โพธิ์คิทเช่น

Veerapat Ma 135 Followers

มื้อกลางวัน

ร้านพาสต้าเส้นสดเล็กๆ ขนาด 1 คูหา ในซอยลาดพร้าว 29 แนะนำว่าจะมาร้านนี้ต้องดูรอบที่ทางร้านเปิดให้จองก่อนครับ เพราะว่าร้านไม่ได้เปิดทุกวันและมีกันอยู่ 2 คนเพราะต้องการให้บริการลูกค้าแบบเข้าถึงได้ครับ ถ้าหากว่ามา walk-in เลยก็จะโดนปฏิเสธที่หน้าร้านเลยครับ (เห็นพอดี) โดยที่เราสามารถสั่งอาหารและชำระเงินล่วงหน้าได้เลยครับ หากใครต้องการขับรถมา ผมแนะนำว่าไปจอดที่ MRT ลาดพร้าว แล้วเดินมา หรือ MRT รัชดาภิเษกแล้วต่อแท๊กซี่มาเลยก็ได้เช่นกัน ไม่แนะนำให้มาหาที่จอดเพราะว่าซอยแคบและเสี่ยงโดนเฉี่ยวได้ครับ ภายในร้านจะเป็นเหมือนบ้านเล็กๆ หลังนึง ที่มีครัวแบบง่ายๆ โต๊ะแบบเรียบง่ายแต่ดูมีอะไร โดยมีพี่ผู้ชายออกมาวัดอุณหภูมิตามนโยบาย Social Distancing และวันนี้ก็มีเพียงแค่ 2 โต๊ะ คือโต๊ะผมกับโต๊ะข้างๆ เองครับ ค่อนข้าง Private เลยทีเดียว คิดว่าถ้ามากันเป็นหมู่คณะน่าจะขอเหมารอบได้เลยครับ โดยพี่ผู้ชายจะมาทวนเมนูอีกครั้งก่อนเริ่มทำอาหารครับ ระหว่างรอผมหยิบเมนูอาหารของที่ร้านมา ซึ่งจะมีแบบเล่มเต็มอยู่ครับ โดยในเล่มนี้จะอธิบายได้ค่อนข้างละเอียดเลยว่า แต่ละเมนูมีที่มาที่ไปอย่างไร และเห็นด้วยว่ามีกาแฟดริปด้วยครับ แต่เนื่องจากมื้อนี้อิ่มจนตื้อแล้วเลยไม่ได้สั่ง เสียดายนิดๆครับ ไว้คราวหน้าค่อยมาสั่งใหม่ เมนูอาหารที่ทานวันนี้ก็จะมี 1. สลัดออแกนิค ราคา 110 บาท: ผักหลากหลายชนิดจาก A Little Farmer ที่นครปฐมครับ เสิร์ฟมาพร้อมกับสลัดน้ำมันงาญี่ปุ่น โรยด้วยกล้วยทอดและผักย่างครับ สีของจานนี้จะไม่ได้ดูสดมาก มีเด่นๆแค่มะเขือเทศสีส้ม ที่ทานแล้วรสชาติดีเลยครับ ไม่ค่อนเหม็นเขียวเหมือนมะเขือเทศปกติ ราดแล้วคลุกเคล้าแล้วลองชิม อร่อยดีเลยครับ รสชาติจะไปทางเดียวกัน ไม่ได้โดด แล้วก็แก้เลี่ยนได้ดีเลยครับ 2. ซุปครีมเห็ด ราคา 120 บาท: เสิร์ฟมาพรอมกับขนมปังบาร์แก็ตที่กรอบนอกนุ่มใน ด้านบนสุดของซุปจะมีโรยพาร์เมซานชีส ที่ร้านจะไม่ได้กรองหัวหอมออกครับ และซุปค่อนข้างที่จะใสไปสักหน่อย ขาดความเข้มข้นครับ อันนี้เข้าใจว่าจงใจเพราะว่าถ้าใส่นมเยอะๆ มันจะเลี่ยนจนเกินไปนั่นเอง ข้างๆมีใบไทม์มาให้ด้วยครับ แนะนำว่าให้ขยี้และโรยลงบนซุป จะทำให้กลิ่นหอมแบบอโรม่าเลยครับ 3. พาสต้าเพสโต้ ราคา 135 บาท: หรือพาสต้าที่ใส่ใบโหระพาปั่นจนละเอียดนั่นเอง จานนี้ค่อนข้างจะมังสวิรัติเพราะไม่มีเนื้อสัตว์เลยครับ โดยใส่เห็ดหั่นเต๋าลงไปแทน โรยด้วยมะเขือเทศสีส้มและใบโหระพาตกแต่งนิดหน่อย รสชาติโดยรวมดีครับ ตัวเส้นจะออกแข็งๆซึ่งเป็น Texture ที่ส่วนตัวชอบแบบนี้ครับ คนอื่นอาจจะรู้สึกว่าแข็งไปหน่อย สามารถบอกกับพี่ผู้หญิงได้ว่าทำให้เส้นนิ่มขึ้นได้ครับ ตัวแป้งจะเตรียมเอาไว้แล้ว เพียงแค่มารีดให้บางและต้ม ก่อนนำไปผัดกับซอสอีกที รสชาติซอสได้โหระพาเป็นตัวชูโรงแต่ไม่ได้เด่นจนกลบทุกอย่างไป 4. พิซซ่าฟอร์เรสต์เบคอน ราคา 199 บาท: จานนี้ใช้เวลาทำนานสุดโดยอบในเตาอบไฟฟ้าธรรมดานี่แหละครับ แต่รสชาติดีเลยทีเดียว ตัวแป้งทางร้านพยายามทำให้บางที่สุดเพื่อที่จะได้ความบางกรอบ ส่วนเครื่องก็ใส่มาเยอะพอสมควรครับ การปรุงรสชาติ ส่วนตัวค่อนข้างชอบเพราะไม่ต้องปรุงอะไรอย่างอื่นเพิ่มเติม ซอสมะเขือเทศก็ใส่มาพอดีแล้วครับ หากรู้สึกขาดอะไรไป แนะนำให้เอาใบไทม์ที่เหมือนดูผักแต่งจาน มาเด็ดยอดแล้วโรยครับ รับรองว่าประทับใจ 5. น้ำมะนาวโฮมเม้ดผสมน้ำผึ้งเดือนห้า ราคา 70 บาท: รสชาติเปรี้ยวเด่นมากเลยครับ แนะนำว่าให้รอให้ละลายพอสมควรแล้วค่อยทานจะดีกว่าครับ เหมาะสำหรับการแก้เลี่ยนได้เป็นอย่างดี 6. น้ำมะนาวน้ำผึ้งมัทฉะ ราคา 90 บาท: ตัวนี้ส่วนตัวรู้สึกว่ารสชาติไปด้วยกันไม่ค่อยจะได้ครับ ความเปรี้ยวของมะนาวค่อนข้างเยอะและมาเจอกับรสชาติของมัทฉะ เลยรู้สึกไม่กลมกล่อมและไม่ไปทางเดียวกัน 7. ชีสเค้กเจอร์รี่ ราคา 119 บาท: ชีสเค้กที่ทำออกมาเป็นก้อนชีส ด้านนอกใช้ไวท์ช็อกโกแลต ด้านในเป็นชีสแบบเพียวๆ เค็มสมกับเป็นชีส และด้านล่างเป็นครัมเบิล ส่วนตัวรู้สึกว่าเค้านำออกมาจากช่องแช่เย็นช้าเกินไปครับ พอทานแล้วทิ่มแทบไม่ลง ตัดออกมาเป็นก้อนชีสและไวท์ช็อกแบบแยกส่วนชัดเจนครับ ทำให้เวลากินจะได้รสหวาน ไม่ก็เค็ม อย่างใดอย่างนึงครับ ถ้าจะทานด้วยกันต้องตัดนิดแบ่งหน่อยมาแปะๆ ซึ่งดูไม่น่าทาน 8. โดนัทจูนใจ ราคา 60 บาท: เป็นโดนัทแบบฝรั่งเศส หน้าตาจะเป็นสี่เหลี่ยมแล้วด้านบนโรยด้วยน้ำตาลไอซ์ซิ่งครับ เนื้อสัมผัสดี กรอบนอกนุ่มใน แต่ทานเยอะๆ ก็แอบเลี่ยนเช่นกัน จานนี้ทอดหลังจากที่เราทานอาหารคาวจบแล้วครับ เลยได้ทานแบบร้อนๆเลยครับ โดยรวมแล้วรสชาติอาหารจะค่อนข้างไปทางจืด ไม่มีรสชาติไหนเด่นเป็นพิเศษครับ ส่วนตัวจะชอบรสมือแบบนี้เพราะทานแล้วไม่รู้สึกหนักเกินไป ถึงแม้ว่าจะทานหลายอย่างเลยก็ตาม ส่วนการบริการตามนิยามร้านเลยครับ เซอร์วิสดีมากครับ มีสอบถามตลอดว่ารสชาติอาหารเป็นอย่างไรครับ สำหรับร้านนี้ หากใครที่ตามหาร้านแบบโฮมเมดอยู่ละก็ มาลองชิมกันดูครับ #Happy88