สวัสดีง้าบ💘มารีวิวคาเฟยอดฮิต loveis cafe and bar คาเฟ่น่ารัก สไตส์เกาหลี เกาใจ สีสวยมาก ถ่ายรูปสวย ชาเขียว ช็อกโกแลต soft drink เมนูน่ากินเยอะ ราคาไม่แรง แนะนำสำหรับสายcontent#HNY2023
ชื่อร้าน Honeypie แว๊บแรกทำให้นึกถึงร้านขนมมากกว่าร้านที่เป็นบาร์แบบนี้ โทรร้านอยู่บนบ้านไม้เก่าเก่าย่านอารีย์ ที่ทะลุออกพระรามหกได้ ที่ร้านเปิดเพลงเบาเบาสามารถคุยกันรู้เรื่องไม่หนวกหูจากเพลงจนเกินไปถือว่ามาสังสรรค์ได้ เมนูที่ร้านเน้นอาหารจานเดียวเมนูยำเมนูย่างแบบร้านเหล้าทั่วไป ผมสั่งทานหลายเมนูมากติดใจยำสามกรอบของที่นี่หวานน้ำพริกเผาเผ็ดจัดจ้าน หมูมะนาวก็ดี คอหมูทอดจิ้มแจ่วคือที่สุด
ชี้เป้าร้านนั่งชิว 𝘞𝘪𝘯𝘦 𝘣𝘢𝘳 ย่านอารีย์ ร้าน “𝐂𝐚𝐧𝐭𝐢𝐧𝐚 𝗪𝐢𝐧𝐞 𝐛𝐚𝐫 & 𝐈𝐭𝐚𝐥𝐢𝐚𝐧 𝐤𝐢𝐭𝐜𝐡𝐞𝐧” บรรยากาศร้านดีมาก มี2 ชั้นดีทั้งคู่ คนละฟิล เปิดด้วยไวน์ก่อนจะบอกว่าสมแล้วที่เป็นไวน์บาร์มีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ราคาย่อมเยาว์ไปจนถึงแพง เราเลือกตัวกลางๆมาลองถือว่าดีเลยแหละ 🧀 เมนู 𝘔𝘪𝘹𝘦𝘥 𝘱𝘭𝘢𝘵𝘵𝘦𝘳 แบบรวมชีสกับพวกแฮม มีขนมปัง แยม แล้วก็มะกอกอันนี้ดีควรสั่งติดโต๊ะทานเพลิน 🍴โดยรวมเมนูที่เราสั่งมาคืออร่อยหมดเลย เริ่มตั้งแต่ซุปเห็ด สปาเกตตี 𝘈𝘷𝘰𝘤𝘢𝘥𝘰 & 𝘚𝘢𝘭𝘮𝘰𝘯 𝘵𝘢𝘳𝘵𝘢𝘳𝘦 แล้วก็ตัวหอยเชลล์ทรัฟเฟิลเป็น 𝐒𝐩𝐞𝐜𝐢𝐚𝐥 𝐨𝐟 𝐭𝐡𝐞 𝐝𝐚𝐲 อร่อย👍🏼 ทีเด็ดคือพิซซ่า 🍕เราเลือกเป็น 𝘩𝘢𝘭𝘧/𝘩𝘢𝘭𝘧 เป็น 𝐒𝐚𝐥𝐦𝐨𝐧 กับ 𝐌𝐚𝐬𝐜𝐚𝐩𝐨𝐧𝐞 𝐭𝐚𝐫𝐭𝐮𝐟𝐨 จะบอกว่าอร่อย แล้วพึ่งรู้ว่าพิซซ่าคือของ 𝘚𝘖𝘏𝘖 𝘱𝘪𝘻𝘻𝘢 ที่เราพึ่งสั่งกินไปไม่นานมานี้ แต่ที่นี่จะมีหน้าแปลกๆเยอะกว่า อร่อยเลยแหละ โดยรวมดีมาก อาหารอร่อย บรรยากาศดี พนง. ก็บริการดีทั้งถึง แถมที่สำคัญร้านมีที่จอดรถสะดวกสบายมากๆ ร้านนี้จะกลายเป็น 𝟏 ในร้านประจำแน่นอนชอบเวลาตอนจองผ่านทาง 𝐅𝐁จะมีเมลล์ 𝐜𝐟 แล้วก็พอใช้บริการเสร็จก็มีเมล์มาขอบคุณ 𝘵𝘰𝘶𝘤𝘩𝘪𝘯𝘨 มากๆ ❤️ เลิฟเลย 🗣 𝐑𝐚𝐭𝐢𝐧𝐠: 5/5 📍 𝐂𝐚𝐧𝐭𝐢𝐧𝐚 𝗪𝐢𝐧𝐞 𝐁𝐚𝐫 & 𝐈𝐭𝐚𝐥𝐢𝐚𝐧 𝐊𝐢𝐭𝐜𝐡𝐞𝐧 , 142 พระรามที่ 6 ซอย 30 แขวง สามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400 🕰 𝟏𝟕:𝟎𝟎-𝟐𝟑:𝟑𝟎 ☎️ จองออนไลน์ 🚘 มีที่จอดรถในซอยอารีย์ 2 🔄 Return ✅ #RettyAug22
ร้านอิซากายะสุดลึกลับ ถ้าไม่สังเกตดีๆ ก็จะไม่รู้ว่าร้านนี้อยู่ตรงไหน ตำแหน่งร้านอยู่ในซอยพหลโยธิน 11 ระหว่างร้าน Hub39 Coffee Bar และ ร้าน Pizza Pazza การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวจะสะดวกที่สุด ที่จอดรถสามารถมาจอดบริเวณริมทางของซอยข้างร้าน Hub39 Coffee Bar ซึ่งที่จอดบริเวณนี้ค่อนข้างเต็มเร็ว แนะนำว่าควรมาร้านนี้เร็วสักหน่อยเพื่อที่จะได้ไม่ต้องวนหาที่จอดรถ บรรยากาศภายในร้านจะมีผ้าผูกอยู่ด้านบนเพดานเป็นริ้วๆ สวยงาม และที่นั่งก็จะเป็นแนวอิซากายะขนานแท้ ด้วยโต๊ะและเก้าอี้ที่ออกแบบมาเป็นแบบไม่มีพนักพิง เน้นกินดื่มอย่างแท้จริง เมนูอาหารจะมีความหลากหลายในประเภทอาหาร แต่ที่ทางร้านเน้นหนักจริงๆ จะเป็นกลุ่มปิ้งย่างที่ขายเป็นแบบไม้เสียบ แต่ถ้าอยากกินอย่างอื่นด้วย เช่น ซาชิซิ ซูชิ ข้าวหรือด้ง ก็มีให้บริการเช่นกัน เริ่มต้นกันด้วยเมนูเส้นราเมนจุ่มซอสเย็นๆ กับ Hiyashi Ikaramen ราคา 220 บาท ถ้าเป็นราเมนจะเรียกว่า Tsukemen นั่นเอง เป็นราเมนเสิร์ฟพร้อมกับหมึกสดสไลด์ และน้ำจิ้มวาซาบิสีน้ำตาลที่แช่เย็น เวลาทานให้จุ่มเส้นลงไปในซอส และทานพร้อมกับหมึก รสชาติออกเผ็ดฉุนขึ้นจมูก หากจุ่มเยอะก็ยิ่งเผ็ดมากขึ้นไปอีก เส้นอร่อยมีความนุ่มหนึบและพอเจอซอสเย็นๆ ก็ยิ่งช่วยให้รสชาติดีขึ้น หมึกเองก็นุ่มเช่นกัน เมนูขึ้นชื่อของร้านอิซากายะอย่างที่สอง ก็ต้องเป็นของทานเล่น โดยที่ร้านเองก็จะมีเมนูที่ไม่ธรรมดาอย่าง Eihire and Squid Grill Set ราคา 249 บาท ครีบปลากระเบนและหมึกแห้งจากปราณบุรี เสิร์ฟมาพร้อมกับเตาถ่านย่าน พร้อมกับแนะนำการย่างให้พร้อมทาน เมื่อวางบนเตาถ่านแล้ว ต้องคอยดูว่าจะไหม้หรือเปล่า หากเป็นครีบปลากระเบน ถ้าเริ่มมีฟองผุดๆ ให้รีบพลิกด้าน ส่วนหมึกแห้งนั้นถ้าเริ่มขาวแล้วก็หยิบมาตัดเป็นชิ้นๆ และทานตอนร้อนๆ เลย ซึ่งถ้าหากไม่ชำนาญ สามารถให้เชฟทำแทนได้เช่นกัน เสิร์ฟมาพร้อมกับมายองเนส ครีบปลากระเบนจะออกหวานๆ มีความกรอบ เช่นเดียวกับหมึกย่างที่ออกไปทางกรอบๆ ที่ต้องออกแรงเคี้ยวสักเล็กน้อย เช่นเดียวกัน ร้านอาหารประเภทนี้ย่อมมีซาซิมิเสิร์ฟ เลยสั่ง Salmon Sashimi ราคา 299 บาท ปริมาณเยอะใช้ได้ มีอยู่ด้วยกันประมาณ 7 ชิ้น แต่ละชิ้นก็มีขนาดใหญ่พอดีคำ จิ้มกับโชยุ และแต้มวาซาบิอีกนิดหน่อยเพิ่มความฉุนก่อนทาน รสชาติดี เนื้อมีความลีนๆ และเฟิร์ม ละลายในปาก ไม่ต้องออกแรงเคี้ยว หลังจากทานมาประมาณ 3 เมนูแล้ว หากรู้สึกว่าไม่ค่อยคล่องคอสักเท่าไร แนะนำให้สั่ง Asari Sakamushi ราคา 80 บาท ซุปสาเกใส่หอยอาซาริหรือหอยลายในบ้านเรา แต่ลายจะสวยและออกส้มๆ มากกว่า ตัวซุปจะเป็นน้ำใส ซึ่งใส่สาหร่ายลงไปต้ม ก่อนที่จะนำหอยลงไปต้มและเติมสาเกเพื่อดับกลิ่น โรยต้นหอมซอยเพิ่มกลิ่นและรสให้ชัดขึ้น รสชาติเลยออกอูมามิหวานแบบธรรมชาติ กลมกล่อม แนะนำว่าให้ทานต้นหอมเข้าไปด้วยรสชาติจะยิ่งอร่อยขึ้น หอยอาซาริเองก็นุ่มกำลังดีไม่เหนียวแต่อย่างใด สำหรับใครที่รู้สึกว่าซุปใสยังไม่พอใจ ที่ร้านเองก็มีซุปข้นรสชาติออกขิงๆ กับ Tontan no Miso Tsuke หรือ ซุปลิ้นหมูหมักกับซอสมิโซะ ราคา 150 บาท ซุปนี้จะเป็นน้ำข้นที่ใส่มิโซะขาวลงไป ส่วนลิ้นหมูจะนำไปต้มก่อนและดับกลิ่นด้วยขิง ก่อนที่จะมาหั่นเป็นสี่เหลี่ยมเต๋าๆ รสชาติมีความเข้มข้น ทานแล้วนึกถึงโจ๊กที่ใส่ขิงเยอะหน่อย แต่ไม่มีความเผ็ด ลิ้นหมูทำออกมาได้นุ่มกำลังดี ทานได้เพลินๆ ของทานเล่นอีก 1 เมนูที่เกือบลืมแนะนำไปกับ Hiyashi Tomato ราคา 85 บาท เมนูง่ายๆ ที่นำมะเขือเทศมาหั่นเป็นแว่นๆ และแช่เย็นจัดๆ ระดับนึง ก่อนเสิร์ฟมาพร้อมกับเกลือให้จิ้มเพื่อเพิ่มรสชาติ สิ่งแรกที่แตกต่างจากมะเขือเทศทั่วๆไป คืออันนี้จะไม่เหม็นเขียว พอเจอกับเกลือก็จะดึงความหวานจากน้ำในมะเขือเทศออกมาได้อีก ซึ่งเมนูนี้เหมาะกับมาทานตัดเลี่ยนกับเมนูปิ้งๆ ได้เป็นอย่างดี ต่อกันด้วยเมนูซิกเนเจอร์จานแรกของร้านที่ลูกค้าหลายคนชอบสั่ง กับ Pork Belly Spiral with Asparagus ราคา 130 บาท หมูสามชั้นสไลด์บางเฉียบห่อหน่อไม้ฝรั่งและผ่านการเบิร์น โรยผงบ๊วยเพิ่มความอร่อย และจิ้มกับมายองเนสก่อนทาน รสชาติจะออกเค็มๆ มีความมันจากสามชั้นที่ห่ออยู่ แต่ไม่เหนียวและออกไปทางละลายในปากด้วยซ้ำ เข้ากันกับหน่อไม้ฝรั่งมากๆ ผ่านเมนูย่างๆ มาเยอะแล้ว เปลี่ยนแนวมาเป็นของทอดกันบ้าง ซึ่งก็มีเมนูแปลกๆ อย่าง Tori Namban ราคา 85 บาท ไก่ทอดราดซอสนัมบังที่ให้รสชาติออกเปรี้ยวหวาน ตัวไก่จะแยกมากับน้ำราดเพื่อไม่ให้นิ่มไปก่อน เวลาทานแนะนำว่าให้จิ้มจะอร่อยที่สุด รสชาติออกเปรี้ยวหวานในเชิงของอาจาด เข้ากันกับตัวเนื้อไก่คาราเกะที่ทอดมาจนกรอบพร้อมกับด้านในที่เนื้อยังมีความชุ่มฉ่ำ มาเปลี่ยนรสชาติกันสักนิดกับเมนูประจำร้านอิซากายะกับ Tako + Tsubugai Wasabi ราคา 179 บาท หมึกและหอยสังข์ญี่ปุ่นดองในวาซาบิ เสิร์ฟมาแบบเย็นๆ เหมือนเพิ่งออกจากตู้เย็น ทั้งหมึกและหอยนุ่มอร่อยกำลังดี ไม่ต้องออกแรงเคี้ยวมาก ที่ชอบคงเป็นเนื้อหอยสังข์ที่ให้ Texture ที่อร่อยกว่าหมึก อันนี้เดอะเบสเลย หลังจากกินของทานเล่นไปหลายเมนูแล้ว หากกลัวไม่อิ่มและต้องการจานหลักสักจาน ลองสั่ง Kaisen Don 3 Styles ราคา 329 บาท ข้าวหน้าปลา 3 สีเสิร์ฟมาพร้อมกับไข่ดอง มีปลาด้วยกัน 3 แบบคือ Akami จากทูน่า Salmon และ Hamachi ทีเด็ดความอร่อยของจานนี้คือตัวข้าวที่จะมีผสมผักดองเข้าไปด้วย ทำให้ทานแล้วรู้สึกอยากทานอีกเรื่อยๆ เนื้อปลาดีทั้ง 3 อย่าง และตัวไข่ดองเป็นเหมือนตัวประสานที่ทำให้จานนี้สามารถทานพร้อมกันได้ในคำเดียว ก่อนจะไปเมนูจานหลัก ต้องขอแนะนำเมนูซิกเนเจอร์ของร้านจานที่ 2 และน่าจะหาทานที่ไหนไม่ได้แล้วในไทย กับ Grill Simmered Quail Egg ราคา 119 บาท สามารถสั่งได้ตั้งแต่ 5 ฟองจนถึง 20 ฟอง จะเป็นเมนูไข่นกกระทาที่นำไปต้มในซอสสูตรลับหวานเค็มของทางร้าน ให้เป็นยางมะตูม จากนั้นนำไปย่าง มาพร้อมกับเกลือเพื่อเพิ่มรสชาติ เมื่อกัดเข้าปาก ตัวยางมะตูมจะไหลออกมาเหมือนเป็นลาวา ให้ความรู้สึกเดียวกันกับการทานไข่ไก่ต้มซอส แต่รสชาติจะเข้มข้นและหอมกว่ามาก หลังกลืนลงไปแล้วจะรู้สึกอย่างนึงเลยว่า อยากทานอีก แปปเดียว 10 ฟองก็หายไปจากโต๊ะเลย ตัวเกลือจะมาเพิ่มความเค็ม ซึ่งช่วยทำให้ทานง่ายขึ้นสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งลองทานเมนูนี้ แต่แนะนำว่าทานเปล่าๆ อร่อยที่สุด และแล้วก็มาถึงเมนูจานหลักจริงๆ ของร้านนี้กับ ปิ้งย่างเสียบไม้ จะเสิร์ฟมาพร้อมกับซอสเต้าเจี้ยวเค็มๆ ที่ใช้จิ้มได้หลายเมนู ยกเว้นเมนูที่มีทาซอสแล้วไม่ต้องจิ้ม ก็จะมี - Momen Tofu Sailyomiso ราคา 40 บาท เต้าหู้นิ่ม ย่างซอสมิโซะขาว เมนูเริ่มต้นที่หน้าตาดูธรรมดา มีแค่ซอสแปะอยู่ 1 หยดใหญ่ๆ แต่ขอบอกเลยว่า ถ้าไม่สั่งคือพลาดมาก รสชาติดี เนื้อเต้าหู้จะมีความกระด้างนิดๆ แต่เข้าปากแล้วหอม ส่วนซอสจะมาเพิ่มความหวาน ทำให้ทานได้ง่ายขึ้น - Eringi ราคา 40 บาท เห็ดออรินจิย่าง เมนูง่ายๆ แต่ทำไม่ง่าย ปกติแล้วเวลาย่างเห็ดตัวนี้จะต้องพอเหมาะพอดี ย่างนานไปก็จะเหนียวหรือไหม้ไปเลย แต่ถ้ากำลังดี จะยังมีความฉ่ำของน้ำในเห็ดอยู่ ทานแล้วจะได้ความนุ่มที่พอเหมาะพอดี ไม่ต้องออกแรงเคี้ยวแต่อย่างใด - Liver ราคา 40 บาท ตับหมูย่างเกลือ ที่สามารถสั่งได้ว่าจะให้ย่างสุกเลย หรือกึ่งสุกกึ่งดิบ แต่ถ้าแนะนำให้สั่งแบบกึ่งสุกกึ่งดิบ เพราะรสชาติจะหวานกว่าและเนื้อไม่มีความแห้ง Texture ดีทานแล้วออกหนึบหนับไม่ต้องออกแรงเคี้ยวมากแต่อย่างใด - Thigh Ume ราคา 45 บาท สะโพกไก่ย่างซอสบ๊วยญี่ปุ่น หน้าตาดูแน่น เนื้อมีความชุ่มฉ่ำ และซอสจะออกหวานๆ ตัดกับเนื้อไก่ได้เป็นอย่างดี - Gizzard Shioyaki ราคา 40 บาท กึ๋นไก่ย่างที่แนะนำว่าต้องสั่ง ทางร้านจะหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ และย่างไฟให้สุกพอดี ทำให้ไม่มีความเหนียว แต่ต้องออกแรงเคี้ยวสักหน่อย ฟูๆ มันๆ ทานได้เพลินๆ จิ้มกับซอสเต้าเจี้ยวอร่อย - Belly with Enoki ราคา 45 บาท หมูสามชั้นห่อเห็ดเข็มทอง เมื่อสักครู่ที่สั่งแบบห่อหน่อไม้ฝรั่งไป เปลี่ยนมาลองเป็นเห็ดเข็มทองดูบ้าง ซึ่งก็ให้ Texture กรอบนอกนุ่มใน มีความหอมจากการย่างแบบกรุ่นๆ ต้องออกแรงเคี้ยวเห็ดสักนิด แต่โดยรวมแล้วถือว่าดีเลย รสชาติความอร่อยโดยรวมแล้ว ถือว่าเป็นที่สุดของอิซากายะเลยก็ว่าได้ ปริมาณอาหารถือว่าสมเหตุสมผลไม่แพงจนเกินไป แต่ถ้าสั่งมาเยอะๆ ก็อาจจะมีช็อกกับราคาได้เช่นกัน ความอร่อยต้องยกนิ้วให้ ดีทุกเมนูโดยเฉพาะเมนูเนื้อเสียบไม้ต่างๆ และซุปสาเกที่รสชาติกลมกล่อมมากๆ ส่วนของการบริการก็ค่อนข้างรวดเร็ว จะมีช้าสักหน่อยเฉพาะเวลาเติมเครื่องดื่มรีฟิลต่างๆ แต่กระนั้นก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด 💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻 🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin 🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha *กรณีต้องการนำรูปไปใช้งานให้ขออนุญาตและให้เครดิตทุกครั้ง มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์และแจ้งความทุกกรณี #Hellonewretty