ร้านอาหารใต้พื้นบ้าน ที่มีเมนูหม้อไฟและปลาดิบ สุดฮ็อตใน "หัวหิน 🏖️" ร้านไม่ลับที่ซ่อนตัวอยู่ในหลืบสุดซอย . ร้านอาหารในบ้าน 2 ชั้น ขนาดกลางแต่คนแน่นร้านตลอด เมนูดังเต๋าเต้ยหม้อไฟตัวใหญ่ และ บรรดาปลาดิบสดๆ นอกจากนั้นเมนูอาหารใต้หากินยาก รอบนี้ตั้งใจชิมอาหารใต้เลย ตามชื่อร้านแต่สำหรับบูรณ์ถือว่าติดหวานไปหน่อย ใครไม่ชอบหวานแนะนำกอดถ้วยน้ำปลาพริกเอาไว้แน่นๆ 😅 . เมนูที่บูรณ์ชอบสุดๆของร้านนี้ #ปลาลิ้นหมาทอดกระเทียม ปลาลิ้นหมาตัวกำลังดี ทอดมากรอบนอก เนื้อปลานุ่มใน หอมกระเทียม ส่วนหางกรอบจนกินได้ทั้งชิ้น น้ำปลาพริกเค็มเปรี้ยวเผ็ดกำลังดี ชอบจนแทะไม่เหลือไว้ให้แมวตัวไหนเลย 👍 . #ไก่เบตง ไก่ต้มราดด้วยน้ำราดหอมน้ำมันงากระเทียมเจียวหอม กินคู่กับน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวผสมซีฟู้ด เค็มเปรี้ยวเผ็ด จัดจ้าน บูรณ์ไม่ได้สั่งส่วนไก่ไปเลยได้ส่วนน่องมา เนื้อเลยแอบแฉะไปนิด 🐔 . #มันปูระโนด มันปูผัดจนหอมปรุงรสมากลางๆค่อนไปทางหวาน ตอนกินบีบมะนาว ใส่พริกหอมแดง ตักคลุกข้าวแล้วราดน้ำปลาพริกที่บอกไว้ว่าให้กอดแน่นๆลงไป เฉียบบขึ้นเยอะเลย 🦀 . #ซาชิมิกั้งกระดาน เนื้อกั้งสด ใส หวานกรอบ ตัวกำลังดีสมราคา . #ผักเหลียงต้มกะทิกุ้งสด ผักเหลียงต้มกะทิ หวานๆละมุนๆ หอมกลิ่นกะปิเล็กๆ กุ้งสดตัวใหญ่หวานกรอบ . #ยำยุคเกะกระพงแดงเอจจิ้ง ปลากระพงแดงเอจจิ้งหวานๆ โปะไข่แดงคลุกให้เข้ากัน จานนี้แอบหวานอีกแล้วว ฮืออ แต่สดจริง กินกับโชยุวาซาบิเยอะๆเอา 😅 . โดยรวมร้านนี้คือมีความสด เมนูเยอะ หลากหลาย แต่อย่างที่บอกสำหรับบูรณ์ติดหวาน ซึ่งคนอื่นอาจจะชอบ ไปซ้ำได้มั้ย ได้! แต่คงต้องลองพวกซาชิมิเมนูหม้อไฟ และ วากิวดู *รสชาติอาหาร ไม่มีถูกไม่มีผิด มีแต่ถูกจริตคนกินรึเปล่า . พิกัด : หรอยในหลืบ https://maps.app.goo.gl/PWkwbTjdc5nbhBqD7
หรอยในหลืบ ร้านดังหัวหิน เมนูยอดนิยมคือ ซาซิมิปลาไทย แต่เราไม่ได้สั่งเพราะเพื่อนไม่มีใครกินเลย อีกเมนูแนะนำคือ เต๋าเต้ยหม้อไฟ อันนี้ราคาจะคิดตามน้ำหนักปลาเต๋าเต้ย ต้องบอกว่าปลาสดอร่อย แต่ราคาแรงไปนิด ผักเหลียงต้มกะทิกุ้ง รสชาติกลางๆ และหมึกต้มไข่หวาน นุ่มอร่ออยกำลังดี ไม่เหนียวเลย
จากคราวที่แล้ว ที่มีการรีวิวร้านอาหารญี่ปุ่นที่นำเสนอความแปลกจากท้องทะเล มารอบนี้เลยอยากนำเสนอร้าน Local ที่มีเสิร์ฟเมนูแปลกๆ กันบ้าง แต่ถ้าจะแนะนำร้านในกรุงเทพฯ ก็คงรู้จักกันหมดแล้ว เลยเปลี่ยนมาต่างจังหวัด ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากเท่าไร และยังเป็นกระแสโด่งดังในช่วงนี้มากๆ กับร้าน “หรอยในหลืบ” ร้านที่ความอร่อยไม่ได้แอบอยู่ในซอกมุม แต่ทะลุออกมาถึงโซเชียล ก่อนที่จะมาทานร้านนี้ แนะนำว่าให้โทรสำรองที่นั่งก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน หากต้องการทานเมนูแปลกๆ เพิ่มเติมควรสอบถามและจองไว้ล่วงหน้าเช่นเดียวกัน โดยทักไปทาง Messenger Facebook แต่ถ้าลืมจองก่อนแล้วจะไปทานวันนี้เลย ควรโทรหาร้านโดยตรง ตำแหน่งร้านด้วยความที่อยู่ในซอกมุมที่ไม่คิดว่าจะนำมาทำเป็นร้านอาหารได้ ทำให้การเข้าซอยอาจจะมีหลงได้หากไม่ได้นำทางด้วย Google Map หากขับมาแล้วเจอที่จอดรถที่มีเต๊นท์ผ้าใบตั้งอยู่ และมีคนคอยโบกรถ แสดงว่าคุณมาถึงร้านนี้แล้ว โดยที่จอดรถสามารถจอดได้ประมาณ 6 คัน และอาจจะมีซ้อนคันได้ในช่วง Prime Time ตัวร้านจะมีอยู่ด้วยกัน 2 โซนเป็นแบบห้องแอร์ และด้านนอก หากมาทานในช่วงเย็นอยู่แล้วแนะนำว่าให้นั่งด้านนอกจะได้บรรยากาศมากกว่า ด้วยความที่เจ้าของเป็นคนใต้ ดังนั้นเมนูที่มีให้สั่งจะเป็นตระกูลอาหารใต้โดยส่วนใหญ่ ที่เพิ่มเติมขึ้นมา ก็จะมีซาชิมิต่างๆ หรือจะเป็นเมนูชาบู ปิ้งย่างพร้อมกับเนื้อสัตว์คุณภาพดี ก็มีให้สั่งได้เช่นกัน วันไหนอยากจะทานอะไร ร้านนี้ก็สามารถให้บริการได้ทั้งหมดเช่นกัน เริ่มต้นกันด้วยเมนูอาหารใต้เบาๆ อย่าง ใบเหลียงผัดไข่หน้าแตก ราคา 80 บาท ทานอาหารใต้ทั้งทีไม่ควรขาดผัก และผักที่ควรสั่งก็น่าจะต้องเป็นใบเหลียงนั่นเอง ร้านนี้จะผัดแบบอมน้ำมันเยิ้มๆ หน่อยๆ แล้วโปะด้วยไข่ดาวที่เจาะให้หน้าแตก รสชาติจะออกเค็มปนหวานนิดๆ ทานแบบเปล่าๆ ก็ได้ หรือจะทานกับข้าวสวยก็อร่อยเช่นกัน ต่อกันด้วยเมนูปริศนาในวันนี้กับ ชิราโกะ ราคา 550 บาท เมนูท่อเก็บน้ำอสุจิของปลาคอต ที่เสิร์ฟมาในรูปแบบของยำเปรี้ยวๆ มาพร้อมกับมะนาวให้บีบและมีขิงดองกับไช้เท้าดองไว้ทานตัดเลี่ยน ปกติแล้วเมนูนี้หาทานได้ค่อนข้างยากทีเดียว ต้องเป็นร้านแนวโอมากาเสะ และปกติเราจะเจอแต่แบบเบิร์นไฟ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ทานแบบสดๆ รสชาติจะออกมันๆ ลื่นๆ แบบละลายในปากหน่อยๆ มะนาวเพิ่มความเฟรชๆ ลดความเลี่ยนลงได้ดี มาร้านนี้ทั้งทีไม่ควรจะพลาดเมนูซาชิมิ กับชุดรวมใหญ่ซาชิมิ ราคา 380 บาท ซึ่งจะได้ทานอะไรนั้นอยู่ที่การสุ่ม โดยวันนี้ทางร้านเสิร์ฟเป็นปลากระพงแดง หอยเป๋าฮื้อ และปลาหมึก เวลาทานแนะนำว่าให้จิ้มกับโชยุจะอร่อยที่สุด วัตถุดิบแต่ละตัวนั้น วันนี้ต้องยกให้ หอยเป๋าฮื้อเป็นพระเอก ตัวหอยผ่านการนึ่งและหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แนวยาว รสชาติดีและนุ่มอร่อย ปลาหมึกจะมีความนุ่มไม่กรึบ ไม่ต้องออกแรงเคี้ยวเยอะ ส่วนปลากระพงแดง ปกติแล้วถ้าเสิร์ฟแบบสุก เนื้อจะค่อนข้างแข็งกระด้าง แต่พอลองทานเป็นแบบซาชิมิแล้วดีกว่ามากๆ เนื้อมีความเฟิร์ม ทานแล้วเหมือนจะแข็งแต่จริงๆ นุ่มอร่อยมากทีเดียว หวานกลางๆ ไม่ได้เข้มข้นมากเพราะไม่ได้ aging นั่นเอง สุดท้ายกับเมนูที่เป็นตำนานของร้านนี้เลยคือ เต๋าเต้ยหม้อไฟ ราคา 900 บาท ราคาเริ่มต้นของเมนูนี้จะอยู่ที่ 450 บาท แต่ว่าตอนที่มาทางร้านเหลือแต่ไซส์นี้แล้ว ตอนแรกคิดว่าตัวจะเล็ก แต่จริงๆ คือไซส์มาตรฐานที่ขึ้นภัตตาคารเลย มีโอกาสเลยที่ราคาจะไม่ต่ำกว่า 2000 ต่อจาน แต่มาขายในราคานี้ถือว่าคุ้มค่ามากๆ ตัวปลาจะแล่ก้างออกให้เสร็จสรรพ โปะด้วยไข่ มาพร้อมกับหม้อน้ำซุปที่ขอเติมได้เรื่อยๆ และยังมีชุดผักเผื่อไม่อิ่มอีก ถ้ามาทาน 2 คน สั่งแค่ชุดนี้ชุดเดียวก็อิ่มมากแล้ว ตัวปลาสดอร่อย เนื้อมีความนุ่มที่ต้องเคี้ยวนิดๆ แต่ได้ Texture ที่แน่นๆ ด้วยเช่นกัน ขอให้ลองชุบไข่แล้วลงไปต้ม เนื้อปลาจะหวานขึ้นอีก และการต้ม ควรจะต้มจนกว่าเนื้อปลาจะลอยขึ้นมา ถ้าตักขึ้นมาทานก่อนจะยังมีความคาวอยู่ ส่วนน้ำซุปและชุดผักโดยรวมถือว่าดี ซุปหวานมาก อย่างที่บอกไปตอนแรก ที่ร้านนี้ยังมีเมนูอีกมากมายที่ให้สั่ง แต่แน่นอนว่า ถ้ามาทานร้านนี้ เมนูที่อยากแนะนำเลยคือ เต๋าเต้ย อันนี้ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง ส่วนซาชิมิ ก็เป็นเมนูรองลงมาแต่รสชาติก็อร่อยไม่แพ้จานแรกเช่นกัน ส่วนเมนูอื่นนๆ อันนี้แล้วแต่อยากจะสั่งเลย แต่ถ้าให้เดาคงจะอร่อยเหมือนกัน ส่วนการบริการร้านนี้ถือว่าค่อนข้างรวดเร็ว อาหารเสิร์ฟไวไม่ต้องรอนาน ถ้าหากช่วงหยุดยาวนี้ไม่รู้จะไปทานอะไร หรือหากไปหัวหินแล้วเบื่อร้านเดิม ลองจองร้านนี้และไปทานดูสักครั้ง แล้วคุณจะรู้ว่า วัตถุดิบจากท้องทะเลไทยอร่อยไม่แพ้ของญี่ปุ่นแต่อย่างใด 💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻 🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin 🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha *กรณีต้องการนำรูปไปใช้งานให้ขออนุญาตและให้เครดิตทุกครั้ง มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์และแจ้งความทุกกรณี
มื้อนี้มึนมึน มาทานกลางวัน พลาดไปหน่อย ดันเลือกเมนูผิด เค้ามากินเต๋าเต้ย ซาชิมิปลาไทยกัน เราดันมาสั่ง หมูกระทะสั่งทั้งเนื้อหมูและเนื้อวัว เห็นเมนูเหมือนจะฮิตกัน แต่รสชาติธรรมดามากแถมเนื้อเหนียวเลย แต่ชอบจานอื่นเลยนะ ทั้งแกงเหลืองปลากระพงและหมูสับนึ่งไข่เค็มอร่อยมาก จริงๆ ร้านหาไม่ยาก ตาม google มามีคนโบกรถจอดในลานจอดเรียบร้อย แล้วต้องเดินมาที่ร้านอีกหน่อย ซึ่งตรงนี้แหละ ดูลึกลับแบบในหลืบจริงๆ แนะนำโทรจองโต๊ะก่อน