เมนูส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะพวกค็อกเทลต่างๆ เมนูอาหารคาวไม่ค่อยหลากหลายและราคาค่อนข้างสูง แต่บรรยากาศดี ค่อนข้างเงียบ ไม่วุ่นวาย เหมาะที่จะไปจิบน้ำ ชมวิว ผ่อนคลายยามค่ำคืน
พาคนอเมริกัน มาทานอาหารเย็นแบบ Thai Fusion เลยเลือกร้านอาหาร TAAN ที่ โรงแรม Siam@Siam Desin Hotel เพราะมี Omakase งานนี้จัดเต็ม 10 courses กะกินกันอิ่มทะลักและแล้วมันก็อิ่มทะลักจริงๆ เพราะทุก course เข้มข้นมาก ทั้งรสชาดจากฝีมือเชฟที่เป็นระดับแชมป์ ทั้งสถานที่บรรยากาศที่อยู่ชั้น 25 ของโรงแรม สูงไปอีกชั้นก็ Roof Top ที่เป็นสุานที่เมกินอันเลื่องชื่อแล้ว ดูภาพเอาแล้วกันครับก่อนเริาม course ยังมี appetizer อีก 2 จานมาให้เริ่มต้นก่อนจะตามมาด้วย course ต่างๆ ที่มี main course เป็น อาหารตามภาพ ขอบอกอร่อยทุก course แม้กระทั่งปิดท้ายด้วยไอศกรีมพัมกิ้น ลงรักปิดทอง ที่มีฐานคล้ายข้าวเหนียวหน้ากุ้ง คือมีมะพร้าวกับกุ้งสับเป็นส่วนผสม วัตถุดิบทุกอย่างหามาจากภายในประเทศ อย่างเช่น กุ้งมังกรจากทางใต้ ส้มโอนครปฐม น้ำพริกอ่องจากเชียงใหม่ แถมมีบางอย่างมาจาก อิงเลพม่าด้วย เรียกว่าครบครัน ทั้งคุณภาพและราคา สนนต่อหัวไม่นับเครื่องดื่ม ที่ไม่ใช่มีแค่ draft beer เช่น ชาละวัน แต่มี ยาดอง ที่ทำรสชาดได้หอมอร่อยไม่แรง ราคาต่อหัวแค่ 2,100++ ครับ วันนี้มาทานกัน 10 คนเจอไปหลักหมื่น ถึงราคาขนาดนี้แต่ขอบอกทุกคนที่มาประทับใจกันจริงๆครับ ที่ได้มาทาน course อาหาร Thsi Fusion ที่นี่
Hyper-local Tasting Menu เทสติ้งเมนูอาหารไทยพื้นถิ่นร้านอาหาร “TAAN” หรือ “ธาน” โดยเชฟเทพ-มนต์เทพ กมลศิลป์ เชฟของร้านที่เปลี่ยนตัวเองจากเชฟอาหารฝรั่งเศสสู่เชฟอาหารไทยอย่างเต็มตัว เน้นเรื่องวัตถุดิบท้องถิ่นที่เรียกว่า “Hyper-local” ผ่านมื้ออาหารที่บอกเล่าผ่านวัตถุดิบท้องถิ่น Tasting Menu เสิร์ฟ 9 คอร์ส ราคา 2,100 บาท++ เทสติ้งเมนูของธานมีทั้งหมด 9 คอร์ส เล่าถึงอาหารไทยที่มีครบทุกภาค แต่ก็ไม่ใช่อาหารไทย 4 ภาค โดยเชฟบอกว่าเริ่มจากว่ามีวัตถุดิบอะไร อะไรใช้ได้บ้างในแต่ละช่วงเวลา เชฟบอกว่าตัวเขาได้ทดลองทำปฎิทินของวัตถุดิบขึ้นมาและเริ่มเข้าใจว่าวัตถุดิบที่ทางเกษตรกรจะสามารถผลิตมาให้ได้เป็นอย่างไร
TAAN Bangkok เป็น ร้านอาหารไทยแบบ fine dining แห่งแรกของไทยที่เป็น Roof Top Bar ตั้งอยู่บนชั้น 25 Siam @ Siam design hotel BKK Head Chef ที่นี่คือ Chef เทพ ครับ เมนูจะเป็นอาหารไทยแต่ละภาค นำเสนอในรูปแบบที่สร้างสรรค์ มีเรื่องราว ที่มา และ Technique ยอดเยี่ยม การจัดจานสวยงาม รวมถึงการบริการเป็นเลิศ พนักงานมีความเจ้าใจุในอาหารเป็นอย่างดี และบรรยากาศแบบ city view ที่สวยงามครับ อาหารมีทั้งแบบ Course และ A la carte วันนี้ผมเลือกทานแบบ A la carte นะครับ แต่ขอ Chef สั่ง 1 เมนู ใน course ครับ เพราะเห็นโต๊ะข้าฃๆสั่งมาแล้วดูน่ากิน 1. Appetizer (จานนี้ฟรีครับ) เป็นยำขนมจีน และ ไข่อ่อน ซอสมัสมั่น เสริฟบนแป้งเครปกรอบ (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) 2. ยำผัดไทยไก่ย่าง จานนี้อร่อยมากๆครับ ไก่ย่างบนใบตอง ทานคู่กับยำสายบัวรสผัดไทยกับใบบัวบกและถั่วลิสงทุบครับ 3. น้ำพริกลงเรือ ทานกับปลาอินทรีย์ทอด ผักสด และปลาฟู ตัวน้ำพริกผัดกับสะโพกหมูหวานและผลไม้เปรี้ยวตามฤดูกาล ปลาอินทรีย์สดทอดมากรอบไม่มันเลยครับ และผักสด 4 ชิ้น ได้แก่ แตงกวา กำหล่ำปลี ใบชะมวง และผักหวาน มาม้วนกินเป็นคำ น่ารักดีครับ แต่ผักน้อยไป 4. ปูม้าทอดผงฮินเลไข่เค็มกะเทียมทอง (อารมณ์ปูผัดผงกะหรี่ครับ แต่ไม่ใช่นะ นี่คืออาการเหนือครับ) ใช้กรรเชียงปูผัดผงฮินเล เป็นผงที่มาจากชาวอินตา พม่า ครับ ผัดกับกระเทียมดอง ไข่ organic ไข่เค็ม และน้ำมันพริกเผา 5. กะหล่ำปลีและเห็ดผัดน้ำปลาสร้อยและกระเทียมศรีษะเกษ จานนี้อร่อยตามมาตรฐาน 6. ปลาเก๋าทอดขมิ้นกับน้ำพริกกะทิ ปลาสด ทอดกรอบดีมาก กะทิผัดกับมะเขือพวงผักชีลาว เหมือนครีม cheese และทานคู่กับข้าวขมิ้นกรอบ 7. ขนมตาล เป็นขนมตาลที่เสริฟพร้อม ไอศกรีมฟักทอง มีแผ่นทองคำเปลวปิด กระฉีกกุ้งเค็มกวาน 8. ข้าวที่เสริฟวันนี้เป็นข้าวหอมมะลิจาก จ.ยโสธร ครับ เป็น 1 ใน จังหวัดที่ปลูกข้าวกอมมะลิดีที่สุดในไทย หอม นุ่ม และอร่อยมากครับ สรุป คุ้มค่ามากครับ แต่ถ้ามาสั่งแบบ fine dining จะคุ้มกว่านี้ ราคา รวม น้ำแร่ 1 ขวดใหญ่ และ sparkling mineral water 1 ขวดเล็ก = 3542 บาท ครับ #May2019