ภัตตาคาร ย่าน สนามเป้า・อารีย์・สะพานควาย แนะนำโดย BESTER EATS!

First Pichayakiatikul

ร้าน Flat marble เป็นร้านที่มีที่นั่งแค่10ที่เท่านั้น ❗️ ร้านขนาดเล็กย่านอารีย กลางซอยพหลโยธิน9 เป็นร้านกระจกรอบร้าน ที่นั่งเป็นเคาน์เตอร์10ที่ เรียงยาว นั่งมองเชฟทำอาหารเพลินๆระหว่างรออาหาร แต่สำหรับคนอยากแชร์อาหารกันอาจจะยุ่งยากหรือสั่งมาเยอะเพราะไม่ค่อยมีที่วางอาหาร และด้วยร้านเป็นครัวแบบนี้อาจจะทำให้อาหารติดกลิ่นเสื้อผ้าบ้าง ร้านมีที่จอดรถอยู่หลังร้านเลย แนะนำให้จองก่อนไปทางร้านจะมีแบ่งเวลาเป็นรอบๆนะคะลองโทรถามหรือทักไลน์ไปก่อน เมนูที่สั่งไป🍽เริ่มจากจานแรก -ข้าวผัดมันเนื้อ ⭐️จานนี้ไม่แน่ใจราคา On topด้วย สเต็กเนื้อวัวออสเตรเลีย อูนิ ไข่ดาว เป็นเมนูที่ควรสั่งเลยในรูปยังน่ากินขนาดนี้ ของจริงน่ากินมากกกก ข้างล่างจะเป็นข้าวที่ไปผัดกับมันเนื้อที่เชฟเลาะออกมาจากเสต็กมาผัดกับเนยหอมมากก ตอนนกินเราก็เจาะไข่แดงแล้วราดลงไปกับข้าวพร้อมสเต็กแล้วตบด้วยพริกน้ำปลา เป็นอะไรที่ฟินนมากกกก -Spaghetti Winter black truffle with Uni 1590฿ สายรักทรัฟเฟิลต้องห้ามพลาดจานนี้แน่นอนที่ขูดทรัฟเฟิลมาแบบจุกๆไปเลยon topด้วยอูนิ ครีมมี่ๆที่ลงตัว เส้นสปาเก็ตตี้คลุกกับไข่แดงยิ่งนัวละมุน -Mixed berry salad ⭐️690฿ เป็นสลัดผลไม้ที่มีทั้ง สตอเบอรี่ บูลเบอร์รี่ บรีชีส และ วอลนัทเคลือบคาราเมล กินคู่กับผักร็อกเก็ต และเบบี้สปิแนชคลุกมากับน้ำสลัด เป็นอะไรที่เข้ากันมาก จานนี้เป็นจานที่ชอบมากเหมือนกัน มาถึงสายเนื้อบ้าง🥩 ที่สั่งไปมี3ตัวนี้เลย เสต็กเค้าแต่ละอันจะผ่านการซูวีก่อนแล้วค่อยนำมาย่าง โดยแต่ละจานเค้าจะให้เลือกเกลือหรือซอสที่ต้องการ มี Truffle salt ,Maldon salt ,Smoked maldon salt ,Red wine sauce ,Mushroom sauce ,Chill garlic fish sauce หรือพริกน้ำปลานั้นเองง -Ten Aus W 240g 1176฿ -Miyasaki rib 380g 3230฿ -Aus rib 540g 3726฿ -ข้าวผัดมันเนื้อ⭐️ มันเนื้อมาจากเสต็กที่เราสั่ง ร้านจะนำมาทำข้าวผัดมันเนื้อใส่เนยหอมๆ กินคู่กับพริกน้ำปลาอร่อยมาก กินเพลินเลย -Ka prow Aus Wagyu 200g 1180฿ ข้าวกระเพราออสเตรเลียวากิวสันในสุดนุ่ม เสริฟมาพร้อมกับพริกน้ำปลา -Black truffle soup 490฿ ซุปครีมเห็ดทรัฟเฟิล เสริฟมากับทรัฟเฟิลสดดดๆ -Shell garlic bread 320฿ ขนมปังกระเทียมออนท็อปด้วยหอยลายผัดเนย ใส่หอยลายมาแบบแน่นๆเลย -Mineoka Tofu 190฿⭐️ ทำมาจากนมและเนยแล้วกวนด้วยไฟอ่อนนานถึง2ชม.ขึ้นไป เนื้อจะหนึบๆนุ่มๆละมุน ราดมากับซอสคาราเมลและยูสุ ผลไม้สด และเม็ดเป๊าะแป๊ะสองรส เหมือนขนมตอนเด็กที่จะเป๊าะในปาก เลิฟจานนี้มาก -Cho creme brulee 190฿ เครมบูเล่ช็อกโกแลต ออนท็อปด้วยสตอรเบอรี่บูลเบอรี่และมาชเมลโล แต่น่าจะเบริน์มาชเมลโลเพลินไปหน่อย555555 🛵สั่งมาแบบ Delivery อันที่เป็นรูป6จานเป็นอันที่สั่งมากินที่บ้านพวกสปาเก็ตตี้เค้าจะแยกซอสมาให้ และอย่างอื่นด้วยจะแยกมาให้หมดเลยและจะมีวิธีอุ่นอาหารให้อร่อยเหมือนกินที่ร้านด้วยค่ะ จานแรกเลย -Capellini Aop seafood 1890฿⭐️ เส้นแคปเปลลินี ผัดแบบAglio olio peperoncino เสริฟมาพร้อมกับกุ้งแม่น้ำ หอยเชลล์ฮอกไกโดท็อปด้วย อูนิและไข่ปลาแซลม่อน ให้เครื่องมาแบบจุกๆล้นจาน -Capellini Uni cream sauce 1990฿ เส้นแคปเปลลินีในครีมซอสอูนิ แบบครีมมี่ๆท็อปด้วยไข่ปลาแซลม่อนและอูนิ ตอนแรกนึกว่าจะเลี่ยนน่าดู แต่ว่าพอชิมแล้ว มีความเผ็ดตัดเลี่ยนได้ดีเลย แต่ราคาจานนี้ก็แรงอยู่ -Foie gras 250฿ ฟัวกราส เสริฟมาพร้อมกับซอสเชอรี่และแยมลูกฟิก จานนี้อาจจะต้องกินที่ร้าน ตอนเสร็จร้อนๆน่าจะอร่อยกว่า -Homemade Truffle pasta 1890฿ เป็นพาสต้าเส้นสดที่ร้านทำเอง ในครีมซอสทรัฟเฟิล และท็อปด้วยทรัฟเฟิลสดแบบจุกๆ แต่เราแอบท็อปไข่แดงเพิ่มเอง😝 ส่วนตัวว่ากินไปกินมาเลี่ยนน -Beef tartare 390฿ บีฟทาท่ากับซอสสูตรของทางร้านเอง เสริฟมากับขนมปังกระเทียม และท็อปด้วยไข่แดง #Hellonewretty

Tinnapat Suttichaiyakul

สปาเกตตี้อร่อย โดยเฉพาะเมนูชื่อ from hell อันนี้ดีงามมาก ส่วนพิซซ่าก็ดีนะ แต่ต้องเลือกหน้าสไตล์ที่ตัวเองชอบด้วย หอมทอดก็ดี กอนเป็นกับแกล้มนี่แจ๋วเลย

Patchanon Pinn

คาเฟ่ย่านอารีย์ ที่ตอนกลางคืนเป็นบาร์ มีดนตรีสดให้ฟังเพลิน ๆ กับร้าน 'Perfect Strangers' :) เรามาช่วงกลางวัน มีเมนู cocktail, mocktail ให้เลือกพอสมควร สั่ง mocktail มาลอง 2 แก้ว (150THB/แก้ว) อร่อยทั้งสองนะ เป็น mocktail แนวผลไม้ที่มีองค์ประกอบเยอะดี หอม ๆ รสสัมผัสนุ่ม ๆ ติดนิดนึงคือเจอมดอยู่ในแก้วทั้ง 2 แก้วเลย แต่ดีที่พอบอกทางร้านแล้วเค้าเปลี่ยนแก้วใหม่ให้ค่ะ แอบเห็นเมนูกาแฟเค้าน่ากินมากเช่นกัน ใครเป็นสายกาแฟก็มาลองได้ค่า :)

Toungporn Ravirote

“ กิ น เ ล่ น ” อร่อยไม่ใช่เล่น ร้านติด BTS อารีย์ ที่เหมาะแก่การชวนเพื่อนมาลงพุง หยิบอาหารธรรมดาอย่าง คอหมูย่าง ไส้กรอกอีสาน ไส้อั่ว เอามาจับชุด จัดจานออกมาได้น่าทานมว๊ากกก บอกเลย สวยรูป จูบหอมสุดๆ 📍กินเล่น อารีย์ แนะนำเลย สำหรับใครที่กำลังมองหาร้านชิคๆ บรรยากาศโดน! คนไม่พลุกพล่าน เดินทางสะดวกติดตะเข็บBTS และที่สำคัญอาหารอร่อย มาแล้ว ไม่ผิดหวัง เชื่อเถอะ!!😋 #ชะนีสายแหลก #Happynov2021

Natchar Ongjeeds Mahannop

.:: Audrey Cafe ::. 🍕🍱🥗🥩 รู้จักร้านนี้สมัยเมื่อ hungry hub เปิดตลาด 555 เป็นร้านบุฟเฟต์ครอบครัว แม้ความชอบแต่ละคนจะต่างกันแต่ทั้งเล่มเนี่ย ต้องมีเมนูที่ทุกคนถูกใจ ตั้งแต่กินมา ยังไม่เจอเมนูไหนที่ไม่อร่อย รอบนี้กินจนลืมถ่าย ได้ภาพมาแค่ 5% จากสิ่งที่กิน เมนูถูกใจ คือเบบี้แซลมอนพิซซ่า ขาหมูเยอรมัน ลาบแซลมอน ต้มข่า สปาเส้นดำกุ้งแม่น้ำ ซูเฟลปู เค้กเรดเวลเว็ท คุณภาพคุ้มกับราคา 920฿ ต่อคน (ออก e-tax ไม่ได้^^) [••• ••• •••] (98.5/9 hedonic scale) #OngjeedsDish #MustToทาน #พรุ่งนี้ผอม

Eve Ct

🍃Poet House Cafe คาเฟ่สุดชิลล์กลางซอยอารีย์ 5 ตัวร้านเป็นเหมือนบ้านสองชั้นสีขาว ดูโฮมมี่ๆ อบอุ่นๆ เหมาะกับการมานั่งอ่านหนังสือ หรือนั่งทำงานมากๆ เมนูที่เราสั่งวันนี้เป็นเมนู Signature Drink คือ “ชาไทยมะพร้าวอ่อน” ชอบตรงที่มีกลิ่นหอมของมะพร้าวในชาไทย มันหอมสลับกับกลิ่นชา หอมมากก แล้วรสชาติหวานกำลังดี มีเนื้อมะพร้าวให้ด้วยนะ 👍🏻

Chanokphat Phadungath

(ซ.ราชครู กทม) นัดเพื่อนก๊วนใหญ่มาทานมื้อค่ำกันค่ะ มาร้านช่วงเย็นคนเยอะเลยค่ะ ร้านจัดแต่งสวยดีค่ะ ไม่เวอร์วังแต่ก็ดูดี เมนูทางร้านมีให้เลือกเยอะมาก ราคากลางๆ ค่อนไปทางสูง เนื่องจากไปกันหลายคน ก็สั่งมาลองหลายอย่างค่ะ ตั้งแต่ทานเล่น (แหนมหม้อทอด, ไส้กรอกอีสาน, หมูสามชั้นทอดกรอบ, ลาบทอด) กับข้าว (กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา, ผัดยอดฟักแม้ว, ยำเนื้อ, หมูสับผัดปลาเค็ม, ผัดสามเหม็น, แกงเผ็ด, ไข่เจียว, ข้าวผัดสับปะรด) และขนม (ชีสเค้ก, น้ำปั่น, ชาร้อน) รวมๆ อาหารรสชาติดีนะคะ ประทับใจน้องๆ พนักงานค่ะ บริการดี #eatandwalk #เพื่อแซลมอน

Chalermkwan Yodthong

𝐆𝐫𝐞𝐲𝐡𝐨𝐮𝐧𝐝 𝐂𝐚𝐟𝐞 ร้านอาหารฟิวชั่น ไทย และนานาชาติ ในร้านโทนเข้ม ดำๆเท่ๆ กับคอนเซป Love to Twist 🥯เริ่มด้วยขนมปัง เนย อร่อยๆ เรียกน้ำย่อย 🌶️แซลมอนแช่พริก จัดจ้าน แต่ไม่เผ็ด รสนวลมาก จานนี้คือเลิศ 🥗สลัดบั๋นหมี่ เมนูเวียตนามประยุกต์ที่แอบแปลกๆ 🍲หมี่ซั่ว ของเพื่อนร่วมโต๊ะ น่าจะอร่อยเพราะเกลี้ยงจานเลย 🍝สปาเกตตีซอสครีมใดๆ เจ้มจ้น ของเราเป็นซอสครีมปู แอบคล้ายขนมจีนน้ำยาปู กลิ่นปูชัดเจนและให้เนื้อปูเยอะมาก แนะนำให้รีบทาน พอเย็นแล้วแอบเซ็งและเลี่ยนเลย 🍨ขนมปิดจ๊อบ เพิ่มความสดชื่น กับ กระท๊อน กระท้อน มีเนื้อกระท้อนลอยแก้ว เยลลี่ เกล็ดน้ำแข็ง ผงบ๊วย ถ้วยใหญ่ ทานได้2 คนนะ อร่อย สดชื่นดี ⚠️อาหารจานใหญ่ ให้เยอะมาก 📍La Villa Ari ชั้น 1 และยังมีอีกหลายสาขาจ้า 🚙มีที่จอดรถ 🚝BTS อารีย์ #greyhoundcafe #เกรย์ฮาว #ที่กินอารีย์ #ตามขวัญมา #Notsecretlove

Kanyapak Sonthimanotham

อีสานฟิวชั่น เน้นความอัญชันนนนนน ไอเลิฟทามาโกะวาซาบิจ้าา สเต็กปลาก็ดี ซี่โครงหมูดี ส้มตำเป็นคนกรุงนะอย่าคาดหวัง แต่ชั้นชอบ ไข่หวานก็ละมุนๆเนื้อแน่นๆ ราคาดีมากกับบรรยากาศเงียบดีๆ ร้านมี delivery ด้วยนะ แถวประดิพัทธ์ สะพานควายจ้าา

Saruda Mai

📍SALT #Notsecretlove 🌷ร้านอาหารสไตล์ Fusion บรรยากาศโรแมนติก เปิดเพลงบรรเลงสากล ราคากลางๆ แต่อาหารอร่อยค่ะ ร้านอยู่ภายในซอยอารีย์ มีที่จอดรถ เมนูอาหารเป็นอาหารยุโรป Fusion เหมาะกับการมาในโอกาสพิเศษ หรือกับคนรัก 🌻เมนูที่อยากแนะนำ: สปาเกตตี้ต้มยำ สลัดแซลมอน เฟรนฟราย #BESTEREATSมีแต่ของอร่อย #แอปที่สายกินต้องมี #valentine2023

Kaewjai Khumvilaisak

#DaiLou #มิชลิน #kinkubkaew Dai Lou ร้านอาหารสไตล์ Modern Chinese Dining Cuisine ย่านอารีย์ การันตีความอร่อยด้วยรางวัลมิชลิน เพลท ถึง 2 เมนู คำว่า “ไต่โหลว” ในภาษาจีนกวางตุ้ง แปลว่า พี่ใหญ่ 1 ในเมนูที่ได้รางวัลมิชลินเพลท คือ “ขนมผักกาดผัดซอส x.o. (250++ บาท) ขนมผักกาดที่ทอดในน้ำมันและนำมาผัดกับซอส x.o. สูตรพิเศษของทางร้าน ขนมจีบกุ้ง (90++ บาท) กุ้งสดเด้งตัวโต วัตถุดิบระดับคุณภาพ อร่อยเลยค่ะ กุ้งทอด (190++ บาท) กุ้งทอดห่อด้วยเม็ดแอลมอนด์ฝานบาง ทอดมาแบบกรอบนอกนุ่มใน เนื้อกุ้งเด้ง ๆ สดใหม่ เผือกทอด (140++ บาท) เผือกทอด 2 สี ไส้หมูผงกะหรี่ และหมูแดง เผือกด้านนอกทอดเป็นเส้นบาง ๆ กรอบ สอดไส้หอมอร่อยดี กุ้ยช่ายทอด (150++ บาท) กุ้ยช่ายอร่อยเลยค่ะ ทอดมาแบบกรอบนอกนุ่มใน โรยด้วยกระเทียม พริกซอย ต้นหอมซอย ก๋วยเตี๋ยวหลอดไส้หมูแดง (120++ บาท) ก๋วยเตี๋ยวเส้นนุ่ม สอดไส้หมูแดงชิ้นเล็ก ราดด้วยน้ำซอสนัว ๆ เป็ดย่าง 1 ตัว (900++ บาท) เป็ดย่างเนื้อนุ่ม เสิร์ฟมาพร้อมขิงดอง ถั่วลิสง กุ้งคั่วพริกเกลือ (350++ บาท) กุ้งสดตัวโตชุบแป้งทอด คั่วด้วยพริกสด กระเทียมสด ต้นหอมซอย ซาลาเปาไส้หมูแดง (90++ บาท) ทางร้านดีไซน์ออกมาแบบเก๋ ๆ เป็นทรงเห็ดหอม โรยด้วยผงโกโก้ ดูสวยงาม หมูกรอบ (320 บาท) ทางร้านจะทำเป็นแบบสูตรย่างมา เสิร์ฟพร้อมซอสมัสตาด เมนูส่วนตัวยังไม่ค่อยโดนใจค่ะ ยังไม่กรอบสมใจ ก๋วยเตี๋ยวหลอดไส้กุ้งทอด (240++ บาท) ก๋วยเตี๋ยวเส้นนุ่มสอดไส้กุ้งทอด หมูผัดซอสฮ่องกง (280++ บาท) หมูเนื้อนุ่มผัดซอสคล้าย ๆ เปรี้ยวหวาน ผัดกับสัปปะรด พริกหวาน ไก่ขอทาน (1200 ++ บาท) เมนูในตำนานหนังจีนมังกรหยก ถ้าจะทานต้องสั่งล่วงหน้า 1 วัน เป็นไก่หมักเครื่องเทศห่อด้วยใบบัวอบโดยใช้ไฟอ่อนเป็นเวลานาน ไก่เนื้อนุ่ม เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม 3 แบบ ไก่ขอทานมีตำนานว่าขอทานแอบเข้าไปขโมยไก่บ้านเศรษฐี แล้วกลัวจับได้เลยเอาดินเหนียวหุ้มไว้ ด้วยความกลัวได้ยินเสียงคนเดินเลยรีบโยนเข้ากองไฟ เมื่อเวลาผ่านไปพ่อบ้านคนหนึ่งเดินผ่านมาตอนที่ไฟมอดแล้ว ด้วยความแปลกใจเลยลองแกะมาดู พบว่าด้านในพบไก่สีขาวหอมกลิ่นเผา เมื่อลองชิมดูพบว่ารสชาติอร่อยมาก เมื่อขอทานคนเดิมตั้งใจจะกลับมากินไก่ พบว่าพ่อบ้านได้กินไปแล้ว พ่อบ้านกล่าวขอโทษขอทานแล้วขอสูตรมาลองทำขาย แล้วตั้งชื่อว่าไก่ขอทาน ปรากฎว่าขายดิบขายดีจนร่ำรวยกันเลย ข้าวผัดหยางโจว (280++ บาท) ข้าวเม็ดร่วนผัดมาได้หอมกระทะ รสชาติดี ผัดกับหมูแดง กุ้งสด โรยด้วยเนื้อปู บัวลอยงาดำเฮ่งยิ่งแต้ (120 ++ บาท) บัวลอยไส้งาดำ เสิร์ฟพร้อมน้ำอัลมอนด์จีน กรานิตาสาคูเมล่อนสองสี (180 ++ บาท) เมนูนี้ดีงามมากค่ะ กรานิต้าหอมเมล่อน เย็นชื่นใจ โบ้กเกี๊ยะบะหมี่เย็น (190++ บาท) โบ้กเกี๊ยะถ้วยใหญ่ แบ่งทานได้ 3-4 คนเลยค่ะ 🏡 Dai Lou 📌 ซอยอารีย์ 1 เขตพญาไท ⏰ 10.30 - 22.30 น.

Ziang Pattara

เย็นวันศุกร์ จะเป็นเวลาดีๆ ที่พวกเราจะหาร้านอร่อย ทานด้วยกันเสมอ ครั้งนี้ มาร้านใกล้ๆที่พัก ที่อยากมาทานนานเเล้ว เมนูที่ผมประทับใจมีหลายอันที่อยากเเนะนำให้เพื่อนๆ Yuzu sake jelly รสเปรี้ยวอมหวาน คู่กับกลิ่นหอมๆ ของส้มยุซุ สัมผัส นุ่มลื่นเเบบเจลลี่ เป็นเครื่องดื่มที่เสริมความสดชื่น เเละ ทานเรียกความอยากอาหารได้อยากดี Cheese toast with Chicken liver paste ยกให้เป็นหนึ่งในอาหารที่สั่นสะเทือนหัวใจ คนไม่ชอบเครื่องในเเบบผมได้เเบบสบายๆเลย ขนมปังชุ่มเนย หอมๆ ทาด้วย paste ตับบด กลิ่นเนย ยั่วๆ หอมๆ เสริมรสด้วยอุมามิของรสตับไก่ ที่ไม่รู้สึกถึงกลิ่นคาวเลย รสชาติกลมกล่อมเข้มข้นมาก ให้คะเเนน 10/10 เลยครับ Soft shell crab salad with black vinegar ปูนิ่ม เนื้อฟู นุ่ม ส่วนเปลือกนอกกรอบกำลังดี ผักกาดเเก้ว เเตงกวา มะเขือเทศราชินี สด กรอบ น้ำสลัด น้ำส้มสายชูดำ มีกลิ่นหอมๆ กระจายทั่วปากทุกคำที่ได้กัด กินตัดกับปูนิ่มได้อย่างดี เนื้อย่างจิ้มเเจ่ว ความสุกระดับ Medium สีเเดงระเรื่อ ตรงส่วนกลางของเนื้อกำลังชุ่มฉ่ำ ย่างมาได้ดีมาก คู่กับน้ำจิ้มเเจ่วรสตามต้นตำรับ เป็นการคู่กันของ เนื้อสไตล์เสต็กกับซอสเเบบไทยๆได้อย่างดี โดยสรุป อร่อย 10/10 บริการ 8/10 ราคา 8/10 เข้าถึง 6/10

Panpilas Bas Sawasdecha

จานประจำ : ยำทะเลดิบ อันประกอบไปด้วย หมึกยักษ์ กุ้งสด ปลาทูน่า ปลาแซลม่อน อร่อยมาก สั่งทุกที จานประจำ 2 : ซี่โครงหมูบาบีคิว สั่งแบบ half นุ่ม ยุ่ย หลุดจากกระดูก เคี้ยวหนึบๆ ซอสหวานกำลังดี เอาจริง ร้านนี้อร่อยทุกอย่างนะ เท่าที่เคยสั่ง ราคาอาจจะแอบสูงไปนิด แต่บรรยากาศ รสชาติอาหารอื่นๆ ก็ต้องยอมเขาหน่อย #Jan2020

Songwut Sopajaree

เนื้อดี แต่วิธีการนำเสนอ ไม่ชัดเจน เช่น หั่นเนื้อให้ ลค. เลย ควรจะถามว่า จะเสริฟเป็นชิ้นหรือให้หั่นให้ ที่สำคัญ ของทานเล่น มาพร้อมกับ เมนคอร์ส ไม่มีประโยชน์ที่จะสั่งเพราะมาพร้อมกันทั้งหมด แต่การบริการดีมาก รสชาติอาหารดีมาก

Veerapat Ma

ร้านพาสต้าสไตล์โฮมเมดที่เปิดรับวันละ 1 โต๊ะ ดังนั้นโอกาสมาทานร้านนี้ค่อนข้างจะยาก แต่อย่างไรก็ดี ด้วยสถานการณ์โควิททำให้ร้านปรับมาจำหน่ายแบบ Delivery หรือ Pick up แทน โดยเราสามารถสั่งเมนูอาหารผ่านทางไลน์ของร้านได้เลยครับ แนะนำว่าควรจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วันครับ หากสั่งวันที่ทานเลย จะได้รับอาหารช้าครับ แต่ไม่ต้องห่วง ทางร้านทำใหม่ๆ เกือบทุกเมนูนี้ครับ สำหรับวันนี้ก็สั่งผ่านทางไลน์ไว้ก่อนครับ รอไม่นานแอดมินก็มาตอบ และแจ้งค่าใช้จ่าย หลังจากคอนเฟิร์มเรียบร้อย ก็ไปรับตามวันเวลาที่ตกลงกันครับ โดยทางร้านจะเริ่มให้รับอาหารตอน 11:30 แต่ถ้ารีบก็สามารถแจ้งรับก่อนหน้าก็ได้ครับ ซึ่งบางเมนูก็จะทำตอน 20 นาทีก่อนถึงเวลารับครับ ถ้าหากไปรับอาหารเอง ก็สามารถจอดรถแถวๆ ร้านได้ครับ มีที่จอดริมทางค่อนข้างเยอะพอสมควร และซอยเองก็เข้าออกค่อนข้างง่ายด้วยครับ สำหรับวันนี้สั่งมาทานทั้งหมด 3 เมนูด้วยกันก็จะมี - Gnocchi with 2 cheeses ราคา 390 บาท: ปกติเราจะเจอ Gnocchi ที่เป็นมันฝรั่งผสมกับแป้ง ซึ่งรสชาติก็จะออกไปทางคล้ายๆ พาสต้าแบบนิ่มๆ แต่ของร้านนี้มาเป็นมันฝรั่งแท้ๆ เพียวๆ ที่คลุกกับชีสแบบจัดเต็ม ถ้าให้ตีไปเรื่อยๆ อีกหน่อยก็จะกลายเป็นมันบดแบบเหลวๆ แล้วครับ อันนี้คือประทับใจมาก ชีสหอมและจัดเต็มมากๆ รสชาตินุ่มนวล ชูรสชาติของมันฝรั่งได้เป็นอย่างดีครับ - Parma Burrata ราคา 490 บาท: บูร์ราตาที่ห่อรอบๆ ด้วยพาร์มาแฮม เสิร์ฟมาพร้อมกับ ทานคู่กับผักและสลัดมะเขือเทศบัลซามิกที่มีใส่ธัญพืชเพิ่มรสชาติต่างๆ ตัวบูร์ราตาจะออกครีมมี่บางๆ ไม่เค็มและไม่เปรี้ยว มีความนวลๆ ทานกับพาร์มาแฮมที่รสชาติเค็มตัดกันได้อย่างลงตัว ถ้ารู้สึกเลี่ยนไปก็สามารถทานกับสลัดได้ ส่วนตัวรู้สึกว่าสลัดให้มาน้อยไปสักหน่อยครับ ถ้าเยอะกว่านี้ portion จะพอดีกับปริมาณพาร์มาแฮมเลยครับ - Tiramisu ราคา 490 บาท: เมนูขนมหวานซิกเนเจอร์ตลอดกาลของร้านนี้ ในกล่องฟลอยด์ขนาด 400 ml ซึ่งน้ำหนักถือว่าเยอะพอสมควรเลยทีเดียว มาพร้อมกับผงโกโก้ให้โรยหน้าอีกที เนื่องจากว่ากลัวจะเละเลยไม่ได้จัดใส่จานเหมือนสองเมนูก่อนหน้า รสชาติจะเน้นไปทางครีมมี่มากๆ หวานๆ รสชาติของครีมชัดและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะร้านนี้จริงๆ ตัวกาแฟที่อยู่ในเลดี้ฟิงเกอร์ไม่ได้เด่นมาก ถ้าเป็นสายไม่ทานกาแฟน่าจะถูกใจสิ่งนี้ครับ โดยรวมแล้วถือว่าประทับใจในรสชาติเลยครับ อาจจะหนักไปทางเลี่ยนหน่อยๆ ด้วยความที่เป็นรสชาติแบบอิตาเลียนแท้ๆ ส่วนการบริการจากร้านค้าดีครับ ถ้ามีโอกาสอยากจะมานั่งทานที่ร้าน ถ้ารับกรุ๊ปเล็กๆ ด้วยจะดีมากเลยครับ 💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻 🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin 🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha

Jitlada Kitisriworapan

คาเฟ่ยาดอง....มีดนตรีสด..และค็อกเทลฟิวชั่น จากยาดองและส่วนผสมไทยๆ..เช่น ลำยอง โกโบริ ส่วนอาหารรสชาดออกไปทางจืด..

Kongdech Meedech

HANGOUT! Good drinks with great foods 🍸🍷 ... เย็นย่ำสำหรับชาวออฟฟิศ/ครอบครัว/คู่รัก แนะนำร้านนี้ฮะ - เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ยี่ห้อดีๆเยอะมาก 🤩 - อาหารก็เลิศ เข้ากันดี - ร้านอยู่ ซ.พหลโยธิน 12 (ระหว่าง BTS อารีย์ & สะพานควาย) - ร้านอาจจะตกกระแสไปสักพัก แต่คุณภาพอาหารยังยอดเยี่ยมอยู่ฮะ 😎

Mhewy Z Quippy

Dukedon 🐟 รู้จักร้านนี้จากรายการปัญญาตลาดแตกเลย เขามีแต่เดลิเวอร์รี่นะ ต้องจองด้วย เขาทำไม่เยอะ บังเอิญโชคดีติดตามเพจ เห็นร้านโพส 4 ชุดสุดท้าย ก็ต้องพุ่งแล้ว ร้านอยู่อินทามระ 23 สามารถไปรับเองหรือส่งแกร็บอื่นๆก็ได้ เมนูข้าวด้งที่ทำการ ปลาดุกไทย แต่กรรมวิธีแบบญี่ปุ่น และทำออกมาให้รูปแบบข้าวด้งของญี่ปุ่น เมนู “Duke Don ข้าวหน้าปลาดุกย่าง” เป็นเมนูเด็ดของทางร้าน อารมณ์เหมือนปลาไหลญี่ปุ่นย่าง แต่เปลี่ยนเป็นปลาดุกไทย และ “Duke Pansear Don ข้าวหน้าปลาดุกทอดกระทะ” ทั้งสองเมนู ทานคู่กับซอสคาบายากิ ข้าวญี่ปุ่น ผักดอง และซุปมิโสะ ราคาเซ็ตนี้ราคา 369 บาท เป็นปลาดุกไซส์ S ส่วนตัวชอบปลาดุกอยู่แล้ว พอมาทำเป็นแบบข้าวด้ง ยิ่งกินง่าย ไม่มีก้าง นำเข้าไมโครเวฟ อุ่น ก็อร่อย หนังปลายังกรอบอยู่เลย ถ้าอยากลองต้องสั่งจองก่อนเท่านั้น เขารันตามคิวที่จองด้วยนะ

M'mo Arinrada

📍 Knock Knock Cafe & Bar ย่านอารีย์ ซอยอารีย์สัมพันธ์ 7 ร้านพาสต้าชื่อดังย่านอารีย์ ที่ไม่ได้ขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อยเท่านั้น แต่บรรยากาศในร้านคือดีมากก ตกแต่งสไตล์วินเทจ ถ่ายรูปสวยทุกมุก จะถ่ายมุมไหนก็ชิคก็เกร๋เว่อ กลางคืนวันศุกร์-อาทิตย์ มีดนตรีสดให้ฟังชิลๆด้วย เมนูในรูปคือ • Capellini Aglio E Olio with Bacon & Clam (239฿) เส้นผัดมาดีมากก มันน้อย ความสุกกำลังดี ไม่แข็งหรือนุ่มจนเกินไป รสชาติเข้มข้น แต่ถ้าไม่ทานเผ็ดต้องสั่งว่าไม่ใส่พริกเลย เพราะรสชาติค่อนข้างเผ็ดจัดจ้าน แต่ถึงแม้จะไม่ใส่พริก แต่ก็ยังคงความอร่อยได้ดีมากก ให้เครื่องเยอะเส้นเยอะคุ้มค่าคุ้มราคามากก • Pasta Chips (149฿) เมนูทานเล่นในร้านที่ทานแล้วติดใจมากก ต้องสั่งทุกครั้ง มันคือเส้นพาสต้าที่เอาไปทอดคลุกเคล้าปรุงรส แล้วจิ้มซอสที่ทางร้านทำเอง กลมกล่อมเข้ากันมากก อร่อยรสเลิศ กรอบ ฟิน กินแล้วหยุดไม่ได้ เบรคแตก และมีเมนูอื่นๆในร้านอีกมายมาย ทั้งพาสต้าเมนูอื่นๆ หรือ ของหวาน เครื่องดื่มต่างๆ อยากให้ลองไปทานกันเยอะๆนะคะ 🤟🏻🤟🏻❤️❤️ #Hellonewretty

Veerapat Ma

ในซอยอินทามระ 3 จะมีร้านคาเฟ่เล็กๆ ที่ชื่อว่า In de bake ที่จำหน่าย อาหารคาว ขนมหวานและเครื่องดื่มน่าทานมากมาย แต่กระนั้นเมื่อยามเย็นมาถึง ภายในร้านจะถูกแปรสภาพ กลายเป็นร้านอาหาร Fine Dining กับมื้ออาหารเย็นสุดพิเศษ พร้อมกับป้ายหน้าร้านเล็กๆ ที่จะส่องสว่างขึ้นมาในยามเย็นกับชื่อร้าน “In de Table” กับ Concept indetable, edible journeys หรือ เส้นทางของเชฟอินที่กินได้ ก่อนอื่น ต้องเล่าก่อนว่าเชฟอินเป็นใครมาจากไหน พื้นเพของเชฟมาจากจังหวัดระนอง ด้วยความที่ตั้งแต่เด็กๆ ก็ต้องช่วยคุณแม่เปิดร้านก๋วยเตี๋ยว ทำให้มีพื้นฐานของการทำอาหาร พอโตขึ้น ก็เริ่มออกค้นหาตัวเองว่าอยากจะเป็นอะไร ควบคู่ไปกับการเรียนสายสามัญ จนสุดท้ายค้นพบว่าตัวเองอยากทำอาหาร จึงตัดสินใจขอแม่ว่าจะขอเรียนทำอาหาร ตั้งแต่นั้นมา เชฟอินก็เข้าสู่วงการอาหาร เริ่มจากเรียนทำอาหารจาก Le Cordon Bleu จนถึงการออกไปแข่งขันตามสถาบันแข่งขันอาหารต่างๆ ได้รางวัลเต็มไปหมด และสุดท้ายก็ลงหลักปักฐาน จึงเกิดมาเป็นร้าน “In de bake” ถึงแม้ว่าร้าน “In de bake” จะเกิดขึ้นมาแล้ว แต่ด้วยเหตุผลที่เกิดจากความต้องการของตลาดมากกว่าความต้องการที่เชฟอยากจะทำจริงๆ เชฟเลยลองมานั่งคิดๆ ดู และนึกได้ว่าตัวเองอยากจะเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว แต่ถ้าเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวมันคงจะธรรมดาเกินไป เลยตัดสินใจที่จะเปลี่ยนเป็นการเปิดร้าน Fine Dining ภายในร้าน In de bake อีกที และนี่คือที่มาของ “In de Table” นั่นเอง กับคอนเซป เส้นทางของอินที่กินได้ กับ Chapter หมายเลขหนึ่ง กว่าจะมาเป็นอิน = “ก๋วยเตี๋ยว” เรามาลองนึกกันว่า เวลาเราเข้าไปในร้านก๋วยเตี๋ยวนั้นจะมีอะไรบ้าง ถ้าให้นึกเร็วๆ ก็จะมี ก๋วยเตี๋ยว เครื่องปรุง ของทางเล่น เครื่องดื่ม ของหวาน และอื่นๆ สิ่งเหล่านี้แหละ ที่ทางเชฟนำมาตีความใหม่ กลายมาเป็นเมนูสุดพิเศษที่มีด้วยกันถึง 7 เมนู ที่ยังไม่ได้รวมเมนู Complementary อีกหลายเมนู ที่จะได้มารับชมกัน เมนูแรก มาเป็นถ้วยสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่มีชื่อว่า ไซรัปกุหลาบ อุทัยทิพย์ ถ้าใครจำกันได้ สมัยก่อนร้านก๋วยเตี๋ยวจะมีน้ำฟรีให้เราได้ตักกัน และหลายๆ ร้านเองก็จะชอบหยดอุทัยทิพย์ลงไปเพื่อเพิ่มความหอม เชฟอินเลยทำน้ำกุหลาบขึ้นมา ปรุงกลิ่นให้คล้ายๆ กับอุทัยทิพย์ แต่รสชาติจะออกไปทางเปรี้ยวนำและหวานตาม เปิดต่อมรับรสของเราให้พร้อมที่จะทานอาหาร ยังมีดอกกุหลาบแคระที่เสียบอยู่ ซึ่งเราสามารถเด็ดกลีบมากินได้ โดยจะมีความฝาดเล็กๆ ตัดรสชาติกับตัวเครื่องดื่มได้เป็นอย่างดี เมนู Complementary จานที่สองจะเริ่มหนักขึ้นเล็กน้อย กับข้าวพองบัตเตอร์เบคอน ที่มาของเมนูนี้คือ น้ำมันกากเจียว ที่เราจะเห็นก๋วยเตี๋ยวหลายๆ ร้านชอบใช้กัน ทางเชฟเลยนำความกรอบและหอมของน้ำมันกากเจียว มาตีความใหม่ กลายเป็นข้าวพองกรอบๆ ที่รสชาติออกจืดๆ ทานคู่กับเนยที่ผสมเบคอนเข้าไป กลิ่น รสสัมผัส และรสชาติใกล้เคียงกับกากเจียว มีความกรอบและออกมันๆไปทางนวลๆ แถมไม่ต้องกลัวอ้วนอีกด้วย เมนูจานหลักจานแรกนั้น อยากให้ทุกคนนึกถึง ของทอด ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวหลายๆ ร้านจะมีกันและเป็นเมนูเบสิคสุด นั่นคือ เกี๊ยวทอด กับเมนูที่มีชื่อว่า Deep Fried Pork with red bell pepper jam เมนูเกี๊ยวทอดที่ออกมาในรูปแบบของกุยช่าย ด้านล่างจะใส่ซอสที่ทำจากพริกระฆังแดง ที่ต้องนำพริกไปเผาจนไหม้ ลอกส่วนที่ไหม้ออกผ่านน้ำ นำเม็ดออก จากนั้นหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปต้มจนเปื่อยและนำมากรองครั้งสุดท้ายเพื่อให้ได้เฉพาะตัวซอส ส่วนตัวเกี๊ยวจะปั้นออกมาคล้ายๆ กับกุยช่าย โดยมีส่วนผสมทั้งเนื้อหมูและดอกกุยช่าย นำไปทอดจนกรอบ เสิร์ฟพร้อมกับผักแว่นแก้ว และ Butterfly Tuile สวยๆ ที่ทานได้เช่นกัน รสชาติจะออกเค็มนิดๆ มีความเผ็ดจัดจ้าน ตัดกับ Texture กรอบๆ ทั้งจากตัวเกี๊ยวและทีล บาลานซ์รสชาติได้ดีมากสำหรับจานนี้ จานที่สอง มาเป็นในรูปแบบขนมปังกรอบที่ตกแต่งแต่ละชิ้นไม่เหมือน ในชื่อว่า “เครื่องปรุง” หรือ Seasoning Toast มีอยู่ด้วยกัน 4 ชิ้น ที่หน้าตาไม่เหมือนกัน โดยไอเดียจานนี้มาจากเครื่องปรุง ทั้ง 4 ที่เรารู้จักกันดี พริก น้ำตาล พริกน้ำส้ม และน้ำปลา แต่ถ้านำ 4 อย่างนี้มาทำก็จะธรรมดาเกินไป เลยนำวัตถุดิบที่ให้รสชาติที่เหมือนกันมาสร้างเป็น Toast 4 รสชาติ และเวลาทานก็จะไล่ตามลำดับตามนี้ - เปรี้ยว หรือ อาจาดพริกเหลืองดอง กลิ่นที่ได้เหมือนกับพริกน้ำส้ม แต่รสชาติเปรี้ยวจะกลางๆ ทานได้ง่าย ออกมันๆ - หวาน หรือ โทสน้ำอ้อย รสชาติจะออกหวานๆ ไปทางคาราเมล ติดเลี่ยนพอสมควร อันนี้ใครสายหวานน่าจะชอบ - เค็ม หรือ น้ำปลาหอม นำมาทำในรูปแบบครีมที่โรยด้วยเบคอน จะออกไปทางเค็มแบบเบาๆ และได้ความกรุบกรอบจากตัวเบคอนอีกที - เผ็ด หรือ พริกป่น แต่จะออกไปทางเผ็ดแบบปาปริก้ามากกว่า เมนูนี้จะมีความพิเศษตรงที่เชฟจะรู้เลยว่า ลูกค้าแต่ละทานที่มาทานชอบรสชาติแบบไหน อย่างเช่นผู้เขียนเอง ก็ชอบตัวอาจาดพริกเหลืองดองที่สุด ด้วยรสชาติกลมกล่อมกว่าตัวอื่นๆ ก็บ่งบอกได้ว่าเป็นคนชอบทานรสเปรี้ยวนั่นเอง ต่อกันด้วยจานที่สาม กับเมนูที่มีชื่อสั้นๆ ว่า Salad ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากผักลวก ที่ใส่อยู่ในก๋วยเตี๋ยว แต่ปรับเปลี่ยนรูปแบบให้ออกมาในรูปของสลัด แต่หน้าตายังมีความเป็นก๋วยเตี๋ยวแห้งอยู่นั่นเอง ก่อนที่จะเสิร์ฟจานนี้ ทางเชฟจะให้เราทำคาร์เวียร์บัลซามิค โดยการหยดน้ำส้มสายชูสีดำที่ผสมกับผงวุ้น ลงไปในน้ำมันมะกอกเย็น แล้วจะกลายเป็นหยดคาร์เวียร์สวยๆ เมื่อหยดจนหมด ก็จะเทใส่ตาข่ายกรอง รอนำไปใส่ในสลัดอีกที ส่วนตัวของสลัดนั้น จะประกอบไปด้วย ผักบุ้งที่นำไปช็อกในน้ำแข็ง ผ่านการดองในน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ สุดท้ายนำไปตุ๋นจนหน้าตาออกมาเป็นเส้นสีน้ำตาลอ่อน เลมอนแพชชั่นฟรุตเจลลี่ ผักโต้วเหมี่ยว อัลฟาฟ่า โทบิโกะสีเขียว ผักสลัด มะเขือเทศดอง พร้อมกับหอยโฮตาเตะตัวเบ้งๆ ที่โรยด้วยคาร์เวียร์บัลซามิคเช่นเดียวกับที่เราได้ทำกันไปก่อนหน้า แต่จะออกเปรี้ยวมากกว่า จากนั้นจะราดด้วยเบซิลออย ก่อนทานก็คลุกเคล้าให้เข้ากัน หากรู้สึกว่ายังไม่ค่อยเปรี้ยวก็เติมคาร์เวียร์บัลซามิกที่ทำกันไปก่อนหน้าลงไปเพิ่มอีก รสชาติออกสดชื่นมีความเปรี้ยวนิดๆ ให้รสสัมผัสออกไปทางกรอบๆ โดยเฉพาะตัวผักบุ้งที่ทำเลียนแบบเส้นก๋วยเตี๋ยวแต่กรอบมากๆ โฮตาเตะก็ทำออกมาได้พอดี ไม่แห้งหรือกระด้าง และที่สำคัญหน้าตาสวยมาก จานที่สี่นี้ จะไม่ได้มาในรูปแบบจาน แต่มาเป็นแก้วไวน์ในชื่อว่า “คล่องคอ” จะเป็น Dashi Soup พร้อมกับเครื่องเคียงอย่างมูสไก่ และไช้เท้าตุ๋น โดยก่อนเสิร์ฟจะมีการ Smoked ตัวซุป ก่อนทานให้เปิดฝาและคนควันให้เข้ากับซุป จะได้รสชาติออกเค็มๆ นวลๆ นึกถึงซุปพะโล้ที่รสชาติพอดีมากๆ ได้กลิ่นสโมคหอมๆ และรสชาติเองก็มีความเป็นควันๆ ด้วยเช่นกัน ทางเชฟแนะนำว่า ให้ลองเด็ดกลีบกุหลาบแคระที่นำมาตกแต่งบนมูสไก่ ลงไปในซุปด้วยจะได้ความฝาดๆ มาตัดกับความเค็มได้ดีขึ้น มูสไก่นุ่มอร่อย ส่วนไช้เท้าจะออกหวานนำตัดรสชาติกับซุปอีกที เวลาทานให้ทานสลับกันเพื่อให้ได้รสชาติที่ครบทั้งหวานเค็มฝาด ก่อนจะไปถึงจานหลักนั้น จะมีเมนูสุดท้ายคั่นก่อนกับจานที่ 5 ในชื่อ “รวมชิ้น” ที่มีที่มาจากลูกชิ้น โดยนำเสอนออกมาเป็น 3 แบบด้วยกัน ก็จะมี โครเกต์ ที่เป็นตัวแทนลูกชิ้นกุ้ง มาพร้อมกับน้ำจิ้มที่ทำจากบ๊วยที่ต้มพร้อมกับพริก ให้รสชาติกรอบนอกนุ่มใน เนื้อแน่นมากและรสชาติกุ้งเองก็ชัดสุดๆ บ๊วยต้มพริกเองก็อร่อยและรสชาติออกหนักเผ็ดพอสมควร อย่างที่สอง จะเป็น แซลม่อนกรอบครีมชีส ตัวแทนของเต้าหู้ปลา ที่จะมี Texture หนึบหนับกับความหวานของแซลมอนเป็นตัวชูโรง ตัดกับความกรอบของแผ่นครีมชีสด้านล่าง ปรุงรสด้วยซอสพริกศรีราชาและพริกไทย มีความเผ็ดที่มากกว่าตัวโครเกต์ และออกไปทางครีมมี่ และสุดท้ายคือไชเท้าดองครีมสดที่ด้านนอกจะโรยด้วยครัสต์ใบโหระพากรอบๆ ตัวนี้ไม่ได้แทนสิ่งใด แต่มาเพื่อปรับรสชาติลิ้นให้เตรียมพร้อมกับจานหลักจานต่อไป ออกไปทางครีมมี่เบาๆ มีความสดชื่น และแล้วก็มาถึงอาหารคาวจานสุดท้าย กับเมนูที่มีชื่อว่า “เย็นตาโฟ” ที่นำเสนอในรูปแบบก๋วยเตี๋ยวแห้ง ประกอบไปด้วย กุ้งมังกรจากระนองที่จับสดๆ ซึ่งเนื้อจะมีความเฟิร์มและแน่นกว่าแบบเลี้ยง ผ่านการเบิร์นจนสุก และราดซอสเย็นตาโฟผสมกับไวน์ครีมซอสปิดท้าย บันนิกุริครีมกุ้งย่าง เส้นโซบะข้าวกล้อง ก่อนเสิร์ฟจะโรยด้วยไข่กุ้งแบบจุกๆ เวลาทานให้คลุกตัวเส้นกับซอสและไข่กุ้งให้เข้ากันก่อน และทานสลับกับตัวเนื้อกุ้ง ก่อนที่สุดท้ายจะทานบันนิกุริอีกที เนื้อกุ้งมังกรจะมีความเฟิร์มในแต่ละส่วนไม่เท่ากัน อย่างเช่นบริเวณลำตัวเนื้อจะแน่นและหนึบ มีความสู้ฟันนิดๆ ส่วนปลายหางจะออกนุ่มๆ แทบไม่ต้องออกแรงเคี้ยว เส้นโซบะจะให้รสสัมผัสแบบ al dente มีความนุ่มและหนึบที่ค่อนข้างพอดี พอเจอกับซอสเย็นตาโฟที่มีความนุ่มและหวานแบบเย็นตาโฟรวมทั้งไข่กุ้งที่รสชาติดีมากแทบไม่มีกลิ่นคาว รสชาติเลยไปด้วยกันได้ดีและพอดีกับลิ้นมากๆ ส่วนปันนิปุริจะออกไปทางเปรี้ยวจากไส้เลมอนเคิร์ทที่อยู่ด้านในรวมทั้งให้ความกรุบกรอบ เป็นการปิดท้ายเมนูนี้ได้เป็นอย่างดี เริ่มต้นจานของหวานในคอร์สกับเมนู “OH HO SWEET” เมนูรวมมิตรขนมไทยที่เราจะเห็นได้จากร้านก๋วยเตี๋ยวบางร้าน ประกอบไปด้วย มองบังเผือกที่เป็นเส้นๆ และด้านล่างเป็นพานาคอตต้าเผือก ที่จะให้ 2 Texture ทั้งนุ่มจากตัวมองบังและนวลจากพานาคอตต้า รสชาติออกหวานละมุนหอมกลิ่นเผือก ไอศกรีมกะทิรสชาติเข้มๆ ให้ความรู้สึกเหมือนทานไอศกรีมสมัยก่อนออกหวานมันและหอมกะทิสุดๆ พร้อมกับครัมเบิ้ล และหยกกรอบที่มาเพิ่มรสสัมผัสกรุบกรอบในจานนี้ และปิดท้ายด้วย ทีลรังผึ้ง ที่ให้ความกรอบเช่นกัน จานนี้จะแยกทาน หรือทานรวมๆ กันก็ได้ทั้งหมด จบจากเมนู 7 คอร์สหลักไปแล้ว ทางเชฟเองก็ยังมีเสิร์ฟขนมอีก 1 อย่าง เป็น กรานิต้าแตงโม ที่มีตัวแตงโมที่ทำออกมาเหมือนเป็นน้ำแข็งไส ทานคู่กับวุ้นดำหรือเฉาก๊วย และโอ้วเอ้ว ที่ให้รสสัมผัสเหมือนกับลูกตาลที่แน่นกว่าและมีรสออกเขียวๆ ทานพร้อมกันจะตัดรสชาติกันได้ดี และเหมือนเชฟเองก็ยังกลัวว่าจะยังไม่อิ่ม เลยจัดเมนูพิเศษที่ทางเชฟเองก็ทำขนมหวานได้ดี เป็นช็อกโกแลตในรูปหัวใจ พร้อมกับผลไม้นานาชนิดเพื่อทานตัดเลี่ยนด้วยกัน เป็นการปิดมื้ออาหารสุดพิเศษนี้ได้พิเศษจริงๆ รสชาติอาหารโดยรวมแล้วถือว่าทำออกมาได้ยอดเยี่ยมทุกเมนู โดยเฉพาะเรื่องของความ Creative ที่นำก๋วยเตี๋ยว เมนูบ้านๆ มาตีความใหม่หรือ Deconstruct เป็นเมนูอาหาร Fine Dining ได้ประทับใจมากๆ รสชาติอาหารอร่อยและ Balance รสชาติของแต่ละเมนูได้ดีเช่นกัน ส่วนปริมาณถือว่าเยอะและรับประกันได้เลยว่าจุกแน่นอน ในส่วนของเครื่องดื่มเอง ก็มีน้ำดื่มเสิร์ฟตลอด แต่ถ้าหากอยากทานไวน์ Pairing หรือค็อกเทล ก็มีให้บริการด้วยเช่นกัน ในส่วนของการบริการนั้น ให้ความรู้สึกเหมือนมาบ้านเพื่อนที่มีความเป็น Fine Dining อยู่ การบริการเป๊ะแต่ได้ความเป็นกันเองไปในตัว ทางเชฟเองลงมาแนะนำเมนูเองแทบทุกเมนู รวมทั้งในหลายๆ เมนูนั้นก็นำมาทำและจัดจานให้ดูก่อนทานถึงโต๊ะกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะตัวเมนูจานหลักอย่างเย็นตาโฟ เราก็จะได้กลิ่นกุ้งมังกรเผาเย้ายวนชวนน้ำลายสอ และลุ้นว่าเมื่อไรจะได้ทานกันสักที คำแนะนำอย่างหนึ่งสำหรับร้านนี้ หากสามารถช่วยเพื่อนเดอะแก๊งค์หรือครอบครัว มาได้มากกว่า 4 คน ก็จะสามารถขอเป็น Course Private ได้ บอกได้เลยว่า การทานอาหารร่วมกับคนที่เราสนิทสนมด้วย จะทำให้เมนูอาหารในมื้อนี้ยิ่งอร่อยขึ้นไปอีก และควรสำรองที่นั่งก่อนมาทานทุกครั้ง ผ่านทาง Line หรือ Messenger ของทางร้านได้ทันที หลังจากที่อ่านรีวิวนี้กันแล้ว หากสนใจอยากจะไปทาน Chapter นี้ ก็ต้องขอแสดงความเสียใจด้วยเนื่องจากวันที่ผู้เขียนไปทานนั้น เป็นรอบสุดท้ายสำหรับ Chapter นี้พอดี แต่อย่างไรก็ดี หลังจากนี้จะเป็น Chapter ใหม่ซึ่งทางร้านยังไม่ได้ประกาศว่าจะเป็น Concept อะไร แต่ที่เชฟสปอยมานั้น จะเป็นการเดินทางในช่วงที่เชฟออกไปเก็บประสบการณ์จากการแข่งขัน ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น ทางผู้เขียนเองก็ยังไม่ทราบเหมือนกัน แต่ถ้ามีโอกาสได้มารีวิวร้านนี้อีกจะมาเล่าให้ฟังนะ 💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻 🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin 🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha *กรณีต้องการนำรูปไปใช้งานให้ขออนุญาตและให้เครดิตทุกครั้ง มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์และแจ้งความทุกกรณี #Hellonewretty