟให้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เลย ใครสายแข็งได้อิ่มท้องกันได้สบาย ⏰ เวลาเปิดบริการ : 18:00 – 22:00 #firstpost
ร้านอาหารริมทะเลบนหาดไก่แบ้ เกาะช้าง เน้นบรรยากาศ ติดกับโรงแรมThe Dewa มีทั้งอาหารทะเล ไทย เสต็ก พิซซ่า รสชาติพอใช้ (แต่ราคาไม่แรงเท่ากับของโรงแรม) น่าจะถูกปากฝรั่งมากกว่า พนักงานเสริฟเป็นกันเอง และที่พิเศษจะเป็นโชว์ควงไฟที่มีทุกวันตอนสองทุ่ม หรือจะแค่เลือกนั่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดูโชว์อย่างเดียวกได้ ควรเลือกนั่งโต๊ะหน้าสุดจะได้เห็นโชว์ชัดสุด #kirinonthego #eatwithkirin #Dec2018
ชื่อร้านจะเป็นกุ้งกะทะ นั่นคือ มีกุ้ง และหมูกะทะ เครื่องเคียง มีให้เลือกเยอะ กุ้ง หมึก หมู ไก่ เนื้อ เฟรนส์ฟราย ซาลาเปา ขนมจีบ ไอติม ผลไม้ ขนมหวาน ในราคา239 ถ้าจะเพิ่ม เตาเผากุ้ง +อีกแค่ 89฿ ราคานี้บนเกาะ ถือว่า คุ้ม!!! ใครไปเกาะช้าง ต้องไปลองนะคะ #1year