เห็นรีวิวได้ 4.2 เลยต้องมาลอง มาในวันที่พีค โควิด ทั้งร้านไม่มีลูกค้าเลยในตอนเที่ยง ปิดห้องอาหารกินโต๊ะเดียวเลย สั่งมาลอง 1.เส้นใหญ่ราดหน้าหมู 190฿ อร่อยเลย เส้นผัดหอม 2.ข้าวอบเนื้อตุ๋น 280฿ จานนี้อร่อย หอม เป็นแนวข้าวอบปรุงรส มีขิง กลมกล่อม เนื้อตุ๋นดี มีเอ็นด้วย สายเนื้อแบบเราชอบจานนี้ เขาตุ็นเนื้อเข้ารส กินกับน้ำจิ้มพริกเหลือง ได้ลด 10% เพราะเข้าพักที่นี่ แต่มี ++ เป็น 497 บาท ได้ลดจาคูปอง เที่ยวด้วยกันไปอีก 40% ถือว่ารสมือเชฟ ดี ร้านอาหารของ รร.นี้ มีชื่อเสียง
☕️Coffee and Peruvian food in a hundred-year-old house🥘 This old construction surprised me at the first seeing. The noble house was turned into cozy restaurant by their heirs. Food is good, the ambiance is cool. Deserved for lazy weekend🌤 Price: Mid-Range #rettyhappyjan #Jan2021
คาเฟ่เล็กๆในบ้านไทยโบราณสวยๆของเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี เห็นเพื่อนมาทานคาเฟ่ร้านนี้แล้ว ดูบรรยากาศดีจนเราต้องตามมาลองค่ะ มาถึงก็แอบงงๆนิดหน่อยว่าร้านอยู่ไหน ซึ่งเราต้องเข้าประตูบ้านหลังสีขาวใหญ่โตก่อน และเดินไปตามป้ายที่บอกทางไปคาเฟ่ก็จะเจอร้านนี้ตั้งอยู่ชั้นล่างๆของบ้านค่ะ ที่นั่งจะมีไม่เยอะ แต่คือดูดี สั่งขนมและเครื่องดื่มอย่างละ 1 เมนูมาลองค่ะ - Passion fruit + Herb + Chilli เป้นเครือ่งดื่มที่แปลกค่ะ ผสมระหว่างเสาวรส สมุนไพรพวกสาระแหน่ และพริก ซึ่งพอได้ลองทาน เราจะได้ความเปรี้ยวนำหวานเบาๆ ซ่าๆโวดา และมีความเผ็ดที่ปลายลิ้นตอนสุดท้ายค่ะ เป็นรสที่ไม่เคยลอง แต่เราว่ามันก็โอเคเลย ทานแล้วสดชื่นดีค่ะ แต่ถ้าใครไม่ทานเผ็ดไม่แนะนำค่ะ เพราะจะมีรสเผ็ดติดปลายลิ้นนิดๆค่ะ - เค้กอินทผาลัม ที่เนื้อเค้กมีความหนุบๆ มีอินทผาลัมผสมได้รสมันๆหวานๆ ก็ทานคู่เครื่องดื่มเข้ากันดีค่ะ บรรยากาศไม่มีแอร์นะคะ แนวรับลมธรรมชาติ แต่ก็นั่งสบายๆมองต้นไม้ใบหญ้าเพลินๆดีค่ะ
📌 พิกัดร้านจะอยู่ในบริเวณบ้านเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี โดยเราจะต้องเดินอ้อมตัวบ้านไปทางด้านซ้าย คาเฟ่จะอยู่ด้านนอกตัวบ้าน 🚘 ที่จอดรถต้องหาจอดเอาตามข้างทาง แต่ถ้ามาวันธรรมดา น่าจะแน่นๆ พอสมควร แนะนำไปจอดที่วัดโสมฯ แล้วเดินมาที่ร้านน่าจะดีกว่า (ระยะทางประมาณ 700 เมตร) ที่นั่งมีทั้ง indoor (ติดแอร์) & outdoor แต่ถ้าเป็นช่วงที่ลูกค้าไม่เยอะมาก ที่นั่งโซน indoor ก็จะยังไม่เปิดให้บริการนะคะ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้นั่งในห้องแอร์เย็นฉ่ำแต่อากาศก็ถ่ายเทดีค่ะ ไม่ร้อนมากเท่าไหร่ จากที่ได้ส่องดูรายการเครื่องดื่มที่ร้าน ก็ดูมีความคิดสร้างสรรค์ดี อย่างเมนูน้ำเสาวรสของร้านนี้ก็ไม่ธรรมดา แต่จะมีชิลลี่ผสมลงไปด้วยนอกจากสมุนไพรอย่างใบสะระแหน่และโซดา เครื่องดื่มรายการนี้ (Passion Chilli: 80 B.) เหมาะกับอากาศร้อนๆ ของเมืองไทย ดื่มแล้วสดชื่นดีมาก โดยรสเผ็ดของพริกจะเป็นรสชาติแบบ after taste ตอนดื่มไม่รู้สึกเผ็ดเท่าไหร่ แต่รสเผ็ดจะมาในลำคอในภายหลัง ส่วนเมล็ดกาแฟที่ร้านใช้ก็เป็นเมล็ดกาแฟที่ปลูกในเมืองไทย โดยเลือกใช้จากพาร์ตเนอร์ที่ช่วยชาวบ้านพัฒนาคุณภาพชีวิตไปด้วยนอกเหนือจากการลงพื้นที่ไปดูแลกาแฟของตัวเอง คือ ทางร้านไม่ได้สนใจแค่รสชาติของกาแฟเพียงอย่างเดียว 👍 แม้แต่เครื่องดื่มที่สกัดมาจากผลไม้สด ก็ใช้วัตถุดิบที่ได้มาจากสวนของตัวเอง ครบวงจรจริงๆ คอนเซ็ปท์อย่างนึงที่เรายังไม่เห็นที่ร้านไหนในเมืองไทย คือ กระดาน “suspended beverages” เป็นคอนเซ็ปท์ที่ทางร้านนำมาใช้จากที่ New York โดยใครก็ได้สามารถที่จะจ่ายเงินค่าเครื่องดื่มเมนูที่เราทานเผื่อไว้ให้คนอื่นๆ ที่จะเข้ามาใช้บริการในภายหลัง เช่น เราสั่งลาเต้มาทาน 1 แก้ว แทนที่จะจ่ายในราคา 1 แก้ว เราก็จ่ายเผื่อไป 2 แก้ว ทางร้านก็จะเขียนเมนูนี้ขึ้นไว้บนกระดาน โดยคนที่จะมาใช้สิทธิ์ทานเครื่องดื่มบนกระดานนี้ ไม่จำเป็นต้องเป็นคนยากไร้หรือคนเร่ร่อน คือ ใครก็ได้ที่เดินเข้ามาใช้บริการ เราชอบคอนเซ็ปท์นี้มากๆ น่ารักดีค่ะ “เป็นการส่งต่อความสุขให้คนอื่นๆ แบบที่ไม่ได้หวังผลตอบแทนใดๆ แค่ได้ให้ก็มีความสุขแล้ว” แม้ว่าช่วงนี้ทางร้านจะมีขายแต่เมนูเครื่องดื่ม แต่ในอนาคตเข้าใจว่าทางร้านจะมีขายเมนูอาหารจานเดียวแบบง่ายๆ โดยยังคงคอนเซ็ปท์ของร้านตามเดิม ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นหรือผลผลิตที่ได้จากแปลงผักของตัวเอง