Chef’s Table ราคาเอื้อมถึง วัตถุดิบดี อร่อย ทุกเมนูคือใส่ใจในรายละเอียดมาก ชอบขนมหวาน อร่อยทั้งสองเมนูเลย ตอนนี้เค้ามีเมนูใหม่แล้วนะ ไปตามชิมได้เลย #RettyAug22
🏡Food Hub ร้านอาหารแนวเชฟเทเบิ้ล เพิ่มเมนูแบบ A La cart ให้เข้าถึงง่ายขึ้นละนะ ร้านเล็กแค่คับคุณภาพ ✅ ข้าวผัดมันเนื้อ มิ้มมีโอกาสลอง 3ตัวเลย ดีทั้ง3 ตัวแล้วแต่ว่าแต่ละคนจะชอบในส่วนไหน ทานกับข้าวผัดมันเนื้อและไข่ดอง • Australian Wagyu Sirloin 150 g. (450.-) • Australian Wagyu Ribeye 100 g. (600.-) • Kagoshima Striploin A5 100 g. (1,100.-) ✅ข้าวผัดปลาแซลมอนนอร์เวย์ (350.-) ปลาแซลมอน สด และชิ้นใหญ่มากๆ ทานกับข้าวผัดมันเนื้อหอมมากๆ ✅ข้าวกะเพราเนื้อ Australian Wagyu Sirloin (450.-) กะเพรารสชาติเข้มข้น ตัวเนื้อนุ่มอร่อย ✅พาสต้าขี้เมากุ้งแม่น้ำ (570.-) เส้นพาสต้า เชฟทำสดๆและรีดแป้งเอง ตัวกุ้งแม่น้ำเนื้อเด้ง ซอสเข้มข้นรสจัดจ้าน ✅พาสต้าทรัฟเฟิลดำอิตาลี โฮตาเตะ และไข่ปลาแซลมอน (650.-) จานนี้เป็นจานที่ชอบมากที่สุด โฮตาเตะเซียร์มาสุกกำลังดี ทำซอสทรัฟเฟิลอร่อยมาก หอมทรัฟเฟิลและได้เท็กซ์เจอร์ของทรัฟเฟิลดำแบบขูดด้วย ✅Tournedos Rossini (1,250.-) 👍เนื้อและโฮตาเตะ ในทรัฟเฟิล ตัวนี้จะคล้ายๆ กับพาสต้าทรัฟเฟิล สายเนื้อน่าจะชอบกันค่ะ ✅Burrata Pomegranate Molasses and Parmesan (390.-) สลัด Burrata มีนัวชีส ผักสลัดสดกรอบ ✅เลมอนทาร์ตและเมอแรงพีช (150.-) เลมอนทาร์ตชิ้นพอดีคำ รสชาติเปรี้ยวตัดกับความหวานของเมอแรงพีชได้ดี ✅มิลเฟยวนิลาหอมละมุน (180.-) 👍เค้าใช้เมล็ดวานิลลาอยู่ในตัวเนื้อครีม ทำให้มีกลิ่นหอมวานิลลามากๆ 🏡Food Hub Icon ⏰ เวลาเสิร์ฟ Chef’s Table Course วันธรรมดา 17.00 - 19.00 น. และ 19.30-21.30 น. วันเสาร์-อาทิตย์ 12.00-14.00 น., 17.00 - 19.00 น. และ 19.30-21.30 น. ⏰ เวลาเสิร์ฟ A La Carte (ไม่ต้องจอง Walk In ได้เลย) วันธรรมดา 12.00-15.30 น. (ปิดวันอังคาร) Facebook : https://www.facebook.com/FooDHubHome #มิ้มชอบอันนี้ #mimlikesthis #มิ้มไลก์ดิส #rettyjpn2022
การที่เราจะไปทานอาหารดีๆ วัตถุดิบเทพๆ แน่นอนว่าไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นร้านแพงๆ เสมอไป โดยมีร้านนึงที่ฉีกกฎนี้ได้ คือร้าน Food Hub Home Restaurant ร้านลับสุดๆ ในย่านเจริญนคร 20 เดินจากปากซอยเข้าไปเพียงแค่ 20 เมตร ก็จะเห็นบ้านทาวเฮ้าส์ 1 หลัง ที่มีเพียงป้ายเล็กๆ ที่บอกว่าคือร้านเท่านั้นครับ และหน้าร้านเองก็ดูไม่มีทางคิดได้ว่าคือร้าน Fine Dining ได้อย่างแน่นอนครับ สำหรับการมาทานร้านนี้ต้องจองผ่าน Page Facebook ก่อน โดยจองไปเกือบ 2 เดือนถึงจะได้ทาน มีด้วยกัน 3 รอบต่อวันแล้วแต่ว่าเชฟจะว่างวันไหน รวมทั้งเปลี่ยนเมนูอาหารไปเรื่อยๆ ตาม Season และวัตถุดิบที่ดีที่สุดในแต่ละช่วงครับ มีให้เลือกทั้งแบบซีฟู้ดและ Beef รองรับลูกค้าที่ไม่ทานเนื้อด้วยเช่นกัน และเชฟเองก็จะมีเช็คก่อนว่าทานอะไรไม่ได้ เพื่อปรับเปลี่ยนเมนูให้เหมาะสมที่สุดอีกทีครับ สำหรับวันนี้ได้ลองชิมทั้ง 2 แบบเลยครับ เรามาเริ่มกันที่ Appetizer กันก่อน - Tempura Ozuni: ทั้ง 2 แบบจะมีเหมือนกันต่างกันแค่วัตถุดิบ โดยถ้าเลือกเนื้อ จะเป็นเนื้อสับคล้ายๆ Meatball แต่ใช้เนื้อวากิวเป็นส่วนประกอบหลักและห่อสาหร่าย ได้ความอูมามินิดๆ ตัวเนื้อเหมือนบดหนักไปหน่อยจนแห้งครับ ส่วนตัวถ้ามีความ Juicy หน่อยจะดี ซึ่งต่างกับเลือก Seafood ที่จะได้เป็นแซลมอนที่ย่างแบบ medium rare ยังได้ความหนึบหนับและไม่แห้งครับ - Soba: ทางร้านใช้เส้นโซบะทำเอง เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสมาโยที่ออกเปรี้ยวๆ และมีแรดิชให้ความกรอบๆ เมนูนี้เน้นปรับลิ้นและเพิ่มความสดชื่น ซึ่งตอนทานงงๆ หน่อยแต่จะรู้สึกดีขึ้นตอนที่กลืนลงไปครับ - Kinoko Kaikan: เมนูซุปเห็ดทรัฟเฟิล แต่ที่ไม่ธรรมดาคือทางร้านได้นำเห็ดอื่นๆ มาย่างในกระทะ โดยด้านล่างจะเป็นเห็ดพอร์ทาเบลโล่ชิ้นโต และในเห็ดนี้ยังมีเห็ดอื่นๆ ที่สับเป็นชิ้นๆ ผสมกัน เวลาทานให้ตัดทานพร้อมกับซอส ซึ่งจะรู้สึกได้ถึงความเห็ดสุดๆ ครับ แต่ยังมีซอสด้านในมาตัดเลี่ยนอยู่ ถือว่าบาลานซ์ได้ดีครับ - Suimono Soup: ซุปใสสไตล์ญี่ปุ่น แนวเดียวกับดาชิเพียงแต่ส่วนผสมเยอะกว่า เสิร์ฟมาพร้อมกับมูสที่หน้าตาเหมือนเต้าหู้ เวลาทานเราจะได้ความอูมามิเล็กๆ แต่รสชาติจะมีความงงๆ พอสมควร บอกไม่ถูกว่าอร่อยหรือไม่ครับ และต่อไปจะเป็นจานหลักซึ่งจะไล่จากเบาไปหาหนักเรื่อยๆ - Hotate U-10 Jaga Tart: ถ้าคนทานซีฟู้ดจะได้ทานเมนูนี้ โดยส่วนประกอบหลักคือ Scallop Hotate ไซส์กลางๆ แต่ย่างออกมาได้แน่นๆ เกือบจะแห้งแต่ก็ไม่แห้ง ไม่เหมือนกับที่อื่นย่างที่จะยังคงความ Juicy อยู่ เสิร์ฟมาพร้อมกับแป้งบิสกิตที่ทำออกมาเป็นวงๆ มันฝรั่ง แครอทลวก ขิงและราดด้วยซอสขิง ทานแล้วจะได้ความเฟรชๆ และมีความเข้มๆ จากตัวซอสที่นำน้ำสต๊อกมาเป็นเบสหลักของจานนี้ - Nikujaga Tart: คนเลือกชุดเนื้อจะได้ทานตัวนี้ โดยใช้แก้มวัวตุ๋นจนนุ่ม เสิร์ฟแบบเดียวกับตัว Scallop เปลี่ยนแค่ตัวซอสเป็นน้ำสต๊อกที่ตุ๋นแก้มวัวและมีใส่ Aroma เยอะพอสมควรเพื่อดับกลิ่นสาบ รสชาติออกมันๆ เข้มๆ มีความหวานๆ จากน้ำสต๊อก ส่วนเนื้อก็ทำออกมาได้นุ่มมาก และสมุนไพรที่ใส่เข้าไปก็ซึมไปถึงด้านในจริงๆ - 3 Kingdoms in Onsen: สำหรับคนทานซีฟู้ดเราจะได้เห็นกรรมวิธีการนึ่งเนื้อปลารูปแบบใหม่ โดยทางร้านจะเสิร์ฟมาในกระทะร้อน ด้านล่างรองด้วยแผ่นหิน มีปลาฮามาจิ ทูน่าส่วนอากามิ และแซลมอน จากนั้นก็ราดน้ำร้อนลงไป และครอบด้วยฝาแก้วเพื่ออุ่นให้สุก เสิร์ฟคู่กับวาซาบิสดที่ฉุนสุดๆ จนทางร้านเตือนว่าอย่าเติมเยอะ เนื้อปลาจะมีความกึ่งสุกกึ่งดิบ และถ้าปล่อยไปนานกว่านั้นจะเริ่มแห้งและเสียรสชาติครับ เนื้อปลาโดยรวมดีครับ แต่รู้สึกอย่างนึงว่าเอาทูน่ามาทำแบบนี้มันไม่ค่อยอร่อยเท่าไร - ข้าวผัดมันเนื้อและวากิว Kagoshima A5: เมนูที่ใครหลายๆ คนมาร้านนี้เพื่อสิ่งนี้ เสิร์ฟเฉพาะคนทานชุดเนื้อเท่านั้น โดยตัวข้าวจะผัดกับซอสยากินิคุ ท๊อปด้วยไข่แดงดอง และขูดชีสลงไปซึ่งแปปเดียวก็จะละลายเหมือนกับยอดเขาไฟฟูจิ ด้านข้างโรยด้วยผงสาหร่ายที่ผสมกับผงชาเขียว และเนื้อวากิว Kagoshima ชิ้นเล็กๆ และกระเทียมเจียวเพิ่มความกรุบกรอบ จานนี้ไม่ต้องอะไรมาก อร่อย โดยเฉพาะตัวเนื้อทำออกมาได้ดีมาก ติดแค่เรื่องเค็มเพียงอย่างเดียว - Ebi Pasta: พาสต้ามิโสะ และกุ้งลายเสือไซส์จัมโบ้ โดยตัวเส้นจะใช้เส้นสำเร็จรูปเพื่อให้ Texture หนึบๆ ทานกุ้งลายเสือ ราดด้วยซอสมิโซะที่ออกนวลๆ โดยมีวัตถุดิบลับคือฟักทองบด ที่สามารถใช้ดับรสชาติคาวของหัวกุ้งลายเสือได้ดีทีเดียว เวลาทานให้ทานเส้นกับกุ้งให้หมดก่อน และปิดท้ายด้วยหัวกุ้ง ซึ่งหัวกุ้งทำออกมาได้ดี ไม่คาวอย่างที่คิดจริงๆ เนื้อกุ้งมีความแน่นและกรอบ ทานไม่ยากเพราะทางร้านนำเปลือกส่วนกลางออกไปให้แล้วนั่นเอง - Wagyu A5 Yakiniku: เนื้อวัววากิว 3 ส่วนที่นอกเหนือจากส่วนที่อร่อยที่สุด ประกอบด้วย ใบพาย ซี่โครง และเนื้อน่อง ซึ่งจะให้ Texture ที่แตกต่างกันพอสมควร ซี่โครงจะนุ่มที่สุดแต่จะไม่เท่ากับกับ Striploin ใบพายจะเหนียวขึ้นมาอีกนิด และเนื้อน่องเหนียวที่สุด โดยเราสามารถทานเปล่าๆ ก็ได้ จิ้มกับเกลือ 3 แบบและซอสสามอย่าง และ/หรือจะขอข้าวซึ่งสามารถเติมได้ไม่อั้นได้เช่นกัน โดยแนะนำว่าให้สั่งข้าวเพราะข้าวออกหนึบๆ แน่นๆ ทานกับเนื้อเข้ากันมากๆ ส่วนเครื่องจิ้มก็ดีเช่นกัน จบคอร์สหลักไปแล้ว ก็ถึงตาของหวานกันบ้าง - พายเมอแรงค์: คำเล็กๆ เน้นล้างปาก ด้านล่างเป็นพายเนื้อแน่นกับซอสเลมอน และด้านบนก็มีเมอแรงค์กับกูสเบอร์รี่ท็อปอยู่ ทานได้ในคำเดียว รสชาติออกเปรี้ยวเฟรชๆ กำลังดีครับ - Winter Illumination: เสิร์ฟมาในโหลแก้ว ที่ประกอบด้วยมิลเฟยคำเล็กๆ และสายไหมที่เริ่มแข็งเพราะโดนอากาศ มิลเฟยมีความกรอบกำลังดีและครีมวานิลลาที่ออกนุ่มๆ ส่วนสายไหมตอนแรกก็งงๆว่าใส่มาทำไม ลองทานพร้อมกับมิลเฟยแล้วกลับเข้ากันได้ดีทีเดียว รสชาติอาหารโดยรวม ถ้าเป็นตอนแรกๆ ที่เริ่มด้วย appetizer จะมีความงงๆ หน่อยในเรื่องรสชาติและรสสัมผัส แต่เริ่มมาดีขึ้นในช่วงของ Main Course ครับ การบริการรวดเร็วและเก็บจานเก่งมากเหมือนร้าน Fine Dining ทั่วๆไป ซึ่งจริงๆ เก็บช้ากว่านี้หน่อยก็ได้ แต่เข้าใจว่าทำเวลาสุดๆ เพราะค่าอาหารต่อหัวไม่ได้แพงมาก ส่วนเรื่องความสะอาด ด้วยความที่เอาบ้านเก่ามาทำเป็นร้านอาหาร ทำให้เรื่องความสะอาด ระบบระบายอากาศต่างๆ ไม่ดี กลิ่นควันจะติดหัวหน่อยๆ ถึงแม้จะมีเครื่องดูดควันที่จริงจังสุดๆ ก็ตาม และมีแมลงโผล่มาให้กวนใจเป็นช่วงๆ ครับ อันนี้อาจจะต้องเปลี่ยน Location ร้าน หรือปิดซ่อมแบบจริงจังสักครั้งครับ 💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻 🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin 🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha *กรณีต้องการนำรูปไปใช้งานให้ขออนุญาตและให้เครดิตทุกครั้ง มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์และแจ้งความทุกกรณี
FooD HuB Home 🍴 ใครจะไปคิดว่าบ้านเล็กๆแบบนี้จะมี Chef Table ซึ่งตอนไปถึงคือตกใจนะ ยังงงว่ามาถูกมั้ย 😂 เราเจอร้านนี้จากเฟส พอดีว่าเขาเปิดจองคอร์ส Japan North to South พอดี ดูเมนูและราคาแล้วน่าลองมาก เราเลือกแบบ Seafood เพราะคุณแม่ไม่ทานเนื้อ (มีทั้งคอร์สเนื้อกับ seafood ให้เลือก) Seafood 1250 บาทเท่านั้น อาหารจะเสิร์ฟมา 9 จาน 1️⃣ Tako Suimono Soup ซุปหนวดหมึกยักษ์จาก Amakusa ซุปใส แต่รสชาติกลมกล่อมมาก เนื้อหมึกหวานธรรมชาติมาก มีความหนึบๆ สามารถเติมน้ำซุปเพิ่มได้อีก 2️⃣ Gindara Yaki สเต็กปลาหิมะจาก Uchiura bay ทานกับซอสสูตรพิเศษจากทางร้านเลย เคี่ยวเอง (ที่ร้านมีขายด้วย) เนื้อปลาหิมะขาว หวาน ย่างมาดีมาก (ถ้าเซ็ตเนื้อจะได้เป็นเนื้อ A4) 3️⃣ Kushi Katsu ได้ insipre จาก Osaka มีเห็ดชิเมจิ กุ้ง และไข่หวาน ไข่หวานนุ่มมาก ทอดมากรอบถึงใจสุดๆ 4️⃣ Fjord Trout จาก Murakami ย่างมาได้กำลังดีมาก ไม่ได้สุกทั่วทั้งชิ้น ด้านใจยังคงเป็นแซลมอนดิบ รสหวานอยู่ เสิร์ฟมากับข้าวผัดซอสสูตรทางร้าน และไข่ดอง เราชอบเมนูนี้มากๆ ทุกอย่างแบบลงตัวจนอยากจะเบิ้ลอีกจาน (คอร์สเนื้อจะได้เป็นเนื้อ A5 แทน) 5️⃣ Ikura Kappa จาก Tokushima ล้างปากก่อน maincouse ด้วยสลัดแตงกวากับไข่แซลมอล กับน้ำสลัดยูซุ สดชื่นสุดๆเลย 6️⃣ Kurobuta Sukiyaki จาก Tokyo มาเป็นเซ็ตเลย กะอิ่ม ซึ่งน้ำซุปสุกี้ยากี้เข้มข้นมากๆ สามารถขอข้าวเพิ่มได้ด้วย เนื้อหมูชิ้นหนาไปหน่อย แอบเหนียวนิดนึง จุ่มไข่ไก่สด อร่อยมาก น้ำซุปที่เหลือขอกลับบ้านได้นะ ซึ่งเรเอาหลับมากินต่อได้อีกมื้อเลย (คอร์สเนื้อได้วากิว A5) 7️⃣ Hotate U-10จาก Hakodate ย่างมาดีอีกแล้ว juicy ฉ่ำมาก กินกับซอสและพริกเครื่องเทศเพิ่มความเผ็ด อร่อยมาก (คอร์สเนื้อจะเป็น Blue fin tuna) - ก่อนเมนูของหวาน ดื่มชาเขียวล้างปากซะหน่อย 8️⃣ Crepe custard cream เครปบางๆ คู่กับครีมนุ่ม ไม่เลี่ยนเลย 9️⃣ Double Fromage Cheesecake จาก Otaru ชีสเค้ก เสิร์ฟมาในขณะที่ฟรีซอยู่ เวลากินจะคล้ายๆไอศกรีมเลย หอม มัน นัว อบอวนอยู่ในปากมาก โดยรวมอาหารทั้งหมด ทำให้อิ่มในราคาสบายกระเป๋ามาก ดีมากๆ วัตถุดิบ คอนเซป ดีทุกอย่างเลย ตอนนี้เขามีเปิดคอร์สใหม่ด้วย ลองไปจองทานดูได้ค่ะ #Rettynewyear2022