profile
Parany Duang-Im
57 ไปมาแล้ว
9 ผู้ติดตาม
  • พื้นที่
  • ประเภทอาหาร
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/28
scene type icon
Gallery Drip Coffee แกลอรี่ กาแฟดริป, แขวง วังบูรพาภิรมย์ เจริญกรุง・วังบูรพา คาเฟ่
Gallery Drip Coffee วังบูรพา ดินแดนมหัศจรรย์อันอบอุ่นของคนไม่กินกาแฟ คุณชื่นชอบบรรยากาศอันอบอุ่น และกลิ่นหอมๆ ของเมล็ดกาแฟที่อบอวลอยู่ในร้านกาแฟ แต่ดันดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนไม่ได้รึเปล่าคะ การเข้าร้านกาแฟช่างเป็นเรื่องเคอะเขินจริงๆ นะคะ เมื่อเราไม่สามารถดื่มกาแฟได้ ความต้องการของคนกลุ่มเล็กๆ นี้ ดูเหมือนจะไม่ใช่ปัญหายิ่งใหญ่อะไร ไม่จำเป็นที่ร้านกาแฟใดๆ จะต้องใส่ใจ เพราะร้านกาแฟย่อมมีจุดประสงค์หลักคือการจำหน่ายกาแฟ แต่ความใส่ใจของกลุ่มคนที่รักกาแฟ ที่มีต่อปัญหาเล็กๆ นี้ กลับสร้างความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ให้กับ แกลเลอรี่ ดริป คอฟฟี่ ร้านกาแฟที่ใส่ใจ และให้ความสำคัญกับทุกๆ คน แกลเลอรี่ ดริป คอฟฟี่ มีด้วยกันสองสาขา สาขาแรกตั้งอยู่ที่ หอศิลป์กรุงเทพฯ และสาขาสอง ที่วังบูรพา ซึ่งเป็นสาขาดิฉันกำลังเขียนถึงอยู่ในขณะนี้ แกลเลอรี่ ดริป คอฟฟี่ วังบูรพา ซึ่งสาขานี้เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9:00 -19:00 น. การเดินทางที่สะดวกที่สุดคือรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงิน โดยมีจุดหมายปลายทางที่สถานีสามยอด จากนั้นออกให้มองหาทางออกหมายเลข 1 เมื่อเดินออกมาจะพบตึก คชา เบด เฮอรเทจ โฮสเทล ซึ่งมีแกลเลอรี่ ดริป คอฟฟี่ สาขานี้ตั้งอยู่ฝั่งซ้ายมือของโฮสเทล แกลเลอรี่ ดริป คอฟฟี่ เป็นร้านกาแฟที่มีคนเขียนรีวิวมากมาย ถึงคุณภาพและรสชาติของกาแฟ ดิฉันซึ่งเป็นคนวงนอกของวงการกาแฟ รู้สึกชื่นชมในความรักและความใส่ใจ ที่ทางร้านมีต่อกาแฟ คนรอบข้างและสิ่งแวดล้อม เป็นร้านกาแฟที่ยอมปิดร้านขาดรายได้ เพื่อขึ้นเขาไปปลูกกาแฟ ไปเก็บกาแฟ ไปเรียนรู้เรื่องกาแฟ และยังคงฝึกฝนพัฒนาฝีมือในการชงกาแฟอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีชื่อเสียงโด่งดังแล้วก็ตาม ด้วยความใกล้ชิดและซาบซึ้งถึงคุณค่าของธรรมชาติ ทางร้านจึงจริงจังใส่ใจ และทันเหตุการณ์ในเรื่องสิ่งแวดล้อมเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการใช้หลอดที่ย่อยสลายได้ 100 % หรือ การออกโปรโมชั่น ลดราคาเครื่องดื่ม หากปั่นจักรยานมาใช้บริการ หรือ นำแก้วมาใส่เครื่องดื่มเอง บรรยากาศของร้านสาขาวังบูรพานี้ ยังคงความเท่ เก๋ เรียบง่าย และคงความอบอุ่นเป็นกันเองตามแบบฉบับของแกลเลอรี่ ดริป คอฟฟี่ สาขาแรกไว้ได้อย่างเข้มแข็ง ด้วยการคงสีขาวนวลของพื้นหลังตามสาขาแรก และใช้สีน้ำตาลอ่อนโทนอบอุ่นตามธรรมชาติของเฟอร์นิเจอร์ไม้ ที่ถูกเสริมความรู้สึก มั่นคง แข็งแกร่ง แต่อ่อนโยน ด้วยชั้นโครงเหล็กสั่งทำพิเศษสีขาวที่ถูกจัดวางเป็นฉากหลัง พร้อมโคมไฟสีเหลืองที่ลอกเลียนหลอดไส้ หลอดไฟส่องสว่างสีเหลืองในอดีตที่ทุกคนคิดถึง ความพิเศษของสาขานี้ คือ ประวัติศาสตร์อันยาวนานของตัวตึกอันเป็นที่ตั้งของร้านแห่งใหม่นี้ ซึ่งผ่านร้อนผ่านหนาวมาเกือบร้อยปี ซึ่งกระเบื้องปูพื้นสีขาวแดงลายเรขาคณิตนี้ เป็นของเก่าดั้งเดิม! กระเบื้องลายเรขาคณิตลักษณะนี้ มีจุดเริ่มต้นมาจากศิลปะอิสลามที่นิยมสร้างงานทัศนศิลป์ที่ปราศจากภาพเหมือน และด้วยที่ตั้งของตึก ที่อยู่ในบริเวณที่ชาวอินเดียนิยมอพยพมาตั้งถิ่นฐาน หากจะสันนิษฐานว่ากระเบื้องสีแดงหม่นโทนสุภาพนี้ ถูกเลือกสรรมาใช้ด้วยอิทธิพลของศิลปะอิสลามจากประเทศอินเดียก็คงไม่ผิด เมื่อนำองค์ประกอบทั้งมวลมาผสานไว้จึงได้ส่วนผสมที่ลงตัวของความทันสมัย ความเรียบง่าย และความอบอุ่นที่อยู่เหนือกาลเวลา นอกจากจะประทับใจกับการออกแบบภายในแล้ว แน่นอนว่าดิฉันถึงกับขนลุกน้ำตารื้นๆ อยากจะยกเท้าหนีแล้วก้มลงกราบพื้นแทน ตื่นเต้นที่ได้เห็นกระเบื้องปูพื้นที่คนยุคก่อนเขาใช้กันจริงๆ และดีใจเป็นพยานแห่งทัศนะในการสร้างสินค้าให้อยู่ทนทานไปจนชั่วลูกชั่วหลานอย่างแท้จริง ไม่ใช่สินค้าอายุสั้นที่เน้นการสร้างเม็ดเงินและปัญหามลพิษอย่างในปัจจุบันนี้ บรรยากาศ จากการใช้เวลาเป็นลูกค้ามาเป็นระยะเวลานานพอสมควร ดิฉันสัมผัสได้ว่าทางร้านมีความใส่ใจในทุกรายละเอียดของการออกแบบร้าน และรวมไปถึงการนำเสนอสินค้าต่างๆ ในร้านเป็นอย่างยิ่ง เครื่องดื่มแต่ละเมนูจะมีภาชนะในการรองรับที่แตกต่างกัน โดยคำนึงถึงองค์ประกอบของการมองเห็นที่ลงตัวของสีและสัมผัสของเครื่องดื่มแก้วนั้นๆ การนำเสนอเครื่องดื่มและขนมหวานแต่ละชนิดถูกออกแบบมาเพื่อบ่งบอกถึงบุคลิกของของแต่ละเมนู โดยมีความอบอุ่นและเรียบง่าย เป็นศูนย์กลางของการออกแบบการจัดวาง เมื่อรสชาติของเครื่องดื่มที่ถูกใจ ถูกผสมผสานกับภาพลักษณ์ที่ต้องตา ย่อมบังเกิดผลเป็นบรรยากาศที่ผ่อนคลาย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่เราจะรู้สึกสุขใจ เมื่อได้ใช้เวลาอยู่ในร้านกาแฟแห่งนี้ บ๊วยโซดา คือ เมนูสามัญ ที่ดิฉันต้องสั่งทุกครั้งที่เดินเข้าร้าน ในยามบ่าย เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับตัวเอง หลังจากเดินฝ่าฝูงชน และคลื่นความร้อนในยามบ่าย บ๊วยโซดาดูเหมือนเครื่องดื่มที่ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน แต่จะชงออกมาให้ลงตัวได้ช่างยากเย็น ส่วนใหญ่ก็จะชงติดหวาน บางที่ก็ชงออกมาเค็มไป หรือใช้โซดาที่ความซ่าแทบจะลาจากไปหมดแล้วมาชง ความไม่ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ นี้ทำให้คุณค่าของเมนูบ๊วยโซดาต้องลาลับไปอย่างน่าเสียดาย แต่ไม่ใช่ที่แกลเลอรี่ ดริป คอฟฟี่ ทุกๆแก้ว ทุกๆครั้งที่ดิฉันดื่ม รสชาติยังคงเดิม กลมกล่อมลงตัวเหมือนเดิม ไม่เคยผิดหวัง ความจริงแล้วเมนูธรรมดาๆนี้ หากความหวานและความเค็มของบ๊วยลงตัวกันพอดี จะช่วยสร้างความอบอุ่นคุ้นเคยให้แก่ผู้ดื่ม คลายกับการดื่มนมอุ่นๆในวัยเด็ก มันช่วยปลอบใจให้หายเหนื่อยได้ดียิ่งนักหลังจากผจญแสงแดดและความร้อนในยามบ่าย ความเย็นซ่าของโซดาก็ส่งผลให้ร่างกายสดชื่น พื้นกำลังให้มีแรงเดินทางกลับบ้านอย่างมีสติ เมนูง่ายๆ นี้ ถ้าใส่หัวใจลงไปในการสร้าง คุณค่าของมันย่อมเป็นได้มากกว่า แค่เมนูโซดาธรรมดาๆ ทั่วๆ ไป จริงไหมคะ บ๊วยโซดา ราคาแก้วละ 65 บาท จะถูกเสิร์ฟมาในแก้วใสขนาดเหมาะมือ มีลวดลายคล้ายแก้วกาแฟตามรถเข็นขายกาแฟในยุคสมัยทีร้านกาแฟยังไม่เป็นที่นิยม ทำให้นึกถึงวันวานในอดีต ที่ยืนชมอาแปะนักชงปรุงเครื่องดื่มด้วยความชำนาญ การนำเสนอบ่งบอกว่าเมนูนี้เป็นเมนูแห่งความคิดถึง เป็นเมนูที่คิดค้นมาเพื่อเด็กๆ เพื่อสร้างสายใยความสัมพันธ์ระหว่างคนสองวัย ในยามที่ผู้ใหญ่ดื่มกาแฟ พริมาเวร่า เมนูชาไร้คาเฟอีน โดยปกติเมื่อพูดถึงชา ย่อมต้องมีคาเฟอีนติดตามมาด้วย จะมากน้อยขึ้นอยู่กับชนิดของชานั้นๆ แต่จริงๆชาที่ไม่มีคาเฟอีนก็มีอยู่ และมีหลายเมนูเลยทีเดียว ชาดอกไม้สีเหลืองนี่เป็นการรวมตัวกันของ เก๊กฮวย ตะไคร้ และหอมหมื่นลี้ เสิร์ฟมาในกาแก้วใส Hario Olive Wood Tea Press ซึ่งมีแกนสำหรับแยกกากชาออกจากน้ำชา ให้ได้มองเห็นความสวยงามของชาดอกไม้ที่ค่อยๆ คลี่กลีบดอกออกอย่างช้าๆ เมื่อโดนน้ำร้อน ราวกับตุ๊กตาเริงระบำที่กำลังโลดแล่นบนกล่องดนตรี พร้อมกับเสียงเพลงลัลลาบาย เพียงแค่จ้องมองก็ทำให้หัวใจชื่นบาน สีเหลืองจากดอกเก๊กฮวยปรากฏชัดเจนเมื่อ ครบเวลา 3-5 นาที ได้เวลารินชาสู่แก้ว กลิ่นหอมของเก๊กฮวยยังคงเป็นกลิ่นที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นปลอดภัยได้เสมอ รสของชาแก้วนี้ทำให้ภาพความทรงจำเมื่อครั้งได้ดื่มน้ำเก๊กฮวยเป็นครั้งแรกสุกสว่างขึ้นมา รสชาติและกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์นี้ ช่วยดับพิษร้อนในร่างกายและจิตใจ ในวันที่ว้าวุ่นได้เป็นอย่างดี ดื่มที่ร้าน 100 บาท ซื้อกลับบ้านเป็นซอง 60 บาท โกโก้ ร้อน ไม่หวาน ราคา 65 บาท คือ หนึ่งในเมนูที่ดิฉันสั่งเป็นประจำในยามเย็น เพื่อสร้างความอบอุ่นให้ร่างกาย การใช้เวลากับความขมของโกโก้ ทำให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่า และทำให้จิตใจสงบลง ซึ่งการสงบจิตใจก่อนกลับเข้าบ้าน เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับมนุษย์ทำงาน เพื่อการรักษาสภาพจิตใจให้สมดุลย์ ไม่เอาเรื่องร้อนในที่ทำงานไปลงกับคนในครอบครัว และนำความทุกข์ออกไปพร้อมๆ กับลมหายใจออก จนไม่เหลือเอาไว้ให้ทำลายความเข้มแข็งของตัวเอง ในการเติมความหวาน ทางร้านจะมีน้ำตาลไซรัปวางไว้ให้บริการ เราสามารถหยิบมาเติมความหวานเองตามใจต้องการ ชิมจนพอใจแล้วส่งขวดน้ำตาลไซรัปคืน ไม่ต้องฉีกซองน้ำตาลทิ้งเพิ่มปริมาณขยะ โกโก้ร้อน ถูกออกแบบมาเพื่อส่งมอบความเข้มแข็งให้แก่ผู้ดื่ม สีน้ำเงินโคบอล์บลูจากแก้วเซรามิกที่แข็งดุจหิน ช่วยทำให้ใจสงบ สุขุม เข้มแข็ง สีบีสของถาดไม้ให้ความรู้สึกอ่อนโยน พร้อมเป็นที่พักพิง สัมผัสที่อ่อนโยนจากถาดไม้ทำให้ผ่อนคลาย ประหนึ่งยืนดื่มโกโก้ร้อนบนโขดหิน ท้าทายคลื่นลมที่โหมปะทะ ด้วยความมุ่งมั่นเข้มแข็ง แต่พร้อมกันนั้นก็รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย เหมือนได้สติตื่นจากฝันร้าย ที่เหนื่อยล้า นิวยอร์คชีสเค้ก เมื่อมีเครื่องดื่มแล้ว ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ขนมหวาน ดิฉันชื่นชอบ นิวยอร์คชีสเค้กของทางร้านมากๆ ส่วนมากจะไปไม่เคยทันเมนูเค้กต่างๆเลย โดยเฉพาะสารพัดเมนูชีสเค้ก ที่ขายหมดก่อนเป็นประจำ นิวยอร์คชีสเค้กที่นี่เนื้อเค้กหนักแน่น แค่เริ่มเอาช้อนตัดเค้กหัวใจก็มีรอยยิ้ม กลิ่นหอมของเค้กสร้างบรรยากาศของความสุขเหมือนได้เปิดประตูออกไปนั่งบนชุดเก้าอี้ไม้สีขาว ท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเขียวขจีบนยอดเขา มีแสงแดดอบอุ่นสาดส่องมาที่แก้มระหว่างที่จิบโกโก้ร้อนๆ รสชาติที่เข้มข้นจัดจ้านลงตัวและเนื้อที่หนักแน่นของเค้กทำให้เพลง The Cursed God อันหนักหน่วงลุ้นระทึกจากภาพยนต์ Princess Mononoke บรรเลงขึ้น และจบลงด้วยฉากเท่ๆ ของพระเอกอะชิทาคะ บิดดาบของคู่ต่อสู้ให้ม้วนงอด้วยมือเปล่า เมื่อดื่มโกโก้ร้อนตบท้าย แต่นอกจากนิวยอร์คชีสเค้กแล้ว ยังมีเมนูเค้กอื่นๆอีกมากมาย ที่จะนำพาคุณไปสู่ดินแดนมหัศจรรย์อันอบอุ่นจนเผลอยิ้มออกมาได้อย่างง่ายดายเลยค่ะ เค้กทุกชนิดราคาชิ้นละ 100 บาท นะคะ กลิ่นของกาแฟ และบรรยากาศที่อบอุ่นของแกลเลอรี่ ดริป คอฟฟี่ ทำให้ฉันเดินเข้าร้านกาแฟทั้งที่ไม่ดื่มกาแฟ แต่ความใส่ใจในความแตกต่างทำให้ฉันต้องแวะเวียนกลับไปซึบซับบรรยากาศและรสชาติความสงบสุขจากทางร้านอยู่เสมอ แกลเลอรี่ ดริป คอฟฟี่ ทำให้ฉันเห็นว่าเราสามารถสร้างโลก ที่คนทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้ บรรยากาศแห่งความปรารถนาดีและความสงบสุข สามารถสร้างขึ้นได้เพียงเริ่มจากการเอาใจเขามาใส่ใจเรา เข้าใจในความต่างและช่วยเหลือกัน จะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถขยายอาณาเขตของดินแดนอันอบอุ่นนี้ ให้ครอบคลุมพื้นที่ในหัวใจของเราทุกคน และทำให้วันทุกวัน คือวันสุขที่แสนมหัศจรรย์ #Bigfriday4 #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 14
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/25
scene type icon
K&Q สุกี้-หมูกะทะ เจ้อ้วน สามย่าน หมูกระทะ
จะตามหาไม่ว่าเธออยู่ไหน... K&Q สุกี้ หมูกระทะ ร้าน เค แอนด์ คิว หมูกระทะเจ้อ้วน ใช่รึเปล่าคะ ตอนนี้ร้านอยู่ที่ตรงไหนแล้วคะ นั่นคือบทสนทนาล่าสุดระหว่างดิฉัน และเจ้าของร้านทางโทรศัพท์ ระหว่างที่ดิฉันและเพื่อนเปิดจีพีเอส เดินตามหาที่ตั้งของร้านแห่งใหม่ ในบริเวณสามย่าน ร้านหมูกระทะ เค แอนด์ คิว เป็นร้านหมูกระทะที่อยู่คู่สามย่านมานานนับสิบปี ดิฉันเป็นลูกค้าประจำตั้งแต่สมัยเรียน ปริญญาตรี มาทานกับเพื่อนเป็นประจำ จนกระทั่งตอนนี้พวกเราเข้าสู่วัยผมหงอกกันแล้ว สิ่งที่พวกเราทุกคนรักร้านสุกี้ หมูกระทะร้านนี้ และมักจะนัดพบปะรับประทานอาหารมื้อหนักกันที่ร้านนี้ เพราะคุณภาพและความใส่ใจ ที่เจ้าของร้านยังคงรักษามาตรฐานไว้เช่นเดิมตลอดระยะเวลานับสิบปี ไม่เคยเปลี่ยนเลย ตอนนี้ร้านตั้งอยู่ จุฬาฯ ซอย 9 ช่วงต้นๆ ซอยค่ะ เป็นถนนเส้นเดียวกันกับตลาดสามย่านใหม่ แอม ปาร์ค รั้วสีขาวๆ คือรั้วด้านหลังสนามจุ๊บ สนามกีฬาจุฬาฯค่ะ ร้านหมูกระทะแห่งนี้ เดิมที่ตั้งอยู่ริมถนนบริเวณหลังสนามกีฬาจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย (สนามจุ๊บ) เมื่อมีการพัฒนาตลาดสามย่าน ทางร้านก็ได้ย้ายออกไปตั้งทำเลใหม่ ซึ่งยังคงอยู่ในบริเวณพื้นที่ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่การพัฒนาที่ดินบริเวณรอบๆ มหาวิทยาลัยยังคงดำเนินไปเรื่อยๆ ทางร้านจึงต้องย้ายทำเลไปเรื่อยๆ ตามเวลาในสัญญาที่หมดลง แม้จะต้องย้ายที่ตั้งร้านบ่อยๆ ความรักที่เหนียวแน่นของลูกค้าก็ยังคงติดตามไปด้วยทุกที่ เหมือนอย่างที่ดิฉันและเพื่อนๆ ที่เดินวนไปมารอบสามย่าน จนกว่าจะหาที่ตั้งร้านเจอ ร้าน ณ ปัจจุบันที่ตั้งร้าน ณ ปัจจุบัน แต่บรรยากาศเหมือนเดิมทุกอย่าง ร้านนี้ไม่ได้มีดีแค่หมูกระทะนะคะ ยังมีสุกี้รสเด็ด ซึ่งเพื่อนๆ ที่ชอบทานสุกี้ที่ร้านนี้ เรียกว่าสุกี้ปากระเบิด เพราะรสชาติที่จัดจ้านและความดุเดือดของน้ำจิ้มสุกี้ สูตรของทางร้าน แต่เราเป็นสายปิ้งย่าง เราจึงเลือกทานหมูกระทะทุกๆ ครั้งที่มาเยือน มารอบนี้ได้พูดคุยกับเจ้าของร้านถึงความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเมื่อเข้าสู่ยุคโซเซียลร้านรวงรอบๆ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลายๆ ร้าน ก็กลายเป็นร้านอาหารชื่อดัง ที่ต้องจองคิว ต่อคิวกันยาวเหยียดถึงจะมีสิทธิ์ได้ทานอาหารเมนูดังเหล่านั้น แต่ร้าน เค แอนด์ คิว กลับเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย "ถ้าเจ้ทำแบบนั้น พวกเธอมาก็ไม่ได้กินหรอก ใช่ไม๊" เจ้าของร้านอธิบายด้วยน้ำเสียงสดใส ทำให้นึกถึงบรรยากาศเมื่อตอนสมัยเรียนปริญญาตรี ที่พวกเราจะต้องรีบมาให้ถึงที่ร้านตั้งแต่ก่อนหกโมงเย็น เพื่อที่จะได้ไม่ต้องนั่งตาละห้อยคอยคิวหน้าร้านนานนับชั่วโมง จริงอย่างที่คุณเจ้าของร้านว่า ถ้าตอนนี้เราจะต้องรอเป็นชั่วโมงเหมือนเมื่อก่อนเห็นทีจะไม่ไหวเสียแล้ว และความคิดที่จะขยายกิจการให้ใหญ่ขึ้นก็ไม่มี เพราะมีกันอยู่แค่สองคน ทั้งหั่นผัก เตรียมหมู จัดของ ทุกอย่างต้องผ่านมือเองหมด เพื่อควบคุมคุณภาพของสินค้าให้เกิดเป็นเมนูคุณภาพต่างๆ ที่เราและเพื่อนๆ ต้องสั่งกันเป็นประจำไม่เคยตกหล่นรายการใดๆ เลย ร้านเค แอนด์ คิว ไม่ใช่ร้านหมูกระทะแบบบุฟเฟต์ แต่ทุกครั้งที่เรามาทาน เฉลี่ยแล้วจ่ายค่าอาหารไม่ได้ต่างจากไปทานบุฟเฟต์เลย แต่รสชาติ และคุณภาพต่างกันลิบลับ ถ้าใครติดบรรยากาศร้านที่ต้องสวยงาม หรือต้องมีแอร์เย็นฉ่ำ แต่อยากทานทอาหารคุณภาพของทางร้าน แนะนำให้ซื้อกลับไปทานที่บ้านนะคะ แต่ถ้าใครต้องการเข้าถึงบรรยากาศของการกินปิ้งย่างที่แท้จริง ต้องไม่พลาดเมนูที่เรารักมากๆ ดังต่อไปนี้ค่ะหมูกระทะรวม หมูกระทะรวม ไม่เอาตับ ​​​​​​ หมู่ 1 เนื้อนมไข่: หมูกระทะ ชุดรวมสารพัดเนื้อคุณภาพ สามารถแจ้งได้ว่าไม่ต้องการเนื้ออะไรจากในรายการ ราคาปัจจุบันชุดละ 300 บาท เนื้อ 1 ชุด จะมาพร้อมกับผักที่ล้าง เลือก และหั่นมาแล้วให้พอดีกับช่องต้มน้ำซุป ถ้าชอบทานผักสามารถสั่งเฉพาะผักเพิ่มได้ ความดีงามของชุดสารพัดเนื้อนี้ อยู่ที่กุ้งตัวโต สองตัว ที่ดูก็รู้ว่าราคาไม่เบาแน่ๆ ใครชอบทานกุ้ง สั่งมาเฉพาะกุ้งก็ได้นะคะ กุ้งของทานร้านสดมาก พอย่างแล้วหอมมาก เนื้อแน่นมากๆ ด้วยขนาดของกุ้งที่แม้จะหดเล็กน้อยลงเพราะความร้อน แต่ขนาดมันเต็มปากเต็มคำมากๆ ฟันที่กัดเข้าไปในเนื้อของกุ้งรับรู้ได้ถึงความกรอบตึง เด้งดึ้งของเนื้อกุ้ง ลิ้นสัมผัสได้ถึงความฉ่ำหวาน และรสนุ่มนวลกลมกล่อมของไขมันจากหัวกุ้งไปพร้อมๆกัน เนื้อปลาหมึกก็ดีงาม สดใหม่ ไร้กลิ่นคาว เนื้อแน่น ชิ้นใหญ่ อร่อยจนแอบรู้สึกผิดที่เพื่อนผู้รักปลาหมึก ไม่สามารถมาร่วมกิจกรรมปิ้งย่างของเราในครั้งนี้ได้ เนื้อหมู เนื้อไก่ใดๆ ที่ถูกจัดมา ล้วนแต่เป็นเนื้อคุณภาพ และถูกหมักให้นุ่มหอมด้วยน้ำมันงา ไม่ใช่ผงหมักเนื้อที่ทำให้เนื้อนิ่มและปิ้งอย่างไรก็ไม่มีวันกรอบ น้ำจิ้มหมูกระทะ จะมาพร้อมกับ พริก กระเทียม มะนาว ให้เราสามารถเพิ่มรสชาติได้ตามที่เราชื่นชอบ ถ้าหมดสามารถขอเพิ่มได้ หมู่ 2 ข้าวแป้ง เผือก มัน: ข้าวผัดไข่ จานเล็กราคา 65 บาท ที่ร้านมีข้าวผัดหลากหลายเมนู ซึ่งพวกเราทานกันครบทุกเมนูแล้ว ข้าวผัดที่ร้านนี้ผัดได้มาตรฐานคงเดิมทุกครั้งที่มาทานจริงๆ คือ เป็นข้าวผัดที่ข้าวไม่เละแฉะด้วยซอส ข้าวไม่เกาะกันเป็นก้อน ข้าวจะนิ่มมีความร่วน น่าทาน รสชาติเค็มปะแล่มๆ ไม่เค็มจนน่ากลัวไตจะพัง ไม่มันจนเลี่ยน รสชาติสม่ำเสมอทั้งจาน ไม่เค็มบางจุด จืดบางแห่ง ปริมาณของข้าวผัดสมเหตุผล มากพอสำหรับ 2-3 คน หมู่ 3 ผักต่างๆ: ผัดกระเฉด ราคาจานละ 100 บาท จากประสบการณ์ของคนที่ชอบกินผัดผักกระเฉด บอกได้เลยว่าคุณภาพระดับนี้ หาที่ไหนไม่ได้เลยในราคานี้ ผักกระเฉดที่นี่รู้เลยว่ามีการล้างและคัดอย่างตั้งใจ เพราะไม่ว่าจะก้านอวบแค่ไหนก็ยังคงนุ่มนิ่ม เป็นมิตรกับระบบทางเดินอาหาร ไม่แก่หรือแข็งจนฟันไม่สามารถบดเคี้ยวเส้นใยจากพืชได้ และไม่ว่าจะมาทานกี่ครั้ง คุณภาพก็ยังคงเส้นคงวา รสชาติก็คงเดิม ไม่เคยเปลี่ยน หมู่ 4 ผลไม้(ไม่มีกินเต้าหู้ทอดแทนละกัน): เต้าหู้ทอด จานละ 50 บาท จริงๆ แล้วเป็นเมนูที่เริ่มต้นทาน เพราะเจ้าของร้านแนะนำ "เต้าหู้ทอดเราอร่อยนะ ลองไม๊" เราเองจริงๆ ไม่ชอบเต้าหู้ทอด เพราะเหม็นกลิ่นเต้าหู้ และไม่สามารถสัมผัสได้ถึงความดีของเต้าหู้แข็งๆ ที่อมน้ำมันเอาไว้ด้านในได้เลย แต่เมื่อเจ้าของร้านแนะนำ เราก็เลยลองสั่งมาทานดู เพราะเชื่อมั่นในฝีมือของทางร้าน และหลังจากนั้นเป็นต้นมา เต้าหู้ทอดร้าน เค แอนด์ คิว ก็กลายเป็นเมนูสำคัญที่ไม่สั่งไม่ได้เลย ชอบมากถึงขนาดอยากจะสั่งกลับบ้าน ห่อหิ้วกลับไป ตจว.ให้แม่ได้ทานด้วย ความดีงามของเต้าหู้ทอดมีหลายประการต่างๆ ดังนี้ เต้าหู้มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ด้านนอกจะถูกทอดจนกรอบมากๆ แต่ด้านในนุ่มนิ่มคล้ายเจลลี่ และไม่อมน้ำมัน เวลาทานร้อนๆ กัดเข้าไปแล้วเต้าหู้นิ่มๆ ด้านในลวกลิ้น คือเรื่องปกติที่พวกเราพลาดกันเป็นประจำ เป็นเมนูที่เราสามารถทานได้โดยไม่ต้องพึ่งพาน้ำจิ้ม ส่วนคนที่ชอบน้ำจิ้ม น้าจิ้มเต้าหู้ทอดเป็นน้ำจิ้มหวาน มีผักชีและถั่วลิสงทุบโรย ตัวน้ำจิ้มหวานกำลังพอดี ถั่วลิสงหอมกรอบเหมือนเพิ่งคั่วใหม่ๆ ถึงดิฉันและเพื่อนๆ จะไม่ชอบทานน้ำจิ้มใดๆ แต่น้ำจิ้มเต้าหู้ทอดร้านนี้จะหมดลงก่อนเต้าหู้อยู่เป็นประจำ เต้าหู้ทอดคือเมนูที่พวกเราคิดถึงมากที่สุด เพราะไม่เคยทานเต้าหู้ทอดร้านไหนที่สามารถทอดได้แบบนี้ และเราเองก็ไม่สามารถทำทานเองได้แบบนี้ด้วย ร้านหมูกระทะร้านนี้เป็นอีกหนึ่งร้านที่เราภูมิใจนำเสนอแก่ผู้มาเยือนแถวจุฬาฯทุกๆ คนนะคะ เค แอนด์ คิว เป็นร้านที่เหมาะจะพาคนที่รักไปใช้เวลาคุณภาพทานอาหารมื้อเย็นดีๆ ร่วมกัน ในการรีวิวครั้งนี้เราคงไม่อธิบายว่าแต่ละเมนูพาจินตนาการของเราไปที่แห่งไหน เพราะนอกจากอาหารแล้วเรายังมีเพื่อนๆ อยู่ตรงหน้า ที่เราต้องการใช้เวลาในปัจจุบันอย่างมีความหมายกับพวกเขาในโลกแห่งความเป็นจริง มากกว่าภาพความสุขในจินตนาการของตัวเราเอง เราอยากแบ่งปันร้านเล็กๆ ที่มีคุณภาพ และมีอาหารที่รสชาติดีหลายเมนู ให้แก่ชาวหมูกระทะรับไว้พิจารณา ด้วยความคงเส้นคงวาในคุณภาพ ที่สำคัญที่สุดคือนำเสนอความรักและความซื่อสัตย์ที่ครอบครัวเล็กๆ นี้ ได้ดำรงไว้ เพื่อเป็นแบบอย่างของการทำธุรกิจที่ใส่ใจคุณภาพมากกว่ากระแสและชื่อเสียงค่ะ ร้าน เค แอนด์ คิว สุกี้ หมูกระทะ เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 17:00 น. - 22:30 น. สามารถจอดรถริมถนนบริเวณร้านได้ แต่มีจำนวนจำกัดนะคะ แอบเม้าท์เล็กๆน้อยๆ เจ้าของร้านจะคอยเดินมาเติมน้ำซุปให้ลูกค้าเวลาที่น้ำซุปเริ่มลดลงแต่ลูกค้ามัวแต่คุยเพลิน เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว เจ้าของร้านนำยางวงมาให้ดิฉันมัดผม เนื่องจากดิฉันผมหน้าม้ายาวแล้วเอามือกำผมรวบไว้ขณะปิ้งย่าง อย่างทุลักทุเล เวลาเหนื่อยแล้วได้ทานของอร่อยๆ มันดีต่อจิตใจจริงๆเลยนะคะ เหมือนร่างที่ไร้วิญญาณของดิฉันได้ถูกชุปชีวิตขึ้นมาใหม่ด้วยหมูกระทะก็ว่าได้ หมู่ 5 คือหมู่ขนมหวาน(ผิด) พวกเรามักจะไปทานไอศกรีมกันต่อ เมื่อจ่ายเงินเรียบร้อยทางร้านจะทอนเงินมาพร้อมกับ ลูกอมตามจำนวนสมาชิก ส่วนใครจะได้ลูกอมรสอะไรต้องไปแย่งชิงกันเอาเองค่ะ #Retonline #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 3
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/09
scene type icon
ลูกชิ้นทอด 555 อำเภอเมืองขอนแก่น Food Truck
รีวิว ร้าน ลูกชิ้นทอด 555 ถ.รอบบึงแก่นนคร จ.ขอนแก่น : ร้านลูกชิ้นทอดสุดประทับใจ ลูกชิ้นทอด หนึ่งในของทานเล่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในหมู่คนไทย เพราะทานง่าย และ มีเมนูมากมาย สอดรับกับความต้องการที่แตกต่างของผู้บริโภคที่หลากหลาย ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่นิยมชมชอบ เกี๊ยวห่อไข่ทอด และลูกชิ้นอีกหลายชนิด ถ้าไม่ติดว่ามีที่วัยเริ่มสูง ไม่ควรทานอาหารทอดบ่อย ๆ จำนวนครั้งของการทานลูกชิ้นทอดต่อสัปดาห์ของดิฉัน คงพุ่งสูงกว่าอัตราในปัจจุบันเป็นแน่แท้ ร้านลูกชิ้นทอด 555 เป็นร้านลูกชิ้นทอดที่เพื่อนสนิทของดิฉันแนะนำ และพามาทานถึงที่เลยค่ะ เธอต้องการให้ดิฉันช่วยเขียนรีวิวร้านลูกชิ้นทอดร้านโปรดของเธอให้ที เพราะเธอมีความประทับใจเป็นอย่างยิ่ง ในการดูแลควบคุมคุณภาพและบริการของคุณพ่อค้า อยากให้คนอื่น ๆ ได้มาอุดหนุนร้านลูกชิ้นทอดดี ๆ แบบนี้กันเยอะ ๆ ร้านลูกชิ้นทอด 555 ตั้งอยู่บริเวณที่จอดรถ หน้า 7-11 ถนนรอบบึง ตัดกับ ถนนโพธิสาร ตรงข้ามกับศาลเจ้าแม่กวนอิม ริมบึงแก่นนคร คุณพ่อค้าจะมาขายเป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่เวลา 15:00 - 01:00 น. ค่ะ ดูจากปริมาณของลูกชิ้นที่จัดมาแน่นตู้ขนาดนี้ ดิฉันคิดว่าต้องไม่ธรรมดาแน่นอนค่ะ! ราคาลูกชิ้นไม้ละ 5 บาททุกไม้ มีเพียงเกี๊ยวห่อไข่นกกระทาที่ราคาไม้ละ 10 บาทค่ะ ร้านเมื่อมาถึงแล้วก็หยิบกระจาดพลาสติกมาใส่ลูกชิ้นตามใจต้องการ แล้วก็ส่งให้คุณพ่อค้าได้เลยค่ะ คุณพ่อค้าจะทอดลูกชิ้นให้ตามคิวมาก่อนหลังค่ะ ดูกล่องเก็บของแช่เย็นของคุณพ่อค้าสิคะ ยังมีลูกชิ้นที่แช่เย็นรอนำขึ้นมาเรียงโชว์อีกเยอะแน่ ๆ เลยค่ะ ทอด เอาลูกชิ้นลงทอดในหม้อค่ะ หากคุณกำลังอยู่ในช่วงของการควบคุมน้ำหนัก สามารถซื้อลูกชิ้นดิบ ๆ แล้วนำกลับไปนึ่งหรือเข้าไมโครเวฟที่บ้านได้นะคะ (เพื่อนดิฉันทำเป็นประจำค่ะ) น้ำจิ้ม แอบมาดูน้ำจิ้มบ้าง เพื่อนของดิฉันบอกว่าน้ำจิ้มรสชาติดี น้ำจิ้มถังโตมาก ๆ นี้ขนาดเรามาตอนร้านเพิ่งเปิดขายได้ไม่กี่ชั่วโมงน้ำจิ้มก็หายไปเกือบครึ่งถังแล้ว แสดงว่าลูกค้ามาอุดหนุนกันหนาแน่นตลอดเวลาแน่นอนเลยค่ะ บรรจุ ในส่วนของการซื้อกลับบ้านนั้น คุณพ่อค้าจะสอบถามเลยว่าแยกน้ำจิ้มหรือไม่ หากแยกก็จะตักน้ำจิ้มใส่ถุงมัดปากให้เรียบร้อย พร้อมกับแตงกวาจำนวนมาก ที่ล้างสะอาด ปลอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้น ๆ ดูแล้วไม่รู้ว่าขายแล้วคุณพ่อค้าได้กำไรตรงไหน ลูกชิ้นก็แค่ไม้ละ 5 บาท 10 บาท ไหนจะค่าน้ำมันทอด ค่าน้ำจิ้ม แตงกวา ค่าแก๊ส ค่าน้ำมันรถ สารพัดค่าใช้จ่ายเลยนะคะ ให้แตงกวาให้น้ำจิ้มเยอะเกินคุ้มไปรึเปล่าคะคุณพ่อค้า! บิดไม้ มาถึงทีเด็ด ที่เพื่อนสาวของดิฉันประทับใจ จนต้องเรียกร้องให้ดิฉันมาเขียนรีวิว นั่นก็คือ การบิดไม้ลูกชิ้นค่ะ หะ... อะไรนะ คือ ลูกชิ้นทอด เกี๊ยวทอดเนี้ย เมื่อทอดปุ๊บลูกชิ้นก็จะติดไม้ปั๊บ ทำให้เวลาทานจะต้องออกแรงในการดึงลูกชิ้นออกจากไม้มากพอสมควร ซึ่งผลของการออกแรงที่ไม่พอดี ก็จะทำให้...ลูกชิ้นกระเด็นหลุดจากไม้เสียบลูกชิ้น หล่นลงพื้นกันเป็นประจำ แต่ปัญหาเหล่านั้นของคุณจะหมดไป เพราะคุณพ่อค้าได้ทำการบิดไม้ลูกชิ้นไว้ให้คุณแล้วค่ะ! ละเอียดละออจริง ๆ ดิฉันไปพิสูจน์มาแล้ว พบว่าคุณพ่อค้าบิดไม้ลูกชิ้นจริง ตามที่เพื่อนของดิฉันกล่าวอ้าง ลูกชิ้นมาเยอะแบบนี้ทุกวัน ของสดจริง ไม่มีบูด น้ำจิ้มรสชาติเด็ดจริง แตงกวาล้างสะอาดจริง ลูกชิ้นไม้ละ 5 บาทจริง ๆ ไม่ใช่แถวนี้ 5 บาท แถวนี้ 7 8 9 10 บาท ให้สับสนวุ่นวาย แถมจ่ายเงินด้วยเแม่มณีก็ได้! อย่าได้คิดว่าร้านค้ารถพวงข้างจะตกยุค 4.0 นะคะ ในเรื่องของความสะอาด คุณพ่อค้ามีผ้าเช็ดทำความสะอาดแบ่งแยกสำหรับทุกสิ่ง เช่นผ้าเช่นมีดก็เช่นแค่มีดเท่านั้น ไม่มีผ้าผืนเดียวเที่ยวทั่วจักรวาลอย่างเช่นร้านอื่น ๆ ทั่วไป ความสะอาดและความใส่ใจ ดิฉันประทับใจให้คะแนนเต็มจริง ๆ เลยค่ะ ใครมาเที่ยวบึงแก่นนครอย่าลืมแวะไปอุดหนุน ร้าน ลูกชิ้นทอด 555 กันบ้างนะคะ มาร่วมกันสนับสนุนร้านค้าที่ตั้งใตให้บริการอย่างเต็มที่เต็มความสามารถ ให้อยู่คู่สังคมไปนาน ๆ กันนะคะ คุณพ่อค้าสุภาพมาก ๆ แต่คุยสนุกมากค่ะ ดูคุณพ่อค้ามีความสุขในงานที่ทำมาก ๆ ไม่ว่าจะมีคนรุมมากแค่ไหนก็ยังใจเย็น ทอดลูกชิ้นไปตามคิว ไม่มีหน้านิ่วคิ้วขมวดเลยล่ะค่ะ ร้านลูกชิ้นทอด 555 ไม่มีเพจให้ติดตาม หรือ บริการเดลิเวอรี่ แต่สามารถติดต่อไปออกงานได้นะคะ ที่เบอร์โทรศัพท์ 080-417-3550 #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 7
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/09
scene type icon
เทียนเทียน ติ่มซำทุกอย่าง 15 บาท อำเภอเมืองขอนแก่น ติ่มซำ
รีวิว ร้านเทียนเทียน ติ่มซำทุกอย่าง 15 บาท ถ.กัลปพฤกษ์ จ.ขอนแก่น ร้านเทียนเทียน ตั้งอยู่ชั้นล่างของหอพักมาสเตอร์พีซ เรสซิเดนท์ ถนนกัลปพฤกษ์ ใกล้กับมหาวิทยาลัยขอนแก่น โซนกังสดาล เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10:30 - 17:30 น. ถ้ามาแล้วไม่เห็นชื่อร้านไม่ต้องตกใจนะคะ ถ้าขับรถผ่านมาแล้วเห็นป้ายสีเหลืองหน้าร้าน เขียนว่าติ่มซำทุกอย่าง 15 บาทก็มาถูกที่แล้วล่ะค่ะ ที่จอดรดมีมากมายสองฟากฝั่งถนน หรือถ้าโชคดีแบบดิฉันแลเพื่อนก็ได้จอดหน้าร้านเลยค่ะ ติมซำรสชาติกลาง ๆ ค่ะ คิดว่าอันที่อร่อยคงจะหมดไปนานแล้ว เพราะเราไปบ่ายแก่ๆ แล้ว บะหมี่เป็ดหมูกรอบแห้ง ราคาชามละ 50 บาท พิเศษ 60 บาท ทางร้านทำเป็ดได้ดีเลยนะคะ ไม่เหม็นกลิ่นสาบเป็ด รสชาติกลมกล่อมดีค่ะ เส้นเล็กเย็นตาโฟ ราคาชามละ 50 บาท พิเศษ 60 บาท ให้ปริมาณอาหารเยอะมาก ๆ ค่ะ เครื่องเย็นตาโฟแน่นมาก ๆ ค่ะ เลือดก้อนมหึมา เนื้อเด้ง ไม่ยุ่ย ไม่เหม็นเอียน ใครชอบทานเลือด น่าจะถูกใจมาก ๆ นะคะ) ร้านเทียนเทียน ติ่มซำทุกอย่าง 15 บาท รับทำข้าวกล่องด้วยนะคะ สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 095 187 6687 #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 3
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/09
scene type icon
ต้นตาล มู๋ทะ ปิ้งย่าง แจ่วฮ้อน อำเภอเมืองขอนแก่น หมูกระทะ
รีวิว ต้นตาล มู๋ทะ ปิ้งย่าง แจ่วฮ้อน ณ ตลาดต้นตาล จ.ขอนแก่น ร้านต้นตาล มู๋ทะ ปิ้งย่าง แจ่วฮ้อน เป็นร้านหมูกระทะในตลาดต้นตาล ที่ดิฉันเป็นลูกค้ามาตั้งแต่ตอนเพิ่งเริ่มเปิดร้าน ในครั้งแรกที่ไปทานนั้น ไม่ได้คาดหวังอะไรเลยค่ะ แต่ปรากฏว่าเป็นร้านหมูกระทะที่ดีงาม จนดิฉันยังคงเป็นลูกค้าประจำจนกระทั่งปัจจุบันนี้ค่ะ ร้านต้นตาล มู๋ทะ ปิ้งย่าง แจ่วฮ้อน ตั้งอยู่ในตลาดต้นตาล บริเวณด้านหลังของร้านโมชิโมชิ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17:00-23:00 น. ภายในร้านมีโต๊ะสำหรับทานหมูกระทะ และ แจ่วฮ้อนอยู่หลายชุดนะคะ แต่ถ้าอยากจะไปทานที่จุดอื่นในตลาดต้นตาล ทางร้านก็มีบริการนำไปส่งค่ะ เรามาดูเมนูหมูกระทะ ที่ทุก ๆ คนรู้จักกันเป็นอย่างดีก่อนดีกว่า หากจะทานเป็นชุด มีเริ่มต้นที่ราคาชุดละ 149 บาทค่ะ จะเป็นชุดเนื้อมาพร้อมกับชุดผักค่ะ ซึ่งเราสามารถแจ้งกับทางร้านได้ หากไม่ต้องการเนื้ออะไรที่ปรากฏในเมนูชุดนั้น แต่ถ้าสั่งเป็นจาน ๆ จะต้องสั่งอย่างต่ำ 150 บาท ซึ่งทาน 2 คนกำลังพอดีเลยค่ะ (ทานคนเดียวคงจะต้องกลิ้งกลับบ้านนะคะ เพราะทางร้านให้บริมาณเยอะพอสมควรเลยค่ะ) สิ่งที่ดิฉันรักคือหมูสไลด์ค่ะ ราคาจานละ 50 บาท ที่ชื่นชอบเพราะเป็นหมูแท้ ๆ ไม่ใช่เศษหมูที่นำมาอัดเป็นก้อนแล้วเติมไขมันแบบร้านบุฟเฟต์ทั่ว ๆ ไป ที่ปิ้งไปแล้วหมูแตกสลายร่าง หรือหมูที่หมักผงหมักนุ่ม แบบชนิดที่ว่าปิ้งเท่าไร ย่างอย่างไรก็ไม่กรอบ (ดิฉันนิยมหมูกรอบ ๆ ค่ะ) จานต่อมาเป็นสไบนาง ซึ่งก็คือกระเพาะของวัวนั้นเอง ราคาจานละ 50 บาท นี่ถ้ามาคนเดียวไม่มีทางได้ทานแน่ ๆ ค่ะ ทานไม่หมด สไบนางนี้ถ้าใครลวกเป็น จะลวกได้สุกพอดี กรอบ เด้ง เคี้ยวกรุบ แต่ถ้าลวกลืม ก็จะหดเหนียว เคี้ยวลำบากค่ะ ชุดผักสดรวมวุ้นเส้น ราคา 20 บาท มาเป็นกระจาด ทานคนเดียวไม่ไหวแน่ ๆ ข้าวโพดหวาน ราคาจานละ 20 บาท เป็นข้าวโพดหวานดิบ ที่ฝานมาแล้วเรียบร้อย รับประทานสะดวก ทางร้านใช้กระทะทองเหลืองนะคะ เนื้อจะไม่ค่อยติดกระทะ และให้ความร้อนสม่ำเสมอ ส่วนน้ำจิ้มนั้น จะมาให้ขวดซอสพร้อมถ้วยพลาสติก ให้เราเทเองตามปริมาณที่ต้องการค่ะ น้ำจิ้มของทางร้านดีงามเลยนะคะ อย่าได้คิดว่าร้านหมูกระทะในตลาดต้นตาล ร้านเล็ก ๆ ร้านนี้ จะไม่จริงจังเรื่องน้ำจิ้มเป็นอันเด็ดขาด! หมูกรอบ ๆ จิ้มน้ำจิ้มรสเด็ด *ขออภัยที่รูปหมูกระทะน้อยไปหน่อย พอเริ่มทานก็เพลินลืมไปเลยค่ะ...นึกได้อีกทีก็ตอนที่เริ่มอิ่มแล้วค่ะ แจ่วฮ้อนเนื้อ (เนื้อ+สไบนาง) ราคาชามละ 60 บาท ได้ปริมาณเยอะมาก ๆ นะคะ จริง ๆ ทานเท่านี้ก็ควรจะอิ่มได้แล้วนะ (บอกตัวเอง) แจ่วฮ้อนของทางร้านปรุงมาได้แบบรสชาติกลมกล่อมพอดีมาก ๆ อยากให้ได้ลองทานกันดูนะคะ ดิฉันขอแนะนำชาบูของชาวอีสานสักนิดค่ะ แจ่วฮ้อนนี้เป็นอาหารอีสานที่ดิฉันได้ทานมาตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อก่อนจะทำกันทานในครอบครัว ตามเทศกาลสำคัญ ๆ หรือวันรวมญาติ เพราะเป็นเมนูที่พวกเราจะได้ล้อมวง มองหน้า พูดจากันระหว่างทานอาหาร รสชาติของแจ่วฮ้อนนั้น คล้าย ๆ กับแกงอ่อม เพราะใช้สมุนไพรในการปรุงมากมายหลายชนิดเช่นเดียวกัน ซุปจะหอมด้วยสมุนไพร แต่จะมีรสเผ็ดร้อนมากกว่าแกงอ่อมปกติ เป็นชาบูสไตล์อีสานที่ดีมากนะคะ เพราะประกอบด้วยผักมากมายหลายชนิด มีวุ้นเส้นเพิ่มคาร์โบไฮเดรต ส่วนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ตามต้นตำรับจะเป็นเนื้อวัว และมาพร้อมน้ำจิ้มสำหรับเพิ่มรสชาติด้วยคะ เนื้อวัว เป็นเนื้อที่สดจริง นุ่ม เหนียวพองาม เคี้ยวได้สบายมาก สไบนางสไบนาง ลวกมาได้พอดีพองาม เด้ง ดึ๋ง เคี้ยวกรุบ ไม่เหนียว ไม่ดิบ ไม่มีกลิ่นเหม็น วุ้นเส้นวุ้นเส้น เหนียว นุ่ม ไม่เละ ไม่อืด ทิ้งไว้นาน ๆ ก็ไม่อืด น่าสนใจมาก ๆ ชอบมาก ๆ ค่ะ ร้านต้นตาล มู๋ทะ ปิ้งย่าง แจ่วฮ้อน เป็นร้านที่ดิฉันมักจะนึกถึงเสมอ เมื่อมาทานอาหารที่ตลาดต้นตาล เพราะเป็นร้านที่จริงจังในการดูแลคุณภาพและรสชาติของอาหารมาก ๆ ค่ะ ต่อให้ไม่ได้ทานหมูกระทะ ดิฉันก็ทานแจ่วฮ้อนของที่ร้านเป็นประจำ เพราะไม่ว่าจะทานเมื่อไรรสชาติก็ดีงามคงเดิม นอกจากนั้นเจ้าของร้านยังใส่ใจลูกค้ามาก ๆ ติดตามสอบถามความพึงพอใจของลูกค้าเสมอ ๆ ไม่ว่าจะเรื่องการบริการหรือรสชาติอาหารของร้านตนเอง หากคุณยังไม่เคยทานแจ่วฮ้อน ดิฉันของแนะนำให้เริ่มต้นทำความรู้จักกับเมนูชาบูแบบอีสาน ที่ร้านนี้นะคะ รับรองว่าดีงามถูกใจแน่ ๆ ส่วนใครที่นิยมชมชอบหมูกระทะแบบกรอบ ๆ เช่นเดียวกันกับดิฉัน มาร้านนี้รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่น ๆ ค่ะ ดิฉันขอฝากร้านหมูกระทะ แจ่วฮ้อนดี ๆ ร้านนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของคุณ ๆ ด้วยนะคะ #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 2
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/09
scene type icon
ไก่ย่างปรีชา ปลาเผา อำเภอเมืองขอนแก่น อาหารอีสาน/ร้านส้มตำ
รีวิวร้านเด็ด ไก่ย่างปรีชา อุทยานเกษตร ม.ขอนแก่น ไก่ย่างปรีชา เป็นร้านไก่ย่างส้มตำ ที่ดิฉันและครอบครัวมักจะมาทานด้วยกันเสมอ ๆ เมื่อเรามีการรวมญาติ เนื่องจากเป็นร้านไก่ย่างส้มตำ ที่มีเมนูอาหารคาวหวาน ที่ถูกใจพวกเราทุกคน นอกจากนี้ หากมีเพื่อนและแขกต่างชาติมาเยี่ยมเยือน ดิฉันก็มักจะพามาที่ร้านไก่ย่างปรีชาเสมอ ๆ เนื่องจากทางร้านสามารถปรับลดความเผ็ดร้อนของส้มตำลง แต่ยังคงรสชาติที่เข้มข้นตามแบบฉบับดั้งเดิม ไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ร้านไก่ย่างปรีชา ตั้งอยู่ในอุทยานเกษตร มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9:00 - 16:00 น. มีที่จอดรถมากมายทั้งหน้าร้าน และริมถนนข้าง ๆ ร้านค่ะ ด้านในห้องรับประทานอาหารที่ติดเครื่องปรับอากาศ ซึ่งปกติในช่วงเวลาเที่ยง จะไม่ค่อยมีที่นั่งว่างเลยค่ะ ส่วนใหญ่ดิฉันจะนั่งด้านนอกมากกว่า เพราะเวลาคุยกันเสียงจะไม่ดัง พูดอะไร นินทาใคร แล้วคนอื่นจะไม่ได้ยิน ไม่เหมือนในห้องปรับอากาศค่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า ครั้งนี้ดิฉันมากับเพื่อน และมาในเวลาประมารบ่ายสามโมง ซึ่งเป็นเวลาที่ร้านใกล้จะปิดแล้ว จึงมีการเก็บโต๊ะเก้าอี้ด้านนอกเรียบร้อยแล้ว ฉะนั้นดิฉันและเพื่อนจึงได้มานั่งด้านในกันค่ะ นั่งลงปุ๊บ ก็หยิบเมนูมาดูปั๊บ หากเราต้องการรับประทานอะไรก็สามารถจดลงในใบรายการอาหารได้เลยค่ะ แต่หากมาในเวลาที่ไม่ค่อยมีลูกค้า ก็สามารถสั่งกับคุณพ่อค้าแม่ค้าได้โดยตรงเลยค่ะ ตำลาว นั่งรอเพียงไม่นานอาหารคาวจานแรกของเราก็มาถึง ตำลาว ราคาจานละ 40 บาท หรือ ที่ภาคกลางเรียกว่า ตำปลาร้า เส้นส้มตำของที่ร้านจะสับด้วยมือ ได้เส้นแบบดั้งเดิมที่กรอบ และไม่อมน้ำปลาร้าจนเค็มจัดหากซื้อส้มตำกลับบ้าน นอกจากนี้ยังมีการใส่เม็ดกระถินแกะ มาแบบเต็มที่ (คุณมารดาของดิฉันชอบเม็ดกระถินมาก ๆ ค่ะ) ตำลาว มาแบบลาวแท้จริง ๆ ค่ะ กลิ่นน้ำปลาร้าหอมมาก ได้กลิ่นแล้วสดชื่น ฮ่าฮ่าฮ่า ส้มตำมาแบบเค็มนำ เผ็ด เปรี้ยว หวาน ตามรสชาติที่ชาวอีสานรัก ใครรักเม็ดกระถินเหมือนคุณแม่ของดิฉัน โปรดสั่งเมนูนี้ด่วนนะคะ เมนูนี้เด็ดมากค่ะ ตำโคราช ต่อมาเป็นเมนูที่ผู้รักถั่วลิสงห้ามพลาด! นั้นก็คือตำโคราช ราคาจานละ 40 บาท เป็นตำโคราชที่ใส่ถั่วลิสงมาเต็ม ๆ แน่น ๆ ปลากรอบใส่มาไม่ยั้งมือ ไม่ได้มาเป็นเพียงปลากรอบประกอบส้มตำ เครื่องหนัก เครื่องแน่นจริง ๆ ในราคาแค่ 40 บาท! รสชาติตำโคราช มาแบบงดงามมาก ๆ ค่ะ เค็มนำ หวานตาม เข้มข้น ถูกใจมาก ๆ ค่ะ ใครรักถั่วลิสงห้ามพลาด! มาถึงหมู่โปรตีนค่ะ ปลาเผาตัวโต ๆ แต่ราคา 150 บาท เท่านั้น! ปลานิลสดใหม่ เปิดหนังปลามาให้แล้วเรียบร้อย เพื่อความสะดวกในการทาน เนื้อปลาแน่น ชุ่มฉ่ำ ดีงามแท้ แม้ไม่จิ้มน้ำจิ้มค่ะ และถึงจะมาทานอาหารในเวลาร้านใกล้ปิดแล้ว ก็ยังคงได้ทานปลาเผาร้อน ๆ ไม่ใช่ปลาอุ่น ๆ แห้ง ๆ ถือเป็นเรื่องราวดี ๆ ที่อยากบอกต่อ เรื่องคุณภาพของอาหารนะคะ ว่าทางร้านใส่ใจเรื่องความสุขของลูกค้ามาก ๆ เพราะใคร ๆ ก็ชอบปลาเผาร้อน ๆ จริงไหมคะ ต่อมาเป็น ไก่ย่างครึ่งตัว ราคา 70 บาท ถ้าเต็มตัว ราคา 140 บาท เรียกว่าเป็นเมนูทีเด็ดอีกหนึ่งรายการ ที่ไม่สามารถละเลย ไม่สั่งมาทานได้จริง ๆ ค่ะ (แม้จะสั่งปลาเผามาทานแล้วก็เถอะ ฮ่าฮ่าฮ่า) ไก่หอมมากค่ะ หนังกรอบ เนื้อเหนี่ยวนุ่ม ชุ่มฉ่ำ รสชาติกลมกล่อม ไม่เค็มเกิน เป็นเมนูที่พลาดไม่ได้จริง ๆ ค่ะ มาร้านไก่ย่างปรีชา ไม่ทานไก่ย่างเหมือนมาไม่ถึงนะคะ ของหวานกะทิสด / ไอศกรีมราคาถ้วยละ 30 บาท ปิดท้ายกันที่ของหวาน จริง ๆ ที่ร้านมีขนมหวานใส่น้ำกะทิด้วยนะคะ แต่พอดีว่าน้ำกะทิหมดแล้ว เราจึงได้ทานไอศกรีมกับผลไม้เชื่อมเพียงอย่างเดียว เพื่อนของดิฉันมีความเสียใจมากมายอยุ่เหมือนกัน เพราะเธอรักของหวานที่ร้านไก่ย่างปรีชามาก ๆ ส่วนดิฉันผู้มุ่งมั่นมาทานไอศกรีมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ก็มีความสงสารเพื่อนอยู่ไม่น้อย ที่เราได้ทานขนมที่เราชอบแต่เพื่อนไม่ได้ทาน ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า (อ้าว...ทำไมถึงหัวเราะ) ไอศกรีมกะทิของทางร้านหอมกะทิมันละมุนลิ้นดีงามมากค่ะ รสชาติหวานมันพอดี ไม่หวานจ๋อยจนแสบคอ ผลไม้เชื่อมก็ชิ้นโตสะใจสุด ๆ แล้วไม่ได้เชื่อมแบบหวาน...จนไม่เหลือร่องรอยรสชาติดั้งเดิมของผลไม้ชนิดนั้น ๆ นะคะ เอาจริง ๆ คือเป็นร้านส้มตำที่จริงจังเรื่องความสุขของลูกค้าจริง ๆ แม้กระทั่งของหวานและไอศกรีมก็ยังต้องชนะเลิศ ร้านไก่ย่างปรีชา เป็นร้านดี ร้านเด็ด ในดวงใจดิฉันเสมอมา เพราะมีอาหารรสเลิศ ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาว หรือของหวาน ทางร้านก็จริงจังในทุกสิ่ง การบริการก็รวดเร็วมาก ๆ ไม่ว่าจะคนเยอะแค่ไหน ก็ไม่เคยต้องรอนาน ๆ เรียกว่ามีความชำนาญในการบริหาร บริการจัดการแบบสุด ๆ คุณภาพดี บริการดี ราคาดี ที่จอดรถสะดวก ไก่ย่างส้มตำ นับเป็นอาหารพื้นถิ่นของดินแดนอีสาน และดิฉันก็ภูมิใจนำเสนอ ร้านไก่ย่างปรีชา ให้เป็นร้านดี ร้านเด็ด ในดวงใจ ที่อยากให้คุณ ๆ ได้มาลองทาน และหวังว่าทุกท่านจะมีความสุขกับมื้ออาหาร และการบริการที่ร้านไก่ย่างปรีชาเหมือนดิฉันนะคะ สามารถติดต่อจองโต๊ะ และ ติดตามการเปิดปิดร้านในช่วงเทศกาลต่าง ๆ ได้ที่ ร้านไก่ย่างปรีชา อุทยานเกษตร มข. เบอร์โทร 085-0014991,089-4209641 #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 3
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/09
scene type icon
แซ่บโพด ขอนแก่น อำเภอเมืองขอนแก่น อาหารอีสาน/ร้านส้มตำ
รีวิว แซ่บโพด สาขากังสดาล ถ.อดุลยาราม จ.ขอนแก่น ร้านแซ่บโพด สาขากังสดาล ตั้งอยู่ที่ถนนอดุลยาราม ใกล้กับมหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10:00-22:00 น.ค่ะ เมนูด้านหน้าร้านมีป้ายแสดงเมนูแนะนำตั้งอยู่ด้วยนะคะ ที่สำคัญคือวันเกิดลด 10% ด้วยนะคะ เข้ามาด้านในร้าน ก็จะพบว่าร้านสะอาดมาก ๆ ค่ะ ร้านถูกตกแต่งอย่างเรียบง่าย แต่น่ารักอบอุ่น แถมยังติดเครื่องปรับอากาศอีกด้วย ทานแล้วเกิดอาการเผ็ดร้อนก็ไม่ต้องกลัวจะเหงื่อตกเลยทีเดียว เมนูของทางร้านมีเยอะมากเลยค่ะ มีตำต่าง ๆ นา ๆ มียำสารพัด และนอกจากนั้นยังมีเมนูอาหารอื่น ๆ ที่ไม่เผ็ดอีกด้วยนะคะ ที่สำคัญ ถ้าใครมาทานอาหารที่ร้านแล้วเช็คอิน จะได้รับส่วนลดทันที่ 5% ด้วยนะคะ วิธีการสั่งก็คือ เราจะนำสมุดจดรายการอาหารมาจดเอง ว่าเราต้องการทานอะไรบ้าง ดิฉันแพ้ผงชูรสก็เขียนสั้น ๆ ว่าไม่ชูรส จากนั้นก็นำรายการอาหารไปมอบให้แก่คุณพ่อค้าค่ะหยิบแก้ว เมื่อส่งรายการอาหารเรียบร้อยแล้ว ก็ลุกมาหยิบแก้วน้ำ จานช้อนส้อมตามใจปรารถนาค่ะ ทางร้านเน้นเรื่องความสะอาดมาก ๆ เลยประทับใจในจุดนี้มากค่ะ หลอดก็เก็บในขวดปิดมิดชิด กันมดกันแมลงเข้า ไม่ต้องกลัวสกปรก แอบอยากบอกว่าแก้วน้ำดีมาก ดื่มแบบสบายใจมาก ๆ ค่ะ ไม่มีรอยคราบเปื้อน หรือ เนื้อแก้วหยาบสากเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคใด ๆ มาถึงอาหารจานแรกที่เราสั่ง เป็นเมนูมาจากฝั่งตำ นั้นก็คือตำลาว ราคาจานละ 40 บาท หรือที่คนภาคกลางเรียกกันว่าตำปลาร้า เป็นส้มตำที่มะละกอถูกสับเป็นเส้นด้วยมือ แบบที่ดิฉันนิยมเลยค่ะ เส้นมะละกอแบบนี้จะกรอบ และไม่อมเครื่องส้มตำจนเค็มค่ะ ส้มตำของทางร้านจะตำรสชาติออกหวานนะคะ เหมาะมากสำหรับคนที่นิยมรสชาติ หวาน เค็ม เผ็ดค่ะ เมนูต่อมาเป็นฝั่งยำบ้างค่ะ ยำกุ้งสุก ไข่แดงเค็ม ราคา 120 บาท เป็นยำที่ปรุงด้วยน้ำยำนัว ไข่แดงคุณภาพดี ทานเข้าไปแล้วแล้วไม่เหมือนเยลลี่จืด ๆ ทางร้านใช้หอมแดงแขก ที่มีรสหวาน ไม่มีกลิ่นฉุน ทำให้ยำจานนี้มีรสชาติออกไปทางหวาน ใครชอบรสชาติติดหวานต้องถูกใจแน่ ๆ ค่ะ จานต่อมายังคงมาจากฝั่งทางยำ เป็นเมนู ยำมาม่าหมูกรอบ ราคา 120 บาทค่ะ เพื่อนของดิฉันเป็นคนชอบหมูกรอบเป็นพิเศษ และชอบมาม่าที่ลวกมาแบบยังกรอบ ๆ อยู่ ซึ่งทางร้านก็ลวกมาได้แบบที่เธอนิยมชมชอบพอดีเลยค่ะ ข้าวผัด มาถึงฝั่งเมนูอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ยำและตำ ได้แก่ ข้าวผัดไข่ราคาจานละ 40 บาท ซึ่งปริมาณของอาหารเยอะมากจริง ๆ ค่ะ แบ่งกันทานสองคนเกือบไม่หมด ที่แอบสนใจเป็นพิเศษคือการผัดหอมแดงแขกลงไปในข้าวด้วย ปกติจะเจอหอมหัวใหญ่ ซึ่งมีกลิ่นฉุนและดิฉันไม่นิยม พอได้ทานหอมแดงแขกผัดใส่ข้าวแบบนี้จึงเป็นวัตถุดิบแปลกใหม่สำหรับดิฉัน ซึ่งลงตัวดีนะคะ เพราะหอมแดงแขกไม่เหม็นฉุน ข้าวผัดไข่นี้ ผัดได้แห้งดีค่ะ ถ้าใครไม่นิยมข้าวผัดแฉะ ๆ สามารถสั่งข้าวผัดจากทางร้านได้เลยค่ะ ร้านแซ่บโพด เป็นร้านยำที่สะอาดสะอ้านดีมาก พ่อค้าสุภาพ มีความสนใจใส่ใจลูกค้าดี รสชาติอาหารจะออกไปทางหวานนิด ๆ ใครชอบรสหวานนำต้องถูกใจแน่ ๆ ค่ะ ระหว่างที่ดิฉันและเพื่อนนั่งทานอาหารอยู่ ก็มีพนักงานบริการรับส่งอาหารมารอรับอาหารอยู่เป็นพัก ๆ ซึ่งทางร้านก็มีที่นั่งให้รอด้านนอกอีกด้วย แสดงถึงน้ำใจในการบริการทั้งลูกค้า และผู้ให้บริการส่งสินค้าที่ดีของคุณพ่อค้าจริง ๆ นะคะ #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 3
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/09
scene type icon
น้องเพลงตำระเบิด อำเภอเมืองขอนแก่น อาหารอีสาน/ร้านส้มตำ
รีวิวร้านเด็ด น้องเพลงตำระเบิด ถ.กัลปพฤกษ์ ม.ขอนแก่น "เธอสามารถเดินผ่านส้มตำไปโดยไม่คิดจะทานมันได้หรือไม่" นั่นคือคำถามของเพื่อนร่วมงานชาวอังกฤษ ที่เอ่ยขึ้นระหว่างเราเดินชมซุ้มอาหารประจำชาติต่าง ๆ ในงานฉลองวันชาติที่จัดขึ้นในที่ทำงานของเราทั้งคู่ "อืม... เป็นคำถามที่น่าสนใจนะ" ดิฉันกล่าวตอบพร้อมเดินเข้าซุ้มอาหารไทย ดิฉันไม่เคยคิดเลยแม้แต่น้อย ว่าจะคนอีสานอย่างดิฉันจะเพิกเฉยต่อส้มตำฟรี ๆ รสชาติเลิศ จากร้านดัง ได้หรือไม่ และถึงแม้ส้มตำจะไม่ฟรี ดิฉันจะสามารถเลิกทานส้มตำได้หรือไม่ "ก็คงจะไม่" ดิฉันเดินกลับมาพร้อมคำตอบในมือ นั่นก็คือกระทงใบตองที่รองรับส้มตำปริมาณพอเหมาะ สำหรับการทานเพียงคนเดียว อาหารคงเป็นวัฒนธรรม ที่เวียนว่ายอยู่ในกระแสเลือดของคนแต่ละชนชาติ และสำหรับคนอีสานแบบดิฉัน ส้มตำคงเป็นส่วนประกอบสำคัญของร่างกายของดิฉันนั่นเอง ถ้าจะต้องขาดอวัยวะใดในร่างกายนี้ไป เราคงเป็นคนอีสานที่สมบูรณ์ไปไม่ได้สินะ ฮ่าฮ่าฮ่า เมื่อจะเล่าถึงร้านส้มตำที่รสชาติถูกอกถูกใจ ร้านน้องเพลงตำระเบิด ก็มักจะเป็นชื่อแรก ที่ดิฉันจะกล่าวถึง ร้านน้องเพลงตำระเบิด ตั้งอยู่ริมถนนกัลปพฤกษ์ ริมรั้วมหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดบริการตั้งแต่เวลา 11:00 - 01:00 น. ดิฉันรู้จักร้านน้องเพลงตำระเบิด และเป็นลูกค้ามายาวนานหลายปีแล้วค่ะ เหตุการณ์ครั้งแรกที่นำพาดิฉันมารู้จักร้านน้องเพลง คือ การหาร้านส้มตำทานกับเพื่อนสาว หลังกลับจากงานบุญงานบวชด้วยความหิว แล้วบังเอิญวาสนาพาให้เราได้ที่จอดรถใกล้ ๆ ร้านน้องเพลงตำระเบิดพอดี เราจึงได้มีโอกาสทำความรู้จักกับร้านส้มตำร้านนี้เป็นครั้งแรก (ปกติถนนเส้นนี้หาที่จอดรถยากมาก ๆ ค่ะ สำหรับรถยนต์) เมนูน้องเพลงตำระเบิด ตำระเบิดสมชื่อจริง ๆ นะคะ เมนูส้มตำเยอะมาก ลายตามาก ๆ เหมือนมีแปดแสนแปดล้านเมนูเลยทีเดียว มากี่ทีก็อ่านเมนูไม่จบเสียที ถ้าไม่ติดว่าหิวโหยและกลัวเพื่อนด่า ดิฉันก็อยากจะศึกษาเมนูของน้องเพลงตำระเบิดให้ละเอียดสักครั้งเหมือนกันนะคะ เมนูที่ไม่ใช่ส้มตำก็มีไม่น้อยเลยนะคะ ครบเครี่องมาก ๆ ร้านเล็ก ๆ แค่นี้ แต่เมนูแน่นมาก ๆ เลยค่ะ ถ้าคิดไม่ออกว่าจะสั่งอะไรเพิ่มเติมมาทานกับส้มตำดี แนะนำให้เดินไปดูที่ด้านหน้าร้านได้เลยค่ะ น่าทานไปหมดทุกอย่าง ถูกใจชิ้นไหนก็คีบใส่ถาด ส่งให้คุณพ่อค้าแม่ค้าจัดใส่จานได้เลยค่ะ แต่ถ้าใครกำลังตั้งใจจะลดน้ำหนัก ก็เดินกลับมาเถอะค่ะ ไม่เช่นนั้นรายการอาหารของคุณจะงอก จนต้องเปลี่ยนวันลดน้ำหนักกันแทบไม่ทันเลยทีเดียว (ณ จุดนี้ ดิฉันต้องขออภัยเพื่อน ๆ ที่ตั้งใจมาทานส้มตำ เพราะพยายามลดน้ำหนักกันด้วยนะ รายการอาหารงอกเพราะดิฉันแท้ ๆ ฮ่าฮ่าฮ่า) เพื่อนของดิฉันกำลังเล่นเวทเพื่อจะเพิ่มกล้ามเนื้อ จึงมีความประสงค์จะทานปลาเพื่อเพิ่มโปรตีนค่ะ ซึ่งปลาเผาราคาอยู่ที่ 170-180 บาท ตามแต่ขนาดของปลาค่ะ ส่วนไข่ปิ้ง ที่คนภาคกลางเรียกว่า ไข่ทรงเครื่อง ราคาไม้ละ 20 บาทค่ะตำส้มตำโปรดสังเกตขนาดของกะละมังใส่เส้นส้มตำค่ะ ใหญ่โตมโหฬารมาก ๆ เส้นส้มตำของร้านนี้จะมีมะละกอดิบ แครอท และถั่วฝักยาวค่ะ นอกจากจะสีสันสวยงาม มีสัมผัสน่าสนใจ ยังเพิ่มวิตามินเพิ่มคุณประโยชน์ให้กับส้มตำแต่ละจานอีกด้วยนะคะ เมนูงอก เมนูแรกของดิฉัน ได้แก่ ผัดหมี่ ราคา 20 บาท เท่านั้น แต่ได้ปริมาณเยอะมาก ๆ ถ้าแบ่งกันทานสองคนก็จะพอดีเลยค่ะ แต่เพื่อนไม่ช่วย ดิฉันเลยต้องทานคนเดียว (แต่ก็หมดนะ ฮ่าฮ่าฮ่า) ผัดหมี่รสชาติดีมาก ๆ นะคะ ใครรักผัดหมี่ที่รสชาติไม่เค็มปี๋ ไม่หวานจ๋อย อย่าพลาดผัดหมี่ของน้องเพลงตำระเบิดค่ะ เมนูงอกรายการต่อมา คือไข่ทรงเครื่อง หรือ ไข่ปิ้ง ราคาไม้ละ 20 บาท ได้ไข่ 3 ฟอง ซึ่งอยากจะบอกว่า ร้านนี้ไข่ปิ้งจะไม่มีแป้งปนเลยนะคะ นอกจากนี้รสชาติของไข่ก็ยังพอดิบพอดี ไม่เค็ม และไม่ใส่พริกไทยค่ะ รายการอาหารตามที่คุณเพื่อนขอมา ปลาเผาตัวโต ๆ ราคา 180 บาท โตแค่ไหนสังเกตนิ้วมืออันใหญ่โตของดิฉันได้ค่ะ ปลาต้องโตแค่ไหนถึงทำให้นิ้วดิฉันดูเล็กลงได้ ฮ่าฮ่าฮ่า ปลาที่ร้านไม่มีปิ้งค้างไว้นาน ๆ นะคะ มาแบบร้อน ๆ สดใหม่ เนื้อแน่น มาพร้อมกับผักสด ขนมจีน และน้ำจิ้มค่ะ ต้มแซ่บประดูกอ่อนหมู ราคาชามละ 50 บาท เท่านั้น แต่ได้ปริมาณเยอะมาก มาก มาก นอกจากดิฉันและเพื่อนจะตกตะลึงในปริมาณอาหารที่ได้รับแล้ว เรายังตาโตร้อง อื้อหือ... เมื่อได้ลิ้มลองความแซ่บของเมนูนี้อีกด้วยค่ะ แซ่บจริง ดีจริง ให้เยอะจริง คุ้มเกินไปมากจริง ๆ มาถึงเมนูสลัดเบา ๆ ทานแล้วไม่อ้วนกันบ้าง ฮ่าฮ่าฮ่า เมนูแรก คือ ตำปูปลาร้า ราคา 40 บาท เท่านั้น! แล้วที่สำคัญคือให้ปูหลายตัวเลยค่ะ เพื่อนดิฉันถูกอกถูกใจมาก ๆ เพราะเวลาไปทานส้มตำแล้วสั่งตำปูปลาร้า มักจะไม่ได้ปู หรือ ใส่ปูมาครึ่งตัว อะไรแบบนี้เป็นต้น แต่ร้านน้องเพลงตำระเบิดใส่มาแบบจัดเต็มค่ะ ส่วนดิฉัน นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ดิฉันชื่นชอบร้านน้องเพลงตำระเบิด เนื่องจากร้านนี้จะใช้ปูดองต้ม ซึ่งนอกจากจะปลอดภัยจากเชื้อโรคและพยาธิแล้ว ยังเป็นส่วนประกอบของส้มตำแบบดั้งเดิม ที่ทำให้ได้รสชาติและกลิ่นของส้มตำที่ดีงามเลิศเลอด้วยค่ะ ตำปูปลาร้า ดีงามมากค่ะ ใครคิดว่าเมนูดั้งเดิมจะไม่เก๋า ขอเชิญให้มาลองที่ร้านนี้ก่อนนะคะ เมนูสลัดเบา ๆ จานต่อมา คือ ตำข้าวโพดไข่เค็ม ราคาจานละ 60 บาท แค่เห็นถั่วที่ทางร้านกระหน่ำใส่ โปะมาให้เหมือนกลัวลูกค้ามองมา 100 เมตรจะมองไม่เห็นถั่ว ก็ทำให้ดิฉันและเพื่อนต้องร้อง โอ้โห... แล้วก็มองหน้ากันด้วยความเข้าใจ อะไรจะเยอะปานนั้น.... ตำข้าวโพดรสชาติดีงาม ไม่รู้จะติอะไรเลยค่ะ ตำมาได้กลมกล่อมพอดิบพอดีเหลือเกิน ใครลดความอ้วนสั่งแค่ตำข้าวโพดมาทานก็ได้นะคะ น่าจะอยู่ท้องได้พอประมาณเลย สำหรับอาหารมื้อเย็น ย้ำอีกครั้งว่าร้านน้องเพลงตำระเบิด เปิดบริการเป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่ 11 โมงเช้า จนถึง ตี1! ถ้าหากกลัวจะหาที่จอดรถไม่ได้ แนะนำให้มาทานในช่วงบ่าย หรือสั่งเมนูล้ำเลิศของทางร้านจากแอปพลิเคชันเดลิเวอรี่ต่าง ๆ ก็ได้นะคะ และหากจะพาเพื่อนต่างชาติมา ก็ไม่ต้องกลัวว่าเพื่อน ๆ จะไม่มีโอกาสได้เลือกเมนูอาหารด้วยตนเอง เพราะทางร้านมีเมนูยอดฮิตของชาวต่างชาติ เป็นภาษาอังกฤษไว้บริการเรียบร้อยเลยค่ะ หากคุณรักอาหารสตรีทฟู้ด หากคุณรักส้มตำ ไก่ย่าง ปลาเผา ไข่ปิ้ง และ ผัดหมี่ ดิฉันขอแนะนำให้คุณได้รู้จักกับ ร้านน้องเพลงตำระเบิด ร้านอาหารอีสานรสชาติดี บริการรวดเร็ว ราคาเป็นมิตร ลองแวะมาทำความรู้จัก กับร้านส้มตำที่ดิฉันรักร้านนี้กันดูนะคะ คุณอาจจะหลงรักร้านอาหารร้านนี้เช่นเดียวกับดิฉันก็ได้นะคะ #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 3
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/09
scene type icon
ไทยบ้านกาแฟโบราณ อำเภอเมืองขอนแก่น คาเฟ่
รีวิวร้านเด็ด ไทยบ้านกาแฟโบราณ สาขาหลังมหาวิทยาลัยขอนแก่น : ของดี ไม่ต้องแพง! ช่วงที่ผ่านมาดิฉันได้นัดพบกับเพื่อนสมัยมัธยมอยู่บ่อยครั้ง หลังจากที่ไม่ได้พบกันมานานหลายปี(หลายศตวรรษ) สิ่งหนึ่งในบทสนทนาของพวกเราคือ เรื่องราวในสมัยอดีต โดยเฉพาะกิจกรรมหลังเลิกเรียน ที่พวกเรามักจะไปนั่งทานขนมปังปิ้งและดื่มน้ำปั่นกันที่ร้านนมเสมอ ๆ เพื่อนของดิฉันจึงได้เอ่ยชื่อร้านไทยบ้านกาแฟโบราณขึ้นมา พร้อมเล่าเรื่องราวให้ฟังคร่าว ๆ ว่าดิฉันจะได้รับประสบการณ์อย่างไรบ้าง เธอแนะนำ(บังคับ)ดิฉันว่า ต้องมารีวิวร้านนี้นะ! ร้านไทยบ้านกาแฟโบราณ เป็นร้านกาแฟที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ในหมู่นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นอย่างดี แต่มีเส้นทางในการเดินทางมายังร้านค่อนข้างซับซ้อน ใครไม่ชินเส้นทางแนะนำให้เปิดดูที่ตั้งของร้านจากเพจร้านไทยบ้านกาแฟโบราณ แล้วเดินทางตามพิกัดดูนะคะ จะให้อธิบายก็จะยากเกินไป ตามแผนที่ของทางร้านมาเลยจะดีที่สุดค่ะ ร้านไทยบ้านกาแฟโบราณ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 12:32 -23:00 น. น้อง ๆ พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใสบอกกับดิฉันว่า "เวลาเปิดร้านไม่แน่นอนค่ะพี่ ไม่เกินบ่ายโมง แต่เราปิดร้านตรงเวลาค่ะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า" ไทยบ้าน ร้านเมื่อลงจากรถแล้วได้มองเห็นร้านไทยบ้านกาแฟโบราณชัด ๆ ดิฉันต้องของบอกก่อนเลยว่าประทับใจสุด ๆ ดิฉันประทับใจการตกแต่งที่ซื่อ ๆ ไม่พยายามที่จะเป็นอะไรที่ไม่ใช่ตัวเอง แม้จะมาเป็นครั้งแรก แต่ดิฉันไม่รู้สึกเคอะเขินเลยสักนิด น้อง ๆ พนักงานทำให้ดิฉันรู้สึกได้ถึงความเป็นกันเอง เรียบง่าย เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและอารมณ์ขัน ตามสไตล์คนไทยบ้าน ซึ่งมีความหมายว่าคนอีสานแท้ ๆ ที่มีวิถีชีวิตเรียบง่าย และอารมณ์ดี *ถ้าคุณเดินทางมาจังหวัดทางภาคอีสาน คุณจะพบป้ายบอกเส้นทาง บอกชื่อสถานที่ต่าง ๆ เช่น บ้านหนองกุง บ้านหนองกุงใหญ่ บ้านแฮด ฯลฯ ชาวอีสานมักจะจดจำคนรู้จัก จากถิ่นอาศัยของพวกเขาเหล่านั้นด้วย เช่น คุณยายของดิฉันเป็นคนไทยบ้านหนองกุง ก็จะถูกเรียกว่า ยายธาบ้านหนองกุง เพื่อนของดิฉันเป็นคนบ้านโนนรัง เราก็จะเรียกเขาว่า อี๊ดโนนรัง เป็นต้น เวลาคนอีสานที่ไม่รู้จักกันแล้วเพิ่งทำความรู้จักกัน เรามักจะถามคำถามว่า "เจ้าเป็นไทยบ้านใด๋หละ" แปลเป็นภาษากลางว่า "คุณอาศัยอยู่หมู่บ้านอะไร" ร้านเมนูของทางร้านมีเขียนไว้บนฝาฝนังหนึ่งด้านเต็ม ๆ เลยค่ะ ราคาเมนูต่าง ๆ ก็เรียบง่าย เมนูเครื่องดื่มร้อน-เย็น ราคา 30 บาท ปั่น 40 บาท ปังเย็น 40 บาท ปังเย็นปิ้ง และปังเย็นผัด ราคา 45 บาทค่ะ แต่สิ่งที่ดิฉันงงงวยคือ ปังผัดและปังเย็น! เพื่อนสาวของดิฉันซึ่งสั่งปังเย็นผัดชาไทย จึงได้อธิบายว่า "ข้างล่างมันจะเป็นน้ำที่แกสั่ง น้ำอะไรก็ได้ น้องก็จะปั่นมา แล้วก็จะมีขนมปังผัดใส่มาข้างบน" "แล้วขนมปังผัดคืออะไรอะแก" ดิฉันถามคุณเพื่อน คุณน้องพนักงานได้ยินบทสนทนาของดิฉันและเพื่อนสาวที่ตรงหน้าบาร์ จึงได้หันมายิ้มพร้อมอธิบายกับดิฉันว่า "ปังผัดคือขนมปังผัดเนยค่ะพี่" ดิฉันยังคงงงงวยกันการผัดขนมปัง พร้อมมองไปที่กระทะสองใบที่ตั้งอยู่บนเตา งง ๆ แบบนี้ต้องสั่งมาทานสิคะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า เมนูเมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะทานอะไร ก็หยิบใบรายการที่อยู่ด้านหน้าบาร์ขึ้นมาหนึ่งใบ เขียนจำนวนแก้ว ของเครื่องดื่มที่เราต้องการลงไป ในช่องร้อน เย็น ปั่น ถ้าอยากเพิ่มอะไรเป็นพิเศษก็ใส่เข้าไปในช่อง เพิ่ม เพื่อนของดิฉันสั่งปังเย็นผัดชาไทย ดิฉันสั่งปังผัดแยกต่างหาก และไวท์มอลต์เย็นค่ะ ปังผัดในที่สุดดิฉันก็ได้รู้แล้ว ว่าปังผัดนั้นเป็นอย่างไร วิธีการทำขนมปังผัด คือการนำขนมปังแผ่นหนา ๆ นุ่ม ๆ ลงไปผัดกับเนยจนกระทั่งกรอบ ซึ่งใช้เวลาพอสมควรเลยนะคะ แต่ทางร้านก็ไม่มีนโยบายผัดไว้ก่อนแล้วค่อยมาอุ่นทีหลัง หากสั่งปังผัดเมื่อไร ทางร้านก็จะผัดใหม่ ๆ ทันที ไม่มีการอุ่นของเก่าค่ะ ปังผัด สั่งแยกไม่โปะมาบนเครื่องดื่มปั่น ราคาชุดละ 20 บาท เท่านั้นค่ะ 20 บาท! ที่เห็นในภาพนี้คือดิฉันทานไปครึ่งนึงแล้วนะคะ ทานไปแล้วเพิ่งนึกได้ว่ายังไม่ได้ถ่ายภาพใกล้ ๆ ไว้เลย และจะบอกว่ามันเพลินมาก ๆ ทานหมดเร็วมาก ๆ แบบไม่รู้ตัวเลยค่ะ ดิฉันถูกใจสิ่งนี้มาก ๆ เลยค่ะ ขนมปังแผ่นหนา ๆ ถูกนำไปผัดกับเนยจนหอมกรอบ แล้วแต่งรสหวาน ซึ่งหวานมาแบบพอดี เพราะทางร้านมีนโยบายไม่ชงเครื่องดื่มและปรุงขนมรสหวานจ๋อยเป็นปกติอยู่แล้ว นอกจากถูกใจรสชาติ ดิฉันยังถูกใจราคาด้วยค่ะ อิ่มท้องและดีต่อใจมาก ๆ เครื่องดื่มและขนมต่อมาเป็นเครื่องดื่ม ของดิฉันเอง นั้นก็คือ ไวท์มอลต์เย็น หวานน้อย ราคาแก้วละ 30 บาท! คุณน้องสามารถชงไวท์มอลต์ ได้ถูกใจดิฉันเลยค่ะ หวานน้อยนิด แต่รสเข้มข้นดื่มแล้วสบายใจ รู้สึกดีและมีประโยชน์ มาแล้วค่ะ เมนูโปรดของเพื่อนสาวดิฉัน มาปุ๊บความงงงวยของดิฉันกระจ่างปั๊บ! ปังเย็นผัดชาไทย ราคา 45 บาท ( ทุกเมนูปังเย็นปิ้ง และปังเย็นผัด ราคา 45 บาทค่ะ) ด้านล่างสุดคือชาไทยปั่น รสหอมเข้มข้นมาก ๆ ของย้ำว่าหอมเข้มข้นมาก ๆ แม้จะเป็นของเพื่อนแต่ดิฉันชิมดูแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ถัดมาเป็นขนมปังผัด กรอบหอม แล้วพอทานพร้อม ๆ กับชาไทย โอ้โห....คุณพระ! มันดีงามล้ำเลิศเหลือเกินคุณเอ๋ย..... เข้าใจเพื่อนแล้ว ว่าทำไมอยากให้มารีวิวร้านนี้ วิปครีมพิเศษ ๆ เพิ่มวิปครีม 10 บาท ค่ะ จะบอกว่าวิปครีมร้านนี้ รสนวลนุ่มเบามาก ๆ ค่ะ อันนี้ไม่ได้พูดเล่นนะ สัมผัสของวิปครีมมันบางเบาเหมือนผ้าชีฟองพริ้วปลิวลม มันสวยงามมาก กล้าพูดว่าเป็นวิปครีมที่ดิฉันชื่นชอบที่สุด ตั้งแต่ทานวิปครีมมาเลยนะคะ เมื่อทานพร้อมกับขนมปังผัด ที่ชุ่มไปด้วยน้ำชาไทยรสเข้มข้น โอ้โห... คุณพระคุณเจ้า เข้ากันได้ดีอะไรเพียงนั้น...พวกเธอเกิดมาเพื่อกันและกันจริง ๆ หอม...ชาไทยเข้มข้น ละมุนละไมอะไรขนาดนั้น... ถ่ายรูปก็สวย จะทานจะดื่มก็เลอเลิศ ใครดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนได้ ไม่ควรพลาด ปังเย็นผัดชาไทย เพิ่มวิปครีม ด้วยประการทั้งปวงค่ะ! ยัง มีExtra Whipcream +35฿ อลังการไปอีก... สรุปแล้ว ดิฉันมีความประทับใจร้านไทยบ้านกาแฟโบราณมาก ๆ ค่ะ ทุกสิ่งดีงามมาก ๆ จริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบริการที่ได้รับ เครื่องดื่มและขนมรสชาติเลอเลิศ แต่ราคาเป็นมิตรกับทุกคน บรรยากาศยามค่ำคืนก็น่ารัก แสงสวย ถ่ายรูปสวย ใครอยากได้ที่เช็คอินใหม่ ๆ ไว้ถ่ายรูปสวย ๆ พร้อมกับขนมและเครื่องดื่มรสชาติดี ขอให้ติดตามร้าน ไทยบ้านกาแฟโบราณ แล้วตามพิกัดของทางร้านไปด่วน ๆ เลยนะคะ *ขอขอบพระคุณทางร้านที่เต็มที่กับการถ่ายภาพเพื่อรีวิวของดิฉันมาก ๆ และอนุญาติให้ใช้ภาพโลโก้ #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 2
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/09
น้ำผักผลไม้สกัด คุณนิตยา อำเภอเมืองขอนแก่น ชานมไข่มุก
รีวิว ร้านน้ำผักผลไม้สกัด คุณนิตยา ตลาดติดน้ำ ริมบึงแก่นนคร จ.ขอนแก่น ในช่วงที่ดิฉันกำลังลดน้ำหนักอย่างจริงจัง เพราะกางเกงที่สวมเริ่มจะรูดซิปไม่ขึ้นกันยกตู้ ดิฉันจึงงดการทานหมูกระทะ และบุฟเฟต์ทุกชนิด แล้วดื่มน้ำผักผลไม้สกัดแทนอาหารมื้อเย็น เพราะดื่มเพียงแก้วเดียวก็อิ่มอยู่ท้อง ดิฉันและเพื่อนสนิท ผู้เข้าร่วมการงดทานมื้อเย็นอย่างหนักด้วยกัน จึงได้ตะเวณหาร้านน้ำผักผลไม้สกัดกันจนทั่วตัวเมืองขอนแก่น แต่มีเพียงแค่ร้านเดียว ที่ดิฉันให้ใจไปเลยเต็ม ๆ คือ ร้านของคุณนิตยา ที่ตั้งขายเป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่เวลา 16:00 - 19:00 น. ที่ตลาดติดน้ำ หรือถนนคนเดิน ริมบึงแก่นนคร เพราะคุณนิตยาเตรียมผักและผลไม้มาสกัดให้ลูกค้าแบบเต็มที่ ให้ปริมาณล้นจนมัดปากถุงแทบไม่ได้ แต่ราคาถูกจนต้องตกตะลึงค่ะตลาดนัด ร้านของคุณนิตยาตามหาไม่ยากเลยค่ะ ตั้งอยู่ที่บริเวณเดิมเป็นประจำ ตรงบริเวณตอนต้นของถนนคนเดิน ฝั่งที่ขายเสื้อผ้ามือสอง ซึ่งจะมีร้านน้ำปั่น และผลไม้ต่าง ๆ ตั้งขายอยู่ ได้เวลาประมาณบ่ายสี่โมง เราก็จะเห็นคุณนิตยามาตั้งร้านเสร็จเรียบร้อย พร้อมที่จะสกัดน้ำผักทันทีค่ะ ลูกค้าของคุณนิตยา ส่วนมากจะเป็นผู้ที่มาออกกำลังกายที่บึงแก่นนคร รวมถึงผู้ที่รักสุขภาพ ซึ่งโดยมากจะเป็นแฟนประจำค่ะ ถ้าฐานแฟนคลับไม่แน่นจริง เราคงไม่ได้เห็นปริมาณผักผลไม้ปริมาณมหาศาล ที่คุณนิตยาเตรียมมาสกัดขายเป็นประจำทุกวันแบบนี้แน่ ๆ ค่ะ ดิฉันเป็นลูกค้าประจำมานานนับปี เพราะประทับใจทัศนคติ ในการทำการค้าของคุณนิตยามาก ๆ ด้วยความชำนาญในการเลือกสรรวัตถุดิบ คุณนิตยาจะทราบว่า วันนี้ผักผลไม้ของตนเองมีรสชาติเป็นเช่นไร สกัดออกมาแล้วรสชาติจะเป็นเช่นไร และบอกกับลูกค้าด้วยความซื่อสัตย์เสมอ นอกจากนี้ดิฉันยังกล้ายืนยันว่า จากที่ตะเวณดื่มน้ำผลผลไม้สกัดมาจนทั่วเมืองขอนแก่น ร้านของคุณนิตยา นอกจากจะใช้วัตถุดิบที่สดใหม่ ใส่ไม่ยั้ง และยังให้ปริมาณสินค้ามากที่สุด ราคาดีที่สุด จนต้องตกตะลึงจริง ๆ ค่ะ โดยน้ำผักผลไม้สกัดรวม จะมีราคาอยู่ที่ถุงละ 30 บาท แต่ถ้าเลือกวัตถุดิบเองตามใจชอบจะมีราคาอยู่ที่ถุงละ 35 บาทเท่านั้น! *ช่วงนี้คุณนิตยาสวมผ้าปิดจมูก เพราะแพ้กลิ่นดอกต้นตีนเป็ดค่ะ แพ้ขนาดหนักแต่ก็ยังมุ่งมั่นมาพบปะกับลูกค้า กลัวลูกค้าจะไม่มีเครื่องดื่มดี ๆ ดื่มหลังออกกำลังกาย สูตรน้ำผักผลไม้สกัดที่ดิฉันดื่มเป็นประจำ คือ บีทรูท ฝรั่ง สัปปะรด ซึ่งเป็นสูตรที่ดิฉันคิดเอง เพราะเป็นคนชอบทานสัปปะรดและฝรั่ง ซึ่งเป็นผลไม้รสเปรี้ยว หวาน และมีกลิ่นหอมทั้งคู่ แต่แก่แล้วเคี้ยวสัปปะรดและฝรั่งทุกวันไม่ไหว เสียวฟันค่ะ ส่วนบีทรูทก็เป็นพืชผักที่ดิฉันชื่นชอบและมีประโยชน์มากมาย แถมทำให้เครื่องดื่มสีสวยน่าดื่มด้วยค่ะ คุณนิตยาจะใส่บีทรูทให้ทั้งลูกโต ๆ ไม่มีหวง แตกต่างจากร้านอื่น ๆ ที่จะเน้นใส่วัตถุดิบที่ราคาถูกที่สุดเช่นสัปปะรดให้มาก ๆ แล้วใส่บีทรูทน้อย ๆ เพียงแค่ให้มีสีสันเท่านั้น ส่วนสัปปะรดก็ไม่น้อยหน้านะคะ มาทั้งลูกเลยค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่เปรี้ยว ไม่หอมหวาน และแม้ว่าบางช่วงราคาผักผลไม้จะผันผวน คุณนิตยาก็ยังคงยืนหยัด ขายสินค้าคุณภาพในราคาเดิม น้ำสกัดคุณนิตยาจะมัดปากถุงโดยที่ไม่ได้พับขอบลงมา เพราะปริมาณที่เยอะมากจึงทำให้พับปากถุงไม่ได้ อันนี้จึงขอเตือนให้ระวัง เพราะอาจจะเปื้อนมือเปื้อนเสื้อผ้าได้นะคะ ปริมาณของน้ำผักผลไม้สกัดหนึ่งถุง เทียบได้กับอาหาร 1 มื้อได้เลยค่ะ เยอะมาก ๆ อิ่มมาก ๆ แถมตอนเช้าระบบขับถ่ายก็ดีเชียวค่ะ หลาย ๆ ท่านที่ไม่เคยดื่มน้ำสกัดแยกกาก อาจจะเข้าใจว่าน้ำสกัดนั้นไม่มีกากใยของผักผลไม้เหลืออยู่ แต่แท้ที่จริงแล้วมีอยู่แน่นเลยนะคะ รสชาติของน้ำผักผลไม้สกัดที่ดิฉัน คิดสูตรขึ้นมานั้น จะมีรสเปรี้ยวอมหวาน ดื่มแล้วทำให้รู้สึกสดชื่น นอกจากนั้นกลิ่นหวานหอมของฝรั่งกับสัปปะรด ยังสามารถกลบกลิ่นของบีทรูทได้สนิท จึงเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะสำหรับนำไปใช้หลอกล่อ ให้เด็ก ๆ ที่ไม่ชอบทานผักผลไม้ให้ดื่มทดแทนได้ นอกจากนั้นดิฉันยังคิดว่าน้ำผักผลไม้สกัด น่าจะดีกับผู้สูงวัย ที่ไม่สามารถเคี้ยวผักผลไม้แข็ง ๆ หรือเคี้ยวให้ละเอียด ๆ ได้ ด้วยนะคะ หากให้ผู้สูงอายุดื่มน้ำผักผลไม้สกัดที่มีน้ำตาลน้อย เสริมการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ก็น่าจะเป็นผลดีกับสุขภาพร่างกายของพวกท่านนะคะ ดิฉันเองเกิดมาพร้อมกับความผิดปกติของเลือด และมีความดันโลหิตสูง การทานบีทรูท จึงส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายของดิฉันโดยตรง ฝรั่ง และสัปปะรด ก็เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ทำให้หลอดเลือดของดิฉันมีความยืดหยุ่น แต่การเคี้ยวฝรั่งและสัปปะรดทุกวัน ก็ทำให้ฟันกรามของดิฉันมีอาการเสียว จึงพักให้ฟันได้ซ่อมแซมตัวเอง โดยการดื่มน้ำสกัดแทนค่ะ หากคุณเป็นคนรักสุขภาพ หรืออยากจะเริ่มต้นดูแลสุขภาพ แต่ไม่ชอบทานผักและผลไม้ สามารถเริ่มต้นแบบไม่ต้องกดดันตัวเองได้ด้วยการเริ่มดื่มน้ำผักผลไม้สกัด สูตรของดิฉันก็ได้นะคะ ดื่มง่าย ไม่เหม็นเขียวแน่ ๆ ค่ะ ขอฝากร้านของคุณนิตยา ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของชาวขอนแก่น และผู้มาเยือนจังหวัดของเราด้วยนะคะ สามารถแวะเข้าไปอุดหนุนคุณนิตยาได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 16:00 - 19:00 น.ที่ตลาดติดน้ำ บึงแก่นนคร หากสนใจติดต่อคุณนิตยา เพื่อนำร้านน้ำผักผลไม้สกัดไปออกงานต่าง ๆ สามารถติดต่อได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ 06-2164-9643 ค่ะ #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 3
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/09
scene type icon
แม่หน่องลาบเป็ด อำเภอเมืองขอนแก่น อาหารอีสาน/ร้านส้มตำ
รีวิวร้านเด็ด แม่หน่องลาบเป็ด ถ.ศรีจันทร์ ลาบเป็ด หนึ่งในเมนูที่ดิฉันชื่นชอบ แต่หาร้านที่ทำเป็ดดี ๆ ไร้กลิ่นสาบเป็ดได้ยากมาก หากคุณเคยสวมเสื้อขนเป็ด ก็จะทราบดีว่า กลิ่นขนเป็ด เป็นกลิ่นที่มีพลังอนุภาคเข้มข้นสุด ๆ แม้จะซักเสื้อขนเป็ดแล้วหลายรอบ ตากแดดตากลมอยู่หลายปี กลิ่นสาบขนเป็ดก็หาได้จางหายไป ดังใจต้องการไม่ อย่างไรก็ดี เพื่อนของดิฉันได้พามารู้จักกับร้านแม่หน่องลาบเป็ด ซึ่งตั้งอยู่ริมถนน ศรีจันทร์ ใกล้ ๆ กับบึงหนองโคตร และได้การันตีกับดิฉันว่า ร้านนี้สะอาดและรสดีงาม จงมาลองดูเถิดหนา... เพื่อนการันตีขนาดนี้ ก็ต้องมาลองดูสิคะ หน้าร้านร้านคุณแม่หน่อง ตามหาไม่ยากเลยนะคะ มีป้าย มีธงสีแดงพร้อมภาพของคุณแม่หน่อง เบอร์โทรศัพท์ และเวลาเปิดปิดครบถ้วนชัดเจนเลยค่ะ เผื่อว่าใครขับรถผ่านมา จะได้ทราบว่าร้านคุณแม่หน่องยังเปิดอยู่หรือไม่ ร้านแม่หน่องลาบเป็ด เปิดทุกวัน เวลา 10:00 - 22:00 น. มีเบอร์โทรศัพท์ให้โทรติดต่อได้ 2 หมายเลข คือ 06-1896-5449 และ 09-0026-5294 สามารถโทรมาจองโต๊ะ หรือจองห้องส่วนตัวได้ค่ะ ที่จอดรถคือริมถนนศรีจันทร์ ทั้งสองฝั่งนะคะ ร้านแม่หน่องลาบเป็ดตกแต่งเรียบง่าย สะอาดสะอ้าน ( มาก ๆ ) เฟอร์นิเจอร์ไม้หรูเลย คงทนน่าดูเชียว ด้านขวามือของภาพเป็นฝนังกั้นสำหรับห้องรับประทานอาหารแบบส่วนตัวค่ะ ขนาดใหม่พอสมควรเลย ใครสนใจมาทานอาหารเป็นหมู่คณะโทรมาติดต่อจองโต๊ะได้นะคะ เมนูของร้านแม่หน่องลาบเป็ด ไม่ได้มีแต่ลาบเป็ดนะคะ ปลาก็มี หมูก็มา ส้มตำก็หลายรายการ ยิ่งได้เห็นภาพประกอบเมนู ยิ่งตบะแตก อยากจะสั่งมาทุก ๆ เมนูเลยเชียว ผักสดในระหว่างที่เรากำลังพิจารณา และตัดสินใจเมนูร่วมกันในหมู่เพื่อน เมนูฟรีก็มาถึงก่อนเลยค่ะ ผักสด ๆ และแตงกวาเย็น ๆ กรอบ ๆ ไว้ทานกับลาบนั้นเอง สมุนไพรทอดยังไม่หมด ยังมีใบมะกรูด และพริกทอดกรอบ หอม ๆ เอาไว้ทานกับลาบเป็ด พร้อมน้ำจิ้มแจ่วเอาไว้จิ้มสารพัดเมนู ให้มีรสแซ่บยิ่งขึ้น เมื่อตกลงกันได้แล้ว บริกรก็เข้ามารับรายการอาหารค่ะ ขอบอกว่าพนักงานที่ร้านทุก ๆ คนกิริยามารยาทงามกันมาก ๆ ดิฉันรู้สึกชื่นใจมาก ๆ เลยค่ะ ยินดีกับคุณเจ้าของร้าน ที่มีพนักงานที่รักการทำงานบริการแบบนี้ด้วยใจ ใส่ใจลูกค้าสุด ๆ ถามตอบทุกคำด้วยรอยยิ้ม และความจริงใจ (หรือพนักงานทั้งหมดที่พวกเราเจอ คือ เจ้าของกิจการกันแน่นะ!) ดิฉันเป็นคงแพ้ผงชูรส แม้ไม่หนักมาก แต่ถ้าเลี่ยงได้ก็เลือกที่จะไม่ทาน ฉะนั้นในการสั่งอาหารทุกครั้ง ดิฉันจึงสั่งอาหารไม่ใส่ผงชูรสอยู่เสมอ แต่เป็นที่ทราบกันดี ว่าคนอีสานนิยมชมชอบรสชาติ อร่อยกลมกล่อม อูมามิ ฉะนั้นไม่ว่าเมนูไหน ๆ ก็ต้องใส่ผงชูรสเสมอ จนเคยมือ แน่นอนว่าซุปหรือแกงต่าง ๆ ที่ร้านอาหารส่วนใหญ่ได้เตรียมไว้ มักจะมีการเติมผงชูรสอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งดิฉันไม่ติดใจอะไร สามารถทานได้ เพียงแค่อย่าใส่เพิ่มเข้าไปอีกก็พอ แต่ทางร้านก็ได้เข้าถามด้วยความห่วงใย ว่าทางร้านได้ใส่ผงชูรสลงในน้ำซุปเรียบร้อยแล้ว ดิฉันจะทานได้หรือไม่ ไม่เป็นไรจริง ๆ หรือ นับว่าทางร้านมีความจริงใจ และใส่ใจความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ดิฉันประทับใจมาก ๆ ค่ะ ตำแตงไข่ต้ม มาถึงรายการอาหารที่พวกเราสั่งกันค่ะ เริ่มต้นที่ตำแตง ไข่ต้ม ราคาชุดละ 80 บาท พูดตามตรงว่าดิฉันตะลึงมาก ๆ ค่ะ 80 บาท ได้ตำแตง และไข่เป็ดต้มเยอะขนาดนี้ ถือเป็นเรื่องดี ๆ ที่อยากแบ่งปันมาก ๆ เลยค่ะ ตำแตง รสชาติ เค็มหวานเปรี้ยวพอดี ลงตัว นัวมาก ๆ ทานแล้วสดชื่น.... แจ่มใส ยิ่งพอได้เจอไข่เป็ดต้มยางมะตูมเข้าไป ตำแตงยิ่งรสชาติกลมกล่อมหนักเข้าไปอีก ตราตรึงใจเหลือเกินคุณเอ้ย... ตำถั่ว ราคาจานละ 30 บาท! เป็นเมนูที่เพื่อนของดิฉันแนะนำว่าห้ามพลาด ดิฉันเองเป็นคนไที่ม่ชอบตำถั่ว เพราะส่วนใหญ่ถั่วจะเจอถั่วฝักยาวเหนียว ๆ ตำถั่วรสชาติเค็ม ๆ แล้ง ๆ ทานที่ไหนก็ไม่เคยถูกใจ แต่ไม่ใช่ที่นี้ค่ะ! หลังจากที่ดิฉันได้ทาน ตำถั่วของแม่หน่องลาบเป็ดแล้ว ดิฉันขอรับรองอีกเสียง ว่านี้เป็นเมนูที่ห้ามพลาดจริง ๆ ค่ะ! นี่คือตำถั่วที่รสดีงามที่สุดในรอบ 30 ปี ตั้งแต่ที่ดิฉันได้เริ่มทานตำถั่วมา! (นี่เขียนรีวิวแบบไม่เกรงใจแม่ ผู้ชอบทำตำถั่วให้ทานเลยนะเนี้ย) ถั่วฝักยาวคือกรอบ รสชาติ คือ หวานเค็มเผ็ดเปรี้ยว ลงตัวพอดิบพอดี แม้ไม่มีผงชูรส ต่อมาเป็นหมู่โปรตีน จากเนื้อปลา เป็นปลานิลแดดเดียวทอด ราคาจานละ 100 บาท ปลาเค็มนิด ๆ ทอดมาแบบข้างนอกกรอบมาก ข้างในยังนุ่มอยู่ ทานเดี่ยว ๆ ก็ดีมาก... ยิ่งถ้าทานกับข้าวสวยร้อน ๆ จะยิ่งมีความสุข (นี่ขนาดดูรูปตอนนี้แล้วคิดตามสิ่งที่ตัวเองเขียน ยังยิ้มมีความสุข อยากทานมาก...หิวโหยขึ้นมาเลยทีเดียว) แล้วเป็นปลาแดดเดียวที่ไม่มีก้างค่ะ! ทานได้แบบสบายใจ ไม่มีก้างขวางคอแน่ ๆ ดีงามต่อจิตใจค่ะ อีกหนึ่งเมนูทอด ๆ ที่ควรสั่งมาทานคู่กับตำถั่ว ก็คือ ไข่เจียวค่า... ไข่เจียวธรรมดาราคาจานละ 50 บาท ส่วนไข่เจียวหมูสับ ราคาจานละ 60 บาท อยากแอบกระสิบบอกว่า ไข่เจียวหมูสับ มีหมูเยอะเลยนะคะ เพิ่มราคาแค่ 10 เท่านั้น ถ้าใครอยากเพิ่มโปรตีนจากเนื้อหมูให้แก่ไข่เจียว สั่งได้เลยค่ะ คุ้มค่า... สำหรับท่านที่ยังไม่เคยจับคู่ ตำถั่ว ไข่เจียว และข้าวเหนียว ของให้ลองทานสามเมนูนี้พร้อมกันดูนะคะ แล้วคุณจะรู้ ว่าของบางอย่างก็เกิดมาคู่กันจริง ๆ ค่ะ (เหมือนกับตำแตงและไข่ต้ม) มาถึงเมนูลาบเป็ด ลาบเป็นธรรมดา ราคาจานละ 80 บาท ซึ่งเป็น 80 บาท ที่เนื้อเป็ดมาเน้น ๆ เลยนะคะ รสชาติลาบเป็ดแซ่บกลมกล่อม แม้ไม่ใส่ผงชูรส และที่สำคัญคือไม่มีกลิ่นสาบเป็ดเลยแม้แต่น้อย! ดีงามสมคำล่ำลือยิ่งนัก! (ลุกขึ้นปรบมือในใจ) มาถึงเมนูสุดท้าย ที่ดิฉันว้าว...เป็นอย่างยิ่ง คือต้มเป็ดราคาชามละ 80 บาท ถ้าเป็นหม้อไฟ ราคา 180 บาท เป็นต้มเป็นที่รสชาติเปรี้ยวแซ่บ เข้มข้น งดงาม ถึงใจ เลือดมาเป็นก้อนแบบใหญ่โตมโหฬาร สะใจ เครื่องในเป็ดไม่มีชิ้นไหนเลยที่มีกลิ่นคาว หรือ กลิ่นสาบ! ดีงามน้ำตาไหลจริง ๆ ค่ะ ประสบการณ์การรับประทานอาหารครั้งแรกของดิฉัน ที่ร้านแม่หน่องลาบเป็ด จบลงด้วยความประทับใจ เนื่องจากการบริการที่ดีงามของพนักงานทุกคน ไม่ใช่แค่คนเดียวนะคะ ทุก ๆ คนเลย อาหารทุกเมนูที่สั่งมา ไม่มีเมนูไหนเลยที่ไม่ถูกใจ ทานแล้วรู้สึกว่า แม้จะต้องวิ่งไล่พุงอีกสองสัปดาห์ ก็เป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าเหลือเกิน ดิฉันจึงอยากจะแบ่งปันความประทับใจนี้ ให้กับทุก ๆ ท่าน เพราะโอกาสที่จะมีร้านอาหารรสชาติดี บริการงดงาม ร้านตามหาง่าย สะอาดสะอ้าน มีที่จอดรถสะดวก โดยเฉพาะเป็นลาบเป็ด ที่ไม่เหม็นกลิ่นสาบเป็ด หาได้ยากมาก ๆ ค่ะ ด้วยประการฉะนี้ ดิฉันขอฝากร้านแม่หน่องลาบเป็ด ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของทุกท่านด้วยนะคะ #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 2
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/09
scene type icon
คีรี-มัญจะ คาเฟ่ มัญจาคีรี (ขอนแก่น) เบเกอรี่/เค้ก
รีวิว คีรี-มัญจะ คาเฟ่ อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น: พักใจในคีรี สูดอากาศดี ๆ ให้เต็มปอด ร้านคีรี มัญจะ เป็นร้านคาเฟ่เก๋ไก๋ ที่ตั้งอยู่ริม ถนนหน้าเมือง ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น อยู่ถัดจากโรงเรียนมัญจาคริสเตียน เปิดบริการเป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8:30 - 17:00 น. ดิฉันกับคุณเจ้าของร้าน คุณแป๋ม รู้จักกันมาตั้งแต่เรียนมัธยม แต่เพิ่งจะมาเป็นเพื่อนกันจริง ๆ เมื่อตอนไปเรียนที่มหาวิทยาลัยในกรุงเทพที่เดียวกัน เมื่อเราเรียนจบต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไป คุณเพื่อนก็ไปเป็นแอร์สาวสุดสวยอยู่หลายปี ก่อนจะได้ทำตามความฝัน ด้วยการกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิด และเปิดร้านกาแฟสุดเก๋ ทำขนม ชงกาแฟ ดูแลลูกน้อยและครอบครัวอย่างมีความสุข ท๊อฟฟี่เค้ก ดิฉันเห็นคุณเพื่อนแป๋ม ลงภาพขนมเค้ก และเมนูเครื่องดื่มต่าง ๆ อยู่เป็นประจำ (สลับกับเรื่องจิตวิทยาเด็ก และการเลี้ยงลูก) ดิฉันผู้รักขนมก็เกิดความร้อนรนทนไม่ได้ รบเร้าให้เพื่อน ๆ พาดิฉันไปเยี่ยมคาเฟ่ของเธอทีเถิด เพราะไม่ได้เจอหน้าเจอตัวกัน มานานแสนนานแล้ว ทันที ที่ลงจากรถ ดิฉันก็หัวเราะออกมาด้วยความสบายใจทันที เพราะคาเฟ่ของเธอ สมชื่อ คีรี-มัญจะ จริง ๆ เนื่องจากคาเฟ่ของเธอนั้นแอบอิงอยู่ในคีรีอย่างแท้จริง (คีรี แปลว่า ป่า) ต้นไม้ที่หน้าร้านของเธอ มีครอบครัวนกมาจับจองสร้างเคหสถาน อยู่หลายครอบครัว บ่งบอกถึงความมั่นคงปลอดภัย เป็นที่พักที่สงบอบอุ่นใจอย่างแท้จริง มาก ๆ ค่ะ คุณแม่แป๋ม ชมนกชมไม้นอกร้านได้สักพัก ดิฉันและหมู่เพื่อน ผู้กรุณาพาดิฉันมาเที่ยวต่างอำเภอ ได้นำตัวเองเดินเข้ามาในร้าน เพื่อมาพบปะทักทายคุณเจ้าของร้าน ใช้เวลาในการพูดคุยถามไถ่กันจนพอใจ ดิฉันก็ตรงมาที่เมนูค่ะ (ฮ่าฮ่าฮ่า เพื่อนก็คิดถึง ของกินก็คิดถึงนะ) ทางร้านมีเมนูมากมาย ให้พวกเราได้เลือกสรร ที่สำคัญคือมีชาใต้หวันไข่มุกด้วยนะเธอ! มีรึดิฉันจะไม่สั่ง ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า นอกจากเครื่องดื่ม พวกเราก็ขนขนมทุกชนิดในตู้แช่ ที่คุณแป๋มมีในขณะนั้น ออกมาชิมกันทุกชนิดด้วยค่ะ ด้านนอกดิฉันหอบน้ำ หอบขนมทั้งของตัวเองและของคุณเพื่อน ออกมาถ่ายภาพด้านนอกร้าน เพราะแดดกำลังสวยงามมาก บรรยากาศสงบอบอุ่นมาก เหมาะแก่การมาแวะพัก นั่งจิบกาแฟ และทานขนมยามบ่าย ถ่ายรูปสวยๆ สุด ๆ ไปเลยค่ะ มาเริ่มที่ ชาไทยเย็น หอม... เข้มข้น ฟองนมฟูฟ่อง ราคาแก้วละ 50 บาท ใครง่วง ๆ เหนื่อย ๆ ต้องมาโดนแก้วนี้เลยค่ะ รสชาติละมุน ตาสว่างแต่พองาม ดื่มพร้อมกับทานขนมไปด้วย เข้ากันได้ดีค่ะ โกโก้มินท์แก้วนี้ของดิฉันเอง โกโก้มิ้นท์ หวานน้อย เพิ่มไข่มุก ฟองนมล่องลอย ราคาแก้วละ 75 บาท (โกโก้เย็น 50 บาท มิ้นท์ 15 บาท เพิ่มไข่มุก 10 บาท) ดิฉันมีความเยอะสิ่ง แต่เพื่อนก็ชงให้ ใจเย็น ไม่บ่นสักคำ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า แก้วนี้ดื่มแล้ว เย็น ๆ หอมมิ้นท์ หอมโกโก้ สดชื่น กระปรี้กระเปร่าดีมากค่ะ ดื่มแล้วอารมณ์ดี มีกำลัง หายเหนื่อย ดื่มตอนบ่าย ๆ แล้วกลับไปนั่งทำงานต่อได้สบายเลยค่ะ ชาไต้หวัน ไข่มุก ราคา 60 บาท (ชาไต้หวัน 50 บาท เพิ่มไข่มุกอีก 10 บาท) หอมกลิ่นชา รสละมุน ไข่มุก เคี้ยวมัน มาลองกันได้ค่ะ ไข่มุกที่ร้านคีรี-มัญจะ เดิมมีทั้งไข่มุกเม็ดเล็ก และเม็ดโต แต่คุณลูกค้าบอกว่า ขอเม็ดโตเถอะค่ะ เพราะเคี้ยวสะใจกว่า ตอนนี้เลยมีแต่แบบเม็ดโตนะคะ ทีนี้มาดูขนมกันดีกว่า... ทำไมดิฉันต้องพิมพ์ไปยิ้มไปด้วยนี่...แค่ดูรูปของกินก็มีความสุขได้ด้วย ฮ่าฮ่าฮ่าเค้กมะตูม เมนูแรกที่ดิฉันปลาบปลื้ม คือ บัตเตอร์เค้กมะตูม ราคากล่องละ 35 บาท โปรโมชั่น 3 กล่อง 100 บาทค่า.... ที่เห็นสีส้ม ๆ ด้านบนนั้นคือมะตูมนะคะ ไม่ใช่ไข่แดงเค็ม จะบอกว่ารสละมุมมากค่ะคุณเอ้ย... ดิฉันรักมะตูมอยู่แล้ว เพราะถูกใจกลิ่นหอมหวานของมะตูม ยิ่งได้ทานเนื้อมะตูมแน่น ๆ ที่ไม่หวานจ๋อย กับตัวบัตเตอร์เค้กเนื้อหนักแน่น ยิ่งทวีคูณความพึงพอใจไปจนสุดอำเภอเลยค่ะ เวลาเอาออกมาจากตู้แช่มาใหม่ ๆ เนื้อเค้กจะยังแข็ง ๆ แน่น ๆ สะใจมาก ๆ ใครชอบเค้กเนื้อแน่นรสละมุน ไม่หวานจ๋อย ดิฉันขอแนะนำค่ะ เค้กชิฟฟ่อนหม้อแกงมันม่วง ราคากล่องละ 40 บาท เป็นเค้กชิฟฟ่อนเนื้อเนียนนุ่ม ที่มีขนมหม้อแกงมันม่วงหอม ๆ ด้านบน เป็นการนำขนมไทยและขนมฝรั่งมาผสมผสานกันได้อย่างลงตัว พอดีเป็นที่สุดเลยค่ะ ใครชอบขนมหม้อแกงที่ไม่หวานจ๋อย ดิฉันขอแนะนำค่า... เค้กช็อกโกแลตหน้านิ่ม ราคา กล่องละ 35 บาท โปรโมชั่น 3 กล่อง 100 บาท เค้กช็อกโกแลตเนื้อนุ่ม ตัดเป็นชิ้นลูกเต๋าพอดีคำ ราดด้วยหน้าช็อกโกแลตนิ่ม ๆ ดึ๋ง ๆ รสเข้มข้น ตกแต่งด้วยช็อกโกแลตด้านบนเก๋ ๆ เป็นเมนูที่ทานแล้วชวนให้นึกถึงอดีต เมื่อครั้งยังเป็นนิสิตที่มีร้านเค้กต้นกก ณ สามย่าน เป็นที่พักยามบ่าย ในอดีตเคยสุขใจอย่างไร เมื่อได้ทานเค้กช็อกโกแลตหน้านื่ม ในวันนี้ก็รู้สึกไม่แตกต่างกันเลยค่ะ เค้กมะพร้าวอ่อน ราคากล่องละ 35 บาท โปรโมชั่น 3 กล่อง 100 บาท มาถึงเค้กมะพร้าวอ่อน สุดสวย ที่ดิฉันหมายตามานาน จากภาพถ่ายที่คุณเพื่อนโพสต์ภาพบ่อย ๆ เมื่อได้ทานจริง ๆ ก็ไม่ผิดหวังเลยแม้แต่น้อยค่ะ มะพร้าวอ่อน หอม... นุ่ม... ละมุนสุด อะไรสุด นั่งทานไปชมวิวคีรีไป ไฉไลมากค่ะ ทุกคน! บราวนี่ ราคากล่องละ 35 บาท โปรโมชั่น 3 กล่อง 100 บาท ด้วยความอิ่ม เริ่มแน่นจุก แม้อยากจะเปิดบราวนี่ออกมาทานแค่ไหน ก็ต้องช่วยกันห้ามใจกันเอาไว้ ดิฉันจึงได้หอบบราวนี่ และขนมอื่น ๆ อีกมากมาย กลับมาทานที่บ้าน (คนเดียว ฮ่าฮ่าฮ่า) บราวนี่ของคุณแป๋ม แช่ตู้เย็นแล้วเนื้อแน่นหนึบมาก ๆ ค่ะ ดิฉันพึงพอใจในสิ่งนี้ รสชาติของบราวนี่ก็หวานเข้มข้น หนักแน่นยิ่งนัก เหามะแก่การทานยามเช้า หรือยามเหน็ดเหนื่อย เพื่อเพิ่มพลังชีวิตค่ะ คุกกี้ธัญพืชล้วน ไม่มีแป้ง ไม่มีน้ำตาล ราคาชิ้นละ 20 บาท สำหรับสายรักสุขภาพ และรักธัญพืช คุ้กกี้นี้เกิดมาเพื่อคุณค่ะ มาจัดไปทานพร้อมเครื่องดื่มแก้วโปรด เพื่อดับความหิวในยามบ่าย หรือทานหลังอาหารมื้อหลักเพื่อเพิ่มโปรตีน ไฟเบอร์และสารอาหารให้ครบ 5 หมู่ ก็เลอเลิศค่ะ รักษ์ธรรมชาติ หากคุณซื้อขนมกลับบ้าน จะไบว่าทางร้านใช้ถุงที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ด้วยความรักและห่วงใยสิ่งแวดล้อมของทางร้าน ที่ต้องการลดปริมาณขยะพลาสติก ได้ถุงไปแล้วก็อย่าลืมนำกลับมาใช้ให้คุ้มนะคะ ความฝันในการเปิดร้านกาแฟ เป็นความฝันในวัยสาวของคุณแป๋ม (ตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ มหาวิทยาลัย ปี 3 ปี 4 ) กว่าความฝันของคุณแป๋มจะเป็นจริง ต้องใช้เวลานานนับปี กว่าเธอจะสามารถทำความฝันของตนเองให้เป็นจริงได้ ดิฉันมีความประทับใจ และชื่นชมคุณเพื่อนมาก ๆ ที่ไม่ย่อท้อ และแน่วแน่เดินตามความฝัน ที่ตัวเองตั้งใจ จนสำเร็จได้ในที่สุด หากใครกำลังเหนื่อย หรือท้อใจ แวะไปเติมพลัง สูดอากาศสะอาด ๆ มองท้องฟ้าโปร่ง ๆ ต้นไม้เขียว ๆ ได้ที่คีรี-มัญจะ คาเฟ่ นะคะ #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 3
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/09
scene type icon
บ้านร่มไม้ by Anny อำเภอเมืองขอนแก่น ขนมไทย
รีวิว ร้านขนมไทย บ้านร่มไม้ by Anny ถ.หน้าเมือง ขนมกุยช่ายเป็นหนึ่งในขนมไทย ที่ดิฉันโปรดปรานชื่นชอบเป็นที่สุด เพราะเป็นขนมที่มีผักเป็นส่วนประกอบหลัก ไม่มัน ไม่หวาน แป้งไม่มาก เป็นขนมที่ดิฉันรักมาก ๆ มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ทานแล้วสบายใจ แต่ไม่ค่อยจะได้เจอร้านที่ทำได้ดี ๆ บ่อยนัก ร้านที่เคยทานเป็นประจำที่กรุงเทพฯ ก็หายไปตามกาลเวลา จนดิฉันเริ่มปลงใจ ว่าคงไม่ได้ทานกุยช่ายที่แป้งนุ่มบาง ไส้กุยช่ายรสกลมกล่อมนุ่มละมุน ไม่มีเหนียวแข็งอีกต่อไป ดิฉันเองไม่รู้จักเกาะขนุน ไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน และขนมกุยช่ายที่เกาะขนุนนั้นเป็นเช่นไร คุณแอนเจ้าของร้าน จึงได้กรุณาเล่าให้ฟังว่า เกาะขนุน จังหวัดฉะเฉิงเทรา เป็นบ้านเกิดคุณแอนเอง ขนมกุยช่ายสูตรเกาะขนุนจะมีแป้งบาง มีไส้รสกลมกล่อม มีน้ำจิ้มรสเด็ด ซึ่งเผ็ดเล็กน้อย คุณแอน เคยเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างกว้างขวางที่พัทยา และอาศัยอยู่ที่นั้นถึง 20 ปี ก่อนที่จะตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเต้านม ระยะที่ 2 ด้วยความชอบเรื่องการทำอาหาร และรู้ตัวว่าไม่สามารถทำงานหนัก ๆ เครียด ๆ ได้ดังเดิม เนื่องจากผ่านคีโมและการฉายแสง ร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนเดิม ก็เลยต้องหยุดทำงานแล้วก็ย้ายมาอยู่ขอนแก่น เพราะอากาศดี มีฤดูหนาวที่ยาวนาน (คุณแอนคิดอย่างนั้นจริง ๆ เหรอค่ะ ดิฉันอยู่มาทั้งชีวิต ดิฉันทำไมไม่รู้สึกแบบนั้นคะ) วันหนึ่งคุณแอนอยากทานขนมกุยช่าย และได้พยายามหาร้านขนมกุยช่ายที่มีรสชาติดี เฉกเช่นที่เกาะขนุนทาน แต่ยังไม่พบร้านที่ถูกใจ จึงคิดอยากจะทำขนมกุยช่ายรสชาติล้ำเลิศ จากวัตถุดิบคุณภาพให้ชาวขอนแก่นได้ทานกัน นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของร้านบ้านร่มไม้ค่ะทุ่ เมื่อพูดถึงวัตถุดิบ คุณแอนก็เล่าให้ฟังต่อว่า วัตถุดิบสำคัญคือต้นกุยช่ายนั้น มาจากสวนของคุณแอนเองค่ะ! เป็นทั้งแม่ค้า เป็นทั้งเกษตรกร เพราะต้องการปลูกวัตถุดิบให้ได้มาตรฐานตามต้องการ เหมาะสมสำหรับการทำขนมที่ตนเองรัก ทำให้ได้ต้นกุยช่ายที่ไม่แก่เกินไป และมีวัตถุดิบคุณภาพไว้ใช้ในการทำขนมทั้งตลอดทั้งปี ร้านบ้านร่มไม้ มีการตกแต่งที่น่ารัก หวาน อ่อนโยน สะอาดสะอ้าน เรียบร้อย ปลอดโปร่งมาก ๆ ค่ะ จัดร้านน่ารักจนทำให้นึกถึงร้านขนมพื้นบ้านของญี่ปุ่นเลยหละค่ะ ดิฉันรู้สึกชอบมาก ๆ ที่มีร้านขนมไทยที่ตกแต่งสวยงามแบบนี้ ด้านในนอกจากขนมที่คุณแอนผลิตเองแล้ว ยังมีการวางขายขนมไทยสูตรเด็ดสูตรดัง นำเข้าจากหลายท้องที่ ซึ่งคัดเลือกแล้วว่าดีจริง เด็ดจริง จึงนำมาวางขาย น้ำส้มบางมดคั้นสด ราคาขวดละ 25 บาท ซึ่งอยากจะแนะนำให้ดื่มจริง ๆ ค่ะ คั้นสด 100% ไม่เติมน้ำตาล ไม่แต่งรสเพิ่มเติม ไม่ใส่สารกันบูด ถ้าวันนั้นส้มมาด้วยรสชาติหวานเปรี้ยวอย่างไร ในขวดก็รสชาติอย่างนั้นเลยค่ะ ซึ่งคุณแอนบอกกับลูกค้าด้วยความซื่อสัตย์ว่า วันนี้น้ำส้มรสชาติดีมาก ๆ นะคะ เพราะส้มมาหวานมาก ๆ น้ำส้ม ดิฉันพิสูจน์แล้ว หวานจริง เข้มข้นจริง ดีเลิศ ไร้เทียมทานในปฐพีขอนแก่นค่ะ 25 บาท เท่านั้น! แนะนำว่าห้ามพลาดจริง ๆ ค่ะ ขนมสดใหม่ราคากล่องละ 35 บาท ขนมใส่ไส้ขนมใส่ไส้ ราคากล่องละ 35 บาท หน้าตาสวยงาม น่าทานมาก ๆ ดูสะอาด เรียบร้อย และเหลือจำนวนน้อยมาก ๆ แล้วด้วยนะคะ ใครไปช้าคงหมดก่อนแน่เลย ขนมต้ม ราคากล่องละ 35 บาท หน้าตาดูดี มีความหอมหวล ยืนจ้องเฉย ๆ ยังเหมือนจมูกได้กลิ่นหอม ทั้ง ๆ ที่กล่องปิดสนิท... เพ้อเจ้อมาก ๆ ขนมตะโก้ข้าวโพด ราคากล่องละ 35 บาท น่ารักมาก... อยากซื้อกลับไปทานมาก ๆ มีการตกแต่งที่น่ารักซะแทบลืมไปว่าเป็นขนมไทย มาถึงขนมกุยช่าย ที่ทำให้ดิฉันและเพื่อนสนิทตาลุก ต้องรีบจอดรถลงมาพิจารณาในทันที! กุยช่ายไส้กุยช่าย เพิ่งทำมาใหม่ ราคากล่องละ 35 บาท มีทั้งหมด 6 ชิ้น พร้อมน้ำจิ้ม กุยช่ายไส้หน่อไม้ ราคากล่องละ 35 บาท มี 6 ชิ้น พร้อมน้ำจิ้ม กุยช่ายไส้เผือก ราคากล่องละ 35 บาท มีทั้งหมด 6 ชิ้น มาพร้อมน้ำจิ้ม เช่นกันค่ะ หลังจากทานครบทั้งสามรสชาติแล้ว ดิฉันขอแจ้งให้ทุกท่านที่กำลังอ่านได้ทราบว่า... ไส้กุยช่าย งดงามมาก ไม่มีที่ติ ใครลืมซื้อ กลับไปถึงบ้านร้องไห้เสียใจได้เลยค่ะ ไส้หน่อไม้ รสดีมาก ปรุงรสชาติมาได้พอดีจริง ๆ ไม่มีรสไหนแหลมไป ไม่มีคำว่ารสโดด ใครรักไส้หน่อไม้ ต้องมาโกยกลับบ้านด่วน ๆ ค่ะ ไส้เผือก คือ ที่สุดของแจ้... เผือกนุ่มพอดี แต่ยังคงรูปทรงของเผือก ทานแล้วไม่เหม็นฉุน เผ็ดพริกไทย ได้รสเผือกที่ปรุงมากลมกล่อม ละมุนดีงาม ขอแนะนำผู้รักเผือกทั้งหลาย ว่าไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง จากใจคนรักเผือก ที่คราวหลังจะไปหอบกลับมาเยอะ ๆ ใครรักขนมไทย ใครกำลังจะมีงานมงคล มีงานจัดเลี้ยงสัมมนา แล้วสนใจขนมไทยจากร้าน บ้านร่มไม้ สามารถติดต่อคุณแอนได้โดยตรงเลยนะคะ คุณแอนยินดีตระเตรียมขนมไทยรสชาติงาม ไว้ให้งานสำคัญของคุณ ให้แขกเหรื่อได้ประทับใจไม่รู้ลืมเลยนะคะ นามบัตรร้านบ้านร่มไม้ ตั้งอยู่บนถนนหน้าเมือง ตรงข้ามกับโรงเรียนกวดวิชา On- Demand เปิดให้บริการทุกวัน อังคาร - วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10:00 - 19:00 น. มีที่จอดรถ คือ ริมถนน ทั้งสองฝั่งนะคะ หากคุณเป็นคนขอนแก่น หรือกำลังจะเดินทางมาจังหวัดขอนแก่น และรักขนมไทย ๆ ดิฉันขอนำเสนอร้าน บ้านร่มไม้ ไว้ให้คุณ ๆ ได้พิจารณาด้วยนะคะ ที่สำคัญคือร้านหาเจอง่ายมาก ไม่หลงแน่ ๆ ค่ะ แต่หากไม่สะดวกเดินทางมาด้วยตัวเอง สามารถสั่งขนมจากร้านบ้านร่มไม้ผ่านแอปพลิเคชันเดลิเวอรี่ต่าง ๆ ได้ด้วยนะคะ ดิฉันมีความสุขมาก ในการเขียนรีวิวร้านค้าที่เจ้าของมีทัศนคติที่ดีงาม และอยากสนับสนุนให้ร้านค้าที่ผลิตสินค้าคุณภาพแบบนี้ ให้มีฐานลูกค้ากว้างขวางออกไปอีก ใครรักขนมไทย รักกุยช่าย บ้านร่มไม้ยินดีต้อนรับนะคะ #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 2
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/09
scene type icon
กระแตกาแฟโบราณ อำเภอเมืองขอนแก่น ของหวาน
รีวิว กระแต กาแฟโบราณ : สุดยอดร้านดี ชงเครื่องดื่มแต่ละทีไม่มีกั๊ก กระแตกาแฟโบราณ เป็นร้านกาแฟรถเข็น ที่ตั้งอยู่บนถนนหน้าเมือง ติดกับรั้วของธนาคารออมสิน สาขาศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ที่ดิฉันและมารดาชื่นชอบมาอย่างยาวนาน ด้วยความเข้มข้นของรสชาติ ปริมาณที่มากมาย และราคาที่สบายกระเป๋า ทำให้เราทั้งคู่ยินยอมพร้อมใจ ที่จะดื่มเครื่องดื่มของร้านกระแตให้สบายใจ แล้วค่อยไปเดินออกกำลังกายกำจัดออกในภายหลังค่ะ ร้านเปิดบริการตั้งแต่ 7:00 - 16:00 น. ปิดวันอาทิตย์ วันเดียวเท่านั้น มาดื่มกาแฟแต่เช้าได้เลยค่ะ ทางร้านโด่งดังมาเรื่องเมนูกาแฟต่าง ๆ ทุก ๆ คนที่ดื่มกาแฟบอกเป็นเสียงเดียวกันค่ะ ว่าเข้มข้นจริง เด็ดจริง ไม่ผิดหวัง แดงมะนาวโซดา ใส่แก้วแบบนี้ ราคาแก้วละ 30 บาท แก้วใหญ่สะใจ แก้วเดียวดื่มได้ทั้งวัน ดิฉันเองเป็นผู้รักชามะนาวมาก่อน แต่หลังจากดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนไม่ได้ จึงได้หันมาดื่มน้ำแดงโซดามะนาวแทน ซึ่งเป็นเมนูที่หาดื่มได้ง่ายมาก แต่หาร้านที่ชงได้เลิศรสยากมาก เพราะบางร้านก็กลัวไม่หวานนอกจากใส่น้ำแดงแล้วยังใส่น้ำเชื่อมเข้าไปอีก ใส่น้ำมะนาวน้อย ใส่มะนาวเทียม เพราะมะนาวแพง ใส่โซดาไม่ซ่า สารพัดวิธีที่ทำให้เมนูง่าย ๆ นี้รสชาติประหลาด แดงมะนาวโซดาของร้านกระแต ใช้น้ำแดงเฮลซ์บลูบอยแท้ มะนาวแท้ และโซดาซ่า สะใจ ใส่มะนาวมาแบบจัดเต็ม ดื่มแล้วสดชื่น ดับกระหายค่ะ โกโก้เย็น อีกหนึ่งเมนูที่ดิฉันสั่งเป็นประจำ คือ โกโก้เย็น หวานน้อย ซื้อใส่ถุงแบบนี้ ราคาถุงละ 25 บาทค่ะ ถุงโตขนาดนี้ เทแบ่งใส่แก้วหารหันกับเพื่อนได้ 2-3 คนเลยนะคะ คุ้มสุด ๆ โกโก้ของทางร้านจะใส่ผงโกโก้มาแบบจัดเต็ม รสชาติเน้น เข้มข้น เหมือนทางร้านกลัวคนดื่มจะไม่ได้รสชาติอัดแน่น ของโกโก้อะไรแบบนั้นชงเครื่องดื่ม ถ้ามาตอนช่วงบ่าย ก็คิวน้อยหน่อย ไม่ต้องรอนานมาก แถมมีเก้าอี้ให้นั่งรอด้วย แต่ทางร้านก็ชงเครื่องดื่มเร็วมากนะคะ รอไม่นานค่ะ หน้าร้านบางทีก็มีกฐิน ผ้าป่า ให้พวกเราได้ร่วมบุญด้วยนะคะ กระแตร้านกระแตกาแฟโบราณ เป็นร้านกาแฟริมทางที่เรียบง่าย ไม่มีอะไรซับซ้อน มีเมนูที่ถูกใจทุกคน และรสชาติเข้มข้นถึงใจ เปิดบริการตั้งแต่ 07:00 - 16:00 น. ทุกวันตั้งแต่วันจันทร์ - วันเสาร์ ทั้งร้านและร่มมีมีแดงสด ตามหาได้ไม่ยาก อยู่ริมถนนหน้าเมือง ข้างรั้วธนาคารออมสิน สาขาศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ที่จอดรถริมทางมีมากมาย หรือจะจอดรถในลานจอดรถของศาลากลางแล้วเดินมาที่ร้านก็ได้ ไม่ไกลเลยค่ะ กาแฟถูกและดี มีอยู่จริง มาลองกันได้นะคะ! #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 3
  • 1
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/09
scene type icon
สลัด ขอนแก่น สาขาโอโซน วิลเลจ (Salad Khon Kaen at Ozone Village) อำเภอเมืองขอนแก่น อาหารคลีน/สลัด
รีวิว สลัด ณ โอโซนวิลเลจ ถ.เทพารักษ์ จ.ขอนแก่น : ร้านสลัดเพื่อสุขภาพ รสชาติเลิศเลอ "สด สะอาด รสชาติดี มีความรักธรรมชาติ" ด้วยความรักการทานผักผลไม้ จนเก็บอาการไม่อยู่ของดิฉัน ชนิดที่ว่า หากให้เลือกทานสลัดผักรสเลิศ กับเนื้อสเต๊กชิ้นโต ดิฉันจะเลือกทานผักอย่างไม่ต้องสงสัย เพื่อนของดิฉันเห็นดังนั้น จึงได้พามาเปิดโลกทัศน์ ณ ร้าน สลัด ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 1 โอโซนวิลเลจ ถ.เทพารักษ์ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11:00 - 20:00 น. เพราะดิฉันยังไม่เคยมาทานสลัดร้านนี้เลยจริง ๆ ค่ะ เพื่อนของดิฉันบอกว่าสลัดร้านนี้ เป็นร้านเล็ก ๆ ขนาดเพียง 1 คูหา แต่ใช้วัตถุดิบชั้นเลิศ เชื่อมั่น ไว้ใจได้ ว่าสะอาดจริง สดจริง และรสดีจริง ฝนังร้าน สลัด มีการจัดตกแต่งร้านสไตล์ลอฟท์ และวาดภาพตกแต่งฝาผนังแบบเรียบเก๋ เน้นสีดำ เทา เขียว น้ำตาล ความรู้สึกของดิฉันบอกว่า นี่คือการนำธรรมชาติ(สีเขียว สีน้ำตาล) เข้ามาไว้ในป่าปูน(ปูนเปลือย) คล้ายกับการสื่อสารเป็นนัย ว่าถึงแม้เราจะอยู่ในเมือง แต่เราจะขาดธรรมชาติไม่ได้นะ บรรยากาศเมื่อได้ที่นั่งเป็นที่พออกพอใจของชาวคณะแล้ว เราก็มาดูเมนูกันค่ะ จะทานอะไรกันดีหนอ... มื้อบ่ายนี้ เมนูหลักของทางร้านคือ สลัด การสั่งเริ่มจากเลือกว่าเราต้องการสลัดชนิดใด จากนั้นจึงเลือกน้ำสลัด และท๊อปปิ้ง ซึ่งทางเราได้เลือกสลัดเต้าหู้ ออแกนิค+น้ำสลัดพาเมซาน ราคา 135 บาท และตำผลไม้ ราคา 120 บาทค่ะสลัด สลัดเต้าหู้ออแกนิค พร้อมน้ำสลัดพาเมซาน ราคา 135 บาท มีท๊อปปิ้งเป็นบลูชีสเพิ่มอีก 45 บาท ปริมาณล้านแปด เพื่อนของดิฉันบอกว่าสั่งจานเดียวก็พอ เอามาแบ่งกันทาน เพราะสลัดจานใหญ่มาก ดิฉันก็ยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อเพื่อน ยังคงคิดพิจารณา ว่าร้านสลัดมีระดับแบบนี้ โดยปกติจะเน้นปริมาณที่สวยงามของอาหาร ชนิดที่ว่าอิ่มตาอิ่มใจ แต่ไม่อิ่มพุง แล้วสั่งมาจานเดียวจะพอแบ่งกันทานได้อย่างไร แต่ปรากฏว่าพออาหารมาถึงจริง ๆ ดิฉันก็ถึงกับตะลึงไปเลยค่ะ รสชาติสิบดาว ดิฉันเป็นคนทานสลัด โดยไม่ใส่น้ำสลัดมาตั้งแต่เด็ก ๆ เพราะในสมัยก่อนน้ำสลัดมีเพียงสลัดครีม เปรี้ยว ๆ หวาน ๆ ซึ่งดิฉันไม่ชอบ จึงทานสลัดเปล่า ๆ มาโดยตลอด รสชาติของสลัด จึงมาจากรสชาติของผักผลไม้ที่อยู่ในสลัดล้วน ๆ ในปัจจุบันมีน้ำสลัดมากมายหลายชนิด แต่ดิฉันก็ยังคงทานสลัดแบบไร้น้ำสลัดดังเดิม เพราะความเคยชิน ซึ่งหลังจากการทานสลัดจานนี้แบบไร้น้ำสลัดแล้ว ต้องขอบอกเลยว่า รสชาติกลมกล่อมพอดีมากเลยค่ะ ผัก ผลไม้ ธัญพืช เต้าหู้ ที่ทางร้านคัดเลือกให้มาอยู่ในเมนูนี้ มีความเข้ากันได้ดีมาก ๆ เลยค่ะ เมื่อลองทานกับน้ำสลัด พาเมซาน ทำให้ดิฉันรู้สึกราวกับว่า รสชาติของผักผลไม้ในสลัดจานนี้ ได้ถูกควบคุมรสชาติให้นุ่มนวล ชุ่มฉ่ำ ลื่นไหล คล้ายกับฟักทอง แตงกวา แครอท ชักชวนเหล่าธัญพืชและเต้าหู้ ให้ออกมาวิ่งเล่นตากฝนพาเมซานด้วยกัน อย่างสนุกสนาน ทานไปก็ได้ยินเสียงหัวเราะ ได้เห็นรอยยิ้มของเหล่าสมาชิกในจานสลัด ที่กำลังกระโดดโลดเต้นไปมา อยู่ในความคิดความรู้สึกของดิฉัน ตำผลไม้ ราคา 120 บาท ส้มตำที่ดูผู้ดี แต่มีรสชาติเข้มข้น วัตถุดิบสดสุด ๆ ลืมส้มตำผลไม้ที่เคยทานมาไปได้เลยค่ะ ผลไม้สดจริง กรอบ คุณภาพเน้น รสชาติจัดจ้านมาก ทานเข้าไปแต่ละคำ มันรู้สึกสดชื่นมาก ๆ เลยค่ะ ดิฉันรู้สึกราวกับตัวเองเป็นต้นไม้เหี่ยวเฉา ที่ได้รับน้ำฝนเย็นชื่นใจ จนกลับมาสดชื่นดังเดิม เป็นส้มตำผลไม้ที่ดีที่สุด ที่ดิฉันได้เคยทานมาจริง ๆ ค่ะ ราคาขนาดนี้ คุณภาพแบบนี้ คุ้มค่าค่ะ ยกใจให้เลย มาถึงเมนูเครื่องดื่ม เมนูแรกคือ มะม่วงปั่น ราคาแก้วละ 50 บาท ซึ่งปั่นมาเข้มข้น แน่น เนียน จนแทบดูดไม่ขึ้น! เปรี้ยวหวานชื่นฉ่ำถูกใจ ใครกำลังเหนื่อย ๆ ดื่มแก้วนี้ไปถูกใจแน่นอนค่ะ ปริมาณเยอะมาก ๆ ดื่มคนเดียวหมดคืออิ่ม สลัดไม่ต้องทานแล้วก็ได้นะ น้ำสกัดรวม ราคา 60 บาท ดูจากสีก็รู้ว่าแครอทมาแน่ ๆ มีกลิ่นเหม็นเขียวผักอย่างที่คนทั่วไปเรียกกัน เล็กน้อย ซึ่งสำหรับดิฉันไม่เรียกว่ากลิ่นเหม็นเขียว ดิฉันรู้สึกว่าเป็นกลิ่นผักเพราะดิฉันชอบ และเพราะเจอกลิ่นผักโหด ๆ กว่านี้มาเยอะ เพราะฉะนั้นแก้วนี้เด็ก ๆ เลยค่ะ รสหวาน เนื้อหนักแน่น ทานแล้วอิ่มพอประมาณ สบายท้อง ดีต่อระบบทางเดินอาหาร ปริมาณกำลังสวยงาม ใครมาเดทสั่งมาดื่มได้ค่ะ ดื่มหมดแก้วก็ไม่ต้องกลัวเสียภาพลักษณ์นางเอก น้ำกุหลาบปั่น ราคาแก้วละ 50 บาท หากมะม่วงปั่นดูร่าเริงมากเกินไป ไม่เหมาะกับการมาเดท น้ำสกัดรวมก็เหมือนจะน่ากลัว ทางเราของน้ำเสนอ... น้ำกุหลาบปั่น หวาน ๆ สวย ๆ นางเอกมาก สีหวานมาก สั่งแก้วนี้มาแล้วไม่เป็นคนสวยไม่มี หากมาทานสลัดกับเพื่อนแนะนำให้เป็นตัวของตัวเองเต้มที่ แต่ถ้าอยากเปลี่ยนตนเองให้เป็นกุลสตรี กุหลาบปั่นแก้วนี้ช่วยคุณได้... สั่งเลยค่ะ มาปิดท้ายที่ความประทับใจส่วนตัวของดิฉัน ด้วยความพยายามในการใช้มือถือกิ๊กก๊อก ถ่ายภาพระยะใกล้ของหลอดดูดที่ทำจากกระดาษ พยายามขนาดนี้เพราะอยากบอกเล่าความประทับใจ ในทัศนคติของเจ้าของร้าน ในการปรับเปลี่ยนวัสดุสิ้นเปลืองของทางร้าน ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ดิฉันถูกใจมาก ๆ ค่ะ ทั้งสลัด ตำผลไม้ และเมนูน้ำต่าง ๆ (ขอเพื่อนชิมหมดทุกแก้ว ฮ่าฮ่าฮ่า) สายรักสุขภาพต้องไม่พลาดร้านนี้จริง ๆ ค่ะ แต่ขอเตือนว่าสลัดได้ปริมาณเยอะมาก ๆ ถ้าจะสั่งมาทานคนเดียว ต้องแน่ใจว่าตัวเองเป็นสายแข็งตัวจริงนะคะ ถ้าไม่หนักแน่นพอ สั่งมาทานกับเพื่อนดีกว่าค่ะ ดิฉันมากัน 3 ชีวิต ทานอาหารกันไหว 2 เมนู และต้องถือเครื่องดื่มกลับไปดื่มต่อที่บ้าน เพราะดื่มไม่ไหวแล้ว แน่นมาก ๆ #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 2
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/09
scene type icon
สปาเก็ตตี้ขี้เมาพ่นไฟ อำเภอเมืองขอนแก่น สปาเก็ตตี
รีวิวร้านเด็ด สปาเก็ตตี้ขี้เมาพ่นไฟ ตลาดต้นตาล จ.ขอนแก่น : ผัดขี้เมาเครื่องหนัก ไฟลุกถึงรส ต้องยกนิ้วให้ สปาเก็ตตี้ขี้เมา เป็นหนึ่งในเมนูโปรดของเธอ ที่เธอมักจะสรรหาร้านที่สามารถปรุงรสผัดขี้เมาได้รสดีดังที่ใจเธอต้องการอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเจอเมนูนี้ที่ร้านไหน ๆ เธอก็มักจะสั่งมาทานเพื่อตามหาร้านดีในดวงใจของเธออยู่เป็นประจำ ดิฉันเองก็ชื่นชอบผัดขี้เมา แต่ไม่ค่อยชอบเสี่ยงซื้อทาน เพราะมักจะเจอแต่ร้านที่ผัดมันจนเลี่ยน และไม่จัดจ้านถึงรสถึงเครื่อง จึงได้แต่เดินตามเธอไม่ยืนดูเมนูพลาง ๆ รอชิมกับเพื่อนก่อนดีกว่า ถ้าเพื่อนว่าดี ค่อยเจริญรอยตาม ฮ่าฮ่าฮ่า ทางร้านมีเมนูเยอะมาก ๆ ค่ะ นอกจาก หมู ไก่ กุ้ง เนื้อวัว ยังมีสารพัดเนื้อสิงสาราสัตว์ให้ทุกท่านได้ลิ้มลองกัน ซึ่งเนื้อทุกชนิดผ่านการคัด ชั่ง ตวงปริมาณมาแล้ว ไม่ต้องกลัวว่าพ่อค้าจะให้มากให้น้อย ทุกคนได้เท่ากันแน่ ๆ กระดาษเมนูพร้อมราคา สำหรับให้เรามาเลือกสั่งค่ะ ซึ่งสามารถเลือกเมนูหลัก แล้วเติมเนื้อที่เราต้องการเพิ่มเข้าไปได้ด้วยนะคะ เช่น สปาเก็ตตี้ไก่ ใส่เนื้อเพิ่ม อะไรแบบนี้เป็นต้น จากนั้นก็แจ้งว่าต้องการความเผ็ดระดับไหน ราคาเริ่มต้นมีตั้งแต่ 49 บาทนะคะ เมนู นอกจากสปาเก็ตตี้ผัดขี้เมา ทางร้านยังมีเมนูอื่น ๆ สำหรับคนที่ไม่ถนัดทานเผ็ด หรือเด็ก ๆ ด้วยนะคะ หรือหากจะทานเฟรนช์ฟรายส์ ประกอบการทานเครื่องดื่มอื่น ๆ ทางร้านก็มีบริการนะคะ โลโก้โลโก้ของร้าน และการตกแต่งร้านเน้นสีดำ และสีส้ม ใช้โทนสี Pop มาก ๆ ได้ใจวัยรุ่นวัยเก๋ กลุ่มสี ดำ ส้ม ขาว เป็นกลุ่มสีที่แสดงถึงความสนุกสนาน เท่ เก๋ ทันสมัย การเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว และรสชาติที่เผ็ดร้อน เหมาะกับเมนูอาหารจานหลักของทางร้านมาก ๆ ค่ะ ดิฉันและเพื่อนทานสปาเก็ตตี้ขี้เมาเนื้อวัว ราคา จานละ 99 บาท กันไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่ลงความเห็นว่าดีมาก จึงได้เดินกลับไปที่ร้านอีกรอบ เพื่อสั่งผัดขี้เมากลับบ้าน โดยสั่งเมนูนอกเมนู โดยสั่งเป็นกับข้าว ซึ่งความดีงามของสปาเก็ตตี้ขี้เมาจานแรกที่พวกเราชิมกันไปนั้น ได้นำมาสู่การรีวิวในครั้งนี้ เพราะดิฉันและเพื่อนรู้สึกว่า ร้านนี้ทำได้ดีมาก ๆ เราควรจะแนะนำร้านนี้ให้คนอื่น ๆ ได้มาทานกันเครื่อง เครื่องผัดขี้เมา จัดเต็มสุด ๆ เห็นแบบนี้เลิกสงสัยเลยค่ะ ว่าทำไมรสชาติเข้มข้นสุด ๆ ใส่เครื่องกันแบบไม่กลัวขาดทุนเลยจริง ๆ สปาเก็ตตี้ขี้เมาเนื้อ ราคาจานละ 99 บาท โปะกะเพราทอดกรอบมาเต็มที่เลยค่ะ จานใหญ่มาก เหมาะแก่การแบ่ง/แย่งกันทาน 2 คน อยากจะบอกว่า 99 บาท ได้เนื้อเยอะมาก ๆ ทุก ๆ ตารางนิ้วมีเนื้อกองอยู่ และเนื้อเหนียว นุ่ม พอดีมาก ๆ สำหรับคนที่ไม่นิยมเนื้อเหนียว ๆ แบบดิฉัน เพราะเคี้ยวเมื่อไร กลับไปนอนปวดกรามทุกที ขอบอกว่าความเหนียวนุ่มของเนื้อ ที่ทางร้านนำมาผัด ผ่านการอนุมัติจากดิฉันค่ะ เหนียวแต่นุ่ม กัดขาด เขี้ยวได้ กลืนได้ ไม่ต้องกลัว สบายใจสั่งได้เลยค่ะ สปาเก็ตตี้ เส้นสปาเก็ตตี้เหนียวนุ่มพอดี ไม่อืด ไม่เละ ไม่แข็งตรงแกนกลาง สุกสม่ำเสมอ รสชาติขี้เมาเข้าเกาะเส้นพอดีพองาม เลิศค่ะ เนื้อหนักมาก อยากบอกให้รู้ ว่าเครื่องหนัก เนื้อหนักแค่ไหน เพราะบางคนเห็นว่าราคา 99 บาท อาจจะเดินถอย แต่ดิฉันพิสูจน์แล้ว เห็นว่าเป็น 99 บาทที่เลอค่ามาก ๆ เลยค่ะ เนื้อมาเน้น ๆ จิ้มไปตรงไหนก็เจอ ไม่ต้องคุ้ยหาให้ลำบาก พริกไทยดิฉันถูกใจสิ่งนี้ ใครชอบทานพริกไทยอ่อนสด ๆ แบบนี้ ไม่ควรพลาดโดยประการทั้งปวงค่ะ ใส่กล่องกลับบ้าน คือผัดขี้เมาที่สั่งกลับบ้าน เป็นกับข้าวนะคะ เป็นเมนูนอกเมนู ซึ่งคุณพ่อค้า/พ่อครัว มีความยินดีที่จะทำให้ สามารถเจรจาได้นะคะ ว่าต้องการอย่างไร เช่นขอให้ใส่น้ำมันน้อยลงหน่อย ปรุงจืดลงหน่อย เพราะเอาไปฝากบุพการีที่บ้าน คุณพ่อค้าก็ยินดีปรุงให้ ด้วยใจรักบริการค่ะ พ่อค้าไม่ดุ ถามได้นะคะ คุณพ่อค้าเล่าให้ฟังระหว่างผัดไฟลุกพรึ่บ ๆ ว่า ทำเมนูนี้ออกมาขายเพราะความชอบส่วนตัว สัดส่วนของเครื่องปรุงทุก ๆ อย่าง ได้ผ่านการทดลองปรับปรุง จนได้ผัดขี้เมาที่รสชาติลงตัวแบบนี้ เพราะความรักล้วน ๆ ซึ่งดิฉันเอง ในตอนแรกที่ได้แต่ทานไปตามปกติ ไม่รู้เรื่องราวเบื้องหลัง ยังตกตะลึง ในรสสัมผัสของสปาเก็ตตี้ผัดขี้เมาเนื้อ (ที่เพื่อนสั่งมา ฮ่าฮ่าอ่า) เพราะรู้สึกได้เลยว่าทำออกมาดีขนาดนี้ ถ้าไม่ได้เรียนจบมาโดยตรง ก็ต้องทำด้วยใจแน่ ๆ ยอดเยี่ยม ยิ่งใหญ่ เกรียงไกร ยกนิ้วให้เลย หากคุณรักผัดขี้เมา และตามหาร้านผัดขี้เมาที่รังสรรค์ทุกสิ่งออกมาจากใจ จนมีรสชาติที่ชัดเจนเข้มข้นสะใจ สปาเก็ตตี้ขี้เมาไฟลุก พร้อมให้บริการ ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17:00 - 23:00 น. ที่ตลาดต้นตาล โซนลานขอนไม้ หลังร้านโมชิโมชิ นอกจากนั้นยังสามารถสั่งอาหารจากทางร้านผ่านแอปพลิเคชั่นเดริเวอรี่ต่าง ๆ ได้แล้วนะคะ #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 2
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/08
scene type icon
ส้มตำปริญญา ขอนแก่น อำเภอเมืองขอนแก่น อาหารอีสาน/ร้านส้มตำ
รีวิว ส้มตำปริญญา : แซ่บแท้แม้กระทั่งแจ่ว "พาไปกินร้านส้มตำแซ่บ ๆ หน่อยนะ" เพื่อนชาวกรุงของดิฉันส่งข้อความมา ในขณะที่พวกเขากำลังเดินทางมาจังหวัดขอนแก่น "ถึงขอนแก่นประมาณ 1 ทุ่มนะ ขอร้านที่แซ่บ ๆ แต่สะอาด อยู่ในเมือง มีที่จอดรถนะ" เพื่อนของดิฉันให้ข้อมูลเพิ่มเติม ร้านส้มตำที่ดิฉันไปทานเป็นประจำมักจะเปิดเฉพาะเวลากลางวัน ไม่เกิน 5 โมงเย็นก็ปิดบริการกันหมดแล้ว ส่วนร้านที่ไปทานตอนกลางคืนก็มักจะเป็นร้านริมถนน ชนิดที่เพื่อน ๆ ชาวกรุงของดิฉัน น่าจะไม่สบายใจในการไปใช้บริการมากนัก ฮ่าฮ่าฮ่า แต่ยังมีร้าน ส้มตำปริญญา ร้านส้มตำที่มีคุณสมบัติครบตามที่เพื่อนของดิฉันต้องการค่ะ ร้านส้มตำปริญญา ตั้งอยู่บนถนนหน้าเมือง หาร้านเจอง่ายมาก ๆ เพราะร้านตั้งอยู่ใจกลางเมือง เปิดบริกาารทุกวันตั้งแต่เวลาเที่ยง จนถึง ตีสี่! ใช่ค่ะ 12:00 - 04:00 น. ที่จอดรถคือริมถนนทั้งสองฝั่งของถนนหน้าเมืองค่ะ บริเวณหน้าร้านจะมีโต๊ะตั้งยาวสำหรับจัดวางกับข้าว ซึ่งวางเรียงรายเป็นแถวตามหมวดหมู่ ให้พวกเราสามารถเลือกพิจารณา ปิ้งไก่ ปลาย่าง ไข่ทรงเครื่องปิ้ง ฯลฯ ได้ตามความพึงพอใจ *เพื่อนทั้งสองของดิฉันประทับใจการจัดแสดงสินค้าของทางร้านมาก ๆ ถึงกับเดินกลับไปหยิบกล้องถ่ายรูปจากที่รถมาถ่ายภาพเก็บไว้ เดินเข้ามาในร้าน หาโต๊ะนั่งได้ตามสะดวก โดยเราจะต้องเป็นผู้ลุกขึ้นไปเลือกหยิบจานช้อนด้วยตนเอง จะได้สีถูกใจถูกโฉลกค่ะ นอกจากนั้นที่ดิฉันชอบมาก ๆ คือการตั้งผักไว้ให้ลูกค้าได้เลือกหยิบเอง เพราะในหลาย ๆ ครั้งลูกค้าที่ไม่ทานผักแกล้มส้มตำ ผักที่ทางร้านให้มาก็จะถูกทิ้งเสียเปล่า หากเราชอบ/ไม่ชอบทานผักชนิดใดก็สามารถไปเลือกเองได้เลย ทรัพยากรไม่สูญเปล่าดีนะคะ เมื่อได้ที่นั่งแล้วก็นำเมนูอาหารมาพิจารณากันค่ะ ทางร้านมีทั้งเมนูส้มตำและยำด้วยนะคะ เป็นอะไรดี ๆ ที่อยากนำเสนอมาก ๆ เพราะมาที่เดียวได้ทานอาหารแซ่บ ๆ ทั้งสองอย่างพร้อม ๆ กันเลย และไม่ว่าจะเป็นส้มตำหรือยำ ทางร้านก็ปรุงออกมาได้แซ่บเด็ดไม่แพ้กันเลยค่ะ เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะทานอะไรดี ก็นำกระดาษและปากกาที่วางอยู่บนโต๊ะมาจดรายการอาหารที่ต้องการ แล้วยื่นให้กับพนักงานในร้านค่ะ เมื่อส่งรายการอาหารเรียบร้อยแล้ว เราสามารถออกมาเลือกไก่ปิ้ง เลือกปลาย่าง ไส้กรอก ฯลฯ ได้ด้วยตนเองนะคะ จะได้ถูกใจแคปหมูแคปหมูนา ๆ ชนิด รวบรวมมาให้ครบทุกแบบเพื่อความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า อาหารอย่างแรกที่มาถึงคือไก่ย่าง หรือที่ชาวอีสานมักเรียกติดปากว่าปิ้งไก่ น่องติดสะโพกนี้ราคา 50 บาทค่ะ ข้าวเหนียวราคากระติบละ 10 บาท เนื้อไก่หอม นุ่มเหนียวไม่เละ รสชาติไก่พอดี ไม่เค็มปี๋ เพื่อนของดิฉันถูกใจสิ่งนี้มาก และได้ไปตามหาน้ำจิ้มแจ่วจากทางร้านเพื่อมาทานกับไก่ย่าง เมนูต่อมาคือปลาเผา ที่อีสานมักจะเสิร์ฟปลาเผามาพร้อมกับน้ำจิ้มแป๊ะซะ ผักสด และเส้นขนมจีน สำหรับห่อเนื้อปลาแล้วทานพร้อมกับน้ำจิ้ม ปลานิลเผาตัวโตชุดนี้ ราคาชุดละ 170 บาทค่ะ ซึ่งราคาของปลาขึ้นอยู่กับขนาดของปลา เริ่มต้นที่ราคา 100 บาทค่ะ เราสามารถสอบถามก่อนได้นะคะ ว่าวันนี้ปลาเผาราคาเท่าไร ปลาเพิ่งเผาเสร็จมาใหม่ ๆ ยังร้อน ๆ อยู่ หอมน่าทานมาก ๆ ค่ะ เนื้อปลาสด หวานนุ่ม ชุ่มฉ่ำ ไม่ใช่แบบเผาไว้นานแล้ว เนื้อปลาแห้งแข็งแล้วอะไรแบบนั้นนะคะ จะทานเฉพาะเนื้อปลากับส้มตำ หรือจะห่อเนื้อปลาด้วยผักต่าง ๆ พร้อมกับเส้นขนมจีนแล้วใส่น้ำจิ้มเป็นคำ ๆ แบบไหนก็เลิศเลอ ถูกใจ ถูกปากมาก ๆ เลยค่ะ น้ำจิ้มแป๊ะซะรสเด็ด ซึ่งเพื่อนของดิฉันถูกใจมาก เจ้าบ้านรู้สึกดีใจมาก เพื่อนทานอะไรก็ถูกใจไปหมด ดีใจอย่างกับเป็นเจ้าของร้านเอง ฮ่า ฮ่า ฮ่า และแล้วส้มตำแซ่บ ๆ สำหรับเพื่อนชาวกรุงก็มาถึง เมนูที่เพื่อนของดิฉันเรียกร้องให้พามาทานคือ ตำโคราช ไม่ใส่ผงชูรส ไม่เผ็ดมาก ราคา 50 บาท โดยเธอถามดิฉันว่า "ตำโคราชมันเป็นยังไง" ตำโคราชก็คือตำไทยที่ใส่ปลาร้าลงไปค่ะ รสชาติจะหวานเค็มตามสไตล์ของส้มตำภาคกลาง แต่นัวและหอมด้วยปลาร้าของชาวอีสาน ซึ่งเมื่อตอนเด็ก ๆ ที่ตำโคราชถูกพัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกบนปฐพี แม่ค้าส้มตำในยุคนั้นบอกมาว่าเป็นส้มตำที่เป็นลูกครึ่งไทยอีสาน เลยตั้งชื่อกันว่าตำโคราช เพราะโคราชเป็นเมืองหน้าด่านของภาคอีสาน บ้างก็บอกว่ามีการคิดค้นขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมา หรือจังหวัดโคราช เป็นที่แรก ซึ่งความแม่นยำในการปรุงส้มตำของร้านส้มตำปริญญา มีความเที่ยงตรงสูงมาก มาทานกี่ครั้งก็ได้รสชาติแบบเดิมตลอด แถมตำโคราชที่เคยทานเมื่อครั้งยังเด็กมีรสชาติอย่างไร ทางร้านก็ปรุงออกมาได้รสชาติดั้งเดิม ไม่มีผิดเพี้ยนเลยจริง ๆ ค่ะ ขอคารวะ... ต่อจากตำโคราช ก็มาที่ ตำไทย ไม่ใส่ผงชูรส ไม่เผ็ดมาก ราคา 50 บาท คนไทยอย่างไรก็รักตำไทย ส้มตำที่มีความปลอดภัยสูง ว่าทานเข้าไปแล้วจะไม่ลำบากระบบทางเดินอาหาร ส้มตำไทยของทางร้าน หวาน เค็ม แบบไทย ๆ ทานแล้วสดชื่นถูกใจชาวกรุงมาก ๆ ค่ะ เมนูฟรีที่เพื่อนของดิฉันถูกใจที่สุด เห็นจะเป็นน้ำจิ้มแจ่วนี่หละคะ ถูกใจมาก ถึงกับลุกขึ้นไปขอจากทางร้านด้วยตนเอง เพื่อนำมาจิ้มไก่ย่าง ข้าวเหนียว และเมนูอื่น ๆ ที่พวกเราสั่งมาทาน เพื่อนของดิฉันลงความเห็นว่าร้านส้มตำปริญญานี้แซ่บจริง ชอบทุกอย่าง ไม่ผิดหวัง หากคุณกำลังจะเดินทางมายังจังหวัดขอนแก่น แล้วกำลังมองหาร้านส้มตำดี ๆ สักร้าน ดิฉันขอนำเสนอร้านส้มตำปริญญาไว้เป็นตัวเลือกดี ๆ สักที่นะคะ ยังมีเมนูแซ่บ ๆ อีกมากมายให้คุณได้เลือกสรร เพื่อทำความรู้จักกับวัฒนธรรม อาหารพื้นถิ่นของดินแดนที่ราบสูงค่ะ #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 2
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/08
scene type icon
คุณหน่อยไก่ย่างเขาสวนกวาง อำเภอเมืองขอนแก่น อาหารอีสาน/ร้านส้มตำ
คุณหน่อยไก่ย่างเขาสวนกวาง : ส้มตำรสชาติอลังการ กลางเมืองขอนแก่น นอกจากไดโนเสาร์และผ้าไหม ไก่ย่างเขาสวนกวาง ก็เป็นอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดขอนแก่นด้วยนะคะ หลาย ๆ ท่านที่มาเยือนจังหวัดขอนแก่นอาจจะไม่เคยได้ยินหรือลิ้มรสไก่ย่างรสชาติเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดดิฉันมาก่อน ซึ่งไก่ย่างที่ว่านี้ มีต้นกำเนิดอยู่ที่ อำเภอเขาสวนกวาง ซึ่งห่างจากตัวเมืองขอนแก่นออกไปประมาณ 70 กิโลเมตร สามารถเดินทางไปได้ด้วยถนนมิตรภาพ ซึ่งจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ ตลอดสองข้างทาง จะมีร้านไก่ย่างเขาสวนกวางส้มตำเรียงรายอยู่ ซึ่งรสชาติดีงามทุกร้านนะคะ แต่ถ้าไม่สะดวก ไม่มีเวลาขับรถออกไปนอกเมือง ดิฉันขอนำเสนอร้าน คุณหน่อยไก่ย่างเขาสวนกวาง ที่ตั้งอยู่บนถนน กลางเมือง ณ ใจกลางเมืองขอนแก่น ซึ่งเปิดบริการทุกวันตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า จนถึงสามทุ่ม! 07:00 - 21:00 น. เรียกว่ามาทานกันได้ครบทั้ง 3 มื้อเลยนะคะ หน้าร้านเมนูทางร้านมีการโปรโมทเมนูหนักมาก ช่วยในการตัดสินใจของพวกเราก่อนที่จะเดินเข้าร้าน จะได้เข้าไปปุ๊บ สั่งอาหารได้ปั๊บ รวดเร็วทันใจ ที่สำคัญคือข้าง ๆ ร้าน มีบริการที่จอดรถ ครั้งละ 30 บาทค่ะ สะดวกมาก ๆ สำหรับท่านที่เดินทางมาโดยรถยนต์ส่วนตัว เพราะในตัวเมืองหาที่จอดรถริมถนนได้ยากยิ่งนัก แต่ถ้าดูเมนูนอกร้านแล้วยังไม่พอใจ เดินเข้ามาในร้านก็ได้นะคะ นอกจากอาหารทางร้านยังขายของที่ระลึกด้วยนะคะ มาที่เดียวได้ครบทุกอย่างค่ะ ดิฉันและเพื่อนมีความตั้งใจในการมาทานตำซั่วอย่างแรงกล้า คือคิดเมนูกันตั้งแต่ก่อนออกจากบ้านเลยทีเดียว ฉะนั้นเมนูแรกที่เราสั่งก็คือ ตำซั่ว ราคา 50 บาท ตำซั่วคือส้มตำลาวใส่เส้นขนมจีนค่ะ ในช่วงแรก ๆ ที่ส้มตำมีเพียงตำลาวกับตำไทย การมีส้มตำที่ใส่เส้นขนมจีนลงไปถือว่าเป็นส้มตำที่แฟนซีที่สุดแล้วในยุค 80-90 ชื่อเต็ม ๆ ของตำซั่ว คือ ตำมั่วซั่ว เนื่องจากการใส่เส้นขนมจีนลงไปในส้มตำในยุคนั้น ถือว่าเป็นการกระทำที่มั่วซั่วที่สุดแล้วหละค่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า แต่ในยุคนี้ส้มตำของเราไปไกลกว่าเดิมมาก ๆ เลยนะคะ มีสารพัดตำ จนตำซั่วเป็นตำปกติสามัญไปแล้วตำซั่วตำซั่วตำซั่วรสเด็ด สีสันแสบสัน ใส่ทั้งพริกสดและพริกแห้ง ทำให้หอมพริกแห้ง แต่ไม่เผ็ดมาก(รึเปล่า) ที่สำคัญคือมีการใส่มะเขือเปราะ ทำให้มีรสหวานฝาดขมนิด ๆ ถูกใจ ชาวอีสานยิ่งนัก ตำต่อมาเป็นตำที่ต้องมาเป็นแพคคู่ ตำที่ดิฉันตำทานเองเสมอ และตำไปสู่เพื่อนฝรั่งเป็นประจำเมื่ออยู่ต่างประเทศ นั้นก็คือตำแตง ที่ต้องมากลับไข่เป็ดต้ม! ตำแตง เป็นตำที่ให้ความสดชื่นมาก ๆ นะคะ เพื่อน ๆ ชาวต่างชาติหลาย ๆ คนชื่นชอบตำแตงมาก ๆ ตื่นตาตื่นใจ คล้ายถูกเปิดโลกทัศน์ เพราะปกติจะรู้จักแต่ส้มตำ และรู้สึกว่าทำตามได้ยาก สับมะละกอไม่เป็น แต่พอเป็นแตงรู้สึกว่าน่าจะพอทำทานเองได้ หลาย ๆ คนมักถามดิฉันว่า "ฉันขอสูตรสลัดแตงกวาของเธอได้รึเปล่า มันเป็นสลัดที่ทานแล้วสดชื่นมาก ๆ เลยทีเดียว ฉันหวังว่ามันจะทำได้ไม่ยากนักนะ เพราะฉันชอบมากจริง ๆ " ตำแตงไข่ต้มตำแตงตำแตงไข่ต้ม ราคาชุดละ 50 บาท ถ้าเฉพาะตำแตงอย่างเดียว 30 บาทค่ะ มาลองทานเพื่อเพิ่มความสดชื่นและเพิ่มโปรตีนให้กับชีวิตได้นะคะ มาถึงเมนูเด็ด ไก่ย่างเขาสวนกวาง เราสั่งกันมาครึ่งตัว 80 บาทค่ะ ถ้าทั้งตัวราคา 150 บาทค่ะ ไก่ย่างเขาสวนกวางนี้ จะมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์พิเศษ แตกต่างจากไก่ย่างทั่ว ๆ ไป หอมกลิ่นเครื่องปรุงและกระเทียมเจียว นอกจากนั้นเนื้อไก่ด้านนอกจะแห้ง ๆ กรอบ ๆ เนื้อด้านในจะแน่น ซึ่งเป็นเนื้อสัมผัสที่แตกต่างจากไก่ย่างธรรมดา ๆ ไก่ที่นำมาย่างเป็นไก่บ้าน เนื้อจึงแน่นเพราะเป็นกล้ามเนื้อ ไม่ใช่เนื้อไก่เหลว ๆ เหมือนไก่ที่เลี้ยงในโรงเลี้ยงไก่ค่ะ ไก่ย่างเขาสวนกวางไก่ย่างไก่ย่างเขาสวนกวาง มาพร้อมกับน้ำจิ้มสองชนิด แต่ตัวไก่เองก็รสชาติดี ไม่ต้องจิ้มอะไรก็รสเลิศถูกใจแล้วล่ะค่ะ ต่อมาเป็นเมนูที่เรารักกันมาก เป็นได้ทั้งของทานเล่น และกับข้าวจริงจัง นั้นก็คือไส้กรอกอีสาน ซึ่งจะมาพร้อมกับเครื่องเคียง คือ หอมแดง พริกสด และถั่วลิสงค่ะ ไส้กรอกอีสานนี้ ราคาชุดละ 60 บาทค่ะ ไส้กรอกอีสานนี้ ไส้ด้านนอกมีสัมผัสที่กรอบจากการถูกย่างจนได้ที่ เนื้อหมูด้านในผสมมันหมูพอประมาณไม่ใช่แบบที่ผสมมันหมูเยอะมาก ๆ จนมีแต่วิญญาณหมูบด เนื้อแน่น รสชาติเปรี้ยวเค็ม ดีงามค่ะ ดิฉันไม่ค่อยทานไส้กรอกอีสานกับพริกหรือหอมแดงนะคะ แต่ถั่วลิสงไม่เหลือทุกรอบค่ะ มาถึงเมนูแกงของชาวอีสาน ที่อุดมไปด้วยผักมีประโยชน์ นั้นก็คือ แกงอ่อมกระดูกหมูอ่อน ราคาถ้วยละ 60 บาท เท่านั้น! แกงอ่อมเป็นแกงที่มีผักและสมุนไพรเป็นส่วนประกอบเยอะมาก เป็นแกงที่มีกลิ่นหอมของสมุนไพรพื้นบ้าน และเต็มไปด้วยผักอุดมด้วยวิตามิน แกงอ่อมโดยทั่วไปเป็นแกงที่มีรสเค็มนำ หอมนัวด้วยน้ำปลาร้า และขมนิด ๆ จากสมุนไพร แบบไม่สังเกตก็ไม่รู้สึกตัว แกงอ่อมกระดูกหมูถ้วยนี้ รสชาติอีสานแท้มาก ๆ ค่ะ ถ้าได้ซดน้ำแกงในคืนฤดูหนาว จะเป็นอะไรที่เยี่ยมยอดมาก นี่ขอบอกตามตรงว่าเขียนรีวิวไปก็หิวเอง ชะรอยวันพรุ่งนี้จะได้กลับไปทานร้านคุณหน่อยอีกครั้ง ถ้าคุณอยู่ขอนแก่นแต่ไม่สะดวกไปที่ร้านเอง ชอบทานอาหารที่บ้าน สามารถสั่งอาหารของทางร้านได้จากแอปพลิเคชันเดลิเวอรี่ต่าง ๆ นะคะ #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 2
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/08
scene type icon
คุณแจงก๋วยเตี๋ยวปากหม้อเข้าวัง อำเภอเมืองขอนแก่น ก๋วยเตี๋ยว
รีวิว คุณแจงก๋วยเตี๋ยวปากหม้อเข้าวัง: ทุกสรรพสิ่งดียิ่งนัก เวลาเที่ยงตรง "ตื่นรึยังแก...ไปหาอะไรกินกัน มื้อบ่าย" เพื่อนสนิทสมัยมัธยมของดิฉันส่งข้อความมา ในขณะที่ดิฉันกำลังทานอาหารเที่ยง "จะกินอะไรอะ" ดิฉันถามต่อ "อะไรแซ่บ ๆ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ อะไรแบบนี้ มีร้านไหนแนะนำไหม" เพื่อนสาวของดิฉันสอบถาม เนื่องจากทราบดีว่าดิฉันเขียนรีวิวร้านอาหาร มาได้สักพักแล้ว "ไปกินร้านคุณแจงตรงวัดศรีนวล ไหมแก" ดิฉันส่งข้อความตอบ ก่อนจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมพร้อมไปทานอาหารมื้อบ่ายกับเธอ ไม่นานนักรถยนต์ของเธอก็มาเทียบที่หน้าบ้านของดิฉัน "วัดศรีนวลคือวัดที่ฉันเข้าใจรึเปล่าแก" เพื่อนของดิฉันสอบถามระหว่างออกรถ ดิฉันไม่แน่ใจจึงเปิด Google Map เพื่อแสดงเส้นทางให้เธอดู แล้วเราก็มาถึงร้านคุณแจงก๋วยเตี๋ยวปากหม้อเข้าวัง ซึ่งอยู่เยื้อง ๆ กับประตูทางเข้าวัดศรีนวล ด้านถนนหลังเมืองพอดี ด้วยความไม่ชินเส้นทาง เธอจึงขับรถเลยร้านไป ทำให้เราต้องวนไปหาที่จอดรถกันในวัดศรีนวล แล้วเดินออกจากวัดมาที่ร้านแทน ร้านคุณแจงร้านคุณแจงก๋วยเตี๋ยวปากหม้อเข้าวัง เป็นบริการทุกวันตั้งแต่ 9:00 - 16:00 น. แต่มักจะหมดก่อนสี่โมงเย็นนะคะ เพราะฉะนั้นอย่าชะล่าใจเชียวนะคะ เดี๋ยวจะอดทานก๋วยเตี๋ยวปากหม้อรสชาติเลอเลิศ คุณแม่ค้าก็น่ารัก ร่าเริงแจ่มใสมาก ๆ นะคะ ขอถ่ายรูปก็ชูนิ้ว ยิ้มสู้กล้องทันที พร้อมทั้งกล่าวว่า "ถ้ามีอะไรผิดพลาดขออภัยด้วยนะคะ" ดิฉันคือประทับใจมาก ๆ นอกจากอาหารจะมีรสชาติดีเลิศประเสริฐศรีแล้ว คุณแม่ค้ายังมีจิตใจอ่อนโยน รักในการทำงานบริการอีกด้วยนะคะ เมื่อเราเดินเข้ามาในร้าน และได้โต๊ะนั่งแล้ว เราก็มาพิจารณาเมนูกันค่ะ แต่ละอย่างคือน่าทานมาก ๆ รูปในเมนูก็สวยมาก ๆ เมนูเมื่อเลือกได้แล้วก็หยิบกระดาษและปากกาที่อยู่บนโต๊ะมาเขียนรายการอาหารที่ต้องการ และหมายเลขโต๊ะลงไปค่ะ จากนั้นก็นำไปส่งให้พนักงานเสิร์ฟ แล้วก็นั่งคุยกับเพื่อนรออาหารรสเลิศมาเสิร์ฟค่ะ เมนูที่เพื่อนของดิฉันเลือกในวันนี้คือ ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อน้ำข้น ราคา 40 บาท เพราะเธอชอบแทะตีนไก่ เมื่ออาหารของเธอมาถึงเธอดูจะมีความพึงพอใจ เพราะเป็นครั้งแรกที่เธอได้ทานก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ ที่ทำหน้าที่เป็นเส้นก๋วยเตี๋ยว! เป็นการนำเมนูก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ มาต่อยอดเป็นอาหารมื้อหลักได้อย่างน่าสนใจ และรสชาติดีมาก ๆ อีกด้วยค่ะ ตัวซุปรสชาติกลมกล่อมเข้มข้นพอดี ไม่เค็มจัด ไม่หวานจ๋อย ซดได้สบายใจค่ะปากหม้อ ในส่วนของก๋วยเตี๋ยวปากหม้อที่ทำหน้าที่แทนเส้นก๋วยเตี๋ยว มีด้วยกัน 4 ไส้ คือไส้กุยช่าย ไส้ข้าวโพด ไส้แครอทและหมูบด และไส้ผัก ตีนไก่เนื้อเปื่อยพอดี ในขณะที่กระดูกไก่ก็นิ่ม แต่เนื้อไก่กลับไม่หลุดลุ่ย ยุ่ยเปื่อยจนล่อนหลุด เป็นที่ถูกใจมาก ๆ ค่ะ นอกจากตีนไก่ก็ยังมีน่องไก่ด้วยนะคะ เนื้อนุ่ม รสเข้ม ดีต่อใจมาก ๆ ค่ะ ต้มยำไข่ มาถึงฝั่งดิฉัน ผู้สั่งก๋วยเตี๋ยวปากหม้อต้มยำไข่ ราคา 50 บาท อย่างจะเกริ่นนำก่อนว่า ทุก ๆ อย่างดีมากจริง ๆ ค่ะ ไม่มีอะไรจะติ มีแต่จะชมค่ะ ตัวน้ำซุปเป็นต้มยำที่รสชาติน่ารัก เปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด ตามสไตล์ก๋วยเตี๋ยวต้มยำที่ยำด้วยพริกป่น ที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนคือการปรุงรสเค็ม ด้วยกุ้งแห้งฝอย ทำให้ซุปต้มยำสีส้มสวย และหอมกลิ่นกุ้งแห้งเพิ่มเข้าไปอีก ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อไส้ข้าวโพด แป้งนุ่มเหนียว ข้าวโพดรสหวานตามธรรมชาติ ดีเลิศ ถูกใจสุด ๆ ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อไส้กุยช่าย ปรุงรสไส้เค็มพอดี และที่สำคัญคือกุยช่ายไม่มีส่วนที่แข็งเลยค่ะ บ่งบอกว่าทางร้านคัดเลือกใบกุยช่ายเฉพาะที่อ่อน ๆ เท่านั้น ใส่ใจในการคัดเลือกสุด ๆ เพื่อรสสัมผัสที่ดีงามของลูกค้า ไข่เป็ดต้มยางมะตูม...ต้มได้สวยงาม น่ารับประทาน และรสดีถูกใจคนชอบไข่ต้มยางมะตูมที่สุดเลยค่ะ หมูสดลวก นุ่มหนา รสละมุน ไม่แข็งเหนียว เคี้ยวลำบาก ถูกอกถูกใจคนรักหมู่นุ่มค่ะ หมูบะช่อ และลูกชิ้นหมู หมูบะช่อเน้นเนื้อหมู ไม่ใช้หมูบดที่เน้นมันหมูตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป จึงทำให้ได้รสชาติของหมูเต็ม ๆ ไม่เลี่ยนด้วยมันหมู ลูกชิ้นหมูเป็นลูกชิ้นเนื้อหมู ไม่ใช่ลูกชิ้นแป้งวิญญาณหมู รสชาติเลิศเลอ คนชอบลูกชิ้นหมูแท้ต้องถูกใจสิ่งนี้ค่ะ กุยช่าย แม้ก๋วยเตี๋ยวแต่ละชามจะให้ปริมาณเยอะมาก จนคนหนึ่งคนควรอิ่มได้แล้ว แต่ดิฉันก็ยังคงไม่พึงพอใจ ต้องสั่งขนมกุยช่ายปากหม้อมาทานเพิ่มค่ะ ซึ่งไม่ผิดหวังเลยค่ะ เพราะไส้กุยช่ายนิ่มดี ไม่มีต้นแข็ง ๆ ให้เสียอารมณ์ แป้งก็นุ่มเหนียวบางพอดี น้ำจิ้มรสชาติกลมกล่อม ขนมกุยช่ายปากหม้อ ราคาชุดละ 30 บาท มาพร้อมกับน้ำจิ้มและกระเทียมเจียว ให้มาใส่เอาเองเผื่อไม่ชอบกระเทียมเจียวค่ะ เมื่อทานเสร็จดิฉันก็สั่งกลับบ้าน แล้วกลิ้งออกจากร้านมา ด้วยพุงกลม ๆ เดชะบุญ! ที่สั่งกลับบ้านเร็ว เพราะเดินออกมาจากร้านก็พบว่า วันนี้คุณแจงขายหมดแล้วนะคะ... เพิ่งจะบ่ายสองโมงกว่า ๆ เองค่ะ ยังไม่ถึงเวลาปิดร้านเลยด้วยซ้ำ ฉะนั้นใครอยากมาทานก๋วยเตี๋ยวปากหม้อรสชาติดีงาม ควรรีบมานะคะ อย่าชะล่าใจเชียว ถ้ามาไม่ได้จะสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชั่นเดลิเวอรี่ ก็สะดวกดีนะคะ แต่อย่าลืมรีบสั่งก่อนที่เมนูโปรดของคุณจะหมดนะคะ การทานอาหาร บางครั้งไม่ได้เป็นไปเพื่อให้ท้องอิ่ม แต่เป็นไปเพื่อให้ใจอิ่มนะคะ อาหารรสชาติถูกปากจะเป็นมื้ออาหารที่แสนวิเศษ หากผู้ที่ร่วมรับประทานอาหารกับเรา คือ คนที่มีความสำคัญกับเรา ไม่ว่าอาหารนั้นจะรสชาติดีแค่ไหน แต่ถ้าจิตใจของผู้ทานขื่นขม อาหารมื้อนั้นก็ไม่อาจจะให้ความสุขใจแก่ผู้ใดได้ ฉะนั้นเรามาฝึกเป็นผู้ร่วมรับประทานอาหารที่มีคุณภาพ โดยการใช้การรับประทานอาหาร เป็นโอกาสในการสื่อสารความรู้สึกและความห่วงใย ให้แก่ผู้ร่วมโต๊ะรับประทานอาหารของเรากันดีกว่านะคะ #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 2
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/08
scene type icon
ก๋วยจั๊บเศรษฐี สาขา 62Blocs อำเภอเมืองขอนแก่น เมนูเส้น
ร้านตกแต่งด้วยรูปการ์ตูนน่ารักดี น่านั่ง บรรยากาศสบาย เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย เมนูเยอะดี ชอบซุปหมาล่า เผ็ด เปรี้ยว ซดแล้วสดชื่นดี เส้นก๋วยจั๊บอุบล แบบสั่งเพิ่มให้ปริมาณเยอะมาก เลือดทำได้ดี มีกลิ่่นหอมสมุนไพร มีพริดฝกผัดน้ำมัน หอมๆ ถูกใจ #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 3
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/08
โตเกียวเบเกอรี่ อำเภอเมืองขอนแก่น เบเกอรี่/เค้ก
ร้านโตเกียวเบเกอรี่  ร้านขนมปังเก่าแก่ของจังหวัดขอนแก่น เป็นทั้งโรงงานผลิตขนมปังและเบเกอรี่ต่าง ๆ ที่เราน่าจะคุ้นเคยกันดี เช่น ขนมปังแข็ง ๆ ที่ใส่ในน้ำแข็งไส ขนมปังรองไอติม แซนวิชไส้หมูหยองซอสหวาน ๆ ร้านยังคงเอกลักษณ์ของการจัดเรียงสินค้าในตู้กระจก มาทีไรรู้สึกเหมือนได้ย้อนยุคกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ขนมปังร้านนี้จะเนื้อแข็ง ๆ มีรสหวาน เหมาะเอาไปอบกรอบ เพราะกรอบเร็วมาก ไม่เปลืองไฟ ขนมปังมีทั้งแบบสี่เหลี่ยม และแบบกะโหลก ความหนาของแผ่นขนมปังมีความหลากหลาย ตามแต่การนำไปใช้งานของเรา หนาสุดคือปอนด์นึงหันได้ 13 แผ่น เหมาะสำหรับการทำโทสต์ ขนมปังราคาปอนด์ละ 27 บาท #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 4
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/08
scene type icon
วีที แหนมเนือง สาขาหน้าหอโคราชแมนชั่น by The Red Roof อำเภอเมืองขอนแก่น อาหารเวียดนาม
วีทีแหนมเนือง สาขาหลังคาแดง ร้านสวยมาก ๆ มีที่นั่งทั้งด้านในเป็นห้องปรับอากาศและด้านนอกรับลมตามธรรมชาติ มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะเลย อาหารรสชาติกลาง ๆ แหนมเนืองชุดเล็ก หมู 3 ไม้ 160 บาท หมูผสมมัน ถ้าใครชอบมัน ๆ ก็คงชอบ แต่เราชอบแบบไม่ผสมมัน พริกที่ให้มา ไม่ซอยพริก เรากับเพื่อน ๆ ก็อึ้ง ๆ หน่อยนึงแต่ไม่เป็นไร แค่รู้สึกว่าอุตส่าห์จัดจานมาสวย ๆ ถ้าหั่นพริกจะน่ากินกว่านี้เนาะ ยำมาม่าทะเล 119 บาท พวกเราคิดว่า มาม่าลวกนานเกินไป เส้นมันนุ่มเกิน แต่ คนที่ชอบเส้นนุ่ม ๆ น่าจะถูกใจเลยนะ รสชาติยำออกหวาน ซึ่งเพื่อนเราชอบ กุ้ง และปลาหมึกลวกแล้วหดจิ๋วน่าเอ็นดู แหนมซี่โครงหมูทอด 70 บาท ดูสีมันแดงจังเลย แต่ไม่เปรี้ยวนะ ออกเค็มมากกว่า #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 4
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/08
scene type icon
เพื่อนละยำ อำเภอเมืองขอนแก่น ยำ
รีวิวร้านเด็ด เพื่อนละยำ "กินยำได้ไหมวันนี้" เพื่อนดิฉันกล่าวขึ้น เธอคงจะออกกำลังจนเมื่อยไปทั้งตัว จนต้องการเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าให้กับร่างกาย ด้วยยำรสแซ่บเป็นแน่นแท้ "ได้สิ ไปร้านไหนล่ะ" เพื่อนสาวผู้รับหน้าที่สารถีกล่าวถาม "เพื่อนละยำ" เจ้าของโครงการทานยำมื้อค่ำกล่าว "อะไรนะ" ดิฉันและเพื่อนสาวสารถีพูดขึ้นพร้อมกัน ด้วยความไม่แน่ใจว่าทำไมเราสองคนจึงโดนด่า "ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ร้านยำชื่อเพื่อนละยำ" เพื่อนสาวหัวเราะ พร้อมกับบอกเส้นทางการเดินทางไปยังร้านยำอันเป็นจุดหมาย ร้านเพื่อนละยำ ละ สะกดด้วย ล ลิง ตั้งอยู่ในซอยพิมานคอนโดพาร์ค (ซอยใหญ่รถยนต์สวนกันได้ค่ะ เรียกว่าถนนได้เลยนะคะ) ใกล้กับด้านหลังของมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นโซนที่มีร้านอาหารเรียงรายทั้งสองฟากฝั่งถนน เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 12:00 - 21:00 น. ทุกวันยกเว้นวันพฤหัสบดีนะคะ ภายในร้านติดเครื่องปรับอาการเย็นฉ่ำ ตกแต่งร้านด้วยสีโทนอบอุ่นจากเฟอร์นิเจอร์ไม้ และสีส้ม โดนใจลูกค้าส่วนใหญ่ซึ่งเป็นนักศึกษาและพนักงานในมหาวิทยาลัยขอนแก่นโดยเฉพาะสีอิฐ อันเป็นสีประจำมหาวิทยาลัย ฝาผนังถูกประดับประดาด้วยภาพถ่ายของเมนูต่าง ๆ ของทางร้าน ซึ่งยิ่งเรียกน้ำย่อยจากลูกค้าภายในร้านได้เป็นอย่างดี จานชามช้อนส้อม ถูกจัดวางไว้อย่างเป็นสัดส่วน ในเราได้พิจารณาเลือกหยิบได้ตามใจปรารถนา มีน้ำแข็งและน้ำดื่มบริการฟรีด้วยนะคะ "คนมีความรักต้องใช้สีชมพู" เพื่อนของดิฉันกล่าวขึ้น พร้อมกับวางแก้วน้ำจานชามลงบนโต๊ะ เมื่อได้จานชามที่พึงพอใจแล้ว เราก็มาดูเมนูกันค่ะ ว่าเราจะทานอะไรกันดี ทางร้านจะมีรายการเมนูประจำโต๊ะทุกตัว พร้อมปากกาเพื่อให้เราได้พิจารณาและเขียนจำนวนอาหารที่ต้องการ แล้วส่งให้กับพนักงาน เพื่อความรวดเร็วในการสั่งอาหาร ส่วนคนที่กำลังงงว่าเมนูสุดท้ายคืออะไร ข้าวปุ้น คือ ขนมจีน นั้นเองค่ะ บางทีคนอีสานก็เรียกขนมจีนว่า ข้าวปุ้น หรือ ขนมเส้น ค่ะ มาถึงเมนูแรกที่เราเลือกมาทานกันด้วยความสามัคคี นั้นก็คือ... ยำทะเลรวม ลวก ราคา จานละ 160 บาท (ไม่ใส่ผลชูรส) สีสันสดใสมาก แค่มองก็รับรู้ได้ถึงความแซ่บ แล้วถ้าแซ่บไม่พอ ทานร้านก็มีมะนาวมาให้บีบเพิ่มตามความปรารถนาได้อีกต่างหาก แต่เมื่อพวกเราได้ชิมกันแล้วก็พบว่า... "แซ่บแล้วแก ไม่ต้องบีบมะนาวเพิ่มเลย" เผ็ด เปรี้ยว เค็ม หวาน ลงตัวค่ะยำ นอกจากนี้ทางร้านยังใช้หอมแดง ซึ่งทำให้ไม่มีกลิ่นฉุนเหมือนการใช้หอมหัวใหญ่ มีการเพิ่มข้าวโพดหวานต้มและแครอท เพื่อเพิ่มรสหวานและกากใยเพื่อสุขภาพไปอีก ดิฉันและเพื่อนมีความพึงพอใจในรสชาติของยำจานนี้กันทุกคนค่ะ จานต่อมาจะบอกว่าตะลึงมาก ๆ เพราะตอนที่พวกเราสั่ง เราไม่ได้คาดหวังอะไรเลย แค่อยากลองเมนูใหม่ ๆ ที่พวกเรายังไม่เคยทานก็เท่านั้นเอง เมนูนั้นก็คือ... ตำหน่อไม้ ราคาจานละ 50 บาท และเพียงแค่ 50 บาทเท่านั้น! ปริมาณเยอะมาก ๆ มากจนพวกเรานิ่งเงียบกันไป 3 วินาที ก่อนที่ดิฉันจะเอ่ยปากขึ้นมาว่า " 50 บาท ทำไมให้เยอะจังแก จะกินหมดเหรอ" นี่เขาใส่หน่อไม้ไปกี่หน่อ! คุณพระคุณเจ้า! แล้วไม่ใช่แค่ปริมาณนะคะ ที่ทำให้เราตะลึง รสชาติก็ตราตึงใจมาก ๆ หน่อไม้เป็นหน่อไม้ต้มมีรสหวาน ไม่ใช่หน่อไม้ดองเปรี้ยว ๆ นะคะ แล้วหน่อไม้มาเป็นท่อน ๆ ท่อนใหญ่สะใจมาก ๆ แม่เอ๊ย... รสชาติของส้มตำก็ดีมาก ๆ เค็ม หวาน เผ็ด เปรี้ยว พอดิบพอดีจริง ๆ ดีจนดิฉันและเพื่อนสมาชิกได้ลงความเห็นกันว่า "เราต้องไปกินยำ ที่ร้านเพื่อนละยำกันอีกนะแก" ร้านเพื่อนละยำ เป็นร้านยำที่สะอาดสะอ้าน ตกแต่งสวยงาม มีแอร์เย็นฉ่ำ แถมเมนูก็เยอะมาก ๆ ค่ะ ทั้งตำ ทั้งยำ สารพัดเมนู น่าสนใจทั้งนั้นเลย หากคุณชื่นชอบเมนูยำแซ่บ ๆ หรือตำสารพัดตำรสเลิศ รีบชักชวนเพื่อนไปทานยำเป็นเพือนกัน คนละยำสองยำด่วน ๆ เลยนะคะ (ไปคนเดียวทานได้แค่เมนูเดียวแน่ ๆ ค่ะ เพราะที่ร้านให้ปริมาณเยอะมาก ๆ ) เป็นร้านยำที่ดีทั้งบรรยากาศและรสชาตินะคะ #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 3
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/07
scene type icon
The Soya น้ำเต้าหู้ร้อยปี อำเภอเมืองขอนแก่น ของหวาน
ร้านน้ำเต้าหู้ร้อยปี ที่สุดแห่งน้ำเต้าหู้ อยู่คู่เมืองขอนแก่นมาตั้งแต่ยุคก่อร่างสร้างเมืองเมื่อ 100 ปีก่อน เอกลักษณ์ประจำร้านคือการใช้กะลามะพร้าวเป็นเชื้อเพลิง ในการต้มน้ำเต้าหู้ด้วยเตาอั้งโล่ ทำให้น้ำเต้าหู้มีกลิ่นหอมของกะลามะพร้าว น้ำเต้าหู้เนื้อเนียนไร้เทียมทานสุด ๆ คุณลุงเจ้าของร้านน่ารักมาก ๆ มากี่ครั้งก็ยังประทับใจ สามารถไปขอถ่ายรูปภายในร้านได้นะคะ น้ำเต้าหู้ราคาขวดละ 15฿ ค่า #Bigfriday1 #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 3
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/07
scene type icon
ครัวหยก อำเภอเมืองขอนแก่น อาหารตามสั่ง
ครัวหยก อร่อยคงเดิม ดีงามไม่เคยเปลี่ยน กระเพาปลาราคาชามละ 60 บาท ให้เยอะ คุณภาพแน่น ใส่เนื้อปูเป็นก้อน ๆ รสชาติดีเลิศสุด ๆ ไม่เค็มไป ไม่ฉุนพริกไทย ถูกใจมาก ๆ ราดหน้าปู ราคาชามละ 60 บาท รสชาติละมุนครบรสมากคาะ เนื้อปูมาเต็ม ๆ ผัดหมี่ฮ่องกงใส่กะหล่ำและเนื้อปู 70 บาท ผัดมาได้รสชาติพอดีสุด ๆ กลมกล่อมมาก ๆ กุ้งผัดพริก ราคา 150 บาท กุ้งสดมาก เนื้อแน่นมาก ๆ ตัวโตสะใจสุด ๆ ผัดได้ เผ็ด อร่อย กลมกล่อมมาก ๆ #Bigfriday1 #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 4
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/07
scene type icon
โพโมโดโร ขอนแก่น (Pomodoro Khonkaen) อำเภอเมืองขอนแก่น อาหารอิตาเลียน
Pomodoro อาหารอิตาเลี่ยนแท้ อีหลีเด้อ... พิซซ่า ดีมากกกกก ละมุนมากกก มอสซาเรลล่าชีสคือดีงามน้ำตาไหล ไม่ได้กินพิซซ่าหน้าปลาแองโชวี่มานาน ในที่สุดก็ได้กินซะที อร่อยสมใจมาก ๆ อาหารที่สั่งมาคือ ดีทุกเมนูจริง ๆ การบริการก็ดีมาก ๆ พนักงานน่ารักทุกคน ยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นเรื่องราวดี ๆ ในวันนี้ค่า... #Bigfriday1 #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 2
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/05
scene type icon
กาแฟเขียดเขียว ออนซอน อำเภอเมืองขอนแก่น สตรีทฟู้ด/รถเข็น
กาแฟเขียดเขียว ออนซอน : ร้านเครื่องดื่มรสเข้มข้นแต่ราคาเบาหวิว เมื่อหลายปีก่อน ดิฉันเดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อน ๆ ของดิฉันได้สอบถามดิฉันว่า "เคยกินเขียดเขียวไหม" "ห๊ะ...ไม่เคย" ดิฉันนึกถึงกบเขียด กบเขียดเป็นอาหารปกติของชาวอีสาน ซึ่งดิฉันเคยทานกบนึ่วกบทอด ตอนสมัยเป็นเด็ก ๆ พอโตมาก็ไม่กล้าทานอีกเลย เพราะกลัว ฮ่าฮ่าฮ่า พอโตมาเพื่อนชวนกินเขียดเขียว ดิฉันถึงกับสะดุ้งเลยทีเดียว "ไม่ใช่กบเขียดนะ เขียดเขียวเป็นร้านน้ำที่ดีมาก ๆ " "เหรอ ๆ ไม่เคยกินเลย" ได้ยินว่าเป็นร้านน้ำก็ค่อยสบายใจขึ้นหน่อย ฮ่าฮ่าฮ่า "ร้านนี้ดีมาก ๆ เลยนะ เธอต้องลอง" เพื่อนของดิฉันกำชับ พร้อมทั้งขับรถพาดิฉันไปซื้อเครื่องดื่มในความมืด ก่อนที่พวกเราจะไปทานอาหารมื้อเย็นกัน ซึ่งในครั้งนั้น ดิฉันรู้สึกประทับใจรสชาติที่เข้มข้น และราคาที่ถูกเกินคำว่าคุ้มค่าไปมาก ของเครื่องดื่มจากร้านเขียดเขียว ฉะนั้นดิฉันจึงได้กลับมาที่ร้านนี้กับเพื่อนกลุ่มเดิมอีกครั้ง เพื่อมาทำหน้าที่ของลูกค้าที่ดี มารีวิวความประทับใจเพื่อแบ่งปันร้านเครื่องดื่มดี ๆ ในจังหวัดขอนแก่น ให้แก่ชาวขอนแก่นเอง และผู้มาเยือนทุก ๆ ท่านค่ะ ณ ปัจจุบันนี้ ร้าน เขียดเขียว ออนซอน ตั้งอยู่บนถนนเหล่านาดี ถนนเส้นเดียวกันกับโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 8:30 - 19:00 น. โดยมีที่จอดรถคือริมฟุตบาท มีม้านั่งสีเขียว และเก้าอี้ไม้ให้นั่งรอ เพิ่มเติมคือตอนนี้ทางร้านมีก๋วยเตี๋ยวด้วยนะคะ เดี๋ยวรอบหน้าจะมาทาน ฮ่าฮ่าฮ่า เมนูทางร้านมีเมนูเยอะมาก ๆ แค่มองดูเมนูก็ตาลาย มีตั้งแต่เครื่องดื่มที่มีนมเป็นส่วนประกอบ และเมนูโซดาต่าง ๆ เริ่มตั้งแต่กาแฟอันโด่งดัง ชานานาชนิด โกโก้ สมูทตี้ บ๊วยโซดา กีวีโซดา แดงมะนาวโซดา ฯลฯ เลือกแทบไม่ถูกว่าจะดื่มอะไร เห็นชื่อเมนูไหน ๆ ก็ใจไหวหวั่น ซึ่งราคาเครื่องดื่มเริ่มต้น ที่ 25 บาทเท่านั้น! แต่เป็น 25 บาทแบบเข้มข้นสุด ๆ ชนิดที่ว่าร้านรวงทั่วไปไม่สามารถเทียบเทียมได้เลยหละค่ะ เมื่อเลือกเมนูที่ต้องการได้แล้วก็หยิบกระดาษรีไซเคิลในกระป๋องมาเขียนลงไป แล้วยื่นให้คุณแม่ค้าค่ะ กระดาษจดรายการกระดาษและปากกาบนโต๊ะเขียวหน้าร้าน สำหรับเขียนรายการเครื่องดื่ม เลือกเสร็จแล้ว ส่งใบรายการให้คุณแม่ค้าแล้ว ก็มานั่งรอค่ะ ระหว่างนั่งรอก็มีขนมกรุบกรอบหลอกเด็กและผู้ใหญ่ ให้เราได้พิจารณาเพลิน ๆ ไปด้วย ขนมกรุบกรอบขนมขนมเยอะมากหลากชนิดสุด ๆ มุมซ้ายของภาพคือมะยมเชื่อมค่ะ ดูสะอาดน่าทานมาก ๆ ขนมที่รับจากร้านอื่น ๆ มาขายต่อนี้ เป็นการช่วยส่งเสริมให้ผู้ค้ารายย่อยคนอื่น ๆ ได้มีโอกาสในการสร้างรายได้ และผู้ซื้อนอกจากจะได้เครื่องดื่มแล้ว ยังได้ขนมกลับไปอีกด้วย เป็นการทำการค้าที่ทุก ๆ คนมีความสุข จริง ๆ เลยนะคะ เมนูมาก อุปกรณ์ครบชงเครื่องดื่มด้วยความที่ทางร้านมีเมนูเยอะมาก อุปกรณ์ในการชงและเตรียมเครื่องดื่ม จึงต้องจัดเต็มครบทุกสิ่งเช่นเดียวกัน ชามะนาวปั่นชามะนาวปั่น เนื้อละเอียด รสเข้มข้น ชามะนาวปั่นชามะนาวปั่น แก้วเล็ก 40 บาท หอมกลิ่นชา รับประกันความเข้มข้นของรสชาติ เกล็ดน้ำแข็งเนื้อเนียนละเอียด ดื่มแล้วสดชื่น น้ำตาไหลในความคุ้มค่า อนุโมทนาในการทำการค้าหวังผลบุญ ชาเนสทีนม ชาเนสที แก้วเล็ก ราคา 30 บาท หอมกลิ่นชา รสเข้มข้น กลมกล่อมไม่หวานโดด ดื่มแล้วสุขใจ ช็อกโกแลตมินต์ ของดิฉันเอง... ที่มินต์หมดพอดี ใส่ได้ไม่ครบตามสูตรอันเข้มข้นของทางร้าน ทางร้านเลยคิดราคา 30 บาท จาก 35 บาท ช็อกโกแลตเข้มข้นสุด ๆ มีกลิ่นมิ้นต์หอมเย็น ดิฉันซึ่งเป็นคนไม่ชอบทานหวาน ก็ได้เครื่องดื่มรสชาติเข้มข้นหวานน้อย แบบพอดีสุด ๆ หวานขมลงตัว ดื่มแล้วอิ่มมาก ๆ ด้วยความที่ทางร้านใส่นมให้แบบหนัก ๆ เลยค่ะ เพิ่มเติมคือ ทางร้านมีความ 4.0 สุด ๆ เพราะสามารถจ่ายเงินด้วยทรูวอลเล็ตได้ด้วย ดิฉันจึงทดลองจ่ายด้วยทรูวอลเล็ตค่ะ จ่ายได้จริงนะคะ หากคุณซื้อเครื่องดื่มใส่ถุงรัดปากกลับบ้าน ซึ่งเป็นเครื่องดื่มประเภทที่มีนมข้นหวานประกอบ จำนวนมาก เช่น 5 - 6 ถุงขึ้นไป ทางร้านจะมอบนมข้นหวานให้ไปเลย 1 กระป๋อง เพื่อให้คุณไปเติมความหวานให้ถูกอกถูกใจ ตามแต่ใจของผู้ดื่มเลยค่ะ ดีขนาดนี้ ทำการค้าเอากำไรเป็นกุศลผลบุญขนาดนี้ จะดิฉันไม่ให้รักได้อย่างไร ถ้าคุณเดินทางมาจังหวัดขอนแก่น และมองหาร้านเครื่องดื่มที่ดีเลิศประเสริฐศรี ร้าน เขียดเขียว ออนซอน คือร้านที่คุณตามหาค่ะ! #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 3
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/05
scene type icon
เจ้แดงบ้านไผ่ สาขาถนนรื่นรมย์ อำเภอเมืองขอนแก่น ขนมไทย
เจ้แดงบ้านไผ่ : บัวลอยเลิศรสอลังการ ข้าวเหนียวมะม่วงรสล้ำน้ำตาไหล กิจกรรมการทำขนมบัวลอย เป็นหนึ่งในกิจกรรมการทำขนมไทย ที่ดิฉันชื่นชอบเสมอมา เพราะได้นวดแป้งผสมสีจากพันธุ์พืชธรรมชาติ จากนั้นปั้นเป็นก้อนกลม ๆ แล้วเวลาผู้ใหญ่เผลอ ๆ ก็แอบปั้นรูปร่างประหลาด ๆ ต่าง ๆ ใส่ผสมปนลงไป เอาไว้ให้คนทานได้แปลกใจเล่น ๆ ดิฉันชอบขนมบัวลอยเพราะเป็นขนมที่มีกลิ่นหอม รสหวานละมุนมาก และมีสีสันสวยงาม ในครั้งนี้ ดิฉันจึงขอนำเสนอร้านเจ้แดงบ้านไผ่ ร้านขนมหวานไทย ๆ ที่พาใคร ๆ มาทานเรียกว่าไม่มีผิดหวัง ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เด็ดจริง! ร้านเจ้แดงบ้านไผ่ ตั้งอยู่บนถนนรื่นรมย์ ใกล้กับสี่แยกตลาดโต้รุ่งหน้าการประปา เป็นโซนที่มีร้านค้า ร้านอาหารเรียงรายไปตลอดสองข้างทาง โดยมีที่จอดรถ คือ ริมถนนทั้งสองข้างค่ะ ร้านเจ้แดงบ้านไผ่ เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 16:00 - 23:00 น. แต่บางวันก็หมดก่อน 23:00 น. ไปแล้วอดจ้า.... ทุกครั้งที่มาทานก็จะพบกับเจ้แดง ผู้ปราณีตบรรจง ตระเตรียมขนมหวานด้วยตนเอง อย่างละเมียดละไม (และเงียบมาก ๆ ค่ะ) ร้านของเจ้แดงเป็นร้านที่บรรยากาศสบาย ๆ เป็นมิตรกับคนทั่วไป มีความเรียบง่าย เน้นความสะอาด สดใส ไม่ได้เน้นตกแต่ง หรูหราจนปุถุชนคนทั่วไปแบบดิฉันไม่กล้าเข้า ซึ่งความโด่งดังของเจ้แดงนั้นพิสูจน์ได้จากภาพการมาเยือนของ คุณอุดม แต้พานิช และเหล่าคนดังอีกมากมายค่ะ บัวลอยของเจ้แดงมีสีสดใสจากธรรมชาติ สีเหลืองจากฟักทอง สีส้มจากแครอท และสีม่วงจากอัญชัน บัวลอยต้มทีละน้อย ไม่ได้ต้มทั้งหมดทิ้งไว้ แล้วมาตักขายทีหลัง เลยได้เม็ดบัวลอยอุ่น ๆ ร้อน ๆ ทานแล้วดีต่อใจค่ะ บัวลอยธรรมดา ราคา 35 บาท บัวลอยใส่ไข่ ราคา 40 บาท บัวลอยใส่ไข่เค็ม ราคา 45 บาท ถ้วยที่ดิฉันสั่งเป็นแบบธรรมดาค่ะ เพราะดิฉันไม่ชอบทานใส่ไข่ ซึ่งอยากจะบอกว่า ปริมาณของบัวลอยที่ได้นั้นเยอะมาก ๆ ขนาดที่ว่าดิฉันเป็นมนุษย์กินจุ ยังไม่สามารถทานหมดลงได้! ถ้าจะทานหมดก็ต้องไม่ทานข้าวมาก่อน หรือทานมาแค่ครึ่งกระเพาะแล้วมาทดแทนส่วนที่ขาดหายไปด้วยบัวลอยถ้วยนี้ค่ะ บัวลอยโอ้ย...คุณพระ! 35 บาท ได้มะพร้าวอ่อนมาเต็มถ้วยแบบนี้ มีความปลื้มปริ่ม จนจะสิ้นสติ ตัวเม็ดบัวลอยเองแต่ละสีก็นุ่มละมุน ความหวานหอม อบอุ่นของน้ำกะทิ ผสมผสานให้ทุกสิ่งอ่อนหวาน โลกนี้เป็นสีพาสเทล ทานแล้วรู้สึกตัวเองสวยหวานเป็นพิเศษมาก ๆ เลยค่ะคุณ! ใครขาดแคลนความหวานละมุน ขอให้มาเติมให้เต็มได้ที่ร้านเจ้แดงบ้านไผ่นะคะ ส่วนทีเด็ดเป็นบัวลอยแก้วสีเขียวใส ซึ่งทำจากแป้งถั่วเขียว มีความกรุบกรอบ เหนียวนุ่ม มีรสสัมผัสที่น่าสนใจ และน่าติดใจด้วยล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า แล้วไม่เพียงเท่านั้น ดิฉันเป็นผู้รักเผือก บัวลอยที่มีเผือกมาแน่น ๆ เน้น ๆ แบบนี้ ดิฉันมีความตาโต โอ้โห้...ตกตะลึงค่ะ คุ้มค่าไปไหมคะ 35 บาท ได้ครบจบ อลังการขนาดนี้ กราบใจเจ้แดงจริง ๆ ค่ะ เป็นบัวลอยที่งดงาม มีเสน่ห์เหลือเกิน เป็นงานศิลปะที่แท้จริงยิ่งนักค่ะ แต่เดี๋ยวก่อน เราจะมองข้ามมะม่วงกองนี้ไปไม่ได้ เด็ดขาด! เราต้องจัดข้าวเหนียวมะม่วงมาทานกันกับเพื่อน ๆ ด้วยนะคะ เพราะข้าวเหนียวมะม่วงไม่ได้มีตลอดทั้งปี ถ้าช่วงไหนมะม่วงไม่ดีงาม ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ได้ดั่งใจ ก็ไม่ทำขายค่ะ! วันนี้มะม่วงที่ผ่านการคัดเลือกให้มาทำหน้าที่ทูตสันถวไมตรี แห่งดินแดนกระเพาะ และ ดินแดนต้องไปออกกำลังกาย ได้แก่ มะม่วงอกร่อง ค่ะ ซึ่งในแต่ละวันเจ้แดงจะเขียนป้ายแสดงไว้ที่หน้าร้านเรียบร้อย เพื่อให้ลูกค้าได้มองเห็นจากระยะไกล ว่าวันนี้มะม่วงที่ร้านเป็นสายพันธุ์ที่ชื่นชอบหรือไม่ ซึ่งมะม่วงน้ำดอกไม้ และมะม่วงอกร่องจะมีรสชาติและสัมผัสที่แตกต่างกัน บางคนชอบเนื้อสัมผัสและรสชาติของมะม่วงอกร่อง แต่บางคนชอบมะม่วงน้ำดอกไม้ มะม่วงข้าวเหนียว มะม่วงอกร่อง ราคา จานละ 80 บาท ซึ่งความละเมียดไม่ได้อยู่ที่ความงามที่มองเห็นเท่านั้นนะคะ รสชาติคือดีเลิศประเสริฐยิ่งมาก ๆ น้ำตาไหลพราก ๆ มีน้ำพุ สายรุ้ง ทุ่งดอกไม้ผลิบาน รสเลิศล้ำน้ำตาไหลจริง ๆ ค่ะ ข้าวเหนียวมูน คือ นุ่ม หอม หวาน มัน ลงตัวพอดีมาก ๆ แล้วที่เลอเลิศไปกว่านั้น คือ มีกลิ่นหอมของน้ำลอยดอกไม้ด้วยเด้อ! ชื่นใจสุด ๆ ใครกลัวอ้วนแนะนำให้มาทานกับคู่เดท จะได้แบ่ง ๆ กันทาน แบ่ง ๆ ปริมาณความหวานกันไปคนละครึ่ง แล้วก็ชวนกันไปวิ่งออกกำลังกายกระหนุงกระหนิงกันต่อนะจ๊ะ นอกจากขนมบัวลอย และข้าวเหนียวมะม่วง ก็ยังมี ส้มลิ้ม หรือ มะม่วงกวน ขนมไทยตั้งแต่สมัยเก่าก่อน ที่ยังคงฮอตฮิตไม่หยุดหย่อน ทุกยุคทุกสมัย จะซื้อกลับไปทานเอง หรือนำไปฝากคนที่ไม่ได้มาทานข้าวเหนียวมะม่วงด้วยกัน เพื่อเป็นการปลอบใจก็ได้นะคะ กระยาสารท แต่เดี๋ยวก่อน! ขนมกระยาสารท ก็น่าทานเหลือเกินแม่เอ้ย... คือถ้าเขิน ไม่อยากยอมรับว่าชอบทานขนมโบราณ จะอ้างว่าซื้อไปฝากแม่ แล้วแอบเก็บไว้ทานเองก็ได้นะ แต่อย่าลืมซื้อไปเผื่อแม่ด้วยจะได้ไม่ผิดศีล 5 ถ้าคุณกำลังจะเดินทางมาขอนแก่น และตามหาร้านขนมหวานเพื่อทานตบท้ายอาหารมื้อเย็น ดิฉันขอแนะนำร้านเจ้แดงบ้านไผ่ ร้านดี ร้านเด็ดในดวงใจของดิฉันไว้พิจารณาด้วยนะคะ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 3
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/05
scene type icon
ก๋วยเตี๋ยวหมู นายฮั้งเพ้ง อำเภอเมืองขอนแก่น เมนูเส้น
ก๋วยเตี๋ยวหมูฮั่งเพ้ง หากคุณเคยปวดหัวกับก๋วยเตี๋ยวหมูลูกชิ้นแป้ง ปัญหาของคุณจะหมดไป หากคุณทานก๋วยเตี๋ยวหมูฮั่งเพ้ง! คุณภาพไม่ไหวจริง ๆ ดิฉันก็เลือกที่จะไม่ทานค่ะ ดิฉันกับเพื่อนมาทานก๋วยเตี๋ยวหมูฮั่งเพ้ง ในบ่ายวันหนึ่งด้วยความมั่นอกมั่นใจ เพราะมั่นใจในคุณภาพและรสชาติ ของลูกชิ้นหมูยี่ห้อฮั่งเพ้งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งร้านสะอาดสะอ้าน ปลอดโปร่ง ลมพัดเย็นแบบนี้ ทานได้อย่างสบายใจไร้กังวนเลยล่ะคะ ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูฮั่งเพ้ง ตั้งอยู่บนถนนศรีจันทร์ ใกล้ ๆ กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 8:00 - 16:00 น. ค่ะ มีที่จอดรถหน้าร้าน และริมถนนนะคะ ไม่ต้องกลัวไม่มีที่จอดรถค่ะ แต่ตอนเที่ยง ๆ อาจจะต้องจอดไกลหน่อยเนาะ ทางร้านไม่ได้ขายแต่ก๋วยเตี๋ยวอย่างเดียวเท่านั้นนะคะ ยังมีขนมจีนแกงไก่ /แกงไก่ ราดข้าว ของหวาน เครื่องดื่ม และส้มตำด้วยค่า... อยู่อีสานขาดส้มตำไม่ได้จริง ๆ นะคะ ความแซ่บมันอยู่ในสายเลือดจริง ๆ ค่ะ ก่อนจะไปเขียนรีวิวถึงรสชาติของก๋วยเตี๋ยวอย่างละเอียด ขอสรุปสั้น ๆ ไว้ก่อนเลยว่า ดีงามพระรามพระลักษณ์จริง ๆ ค่ะ ถ้าขี้เกียจอ่านรีวิวยาว ๆ ปิดที่ตรงนี้ แล้วตามไปทานที่ร้านได้เลยค่ะ ไม่ผิดหวังแน่ ๆ บ่ายวันนี้เราหิวกันไม่มาก จึงได้จัดก๋วยเตี๋ยวกันคนละชาม (และสองชาม) ก๋วยเตี๋ยวหมูเส้นเล็กต้มยำที่ดิฉันสั่งมาทานนี้ ราคาชามละ 40 บาทค่ะ ถ้าพิเศษ ราคา 45 บาทค่ะ เป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำพริกป่น ที่รสชาติน่ารัก กลมกล่อมมาก ๆ ค่ะ เด็ก ๆ ที่ทานเผ็ดได้พอประมาณก็น่าจะทานได้นะคะ ไม่ได้เผ็ดมาก เส้นเล็ก คือ ลวกมาได้พอดีจริง ๆ นุ่มเหนียวถูกใจมาก ๆ ค่ะ ขนาดมานั่งระลึกถึงรสสัมผัสเพื่อเขียนรีวิวตอนนี้ ยังนั่งยิ้มให้ภาพของกินได้เฉยเลยล่ะค่ะ แล้วเนื้อหมู คือ นุ่ม เด้งมาก ๆ หวั่นไหวมาก ๆ กลัวใจจะสั่งเพิ่มอีกหลายชามจริง ๆ หมูบะช่อ รสชาติดีมาก ไม่เค็มปี๋ ไม่เลี่ยน ไม่แอบแฝงมันหมู นุ่ม หอม เด้ง โดดใจสุด ๆ ลูกชิ้นลูกชิ้นที่แสนดี รสเข้มข้น กลมกล่อม เนื้อแน่น ๆ เด้งดึ๋ง ไม่แป้ง ไม่ฉุนพริกไทย ก๋วยเตี๋ยวในส่วนของก๋วยเตี๋ยวหมูไม่ต้มยำ ก็จะมีความละมุนประมาณนี้ ราคาตกอยู่ที่ 40 บาทเช่นเดียวกันค่ะ น้ำซุปของก๋วยเตี๋ยวหมูหอมหวาน กลมกล่อม พอดีพองาม ซดได้ไม่กลัวไตพัง ส่วนเครื่องก๋วยเตี๋ยวดีงามตามที่อธิบายข้างต้นเลยค่ะ ก๋วยเตี๋ยวแห้ง ถ้าสั่งก๋วยเตี๋ยวแบบแห้ง จะมาพร้อมชุปใสรสเลิศเช่นนี้ค่ะ ราคาเท่ากันกับก๋วยเตี๋ยวน้ำ 40 บาทค่ะ โอ้ย...นั่งเขียนรีวิวไปก็หิว อีกแล้ว ดูภาพถ่ายแท้ ๆ แต่มีความสุขเหมือนกำลังนั่งทานไปด้วย แถมทุกข์ใจด้วยเพราะตอนนี้ร้านปิดแล้ว จะออกไปทานให้หายอยากก็ไม่ได้ ฮือ... ทำไมเส้นต้องดูนุ่มเหนียวขนาดนี้ด้วยนะ บ้าจริง! น้ำ ในส่วนของเครื่องดื่มนั้น ทางเราได้สั่งน้ำสีสันสดใสมา 2 ชนิด คือ น้ำเก๊กฮวยสีเหลืองสดใส ดื่มแล้วหวานชื่นใจ ราคาแก้วละ 15 บาท ส่วนแก้วด้านหน้านั้นเป็น ชามะนาวเปรี้ยวหวานแจ่มใส ดื่มแล้วกระชุ่มกระชวย กระปรี้กระเปร่า ราคาแก้วละ 15 บาท เช่นกัน ในส่วนของการรีวิวก๋วยเตี๋ยวหมูฮั่งเพ้ง ถนนศรีจันทร์ ก็คงต้องจบไปเพียงเท่านี้ เพราะดิฉันมีความหิวโหยยามดึกอีกแล้วเชียว คงต้องไปคุ้ยตู้เย็นหาอาหารประทังชีพไปพลาง ๆ ก่อนนะคะ จะได้ไม่หิวจนเก็บเอาไปนอนฝัน ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 3
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/05
scene type icon
ร้านอาหารบ้านหน้าไม้ อำเภอเมืองขอนแก่น อาหารไทย
ร้านอาหารบ้านหน้าไม้ เป็นร้านอาหารในความทรงจำที่อยากไปตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ๆ แต่ไม่มีโอกาส เพิ่งจะได้มีโอกาสไปก็เมื่อผมหงอกแล้ว ร้านสวยมากๆ บรรยากาศดีสุดๆ โรแมนติกมาก ย้อนยุคมาก ภายในก็ตกแต่งละเอียดละออมากๆ แสงสวย ถ่ายรูปยังไงก็สวย อาหารดีงามมาก ๆ แนะนำผัดเผ็ดเป็ดย่าง ราคาจานละ 120 บาท ดีงามสุด ๆ ผัดได้กลมกล่อมมาก แห้งดี และเป็ดไม่เหม็นสาบเลย ยำฟักแม้ว ราคาชุดละ 120 บาท ก็เลิศเลอ รสชาติผู้ดีมีสกุลสุด ๆ ส่วนเมนูนี้ เพิ่งได้เคยทานเป็นครั้งแรก คือ แกงสับนก ราคาชามละ 120 บาท ซึ่งไม่ได้ทำจากนกแล้วนะ เมื่อก่อนทำจากนกจริง ๆ แนะนำให้ไปทานกันดู ร้านนี้บรรยากาศดี อาหารอร่อยค่ะ #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 4
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/05
scene type icon
มานะโภชนา (Mana Pochana) อำเภอเมืองขอนแก่น อาหารทะเล
ร้านปลอดโปร่งดี มีที่จอดรถเยอะ อาหารรสชาติดี ออกแนวอาหารเหล่า แต่ว่ารสชาติแซ่บดี ราคาสมเหตุสมผล อาหารบางอย่างก็ทำได้ดีมาก บางอย่างก็ยังไม่สุด เป็นเรื่องธรรมดา ที่สำคัญลูกค้าเยอะมาก พนักงานบริการจนเหนื่อยเลย #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 4
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/05
scene type icon
น้ำฝนยำรสเด็ด อำเภอเมืองขอนแก่น อาหารไทย
เมื่อก่อนไปกินที่ร้านกับเพื่อนเป็นประจำ แต่เดี๋ยวนี้หาที่จอดรถยากมาก เลยสั่งแกร๊บมาทานที่บ้านเอา บรรจุภัณฑ์มีความอลังการมากๆ ชอบที่ใช้กล่องไบโอ อาหารราคาถูกและรสชาติเหมือนเดิม เหมือนเมื่อก่อนที่ทาน เมนูยำที่ชอบคือยำหอยแครง ยำเห็ดเข็มทองทอดกรอบ หมูมะนาว อาหารที่สั่งเป็นประจำคือปลานิลทอด น้ำปลา คะน้าหมูกรอบ ผักบุ้งหมูกรอบ #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 4
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/05
scene type icon
บ้านโรตี 2509 ขอนแก่น อำเภอเมืองขอนแก่น ของหวาน
รีวิว บ้านโรตี 2509 หน้าธนาคารกรุงเทพฯ "อยากกินโรตีอะ" ดิฉันรำพึงรำพันกับเพื่อน เมื่อเรากำลังหาที่จอดรถเพื่อทานอาหารในตัวเมือง "นั้นไง เดินข้ามไปซื้อร้านนั้นดิ" ดิฉันหันหน้าตามนิ้วชี้ของเพื่อน ที่นำทางดิฉันให้ไปพบกับรถเข็นโรตีคันหนึ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยสินค้าต่าง ๆ และเมนูโรตีที่ยาวเหยียด "แกไม่รู้จัก โรตีร้านนี้เหรอ ร้านดังเลยนะ เปิดมา 50 กว่าปีแล้วนะ" เพื่อนของดิฉันมีความตกตะลึงเล็กน้อย ในความไม่รู้เรื่องรู้ราวเกี่ยวกับร้านดังในจังหวัดตัวเอง "ไม่เคยกินเลยอะ" ดิฉันตอบซื่อ ๆ เอาจริง ๆ แล้วความรู้ของดิฉันเกี่ยวกับร้านดังในจังหวัดขอนแก่น ก็ไม่ค่อยจะพัฒนาจากตอน ม.ปลายเท่าไรนัก ด้วยความที่จากบ้านไปเรียน และไปทำงานที่เมืองกรุงอยู่นานถึงครึ่งชีวิต เมื่อกลับมาอยู่ที่บ้านจึงต้องมาเรียนรู้ เก็บข้อมูลที่ตัวเองทำหายไปมากพอควร ร้านโรตี บ้านโรตีมีด้วยกันสามสาขา สาขาที่ขายตั้งแต่เช้าตรู่ ตั้งอยู่ในตลาดสดเทศบาล เปิดขายตั้งแต่เวลา 05:30 - 11:00 น. สาขาต่อมามีฐานที่มั่นอยู่ที่หน้าบ้านของตนเอง บนถนนดรุณสำราญ ใกล้ ๆ โรงแรม SF Biz เปิดบริการตั้งแต่เวลา 11:00 - 23:00 น. นะคะ ส่วนสาขาที่สาม ที่ดิฉันกำลังพยายามควบคุมมือที่สั่นด้วยความตื่นเต้นกับเมนูที่มากมายนี้ เป็นสาขาที่เข็นมาขายเป็นประจำที่หน้าธนาคารกรุงเทพฯ สาขาถนนศรีจันทร์ ซึ่งสาขานี้จะเริ่มขายตั้งแต่เวลา 17:30 - 23:00 น. ค่ะ หน้าร้านเมนูยาวมาก ๆ ค่ะ และนอกจากโรตี ก็มีขนมชนิดอื่น ๆ อีกด้วยนะคะ ระหว่างที่ดิฉันหยิบกระดาษและปากกาขึ้นมาเขียนเมนูที่ต้องการ ก็มีลูกค้ามากมายมานั่งรอ ยืนรอตามเก้าอี้ที่ทางร้านนำมาตั้งไว้ให้บริการเยอะแยะแล้วนะคะ มีลูกค้ามาเรื่อย ๆ ไม่ขาดสายเลย ราคาดีงามมาก ๆ เห็นตัวเลขแล้วชื่นใจ เริ่มต้นที่ 10 บาทเท่านั้น เมนูเยอะมาก เพื่อตอบรับความต้องการที่แตกต่างของลูกค้าที่หลากหลาย เป็นการทำธุรกิจด้วยใจบริการจริง ๆ ค่ะ เรียกว่าอยากทานอะไร ทางร้านมีให้หมดเลย และถ้าคิดไม่ออกก็มายืนดูเมนูเดี๋ยวจะรู้เอง ว่าอยากทานอะไร แป้งหลากชนิดแป้งโรตีมีมากมายหลายชนิดนะคะ คือ แป้งแบบดั้งเดิม แป้งใส่ใบเตย แป้งงาดำ แป้งอัญชัน แป้งมันม่วง และแป้งชาร์โคล ได้มาแล้วค่ะ โรตีชีส ใส่แต่นมข้นหวาน(ใส่น้อย ๆ ) ไม่ใส่น้ำตาล ราคา 25 บาท ! โอ้ย... มือสั่น มีความต้องการจิ้มกิน ณ เดี๋ยวนี้ ที่กลางถนน โรตีชีส ส่งเข้าประกวดจากร้านบ้านโรตี แป้งโรตีดั้งเดิม หอม กรอบ นุ่ม ใส่นมมาแต่พอดี แสดงว่าทางร้านเข้าใจความต้องที่แตกต่างของลูกค้าแต่ละคนมาก ๆ ใส่น้อยคือน้อยจริง ๆ ไม่มีมากังวลห่วงว่าลูกค้าจะทานแล้วไม่หวาน ต้องใส่เกิน ๆ ไว้ก่อนอะไรทำนองนั้น ความใส่ใจของคุณพ่อค้าแม่ค้าในสิ่งนี้สร้างความพึงพอใจแก่ดิฉันเป็นอย่างยิ่งค่ะ เมนูต่อมา ได้แก่ โรตีคู่ กล้วย ชีส ราคา 60 บาท ค่ะ ถ้าเป็นโรตีกล้วยชีสธรรมดา ราคา 40 บาทค่ะ ความดีงามของการเป็นโรตีแป้งคู่ คือความกรอบ นุ่ม หนา ของแป้ง ที่เหมือาะมากสำหรับคนที่ชอบทานแป้งโรตีเยอะ ๆ ชอบความกรอบนุ่มของแป้ง แบบไม่ต้องการใส่ไข่ แล้วดูความยืดของชีสสิคะ ดีเลิศ ไร้เทียมทานจริง ๆ ดิฉันได้มาทานเป็นครั้งแรกก็ประทับใจมาก ๆ แล้ว และคงจะต้องติดตามเป็นลูกค้าขาประจำต่อไป ส่วนใครที่ผ่านมาขอนแก่น หลังจากได้อ่านรีวิวนี้ก็คงจะทราบแล้วนะคะ ว่าที่ขอนแก่นมีโรตีดีเลิศประเสริฐศรี ที่พร้อมให้บริการตั้งแต่ เวลา 5:30 - 23:00 น. โดยมีพิกัดที่แตกต่างกันแล้วแต่คุณจะสะดวกไปที่สาขาไหน เวลาใดนะคะ #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 4
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/05
scene type icon
ยำยำกลางเมือง (YumYum Khon Kaen) อำเภอเมืองขอนแก่น อาหารไทย
ร้านยำยำกลางเมือง กินมาตั้งแต่เป็นเด็กมัธยม เป็นร้านยำดั้งเดิมเก่าแก่ในดวงใจ ตอนนั้นไปกินกับเพื่อนอร่อยยังไง ตอนนี้ก็ยังอร่อยเหมือนเดิม ทำยำได้เร็วมาก ไม่ต้องรอนาน ชอบที่ลวกเส้นมาม่า หรือ วุ้นเส้นได้เหนียวยืด เด้งดึ๋ง ดีมาก รสชาติน้ำยำไม่ออกหวาน แต่เค็มเผ็ดเปรี้ยว #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 10
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/05
scene type icon
กู โรตีชาชัก, ตลาด62บล็อก ขอนแก่น อำเภอเมืองขอนแก่น ของหวาน
รีวิว กู โรตีชาชัก : โรตีดี มาตรฐานคงเส้นคงวา อยู่ดี ๆ ก็เกิดอยากทานโรตีเอาตอนสองทุ่ม ทั้งที่ไม่ได้ทานโรตีมานานมากแล้ว จึงไม่รู้เลยว่าจะไปหาโรตีทานได้เอาที่ไหนในขอนแก่น เพราะปกติโรตีที่เคยซื้อทานจะเป็นโรตีรถเข็น ที่เข็นผ่านหน้าบ้านทุก ๆ วัน แต่ตอนนี้เขาคงจะกลับประเทศไปแล้ว เพราะไม่ได้เห็นหน้ากันมาหลายปีแล้ว แถมเวลาสองทุ่มแบบนี้ จะไปหาร้านโรตีในห้างสรรพสินค้า ก็คงจะกำลังปิดหมดแล้ว ไม่น่าจะทัน ในขณะที่ความหวังกำลังจะมอดเพื่อนสนิทของดิฉันก็พูดขึ้นว่า... "กูโรตีชาชัก ตรงตลาด 62 Blocs ไงแก" เพื่อนสนิทของดิฉันกล่าวขึ้นขณะที่เรากำลังขับรถเข้าสู่ตัวเมือง เพื่อหาอาหารมื้อเย็นทานกัน "มีโรตีหลายอย่างเลย น้ำก็มี ทำดีนะ เขาชอบ" เพื่อนสนิทของดิฉันเสริม นอกจากจะดีใจที่จะได้ทานโรตีแล้ว ยังเป็นการเปิดโลกทัศน์อีกด้วย... ไม่เคยรู้เลยว่าบ้านเราเมืองเรา มีร้านโรตีที่เปิดเป็นร้านรวงแนวคาเฟ่ ขับรถผ่านไปมาตั้งหลายรอบ ไม่เคยสังเกตเลย... หลังจากไปทานมาแล้วหลายรอบเพราะติดใจโรตีชีส รอบนี้เลยขอกลับไปซ้ำเมนูเดิมอีกรอบ และถ่ายภาพมารีวิวตามจรรยาบรรณของลูกค้าที่ดีค่ะ หน้าร้านกู โรตีชาชัก ตั้งในตลาด 62 blocs บนถนนกัลปพฤกษ์ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11:00 - 22:00 น. มีโต๊ะให้นั่งมากมายทั้งด้านในและด้านนอก หน้าร้านส่วนใหญ่จะนั่งด้านใน ไม่เคยสังเกตมาก่อนว่ามีโต๊ะด้านนอกด้วยนะคะ โต๊ะแต่ละตัวมีเก้าอี้ตัวเดียว น่าจะเป็นเก้าอี้ที่จัดไว้ให้กับเจ้าหน้าที่บริการเดลิเวอรี่ต่าง ๆ ที่มานั่งรอรายการอาหารที่สั่ง แต่ดิฉันว่าบรรยากาศมันก็โรแมนติกดีนะคะ มานั่งทานโรตีกับคู่เดทก็น่ารักดีนะ ส่วนดิฉันผู้ไม่สนใจการเดท สนใจแต่การรับประทาน ก็ เดินเข้าร้านมาดูเมนูค่ะ ที่เห็นในหน้าแรกนี้ คือเมนูโรตีทั้งหมด เยอะมาก... ดีใจมาก ๆ เมื่อตอนอยู่ต่างประเทศเคยทำโรตีทานเอง เพราะที่ต่างประเทศจะทานโรตีก็ต้องไปร้านอาหารอินเดีย ซึ่งแพง แต่บางครั้งก็ไปเพราะชอบโรตีหนา ๆ ที่ใส่ชีส ที่เรียกว่า "นาน" แต่ด้วยความงก ก็เริ่มทำโรตีทานเองเพื่อความประหยัด ฮ่าฮ่าฮ่า ครั้งแรกที่มาทาน พอกวาดตาดูเมนูแล้วเจอโรตีชีสก็ตาโตทันทีเลยค่ะ อยากทราบว่าทางร้านจะทำโรตีชีสออกมาเป็นอย่างไร เลยลองสั่งดู แล้วหลังจากนั้นก็ต้องกลับมาทานโรตีชีสที่ร้านอีกซ้ำ ๆ ทั้งทานที่ร้าน และสั่งกลับบ้าน เมนูเปิดอีกหน้า ก็จะพบเมนูเครื่องดื่ม มีทั้งเครื่องดื่มนม ๆ และเครื่องดื่มโซดา เมนูเครื่องดื่มส่วนใหญ่ดิฉันจะสั่งกลับบ้านค่ะ เพราะจะถือออกจากร้าน เอามาทานพร้อมเพื่อน ณ ลานอาหารในตลาดมากกว่า โกโก้ชักเย็นหวานน้อย แก้วเล็ก ทานที่ร้าน ราคาแก้วละ 40 บาท แต่ถ้าสั่งกลับบ้านจะมีแต่แก้วขนาดใหญ่ ราคาแก้วละ 55 บาทค่ะ โรตีชีส ราคา 59 บาท หากทานที่ร้านจะมาในจานสีเหลี่ยมสีขาว มีธงโลโก้ของร้านปักอยู่ พร้อมกับซอสพริกซอสมะเขือเทศ แต่ดิฉันเองนั้นไม่นิยมซอสจึงขอเปลี่ยนเป็นนมข้นหวานค่ะ โรตีที่ร้านนี้มีความดีงามที่ดิฉันชื่นชอบอย่างยิ่ง คือโรตีที่ร้านนั้นไม่อมน้ำมันค่ะ และใส่ชีสมาให้เยอะจุใจมาก ๆ ถูกใจสุด ๆ เลยค่ะ *ด้านหลังคือโรตีทิชชู่ค่ะ โรตีทิชชู่น้ำตาล ราคา 49 บาท เป็นโรตีบางกรอบ บางมาก ๆ และไม่อมน้ำมันเลยนะคะ ใครกลัวอ้วนแต่อยากทานโรตี มาทานเมนูนี้ได้ จะได้ทนขนมแล้วรู้สึกผิดกับตัวเองน้อยลงหน่อยเนาะ สั่งกลับบ้านถ้าสั่งกลับบ้าน ก็จะได้รับสินค้ามาในกล่องกระดาษสีขาวหนา ๆ ที่มีพลาสติกเคลือบด้านใน พร้อมกับฝาพลาสติกใสที่มีสติ๊กเกอร์โลโก้ของร้านติดอยู่บนฝากล่อง และได้ส้อมพลาสติกสำหรับใช้ทานมาในถุง นอกจากนี้ยังได้เครื่องเคียงเป็นซอส เป็นนมข้นหวาน ตามแต่เมนูที่สั่งค่ะ โรตีชีส...ราคา 59 บาท เมนูโปรดของดิฉัน ครั้งแรกที่ได้ซอสมาก็ลองทานกับซอสดู แต่ไม่ชอบค่ะ เลยลองจิ้มนมข้นหวานที่ได้มากับโรตีชนิดอื่น ปรากฏว่าชอบ เลยทานแบบนี้มาตลอดค่ะ โรตีชีสชีสยืด...ล้นจุใจ ต่อมาเป็นเมนูที่นำไปทานเป็นอาหารเช้าได้ คือ โรตีชีสเบคอน ราคา 69 บาท แป้งทอดได้กรอบพอดี หอม เหนียว นุ่ม ไม่อมน้ำมัน ชีสเยอะมาก ยืดล้น สะใจ ทุกคำมีเบคอน ถ้าทานตอนเช้าแล้วเพิ่มผักผลไม้ ก็เป็นอาหารเช้าที่ให้พลังงานได้ดีเลยเชียวนะคะโรตีชีสแฮมชีสล้น ๆ มีเบคอนทุกชิ้น ฟินมากจ้า... โอ้ย... ทรมาน มานั่งเขียนรีวิวก็เริ่มหิวอีกแล้ว หากคุณตามหาร้านโรตีที่ไว้ใจได้ มีมาตรฐาน สะอาด ทอดโรตีดี แป้งไม่อมน้ำมัน ให้ไส้เยอะ และมีที่ตั้งร้านแน่นอน ไม่ต้องลุ้นว่าจะมาหรือไม่มา หรือถ้ามาจะมาเวลาไหน ขอเชิญที่ กู โรตีชาชักสาขาตลาด 62 blocs ค่ะ #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 4
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/02
scene type icon
DER LA JAZZ อำเภอเมืองขอนแก่น อาหารไทย
รีวิว Der La Jazz : เพื่อนชวนมาม่วนเด้อหล่า เมื่อไม่นานมานี้ เพื่อนสนิทสมัยมัธยมต้นของดิฉันได้มาเลียบเคียง ชักชวนให้ดิฉันไปเที่ยวกินดื่มยามราตรีด้วยกัน หลังจากไม่ได้พบปะกันแบบพร้อมหน้ากัน มานานแสนนาน เพื่อนของดิฉันรับปากว่า ร้านนี้เป็นร้านอาหารที่รสชาติดี ดนตรีเพราะ มีทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไม่แอลกอฮอล์ เป็นร้านที่พาครอบครัว พาเด็ก ๆ มาได้ ไม่มีการสูบบุหรี่ในร้าน และราคาไม่แพงเวอร์ รับรองว่าหารออกมาแล้วเสียเงินไม่เกินคนละ 300 - 400 บาท ร้านที่ว่าคือ ร้าน เด้อหล่าแจ๊ส ตั้งอยู่ในซอยหน้าเมือง 25 ถนนหน้าเมือง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18:00 - 00:00 น. ดิฉันตกปากรับคำ มาทานอาหารกับเพื่อน ๆ เพราะไม่ได้เจอกันพร้อมหน้ามานาน และแต่ละคนก็ไม่ได้เจอกันมานาน มีเรื่องราวต่าง ๆ เกิดขึ้นในชีวิตของแต่ละคนยุ่งเหยิงวุ่นวายเต็มไปหมด การได้ระบายให้เพื่อน ๆ รับฟังพร้อมกับทานอาหารรสเลิศ ในสถานที่บรรยากาศดี ๆ และมีดนตรีน่าฟัง ก็น่าจะช่วยทำให้สภาพจิตใจที่บอบช้ำกลับฟื้นคืนมามีกำลังใจ ให้ต่อสู้กับเรื่องหนัก ๆ ที่พวกเขาต้องเจอได้อย่างเข้มแข็งต่อไป ดิฉันนั่งฟังเรื่องราวของเพื่อนแต่ละคน ด้วยความสนใจและเห็นอกเห็นใจ พวกเราหัวเราะเสียงดังไปด้วยกัน โมโหคนร้าย ๆ ในชีวิตเพื่อนไปด้วยกัน เหมือนเมื่อสมัยที่เราสวมคอซองกระโปรงบาน ดิฉันเริ่มเข้าใจว่าทำไมหลาย ๆ คนชอบมาทานอาหารกับเพื่อนนอกบ้าน หรือมาดื่มสังสรรค์กับเพื่อน ๆ เพราะการได้เจอเพื่อน ได้ทานอาหารรสชาติถูกปาก ได้ฟังดนตรีดี ๆ ล้วนเป็นองค์ประกอบของความสุขใจ ที่คนทั่วไปตามหา ฉะนั้นเด้อหล่าแจ๊ส จึงทำให้ภาพของพวกเรา ที่กำลังนั่งคุยกันที่ม้าหิน กินขนมถุงเดียวกัน พร้อมกับฟังเสียงเพลงจากวงดนตรีของรุ่นพี่ในสมัยมัธยม ชัดเจนขึ้นมาในใจของดิฉันอีกครั้ง บรรยากาศความสุขและเสียงหัวเราะแบบนี้ มันห่างหายไปนานเหลือเกินจากชีวิตของพวกเรา เฟรนฟราย เพื่อนของดิฉันได้สั่งเฟรนช์ฟรายส์มาเป็นเครื่องเคียงประกอบการสนทนา ซึ่งเฟรนช์ฟรายส์กระทะนี้ มาเสิร์ฟร้อน ๆ พร้อมกับซอสมะเขือเทศหนึ่งถ้วย สนนราคา 90 บาท เมื่อก่อนตอนพวกเราเป็นวัยรุ่น เฟรนช์ฟรายส์ เป็นอาหาราคาแพงในร้านฟาสฟู้ด ซึ่งพวกเรากลุ่มเด็กบ้านฐานะค่อนข้างจะตึงเครียด มักจะไม่ค่อยได้ทานนัก แต่ในวันนี้ เพื่อน ๆ ของดิฉันรวย สวย และฮอตมากค่ะ กว่าพวกเธอจะมีวันที่ทานอาหารได้ โดยไม่ต้องเครียดเรื่องราคามากนัก พวกเธอต้องบากบั่นฝ่าฟันอุปสรรคนานับประการ กว่าจะได้มายืน ณ จุดที่สวยงามในวันนี้ ดิฉันปลื้มใจและภูมิใจกับความสำเร็จของเพื่อน ๆ มากจริง ๆ กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา ส่วนดิฉันผู้หิวโหย ได้สั่งกะหล่ำปลีผัดน้ำปลา ราคา 80 บาท มารับประทานเป็นอย่างแรก เพราะเป็นคนชอบทานผัก ซึ่งกะหล่ำปลีผัดน้ำปลาจานนี้ นอกจากจะมีการจัดเรียงใบกะหล่ำออกมาอย่างสวยงามแล้ว ยังมีรสชาติที่เข้มข้นดีงามอีกด้วยนะคะ ไม่เค็มมาก และมีความมันสูงตามสไตล์ผัดผักแบบจีนแท้ ๆ น่าจะถูกใจพี่น้องเชื้อสายจีนมาก ๆ เลยนะคะ แต่ลูกครึ่งจีนที่เติบโตมาในวัฒนธรรมอีสานแบบดิฉัน นิยมผัดผักแบบน้ำมันน้อย ๆ มากกว่าค่ะ ไก่ผัดเม็ดมะม่วง จานต่อมายังคงเป็นดิฉัน ผู้รักไก่ผัดเม็ดมะม่วง ไปร้านไหน คิดเมนูอะไรไม่ออกก็ต้องจบที่ไก่ผัดเม็ดมะม่วงทุกที ทางร้านทำไก่ผัดเม็ดมะม่วงได้ถูกใจดิฉันยิ่งนัก เพราะได้นำเนื้อไก่ไปทอดกรอบก่อน แล้วจึงนำมาผัดกับเครื่องไก่ผัดเม็ดมะม่วง ทำให้ได้ไก่ที่กรอบแตกต่างจากร้านอื่น ๆ ที่เป็นไก่ผัดธรรมดา ๆ ดิฉันประทับใจในจุดนี้มาก ๆ ค่ะ นอกจากนี้รสชาติก็ดีเลิศ แม้ไม่ใส่ผงชูรสก็ยังรสชาติดีงาม มีรสเค็มนำนิดหน่อย เหมาะกับการทานกับข้าวสวยร้อน ๆ ซึ่งข้าวสวยหอมมะลิ มีราคาเพียงโถละ 50 บาทเท่านั้นนะคะ คุ้มมาก ๆ โดยเฉพาะสำหรับคนที่กินข้าวเยอะแบบดิฉันค่ะ ใครนึกเมนูไม่ออกดิฉันขอนำเสนอไก่ผัดเม็ดมะม่วงนะคะ รสชาติดี ประทับใจ ในราคา 160 บาทค่ะ ลาบทอด จานถัดมาเป็นเมนูที่เพื่อนสาวคนสวยของดิฉันตามมาสั่งเพิ่มเติม ได้แก่ ลาบทอดไส้ชีส ราคาจานละ 140 บาท ดิฉันมีเพื่อนสนิทคนนึง ที่ชอบทานลาบทอดมาก ไม่ว่าจะไปทานอาหารที่ไหน หากมีลาบทอดอยู่ในเมนู เธอจะต้องสั่งมาเสมอ และดิฉันก็จะร่วมรับผิดชอบกับเธอเสมอ แต่ไม่เคยชอบเมนูนี้เลย ซึ่งในครั้งนี้ดิฉันก็ไม่คาดคิดว่า ลาบทอดของเด้อหล่าแจ๊สจะมีอะไรแตกต่างจากร้านอื่น ๆ ทั่วไป การใส่ไส้ชีสที่ตรงกลางอาจจะยิ่งทำให้ลาบเค็มรึเปล่า แต่ปรากฏว่า... มันดีมากจริง ๆ ค่ะ ตัวลาบเองก็รสชาติดีมาก ๆ แล้วพอมีชีสตรงกลางยิ่งทำให้รสชาติกลมกล่อม รสนวล มาก... ประทับใจมาก จนต้องกากบาทไว้ในใจ ว่าถ้ามาอีกต้องสั่งเมนูนี้ ถ้าหากคุณกำลังจะไปเด้อหล่าแจ๊ส ดิฉันขอฝากเมนูละมุนใจจานนี้ ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของคุณด้วยนะคะ มันดีมากจริง ๆ ค่ะคุณ... เมื่อพวกเราเริ่มอิ่ม เราก็สั่งเครื่องดื่มม็อกเทลมาดื่มกัน เครื่องดื่มม็อกเทล คือเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบนะคะ ซึ่งพวกเราได้เลือกมาคนละ 1 เมนู เพื่อนำมาสลับกันชิม เพื่อนสาวคนสวยของดิฉัน สั่งเอลเดอร์ ฟลาวเวอร์ฟิซ ราคาแก้วละ 120 บาท เนื่องจากคุณน้องพนักงานเสิร์ฟบอกกับพวกเราว่า " แก้วนี้สวยนะคะพี่ " ด้วยความเป็นคนสวย เธอจึงไม่ลังเลที่จะสั่งเครื่องดื่มแก้วนี้ในทันที และเมื่อเครื่องดื่มมาถึงพวกเราก็ไม่ผิดหวังจริง ๆ ค่ะ สวยงามตามท้องเรื่อง ดังที่คุณน้องพนักงานเสิร์ฟได้บอกเราไว้จริง ๆ ค่ะ ม็อกเทลเอลเดอร์ฟลาวเวอร์ฟิซ เครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ มีรสเปรี้ยวสดชื่นจากมะนาว หอมหวานด้วยไซรัปกลิ่นดอกเอลเดอร์ ซ่าสะใจ ดื่มแล้วสดชื่น สวยงามจริง ๆ ค่ะ ดิฉันขโมยเพื่อนดื่มดูแล้ว แก้วนี้ดีจริง ถ่ายรูปก็สวยด้วยนะคะ แถมปริมาณก็เยอะมาก น่าจะมากกว่าน้ำอัดลมกระป๋องหนึ่งด้วยซ้ำไป ดื่มหมดแก้วมีอิ่มค่ะ เอลเดอร์ฟลาวเวอร์ ม็อกเทล เป็นเครื่องดื่มที่ใช้ไซรัปจากดอกเอลเดอร์ ดอกไม้ที่ปกติแล้วมีพิษ แต่เมื่อนำมาผ่านกระบวนการสกัดที่ถูกต้อง ก็จะทำให้ได้ไซรัปกลิ่นดอกไม้ หวาน หอม คล้ายกันกับชีวิตของเพื่อนสาวของดิฉัน ที่เมื่อสมัยมัธยมเป็นเหมือนลูกเป็ดขี้เหร่ ไม่ได้เรียนเก่งเลิศ ไม่ได้สวยสะดุดตา ไม่ได้ขาวแบบที่คนทั่วไปนิยม และไม่ได้มีฐานะดี และมักจะถูกเหยียดในภาพลักษณ์ของเธอเสมอ แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป เธอได้สกัดพิษร้ายจากคำพูดของคนในชีวิตเหล่านั้นออกไป กลายเป็นหญิงสาวที่สวย รวย และมั่นใจ จนทำให้คนที่เคยดูถูกหรือกลั่นแกล้งเธอต้องตกตะลึง เพื่อนสาวอีกคนของดิฉันเลือก สตรอว์เบอร์รี ซิสซี่ ม็อกเทล ราคาแก้วละ 120 บาท เครื่องดื่มที่มีหวานเปรี้ยวนำมาด้วยสตรอว์เบอร์รี ซึ่งถูกตกแต่งให้รสชาติมีความน่าสนใจ ด้วยรสเค็มของบ๊วยและโซดา บ๊วย เป็นของทานเล่นที่เรา ๆ ทราบกันดีว่ามีราคาไม่สูง ไม่มีอะไรน่าสนใจมากมาย ร้านน้ำไหน ๆ ก็คงมีเมนูบ๊วยโซดาจึงเมนูที่ทุก ๆ คนคุ้นเคยดี สตรอว์เบอร์รี เป็นผลไม้ที่คนทั่วไปรักในรสสัมผัสของมัน และให้คุณค่าผลไม้ชนิดนี้ เมื่อนำส่วนผสมสองชนิดนี้มารวมกัน ทำให้เกิดม็อกเทลที่ หวาน หอม เปรี้ยว เค็ม ซ่า คล้ายกับกำลังทานสตรอว์เบอร์รีจิ้มบ๊วย ของทานเล่นที่ให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยเป็นกันเอง จากรสชาติของบ๊วยและความน่าตื่นเต้นของสตรอว์เบอร์รี สองสองส่วนช่วยกันสงเสริมเติมเต็มกันและกันได้เป็นอย่างดี เป็นเครื่องดื่มที่ให้ความรู้สึกคุ้นเคยสบายใจแก่ผู้ดื่มเป็นอย่างดี ม็อกเทลสตรอว์เบอร์รี ซิสซี่ แก้วนี้ เอาจริง ๆ แล้วเหมือนเพื่อนของดิฉันผู้สั่งเครื่องดื่มแก้วนี้จริง ๆ ค่ะ เมื่อก่อนเธอเองก็เปรียบเป็นเหมือนบ๊วย เป็นแค่เด็กผู้หญิงสีผิวเข้ม หน้าตาธรรมดา ๆ ฐานะทางบ้านไม่ได้ดีเลิศอะไร ไปไหนมาไหนด้วยรถสองแถว และการเดิน แต่เธอเปลี่ยนอุปสรรคที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ให้เป็นสตรอว์เบอร์รี ที่เพิ่มเข้ามาทำให้เธอเจิดจรัส ฉายประกายความงาม และมีฐานะที่ดีอย่างในปัจจุบันนี้ นอกจากนั้นเธอยังเปลี่ยนพายุที่โหมกระน่ำชีวิตเธอครั้งแล้วครั้งเล่า ให้กลายเป็นโซดา เพิ่มความแสบซ่าสดใส ให้กับชีวิตของเธอ ทุกอย่างที่เลวร้ายในชีวิตของเธอ เติมเต็มให้เธอครบสมบูรณ์ในแบบที่เธอวาดฝันเอาไว้ได้อย่างงดงามค่ะ ดิฉันเลือกเลม่อนพลัมฟิซ ม็อกเทล ราคาแก้วละ 120 บาท เช่นกัน ในตอนแรกเพื่อนสาวของดิฉันต้องการจะสั่งเครื่องดื่มแก้วนี้ เพราะเธอเคยดื่มแล้วถูกใจในรสชาติค่ะ แต่หลังจากดิฉันอ่านเมนูกลับไปกลับมา และตัดสินใจไม่ได้ว่าจะดื่มอะไร เพื่อนดิฉันเลยสละเมนูนี้ให้ แล้วไปดื่มสตรอว์เบอร์รี ซิสซี่แทน ที่ดิฉันเลือกเครื่องดื่มแก้วนี้ เพราะส่วนผสมเป็นอะไรที่ดิฉันคุ้นเคย ได้แก่ เลม่อน บ๊วย และโซดา ดิฉันคิดว่าดื่มแล้วน่าจะไม่ผิดหวัง เพราะเพื่อนสาวก็ได้การันตีก่อนแล้วว่า แก้วนี้รสชาติดีแน่นอน เพราะดิฉันชอบเครื่องดื่มรสเปรี้ยว และดิฉันชอบบ๊วยโซดา เมื่อนำบ๊วย มะนาว และโซดา มาผสมกัน จึงได้เครื่องดื่มรสชาติเค็ม เปรี้ยว ซ่า ดื่มแล้วสดชื่น เป็นเครื่องดื่มที่มีรสชาติปลอดภัย ใครที่อ่านส่วนผสมก็คงจะรู้สึกแบบนั้น ว่าเราจะสามารถคาดเดาได้ว่ารสชาติน่าจะออกมาเป็นแนวไหน ดิฉันก็เป็นเช่นนั้น ที่เลือกเครื่องดื่มแก้วนี้ ก็เพราะไม่เคยดื่มม็อกเทลมาก่อน หากดื่มเครื่องดื่มที่ไม่รู้จัก ไม่คุ้นเคยก็กลัวว่าจะต้องผิดหวัง และต้องทนดื่มจนหมดแก้ว เพราะความเสียดาย ซึ่งดิฉันก็ไม่ผิดหวังกับรสชาติของเลม่อนพลัมฟิซจริง ๆ ค่ะ แต่ดิฉันกลับชอบรสชาติของเอลเดอร์ฟลาวเวอร์ฟิซของเพื่อนมากกว่า การเลือกเครื่องดื่มก็สะท้อนตัวตนของคนแต่ละคนได้ดีนะคะ ดิฉันเองก็เป็นคนที่ชอบอยู่ในกรอบ ไม่กล้าที่จะทำอะไรใหม่ ๆ เพราะกลัวว่าจะต้องผิดหวัง เหมือนกับการเลือกดำเนินชีวิตของดิฉัน ที่เมื่อตัดสินใจอะไรแล้ว ก็เลือกที่จะเดินบนเส้นทางนั้นไปจนสุดทาง ไม่เปลี่ยนแปลงหวั่นไหวกับอะไรง่าย ๆ แม้ว่าจะมีอะไรที่ดีกว่า ก็จะซื่อสัตย์กับสิ่งที่ตัวเองได้เลือกแล้ว และยอมรับในการตัดสินใจของตนเอง ไม่ว่าจะดีหรือร้ายก็ตาม การออกมาทานอาหารมื้อค่ำกับเพื่อนในครั้งนี้ ทำให้ดิฉันได้เข้าใจรูปแบบการใช้ชีวิตของคนอื่น ๆ มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะมีความทุกข์ใจ หรือมีความสุขใจจากความสำเร็จใด ๆ ที่แลกมาด้วยหยาดเหงื่อและความพยายาม ดิฉันภูมิใจในตัวของพวกเขามาก ที่สามารถผ่านพ้นการถูกรังแกจากสังคมในโรงเรียนแล้วเปลี่ยนตัวเองให้เป็นผีเสื้อที่แสนงดงามได้ ในฐานะที่ดิฉันอยู่ในวงการการศึกษา พบเจอกับปัญหาการกลั่นแกล้งในโรงเรียน ในมหาวิทยาลัยอยู่เป็นประจำ จึงอยากให้กำลังใจแก่ทุก ๆ คนที่ถูกรังแก ให้เปลี่ยนความทุกข์ใจนั้นเป็นพลังในการพัฒนาตัวเอง ในวันหนึ่งคุณเองก็จะกลายเป็นผีเสื้อที่งดงาม ไม่ต่างกับเพื่อน ๆ ทั้งสองคน หรืออีกหลาย ๆ คนของดิฉัน ส่วนดิฉันยังคงพร้อมที่จะเป็นที่ปลอดภัยให้เพื่อน ๆ ได้มาแบ่งปันความปวดร้าวและความสุขใจเสมอ ๆ ไม่ว่าในอดีตหรือปัจจุบัน เหมือนที่ เด้อหล่าแจ๊ส คอยมอบความสุขความสบายใจให้กับแขกผู้มาเยือนตลอดเรื่อยมาค่ะ #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 5
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/02
scene type icon
ตำกระเทย ขอนแก่น-Tumkratoei KhonKaen อำเภอเมืองขอนแก่น อาหารไทย
รีวิวร้านเด็ด ตำกระเทย ถ.หน้าเมือง จ.ขอนแก่น : บริการเลิศ อาหารดี มีเมนูหรรษามากมาย ร้านตำกระเทย เป็นร้านส้มตำชื่อดัง ที่เพื่อนของดิฉันมันเอ่ยถึงเสมอ ๆ เมื่อเราพูดถึงเมนูส้มตำไก่ย่าง นับเป็นร้านไก่ย่างส้มตำร้านโปรดที่อยู่ในดวงใจของเพื่อน ๆ ของดิฉันเสมอมา และในที่สุดดิฉันก็จะได้ไปรับประทานอาหารที่ร้านตำกระเทยเสียที เนื่องจากเพื่อน ๆ มีความเห็นตรงกันว่าดิฉันควรจะมารับประทานร้านนี้ จะได้คุยกับเพื่อนรู้เรื่อง อธิบายคนอื่น ๆ เขาได้ ว่าร้านตำกระเทยนั้นเลิศเลอเพียงไร ร้านตำกระเทย ตั้งอยู่ที่บน ถนนหน้าเมือง ห่างจากห้างแฟรี่พลาซ่า ห้างเก่าแก่คู่จังหวัดขอนแก่นไม่ไกลนัก โดยเปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10:30 -21:00 น. ร้านใหญ่โตมีป้ายหน้าร้าน หาเจอร้านง่ายมาก ๆ ค่ะ เมื่อเดินขึ้นบันไดเข้ามาในตัวร้าน พวกเราก็จะได้รับการทักทายต้อนรับจากน้อง ๆ พนักงานอย่างอบอุ่น ก่อนที่จะนำเราเดินเข้าไปด้านในของร้าน ซึ่งเป็นห้องอาหารติดเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ แต่เนื่องจากเพื่อนในกลุ่มของดิฉันเป็นคนขี้หนาว พวกเราจึงเลือกที่จะนั่งด้านนอกเพื่อรับสายลมและแสงแดดธรรมชาติ ความสะอาด หลังจากได้ที่นั่งเรียบร้อย น้องพนักงานก็นำจานช้อนตามจำนวนสมาชิกมาให้ที่โต๊ะ พร้อมกับสอบถามถึงเครื่องดื่ม ที่พวกเราต้องการดื่มพร้อมกับอาหารมื้อนี้ ช้อนส้อมอยู่ในถุงพลาสติกใส สะอาดปลอดภัย สบายใจลูกค้า ดิฉันประทับใจในการดูแลรักษาความสะอาดของเครื่องใช้ไม้สอยในการรับประทานอาหารของทางร้านมาก ๆ ค่ะ แค่เห็นจานช้อนส้อม ก็ประทับใจแบบรักแรกพบทันทีทันใดเลยจริง ๆ ประทับใจมาก ๆ ค่ะ ในส่วนของเครื่องดื่มนั้น แม้ดิฉันและเพื่อน ๆ กำลังพยายามลดน้ำหนัก แต่พวกเราก็ตบะแตก พร้อมใจกันดื่มน้ำอัดลมกันถ้วนหน้า ฮ่าฮ่าฮ่า เมื่อเครื่องดื่มมาถึง ดิฉันขอบอกว่าปลื้มปริ่มหนักเข้าไปอีกค่ะ ทางร้านเสิร์ฟเครื่องดื่มพร้อมหลอดที่ฉีกพลาสติกออกเหลือไว้แต่ส่วนปลาย ให้เราดึงออกเอง เพื่อความมั่นใจว่าไม่มีใครมือสกปรกมาจับหลอดบริเวณที่เราดื่ม และป้องกันแมลงวันตอม ในระหว่างที่เรายังไม่ดื่มเครื่องดื่มนั้น ประทับใจมาก ให้ใจไปกับการบริการเต็มร้อย ตั้งแต่ยังไม่ได้รับประทานอะไรเลยค่ะ เมนูอาหารสวยงามมาก ๆ ดิฉันขอแอบสารภาพว่าเห็นเมนูแล้วแทบกรี๊ด เพราะภาพอาหารในเมนูนั้นงดงามมาก ๆ ไม่ว่าจะเปิดดูหน้าไหนก็สวยหรูดูแพง เมนูไหน ๆ ก็น่ารับประทานไปหมด ตัดสินใจลำบากมาก ๆ ค่ะ ว่าจะรับประทานอะไรดี เนื่องจากนี่เป็นประสบการณ์ครั้งแรกในการมารับประทานอาหารที่ร้านนี้ เพื่อน ๆ จึงต้องการให้ดิฉันได้เลือกดูเมนูให้จุใจก่อน ก่อนที่จะตัดสินใจสั่งอาหารเมนู "ไก่ย่างเลิศมาก ต้องสั่งนะแก" เพื่อนของดิฉันกล่าวขึ้น "แกสั่งส้มตำละกัน ตำอะไรก็ได้" เพื่อนของดิฉันมอบหมายภารกิจในการเลือกเมนูเด็ดให้ตกอยู่ที่ดิฉัน เนื่องจากในโอกาสที่เรานัดพบกันเพราะเพื่อนของดิฉันอกหัก ดิฉันจึงสั่ง "ตำลืมผัว" มาเป็นการปลอบใจเพื่อน นั่งรออาหาร พร้อมกับฟังเรื่องทุกข์ใจของเพื่อนสักครู่ ไก่ย่างหอม ๆ ก็เดินทางมาถึงโต๊ะของเราค่ะ... ไก่ย่าง ไก่กระเทยย่าง 1 ตัว มาพร้อมกับน้ำจิ้มไก่ ราคา 160 บาท สีสันสวยงาม กลิ่นหอมสมกับที่เพื่อนสาวของดิฉันเน้นย้ำว่าเป็นเมนูที่ต้องสั่งจริง ๆ ค่ะ ไก่รสชาติกลมกล่อม เนื้อนุ่ม ฉุ่มฉ่ำ ไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มก็รสชาติเลิศเลอแล้วหละค่ะ ตำลืมผัว รสแซ่บ นัว เผ็ดพอดี ราคา 65 บาท ก็มาถึงค่ะ สวยงามมาก กลิ่นปลาร้าดีมาก... ส่วนประกอบสำคัญในตำลืมผัว ได้แก่ ตีนไก่ลวก ค่ะ ตีนไก่เด้งดึ๋งกรุบ ๆ เข้าน้ำถึงรสชาติของน้ำส้มตำมาก ๆ ค่ะ ส่วนผสมต่อมาเป็นหมูยอค่ะ หมูยอเนื้อแน่น ๆ รสกลมกล่อม ใครรักหมูยอ ต้องรักเมนูนี้แน่ ๆ ค่ะ ตับหวาน จานต่อมาเป็น ตับหวาน ราคาจานละ 85 บาท ค่ะ ตับลวกมาได้พอดีพองามมาก ๆ ค่ะ สุกแบบยังนิ่มยังหวานอยู่ สมชื่อตับหวาน เครื่องหนัก รสแน่นเข้มข้น ดีงามค่ะ ต้มพวงไข่ มาถึงเมนูประเภทแกง ที่เราสั่งมาซดแซ่บ ๆ ได้แก่ ต้มยำพวงไข่ น้ำข้น ราคา 180 บาท น้ำซุปรสแซ่บ แต่มีความละมุนในแบบฉบับของน้ำข้น เครื่องใน พวงไข่ ไร้ซึ่งความคาวใด ๆ เลยค่ะ ที่ชื่นชอบมาก คือ การใช้วัตถุดิบเป็นเห็ดฟางตามแบบดั้งเดิม ซึ่งหาไม่ค่อยพบแล้วในปัจจุบัน ดิฉันถือเป็นเรื่องดีงาม ที่ถูกใจมากค่ะ ข้าวเหนียว มาถึงเมนูที่ปกติดิฉันไม่ค่อยกล่าวถึง แต่ในครั้งนี้มีความตั้งใจที่จะรีวิวข้าวเหนียวนึ่ง ราคากระติบละ 10 บาท ค่ะ ที่เขียนเพราะข้าวเหนียวที่ร้านอาหารต่าง ๆ นึ่งมานั้นมีความแตกต่างกันมากนะคะ บางร้านนึ่งมาแฉะ เหนียว เหมือนเอาข้าวเหนียวเก่ามาอุ่นซ้ำ ๆ บางร้านแข็ง แห้ง ฝืดคอ ข้าวเหนียวนี้จริง ๆ สำคัญมาก ๆ ค่ะ ถ้าใส่ใจในการเลือกข้าวเหนียว แช่ และนึ่งได้ที่พอดี จะได้ข้าวเหนียวที่หอม เป็นเม็ดสวย มีความนุ่ม และแห้งพอดี ชนิดที่รับประทานเพียงแค่ข้าวเหนียวยังดีเลิศ รับประทานกับอะไรก็งดงาม ซึ่งข้าวเหนียวที่ร้านตำกระเทยดีงามตามแบบที่ดิฉันกล่าวมาไม่มีผิดเพี้ยนเลยหละค่ะ รับประทานอาหารมื้อนี้กันเรียบร้อยแล้ว ดิฉันหวังว่าอาหารดี ๆ และเพื่อนที่คอยเคียงข้างเสมอ จะสามารถเยียวยาจิตใจคนอกหักได้บ้าง ไม่มากก็น้อย ชีวิตคู่ก็คล้ายไก่ย่างส้มตำ ถ้าไก่ย่างไม่สุก ต่อให้ส้มตำรสเลิศแค่ไหน ก็ไปด้วยกันไม่ได้ ถ้าไก่ย่างไม่ยอมสุก เราก็ควรจะหันมารับประทานส้มตำเพียงอย่างเดียวนะคะ ส้มตำรับประทานเดี่ยว ๆ ก็ยังแซ่บได้ แต่ถ้าฝืนรับประทานไก่ดิบเข้าไป มีหวังคงต้องได้ไปโรงพยาบาลต่อ เพราะไก่ดิบเต็มไปด้วยสารพัดเชื้อโรคอันตรายเลยนะคะ ดิฉันขออนุญาตถ่ายภาพคุณแม่ครัวแผนกส้มตำ คุณแม่ครัวก็หันมายิ้มเขิน ๆ สวย ๆ หวาน ๆ แบบนี้ให้ดิฉัน ดิฉันถ่ายไปก็ยิ้มตามไปด้วย ได้เป็นภาพประทับใจ ในร้านส้มตำ วันที่แสงแดดร้อนแรง ก็สู้ร้อยยิ้มงาม ๆ ของคุณแม่ครัวไม่ได้เลยค่ะ ยิ้มละมุนมาก ๆ ค่ะ พวกเราประทับใจร้านตำกระเทยเป็นอย่างยิ่งค่ะ ทางร้านมีการบริการที่ดีเยี่ยม อาหารดีงาม พนักงานทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส ดิฉันผู้เคยทำงานร้านอาหารมาก่อน ทราบดีว่า การต้องต้อนรับลูกค้าจำนวนมากแบบนี้ พนักงานต้องเหนื่อยแน่นอน แต่ทุกคนยังคงยิ้มแย้ม เต็มที่กับหน้าที่ และสุภาพมาก หากคุณแวะมาจังหวัดขอนแก่น แล้วตามหาร้านส้มตำ ที่มีดีทั้งรสชาติและบริการ ในใจดิฉันตอนนี้มีเพียงร้านตำกระเทย ร้านเดียวในใจจริง ๆ ค่ะ ท่านสามารถติดตามโปรโมชั่น ข่าวสาร หรือเส้นทางการเดินทางมายังร้าน ได้จากทางเพจ>>>ร้านตำกระเทย ได้โดยตรงเลยนะคะ ดิฉันประทับใจมาก ๆ และมั่นใจว่าคุณจะประทับใจเช่นกันค่ะ #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 4
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/02
scene type icon
ครัวตาแอ๊ด ขอนแก่น อำเภอเมืองขอนแก่น อาหารไทย
รีวิวร้านเด็ด ครัวตาแอ๊ด สาขาขอนแก่น ถ.ศรีจันทร์ ดิฉันรู้จักร้านครัวตาแอ๊ดเป็นครั้งแรก เมื่อคราวที่น้าสาวของดิฉันนัดสังสรรค์วันเกิดกับครอบครัวเมื่อปีที่แล้วค่ะ ในครั้งนั้นเราสั่งอาหารมามากมายหลายเมนู ล้วนแต่รสเลิศล้ำ จนดิฉันยังจดจำรสชาติที่เข้มข้ม ของอาหารในค่ำคืนนั้นได้เป็นอย่างดี ดีจนต้องชวนเพื่อนสนิทให้มาทานกันอีกหลายรอบเลยล่ะค่ะ ร้านครัวตาแอ๊ดตั้งอยู่ในซอย 1 ถนนศรีจันทร์ ใกล้ ๆ กับบึงหนองโคตร เปิดบริการ ตั้งแต่เวลา 17:00- 22:00 น. มีทั้งห้องอาหารติดเครื่องปรับอากาศ (ฝั่งซ้ายมือของภาพ) ส่วนที่นั่งรับลมมองท้องฟ้ามองดวงดาว ตรงส่วนกลางของร้าน และส่วนที่นั่งรับลมแต่มีหลังคากันฝนด้านขวามือค่ะ ร้านครัวตาแอ๊ดเป็นร้านอาหารบรรยากาศสบาย ๆ เน้นความปลอดโปร่ง และความสะอาดสะอ้าน ตกแต่งเรียบง่าย ออกแนวร้านอาหารที่มาเพื่อทานอาหารกับคนในครอบครัวหรือเพื่อนฝูง เจ้าของร้านคือ คุณแอ๊ด วงแกรนด์เอ็กซ์ ซึ่งทางร้านเปิดดนตรียุคเก่า ที่ดิฉันชื่นชอบมากค่ะ ร้องตามได้ทุกเพลง (ฮ่าฮ่าฮ่า) ครัว ทางร้านแสดงความจริงใจด้วยการเปิดครัวโล่ง เพื่อให้เห็นขั้นตอนการปรุงอาหารทุกขั้นตอนเลยค่ะ แต่เอาจริง ๆ ดิฉันแถบไม่ได้หันไปมองเลย เพราะมัวแต่ทานอาหารอยู่ เห็นอีกทีก็คือตอนที่ทานอาหารจนอิ่มแล้วล่ะค่ะ ร้านครัวตาแอ๊ดนี้ เป็นร้านอาหารที่ไม่ใช่ผงชูรสนะคะ ดิฉันจึงไม่ต้องกังวลใจในเรื่องแพ้ผงชูรสเลย ยอดเยี่ยมจริง ๆ ค่ะ เรามาดูเมนูกันบ้างดีกว่าว่ามีอะไรให้ทานกันบ้าง เมนูด้านบนเป็นเมนูชาบูค่ะ เป็นชาบูแบบคุณภาพแน่นจริง ๆ มีราคาชัดเจนทุกอย่าง เนื้อปลา เนื้อหมูแต่ละชนิดก็คัดมาเฉพาะแบบที่ฮอตฮิตเท่านั้นจริง ๆ น่าสนใจมาก ๆ ค่ะ เมนูอาหารจะแบ่งตามเนื้อของสัตว์นั้น ๆ โดยน้องพนักงานได้แนะนำเมนูให้เราฟังอย่างคล่องแคล้วพร้อมรอยยิ้ม ว่าวันนี้มีเนื้อปลาอะไรบ้าง เนื้อปลาชนิดนี้ทำอะไรได้บ้าง ฯลฯ ซึ่งดิฉันประทับใจมาก ๆ ค่ะ น้องพนักงานแสดงความเป็นมืออาชีพมาก ๆ มีความรักในการทำงาน และเต็มใจบริการอย่างเต็มที่จริง ๆ ค่ะ เมนูพิเศษ... ดิฉันและเพื่อนอยากทานหอยหลอดผัดฉ่า แต่อดค่ะ เพราะว่าวันนั้นหอยหลอดไม่มี เดี๋ยวรอบหน้ามาใหม่ ฮ่าฮ่าฮ่า ระหว่างที่รออาหารอยู่นั้น น้องพนักงานก็มาเสิร์ฟน้ำดื่มให้กับพวกเราค่ะ ดิฉันประทับใจมาก ๆ เพราะเราสั่งเพียงน้ำดื่มธรรมดา ๆ แต่ก็ยังได้รับการบริการที่ดีเยี่ยม นอกจากน้องจะมาจัดการเครื่องดื่มให้กับพวกเราแล้ว น้องพนักงานยังฉีกซองหลอดเหลือไว้ตรงปลายแบบนี้ แล้วพับหลอดมาให้พวกเราด้วยนะคะ เพื่อที่หลอดจะได้ไม่สกปรก และไม่ทิ่มตาคนแก่ทั้งสองคนค่ะ รอไม่นานอาหารที่เราเตรียมเมนูมาจากบ้านก็มาถึงค่ะ นั้นก็คือ... สะตอผัดกุ้ง ราคาจานละ 180 บาท เป็นสะตอผัดกุ้งที่ดีที่สุดเท่าที่เคยทานมาในชีวิตค่ะ ขอบอกว่าอย่างนี้เลยละกัน สะตอคือเผ็ดนิด ๆ และ หวานด้วย มีกลิ่นสะตอ แต่ไม่เหม็น ไม่แสบฉุนค่ะ กุ้งตัวโตมาก... เนื้อกุ้งสด หวาน เด้ง กรอบ แน่นมาก ใครรักกุ้งต้องไม่พลาดเลย หมูบดไม่มีไขมันหมูนะคะ เนื้อหมูล้วน ๆ รสชาติของผัดสะตองดงามมาก ๆ มีรสเค็มหวานจากกะปิ ไม่เค็มจัด ไม่หวานจ๋อย ไม่เหม็นด้วย! สมกับที่เป็นเมนูที่คิดมาจากบ้านจริง ๆ ค่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า ปกติเพื่อนของดิฉันไม่ได้ชอบผัดสะตอ โดยฉพาะผัดสะตอที่ใส่กะปิเธอไม่เคยทานเลยในชีวิต แต่เมื่อได้ทานผัดสะตอจานนี้เข้าไป เธอถึงกับลงความเห็นกับดิฉันว่า นี่คือผัดสะตอใส่กุ้ง ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยทานมาค่ะ เป็นอาหารจานที่เราทานหมดทุกอย่างไม่เหลือเลยจริง ๆ ทิ้งไว้เพียงเปลือกกุ้งเท่านั้น ผัดใบเหลียง จานต่อมาเป็นใบเหลียงผัดไข่ ราคาจานละ 120 บาท เมนูที่ดิฉันภูมิใจนำเสนออีกเช่นกัน หลังจากได้ทานผัดใบเหลียงครั้งแรก เมื่อไปเที่ยวจังหวัดชุมพร เมื่อ10++ปีก่อน เป็นผักที่ดิฉันชื่นชอบมากค่ะ ผักอะไรรสหวานดีเหลือเกิน แต่หาทานที่อีสานไม่ได้เพราะเป็นผักท้องถิ่นของภาคใต้ เป็นผัดผักที่แห้งดีมาก ๆ ค่ะ แห้งที่สุดตั้งแต่เคยทานมาบนโลกนี้ถูกใจมาก... เป็นผัดผักที่ต้องถามว่าน้ำมันคืออะไร...ดีต่อใจเหลือเกิน ด้านบนถูกตกแต่งด้วยกุ้งแห้งตัวโต ๆ ทอดกรอบแบบไม่อมน้ำมัน เกิดมาเพิ่งจะเคยได้ทานกุ้งแห้งทอดกรอบ มันเค็มน้อยมาก ๆ เคี้ยวเพลินดีจริง ๆ ค่ะ ใบเหลียงผัดไข่ก็รสชาติกลมกล่อมพอดีมาก ๆ งดงามชนิดที่อยากเข้าไปเฝ้าพัดวีให้คุณแม่ครัวขณะผัด เพื่อเป็นการให้กำลังใจ อะไรจะฝีมือดีถึงเพียงนี้ค่ะ! ข้าวผัดปู มาต่อกันที่ข้าวผัดเนื้อปู จานเล็ก ราคาจานละ 180 บาท ข้าวผัดรสชาติเลิศ ที่โปะมาด้วยเนื้อปูแน่น ๆ เน้น ๆ ข้าวผัดคือแห้งดีมากค่ะ รสชาติดีงาม กลมกล่อมพอดีไปหมด แล้วเนื้อปูคือชิ้นโตเต็มปากเต็มคำมาก ๆ เพื่อนสนิทของดิฉันผู้รักเนื้อปูเห็นแล้วถึงกับยิ้มแก้มปริเลยจริง ๆ ค่ะ ใครรักเนื้อปู ใครรักข้าวผัดปู ห้ามพลาดเลยจริง ๆ ค่ะ ครัวตาแอ๊ด เป็นร้านอาหาร ที่อาหารดีงามมาก มาก มาก ใครมาทานแล้วไม่รักเป็นไปไม่ได้เลยจริง ๆ ค่ะ ใครสนใจจองโต๊ะหรือติดต่อสอบถามได้ที่เบอรโทรศัพท์ 085-213-5322 #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 3
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/02
scene type icon
Craft fé อำเภอเมืองขอนแก่น ของหวาน
รีวิว Craft fe : ร้านคาเฟ่ในฝัน สุดน่ารัก Craft fé เป็นร้านคาเฟ่เล็ก ๆ ที่ถูกดัดแปลงมาจากบ้านทาวน์เฮ้าส์ อันเป็นที่พักของเจ้าของร้านเอง ซึ่งตั้งอยู่ใน ซอย หมอชาญอุทิศ ที่แยกย่อยมาจากถนนมิตรภาพ ถนนเส้นใหญ่สายหลักของจังหวัดขอนแก่น ดิฉันรู้จักร้านคาเฟ่ร้านนี้จากภาพขนมไดฟุกุสตรอว์เบอร์รี่ ที่เพื่อน ๆ ร่วมรุ่นมักจะโพสต์ลงบนเฟสบุค เมื่ออ่านรายละเอียดความดีงามของไดฟุกุ และความน่ารักของการตกแต่งร้าน ดิฉันก็รู้สึกอยากไปเยือนโดยทันที เมื่อเข้าไปตามหาพิกัดของร้านจากเพจของทางร้าน จึงได้ทราบว่า อ้าว... เพื่อนอุ้ยของดิฉัน เป็นเจ้าของร้านเองหรอกรึ (ดิฉันเพิ่งกลับมาใช้เฟสบุคได้ไม่นาน ตกข่าวไปเยอะเลยค่ะ) คุณเจ้าของร้านเป็นเพื่อนสมัยมัธยมของดิฉันเองค่ะ เราเรียนห้องเดียวกันเป็นวลา 3 ปี ถึงจะไม่ได้สนิทกัน แต่ก็รู้ว่าเธอเป็นคนน่ารักมาก ๆ ได้อ่านรีวิวที่มีคนชื่นชมฝีมือการทำขนมของเพื่อนอุ้ย ดิฉันก็ยิ่งรู้สึกดีใจแทนเพื่อน และรู้ว่าอุ้ยจะต้องทำทุกอย่างออกมาได้ดีมาก ๆ แน่ ๆ ด้วยความที่อุ้ยเป็นคนที่น่ารักสดใสออกมาจากภายใน ลูกค้าคนไหนได้ไปนั่งคุยกับคุณแม่ค้า ไม่วายจะต้องเอ็นดูบุคลิกที่น่ารักของเธอเป็นแน่แท้ ซึ่งความน่ารักของคุณเจ้าของร้าน ก็ได้แผ่ซ่านออกไปทุกทิศทุกทาง เพียงแค่ได้เห็นหน้าร้าน ดิฉันก็รู้สึกถึงความเป็นอุ้ยได้ในทันที น่ารัก เก๋ สดใส และจริงใจ การจัดตกแต่งร้าน มีการเลือกใช้กลุ่มโทนสีที่เป็นตัวแทนของความอ่อนเยาว์ ใสซื่อ อ่อนหวาน อบอุ่น สะอาดและจริงใจ คือ การเลือกใช้สีขาวหลายเฉด จากวัสดุที่หลากหลาย แล้วเพิ่มความอบอุ่นอ่อนหวานจริงใจ ด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อนตามธรรมชาติ ตัดด้วยความสดชื่นของสีเขียวจากพรรณไม้ต่าง ๆ ไร้หน้าแจกันเล็ก ๆ ยังมีดอกไม้ดอกจิ๋วประดับประดา เก็บทุกร้านละเอียด เนี้ยบสุด ๆ ร้าน Craft fe นอกจากจะมีเครื่องดื่ม ขนม ที่มีประชามติว่าเลิศเลอแล้ว ยังมีสินค้าน่ารัก เก๋ไก๋ งานฝีมือ งานทำมืออีกมากมายให้ท่านได้เลือกซื้อเลือกชมเลยนะคะ งานคราฟท์งานคราฟท์มีตั้งแต่ต้นไม้ ของใช้ส่วนตัว และของใช้ในครัวเรือนจ้า... ชมร้านแล้ว ก็ต้องมาชื่นชมคุณแม่ค้าสุดน่ารักของเราด้วย ขนาดถ่ายรูปตอนแม่ค้ากำลังคุยเผลอ ๆ ยังน่ารักเลยเนาะ จะเป๊ะไปไหนคะคุณเพื่อน ยิ้มแต่ละทีเราต้องยิ้มตามไปด้วยเลย แต่ที่เราสนใจมากกว่าคุณแม่ค้า ก็คือขนมของคุณแม่ค้าค่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า หลังจากที่ไปยืนเกาะตู้ขนมอยู่นานสองนาน พิจารณาว่าจะทานอะไรดี เพราะอยากทานหมดทุกอย่าง แต่ทานหมดคนเดียวไม่ไหว จึงต้องถามสมาชิกผู้ร่วมอุดมการณ์ ว่าพร้อมที่จะรับผิดชอบสิ่งเหล่านี้ร่วมกันหรือไม่ แน่นอนว่าเราต้องไม่พลาดไดฟุกุสตรอว์เบอร์รี่ เพราะเรามากันเพื่อสิ่งนี้ ไดฟุกุสตรอว์เบอร์รี่ มีด้วยกันหลายราคานะคะ ที่เราเลือกมาในวันนี้เป็นไซส์ใหญ่ที่สุด เพื่อความสะใจ ราคา คู่ละ 120 บาท ค่ะ ไดฟุกุมาอย่างสวยงามในจานไม้ และส้อมสีทองสามคัน เพราะเรามีกันสามคน แต่ไดฟุกุมี 4 ชิ้น เมื่อทานชิ้นแรกกันไปครบทุกคนแล้ว เราจึงมีการตบตีกันเล็กน้อย เพื่อแย่งชิงไดฟุกุชิ้นสุดท้าย เนื่องจากเรามีความเชื่อ (และความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ) ว่าใครได้ทานอาหารชิ้นสุดท้ายได้แฟนหล่อ ฮ่าฮ่าฮ่า ไดฟุกุของเพื่อนอุ้ย งดงามมาก ๆ ค่ะ สตรอว์เบอร์รี่หอม หวาน ฉ่ำ ละลายในปาก แป้งไดฟุกุบางนิ่ม นุ่ม ละมุนมาก ๆ ส่วนถั่วแดงกวนหวานพอดี ทุกอย่างดีงามสมราคามาก ๆ ค่ะ ไดฟุกุดีงามขนาดนี้ ทำยากน่าดูเลยเชียว สตรอว์เบอร์รี่ที่ละลายในปากแบบนี้เสียหายง่ายมาก กว่าจะทำออกมาได้สวยสดงดงามขนาดนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ ๆ ค่ะชีสเค้ก ถัดจากไดฟุกุ คือ เจแปนนีส ชีสเค้ก ราคาชิ้นละ 65 บาท ขนมเค้กเนื้อนุ่มเบา แต่ชุ่มฉ่ำไปด้วยชีส หอม หวาน ละมุน ตามสไตล์ชีสเค้กญี่ปุ่น อยากจะบอกว่า รสดีงามมาก และราคาดีมาก ๆ ค่ะ หากใครชื่นชอบเจแปนนีส ชีสเค้ก ดิฉันขอชี้เป้าเลยค่ะ เจแปนนีส ชีสเค้กร้านนี้ดีงามมาก ๆ ค่ะ ไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ ขนมพุดดิ้งอัญชันมะพร้าวอ่อน สีหวานสวย ราคา 59 บาท เห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะทานค่ะ สวยงามมาก และรสชาติเลิศมาก นางเอกมาก ๆ ค่ะ ที่เขากันว่าเราทานอะไรเราจะเป็นอย่างนั้น ใครอยากเป็นนางเอก น่ารัก คิกขุ น่าเอ็นดู ทานพุดดิ้งขวดนี้เลยค่ะคุณ ละมุนเหลือเกิน ไม่สามารถต้านทานความฟรุ้งฟริ้งของเธอได้จริง ๆ ค่ะ ใครทานพุดดิ้งนี้แล้ว หยิบหมวกสานปีกกว้างผูกโบว์สีฟ้า กับเดรสยาวกรุยกรายสีฟ้าอ่อนผ้านุ่มพริ้วมาสวมด่วน ๆ เลยค่ะ องค์นางเอกจะสถิตย์อยู่กับคุณแน่ ๆ ค่ะ มาถึงเครื่องดื่มกันบ้างนะคะ ด้วยความที่ดิฉันดื่มคาเฟอีนไม่ได้ ดังนั้นจึงมักจะมีปัญหาเวลาต้องเข้าคาเฟ่ แต่ไม่ใช่ที่ร้านคราฟท์เฟ่ค่ะ ที่นี่มีชาไร้คาเฟอีนมากมายหลายรสชาติ ให้ได้เลือกสรรเลยนะคะ ซึ่งส่วนประกอบของชามาจากดอกไม้และพันธุ์พืชต่าง ๆ โดยมีหญ้าหวานเป็นวัตถุดิบที่ให้ความหวานค่ะ ส่วนประกอบของชา Mid Summer Dream ได้แก่ชาเขียวใบหม่อน กุหลาบฝรั่งเศส กระเจี๊ยบ และหญ้าหวานค่ะ ถ้าดื่มแบบร้อนจะมาในกา พร้อมโถใบเล็ก แก้วชา และนาฬิกาทรายสำหรับจับเวลาราคา เช็ตละ70 บาท ถ้าดื่มแบบเย็นจะมาเป็นแก้วเลยค่ะ ราคาแก้วละ 60 บาทค่ะ ชาความฝันกลางฤดูร้อนนี้ มีรสชาติเปรี้ยวจากกระเจี๊ยบและดอกกุหลาบ มีความหอมหวานละมุนจากหญ้าหวานและใบหม่อน ดื่มแล้วสดชื่นกระปรี้กระเปร่าผ่อนคลายดีมาก ๆ และค่ะ นอกจากรสชาติที่ดีแล้ว ยังมีสรรพคุณที่ดีงามคือช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ มีวิตามินซีและแคลเซียมสูง ช่วยย่อยอาหาร ลดคลอเรสเตอรอล ลดความดันโลหิต และขจัดพิษออกจากไตค่ะ พูดได้ว่าเธอสวยทั้งรูป และยังจูบหอมด้วยนะคะ ชา ชานี้สามารถเติมน้ำร้อนได้อีก ถึง 3 น้ำเลยนะคะ รสชาติของชาจึงจะจางหายไป คุ้มมาก ๆ ค่ะ นั่งจิบชาอุ่น ๆ พร้อมกับทำงานไปด้วย เพลินแน่ ๆ แก้วชา เป็นแก้วใสสองชั้นกันความร้อนและเก็บความร้อน ดื่มชาได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวว่าจะร้อนมือเลยค่ะ ยอมใจในความละเอียดละออของคุณแม่ค้า เลือกแก้วเลือกภาชนะแต่ละอย่างละเอียดละเมียดละไมมากจริง ๆ ต่อมาเป็นชาสีน้ำเงินครามสวยงาม Tropical Wonderland ดื่มร้อน ๆ ราคากาละ 70 บาท ดื่มเย็น แก้วละ 60 บาท เป็นชาไร้คาเฟอีนที่มีส่วนผสมของ ดอกอัญชัน มะพร้าว ใบเตย มะตูม หญ้าหวาน และข้าวเหนียวดำค่ะ ชาชาสีฟ้าครามนี้ มีความหอมอบอุ่นผ่อนคลายด้วยรสและกลิ่นของใบเตย มะตูม และมะพร้าว มีรสชาติหวานหอมของมะตูมและหญ้าหวาน ดื่มแล้วรู้สึกผ่อนคลายสบายใจ นึกถึงแสงแดดที่กระทบท้องทะเลยามบ่าย จิบชาถ้วยนี้แล้วเหมือนได้นอนอาบแดดอุ่น ๆ อยู่บนเก้าอี้ชายหาด ในชายหาดส่วนตัว เงียบสงบ ผ่อนคลาย สบายใจ นอกจากนั้นแล้วด้วยสรรพคุณของสมุนไพรต่าง ๆ เหล่านี้ยังช่วยบำรุงสายตา ผิวพรรณและเส้นผม และยังช่วยลดอาการอักเสบต่าง ๆ อีกด้วยค่ะ ชานอกจากดื่มดีแล้ว ถ่ายรูปก็สวยด้วยนะ มาถึงชาแก้วสุดท้ายที่พวกเราได้ชิมกัน นั้นก็คือ Silent Lullaby ดื่มเป็นชาร้อน 70 บาท ชาเย็นแก้วละ 60 บาท แค่ฟังชื่อก็รู้ว่าชาตัวนี้ช่วยในเรื่องการนอนหลับ ฉะนั้นชาที่ช่วยให้นอนหลับ จะต้องไม่มีคาเฟอีนเป็นแน่แท้ ชาขับกล่อมให้นอนหลับฝันดี สีเหลืองสดใสนี้ มีส่วนผสมของดอกคาโมมายล์ ที่เขาว่ากันว่าช่วยทำให้นอนหลับดี เก๊กฮวย อันนี้ก็ช่วยให้นอนหลับง่าย ขิงช่วยระบบย่อยอาหาร และขับลม ชะเอมเทศ ทำให้ชุ่มคอและลดอาการไอ และสุดท้ายคือ ดอกดาวเรือง ซึ่งเป็นดอกไม้ในกลุ่มเดียวกันกับ คาโมมายล์ และเก๊กฮวย รวมสามพลังมาช่วยทำให้นอนหลับสบายกันเลยทีเดียว ถ้าดื่มก่อนจะเตรียมตัวนอน คงจะผ่อนคลายนอนหลับสนิทดีนะคะ ชาสีเหลือง กลิ่นหอม ผ่อนคลายนี้ ดีต่อใจแฟน ๆ ผู้รักความชื่นใจของน้ำเก๊กฮวย แต่ไม่นิยมความหวานจ๋อย ที่ร้านรวงต่าง ๆ มักเติมน้ำตาลกันจนน้ำเก๊กฮวยที่ดีต่อสุขภาพ กลายเป็นน้ำเชื่อมเก๊กฮวย ที่ทำร้ายสุขภาพ ปกติแล้วเก๊กฮวยเป็นชาสมุนไพรที่มีสรรพคุณแก้ร้อนใน กระหายน้ำ แต่พอเติมน้ำตาลมากเกินไปเลยทำให้ร้อนในเพิ่มไปอีก เพราะน้ำตาลที่เกินมานี่เอง แต่ถ้าใครมาจิบชา Silent Lullaby ที่ร้าน Craft fe ปัญหานี้ของคุณจะหมดไปทันทีค่ะ สบายใจดื่มได้เลยเต็มที่! อีกหนึ่งจุดที่ประทับใจ คือ ห้องน้ำ ฮ่าฮ่าฮ่า ห้องน้ำสะอาดมาก ตกแต่งน่ารัก และมีผ้าเช็ดมือให้เช็ดมือ แบบใช้แล้วซัก (ขยันซัก และ รักสิ่งแวดล้อมมาก ๆ ) แม้ห้องน้ำจะไม่ใช่จุดขาย แต่ห้องสุขา เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เรารู้ว่าเจ้าของร้านมีทัศนคติของเจ้าของกิจการ ที่ใส่ใจแม้สิ่งเล็กน้อย ร้าน Craft fe เปิดบริการวันพุธ - ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10:30 - 18:30 น. วันเสาร์ - อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10:30 - 19:00 น. ปิดวันจันทร์และวันอังคาร ที่จอดรถคือริมถนนนะคะ อาจจะต้องจอดไกลร้านนิดหน่อย แต่เดินไม่ไกลค่ะ นอกจากจะนั่งทานขนมทานเครื่องดื่มที่ร้าน สบาย ๆ แล้ว ยังสามารถซื้อกลับบ้านได้ด้วยนะคะ มีไดฟุกุเป็นกล่อง ๆ ให้ซื้อไปเก็บไว้ทานเองที่บ้านไม่ต้องแบ่งใคร หรือจะซื้อไปฝากหวานใจรับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ ไดฟูกุไดฟูกุซื้อกลับบ้านทานคนเดียวไม่ต้องแบ่งใคร ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า... #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 3
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/02
scene type icon
BlueKoff Khonkaen อำเภอเมืองขอนแก่น เบเกอรี่/เค้ก
เพื่อนชวนให้มา อยากให้มารีวิว เพราะเพื่อนชอบกาแฟร้านนี้มากก็เลยมา แต่เราไม่ดื่มกาแฟเลยสั่งเมนูสมูตตี้มาดื่ม การตกแต่งร้าน ร้านตกแต่งสวยค่ะ ตามที่เพื่อนบอกคือกาแฟดี ถูกใจมาก เพื่อนมาดื่มทุกสัปดาห์เลยทีเดียว ส่วนคะแนนที่เราให้คือในส่วนของเมนูน้ำปั่น ที่รสชาติผิดหวังมาก ๆ สำหรับราคาแก้วละ 85฿ สตรอเบอร์รี่สมูทตี้ที่เราสั่ง ไม่มีสตรอเบอร์รี่นะคะ มีแต่ไซรัป และรสชาติไม่รื่นรมย์เลยค่ะ สมูทตี้มันม่วง เพื่อนอีกคนที่ไม่ดื่มกาแฟสั่งมา ซึ่งเขาก็ไม่โอเคกับรสชาติเช่นกัน ร้านนี้น่าจะชงกาแฟดีนะคะ แต่ถ้าใครไม่ดื่มกาแฟเราไม่แนะนำสมูทตี้นะคะ แต่ความอร่อยก็เป็นเรื่องปัจเจก คนอื่นอาจจะอร่อยก็ได้ ก็ลองดูเนาะ #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 4
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/02
scene type icon
โอป้านมสด อำเภอเมืองขอนแก่น ของหวาน
เข้าไปนั่งที่ร้านเกือบสิบนาที พนักงานไม่เข้ามาสอบถาม ไม่เอาเมนูมาให้ พอเพื่อนลุกไปที่เคาน์เตอร์ พนักงานถาม"ว่าเก็บเงินเหรอครับ" ตอนสั่งเครื่องดื่ม เครื่องดื่มที่เราสั่งมาเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน คือ กำชับว่าหวานน้อย แต่ได้มาแบบหวาน...จนกินไม่ได้ พอสอบถามพนักงานว่า "อันนี้หวานน้อยแล้วเหรอค่ะ" พนักงานตอบว่า "ไม่ทราบครับ ผมไม่ได้เป็นคนทำครับ" น้องพนักงานตอบด้วยความสุภาพนะคะ แต่ดิฉันและเพื่อนอึ้ง.... รสชาติอยากร้องไห้มาก ๆ ผิดหวังค่ะ กล้วยหอม คาราเมล ไม่ใช้กล้วย แต่เป็นไซรัปกลิ่นกล้วย คาราเมลก็หวาน เป็นเมนูที่หวานมาก เมนูที่รอดคือ โกโก้ค่ะ แนะนำให้สั่งเมนูนี้นะคะ ส่วนขนมปังโอเคค่ะ อยากให้ทางร้านปรับปรุงการบริการและรสชาติหน่อยนะคะ แต่ความอร่อยก็เป็นเรื่องปัจเจก เราว่าไม่โอเค คนอื่นอาจจะว่าดีก็ได้ #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 3
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/02
scene type icon
เอี่ยม ก๋วยเตี๋ยวเรืออนุสาวรีย์ชัย อำเภอเมืองขอนแก่น ก๋วยเตี๋ยวเรือ
รีวิว เอี่ยม ก๋วยเตี๋ยวเรืออนุสาวรีย์ชัยฯ ณ ขอนแก่น เมื่อตอนเรียนอยู่กรุงเทพฯ กิจกรรมที่ดิฉันและเพื่อน ๆ ชาวหอนิยมชมชอบกันเป็นพิเศษ คือ การชักชวนกันไปทานก๋วยเตี๋ยวเรื่ออนุสาวรีย์ชัยฯ เนื่องจากรสชาติที่ถูกใจ และราคาที่สบายกระเป๋า นอกจากนี้หากทานได้เป็นจำนวนมาก ๆ ยังได้รับรางวัลเป็นน้ำอัดลมให้พวกเราได้ดื่มฟรี ๆ กันอีกด้วย ดิฉันยังคงแวะเวียนไปทานก๋วยเตี๋ยวเรืออนุสาวรีย์ชัยฯเสมอ แม้ว่าปัจจุบันจะไม่สามารถทำจำนวนชาม ได้มากมายเท่าในอดีตแล้วก็ตาม เมื่อขอนแก่นได้มี เอี่ยม ร้านก๋วยเตี๋ยวเรืออนุสาวรีย์ชัยฯ ที่สวยงาม สะอาด เก๋ มาเปิดให้บริการ เพื่อนสาวของดิฉันจึงได้ชักชวนให้ไปทานเป็นเพื่อนกันอยู่เป็นประจำ เพราะไปคนเดียวก็ออกจะเขิน ๆ ไปซะหน่อยที่ทานเสียเยอะ แต่ถ้ามีเพื่อนไปด้วย ความเขินมักจะถูกแทนที่ด้วยความสนุกอยู่เสมอ ๆ หน้าร้านสุดน่ารัก ที่ดิฉันไม่ค่อยได้มอง เพราะตอนเดินเข้าร้านก็จะเพ่งเมนู ตอนเดินออกก็อิ่มจนมองไม่เห็นอะไรนอกจากยานพาหนะที่นั่งมา จะได้กลับบ้านไปนอนอืดให้เร็วที่สุด บรรยากาศบรรยากาศในร้านออกแนวลอฟท์ เรียบ เท่ สะอาด สะอ้าน แอบให้ความรู้สึกของโต๊ะเก้าอี้ไม้ของโรงเรียนสมัยประถม น่ารัก และ เก๋ จริง ๆ ค่ะ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อราคาชามละ 10 บาท ทานได้สามคำใหญ่ ๆ สำหรับผู้ใหญ่ ดิฉันสั่งมาทานเพิ่มหลังจากที่ทานก๋วยเตี๋ยวชามละ 30 บาทแล้วไม่อิ่ม ฮ่าฮ่าฮ่า ชามขนาด 10 บาทนี้ น่ารัก และมีปริมาณพอเหมาะสำหรับเด็ก ๆ เพราะเขาจะสามารถทานหมด ไม่เหลือ แนะนำมาก ๆ ถ้าพาเด็ก ๆ มาด้วย เพราะเขาจะรู้สึกดีใจที่มีอาหารชามเล็ก ๆ ที่เขาทานหมดได้เองด้วยนะคะ ก๋วยเตี๋ยวหมูชามราคา 30 บาท คนทั่วไปทานแล้วก็จะอิ่มพอดี แต่ถ้าทานเยอะ หรือชอบก๋วยเตี๋ยวเรือแบบดิฉันก็จะต้องสั่งเพิ่ม ฮ่าฮ่าฮ่า ส่วนชามราคา 20 บาท เหมาะสำหรับสาว ๆ เด็ก ๆ ที่ทานน้อย ทานชาม 20 บาทกำลังสวยพอดี ไม่เสียลุคสาวสวย น่ารัก ถ้ามาเดททานเท่านี้ก็พอค่ะสาว ๆ แต่ถ้ามากับเพื่อนสาวทานให้เต็มที่ค่ะ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อน้ำตก รสชาติของซุปเค็มนำ ตามรสชาติที่ชาวอีสานชื่นชอบ รสชาติซุปเข้มข้นถึงใจ เส้นเล็กนิ่มเหนียวถูกใจมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเปื่อย เนื้อสด หรือลูกชิ้น ทุกอย่างรสชาติดีหมดเลยค่ะ ไม่มีอะไรให้ติเลย ผักก็สด ไม่มีเหลืองเหี่ยวแต่อย่างใด แสดงว่าตอนล้างตอนหั่นได้คัดเลือกมาแล้วเรียบร้อย ดิฉันผู้ไม่นิยมปรุงอาหารก็ยังคงไม่ต้องปรุงอะไรเช่นเดิม เพราะทางร้านปรุงซูปมาได้เลิศเลอเรียบร้อยแล้วค่ะ เนื้อเนื้้อสด สดจริง นุ่ม เด้ง เคี้ยวแล้วขาด ไม่ใช่แบบเหนียว เคี้ยวไม่ขาด แถมทรมาณร่องฟัน ส่วนเนื้อตุ๋นเนื้อเปื่อยก็ตุ๋นได้พอดี นุ่มแต่กัดแล้วกรุบ เส้นเส้นเล็ก นุ่ม เหนียว ผักสดเขียว เคี้ยวแล้วได้ไฟเบอร์ ดีต่อระบบขับถ่าย ได้วิตามิน ก๋วยเตี๋ยวหมู ก็ดีเลิศไปทุกสิ่ง ลูกชิ้นของทานร้าน ทั้งลูกชิ้นเนื้อและลูกชิ้นหมู ทานแล้วได้ความเป็นหมูเป็นเนื้อ ไม่ใช้วิญญาณหมู วิญญาณเนื้อ ที่แอบแฝงปะปนอยู่ในหมู่แป้ง ลูกชิ้นคือดีมาก ๆ ใครเคยผิดหวังกับลูกชื้นที่ร้านอื่น ขอให้มาปลอบใจตัวเองที่ร้านเอี่ยมค่ะ ขนมถ้วยที่ทำให้วี๊ดว้าย ไม่แพ้ก๋วยเตี๋ยว คือ ขนมถ้วย ขนมของโปรดของดิฉัน ที่ไปเจอที่ไหนเป็นต้องชิม ดิฉันและเพื่อนสาวก็จัดกันไปคนละคู่สองคู่ แม้เราจะทานก๋วยเตี๋ยวกันคนละหลายชามแล้ว เราก็ยังมีพื้นที่ให้กับของหวานเสมอ ซึ่งขนมถ้วยเหล่านี้มีรสชาติหวานมัน ราคาคู่ละ 10 บาทค่ะ วุ้นมะพร้าวนมสด ราคาถ้วยละ 25 บาท ตัวนมสดมีกลิ่นนมแมวหากใครชื่นชอบนมแมว ทานแล้วก็จะสดชื่นถูกใจ แต่ถ้าใครไม่ชอบนมแมวแนะนำให้งดเมนูนี้ไปก่อนนะคะ ตัวมะพร้าวอ่อนหวานนุ่มดีงามค่ะ วุ้นมะพร้าวนิ่มมากแตกละลายในปากทันทีค่ะ ใครชื่นชอบขนมหวานอย่าลืมเผื่อพื้นที่ในกระเพาะให้สำหรับของหวานในร้านสักนิดนะคะ จะได้ไม่ทานอาหารจนแน่นท้อง จนแทบต้องกลิ้งออกจากร้านแบบดิฉันและเพื่อนสาวนะคะ ร้าน เอี่ยม อร่อย สมัยใหม่ ตั้งอยู่บนถนนกัลปพฤกษ์ ตรงข้ามศูนย์ประชุมกาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 8:30- 18:30 น. ที่จอดรถ คือ ริมถนนนะคะ #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 4
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/02
scene type icon
ซันเซ็ทเจลาโต้ อำเภอเมืองขอนแก่น ไอศกรีม
รีวิว Sunset Gelato : ไอติมรสเลิศ ของคนขอนแก่น SUNSET GELATO เป็นไอศกรีมในดวงใจที่ดิฉันเป็นลูกค้าประจำ ตามทานมาโดยตลอด เพราะชื่นชอบไอศกรีมรสดาร์ค ช็อกโกแลต ที่รสชาติเข้มข้น หวานขมลงตัว ราคาไม่แรง ไขมันต่ำ และเป็นไอศกรีมที่ผลิตโดยคนขอนแก่นเอง! ไม่ว่าซันเซ็ทเจลาโต้ จะไปออกขายที่ตลาดนัดไหน อีเว้นท์อะไร หรือร้านของซันเซ็ทสาขาไหน ดิฉันก็ไม่เคยพลาด เดินเข้าไปแล้วได้ไอศกรีมกลับออกมาทุกที โดยหารู้ไม่ว่า เจ้าของไอติมรสชาติงามนี้ เป็นเพื่อนร่วมรุ่นสมัยมัธยมของดิฉันเอง! แต่ตัวดิฉันก็ไม่ได้เรียนอยู่ห้องเดียวกันกับเจ้าของไอติมซันเซ็ทนะคะ แต่พอดีเป็นเพื่อนของเจ้าของเขาอีกที (งงไหม) ฉะนั้นการรีวิวครั้งนี้จึงเป็นการรีวิวเงียบ ๆ โดยลูกค้าประจำ ที่บังเอิญเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับเจ้าของเขาพอดี ร้านซันเซ็นเจลาโต้มีด้วยกันหลายสาขา สาขาที่ดิฉันและเพื่อน ๆ ได้มาทานในวันนี้คือ สาขา ถนนศรีนวล ซึ่งเป็นตึกแถวเก่าแก่โบราณ สร้างด้วยไม้และปูน แต่ถูกปรับปรุงตกแต่งให้มีสีส้มสดใส ตามทิศทางสีของทางแบรนด์ ที่ต้องการให้เข้ากับบรรยากาศท้องฟ้ายามพระอาทิตย์ตกดิน แล้วตัดสีส้มสดด้วยสีดำทำให้มีความ POP มากขึ้น โดยมีสีขาวเป็นสียืนพื้น ซึ่งเป็นแนวทางการเลือกใช้สี ที่สื่อสารถึงความสดชื่นแจ่มใสจากไอศกรีม และบรรยากาศยามเย็น คล้ายกับต้องการจะบอกกับคุณลูกค้าว่า... มากินไอติมกันให้ใจร่ม ๆ กันเถอะนะ ป้ายเรียกแขกหน้าร้านอันยิ่งใหญ่อลังการ ตามที่เขาบอกไว้ว่าไอศกรีมของเขาไขมันต่ำนะ นอกจากนั้นวัตถุดิบยังมาจากในตัวจังหวัดขอนแก่นเอง เป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมในจังหวัด ทำให้เกษตรกรผู้ผลิตผลหมากรากไม้ ได้มองเห็นหนทางในการแปลรูปของผลผลิตของตัวเองด้วยนะ เผื่อชาวเกษตรกรจะทำหวานเย็นขายในชุมชนบ้าง ก็น่าจะดีนะคะ หน้าร้านหน้าร้านยามเที่ยง แดดแรงเลยค่ะ ลูกค้ามาเรื่อย ๆ เลยค่ะ โดยลูกค้าส่วนมากที่เข้ามาในระหว่างที่เรานั่งทานกันอยู่ จะซื้อกลับบ้าน เพราะเป็นเวลาเที่ยงวันค่ะ (สงสัยจะรีบกลับไปทำงานกันต่อ) ทางร้านปรับปรุงตึกแถวด้วยสีตามทิศทางของแบรนด์ ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้เรียบ ๆ โทนสีอบอุ่น ให้ความเป็นกันเอง บรรยากาศคล้าย ๆ ร้านไอติมข้างโรงเรียนสมัยมัธยม ที่เด็ก ๆ เลิกเรียนแล้วจะมานั่งพูดคุยทานไอศกรีมกัน เรียบง่าย มีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ จนดิฉันแอบมโนกลับไปนึกถึงตอนที่เป็นยังเด็กมัธยมอีกครั้ง ดิฉันเป็นมนุษย์ที่ชื่นชอบตึกเก่าที่เป็นตึกปูนผสมไม้อยู่แล้ว พอได้มาเจอร้านที่เป็นตึกเก่าใช้ประตูเหล็กพับแบบนี้ ยิ่งมีความสุขไปใหญ่ นั่งทานไอศกรีมเพลินเลยหละค่ะ น้ำใจมุมน้ำเปล่าให้ดื่มฟรี ดื่มเยอะแค่ไหนก็ได้ แต่อย่ายกไปทั้งแกลลอนนะจ๊ะ เมื่อพวกเราได้ที่นั่งที่ถูกใจ เราก็มาพิจารณาเมนูกันค่ะ วันนี้ดิฉันจะไม่ทาน ดาร์ค ช็อกโกแลต แต่จะทานไอศกรีมรสชาติอื่นดูบ้าง เพราะวันนี้มีความรู้สึกว่าอยากทานไอศกรีมรสผลไม้ ซึ่งนอกจากไอศกรีมแล้ว ร้านซันเซ็ทเจลาโต้ ยังมีเมนูอื่น ๆ ให้ทานกันด้วยนะคะ ได้แก่ น้ำแข็งไสรสนม และชามะนาวโฟล์ทด้วยไอศกรีมซอร์เบทมะนาว เมนูไอศกรีมรสที่โด่งดังที่สุดของทางร้าน คือ ไอศกรีมรสขนมเปี๊ยะ ซึ่งสามารถทำออกมาได้เหมือนขนมเปี๊ยะสุด ๆ ราวกับว่าเรากำลังทานขนมเปี๊ยะที่ถูกนำไปแปลงร่างให้เป็นอนูหิมะยังไงอย่างงั้น ถ้าใครชื่นชอบขนมเปี๊ยะ อย่าได้พลาดชิมไอศกรีมรสเด็ดรสนี้ของซันเซ็ทเป็นอันขาดนะคะ เมนูที่เพื่อนของดิฉันสั่งมาดื่ม คือ ชามะนาวโฟล์ทด้วยไอศกรีมมะนาวซอร์เบท ราคา 50 บาท เมนูเก๋ได้อีก... นี้ถ้าดิฉันยังดื่มคาเฟอีนได้เหมือนตอนวัยละอ่อน ดิฉันต้องไม่พลาดเมนูนี้แน่นอนค่ะ ตอนนี้ได้แค่ดม ได้แค่มอง ด้วยความสุขใจ เห็นเพื่อนดื่มอย่างมีความสุข และบอกเราว่ารสชาติมันดี มันชื่นใจแค่ไหน เราก็สุขใจไปกับเพื่อนด้วย (+ความอิจฉา) ชามะนาวเข้มข้ม โฟล์ทด้วยไอศกรีมมะนาวซอร์เบท ราคา 50 บาท ส่วนเพื่อนอีกคนสั่งเมนูน้ำแข็งไสรสนม ขนาดไซส์ L ราคา 85 บาท มีท๊อปปื้งคือบัตเตอร์มอลต์เนื้อแน่นรสชาติเข้มข้น และตบท้ายด้วยไอศกรีมดาร์ค ช็อกโกแลต สกู๊ปเล็ก (นี่เล็กแล้วเหรอ) ไอซ์เชฟความเหนียวแน่นของไอศกรีมเจลาโต้ บัตเตอร์มอลต์รสเข้มข้นเนื้อแน่น และน้ำแข็งไส รสนมหอม ละมุน ส่วนดิฉันนั้น ได้ยืนเกาะตู้แช่และพิจารณารสชาติ ที่ยังไม่เคยทานมาก่อน ซึ่งไอศกรีมของทางร้านมีทั้งแบบที่เป็นรสครีม ๆ นม ๆ เช่นดาร์ค ช็อกโกแลตที่ดิฉันชื่นชอบ นมฮอกไกโด คุ๊กกี้แอนด์ครีม รัมเรซิน ขนมเปี๊ยะ ส่วนรสชาติผลไม้ที่ใช้ผลไม้สด ๆ แท้ ๆ ได้แก่ มะนาว เสารวรส สตรอเบอร์รี่ สตรอบเบอร์รี่เสาวรส ซึ่งดิฉันเลือก สตรอเบร์รี่ และสตรอเบร์รี่เสาวรสค่ะเจลาโต้เจลาโต้เจลาโต้สีหวานสวย รสผลไม้ชัด เข้มข้น พร้อมถือกลับบ้านค่ะ สกู๊ปเดียว 39 บาท สองสกู๊ป 75 บาท พูดกันตามตรงแบบไม่เกรงใจเพื่อน ดิฉันนิยมชมชอบไอศกรีมเจลาโต้มานานหลายปี ซึ่งร้านที่ชื่นชอบเป็นร้านที่อยู่ต่างประเทศ และมีราคาแพงมากค่ะ ดิฉันจึงจะทานเฉพาะเวลาที่ เขาแจกคูปองลดราคาเท่านั้น ฮ่าฮ่าฮ่า ถ้าไม่แจกคูปองดิฉันก็จะทำไอศกรีมทานเองที่บ้าน รสชาติที่ดิฉันทำเป็นประจำคือรสทุเรียน โดยการซื้อทุเรียนแช่แข็งที่ส่งจากประเทศไทย มาปั่นผสมกับครีมน้ำตาลและกะทิ ซึ่งแน่นอนว่าอ้วนแน่ ๆ และต้นทุนราคาสูง แต่ก็ยังถูกกว่าราคาไอศกรีมเจลาโต้ที่ขายตามท้องตลาดทั่วไปนะคะ ฉะนั้นเมื่อมาเจอไอศกรีมเจลาโต้รสชาติเยี่ยม ราคาสกู๊ปละไม่ถึง 40 บาท ดิฉันถือว่าได้เจอขุมทรัพย์แล้วค่ะ จึงได้แอบเป็นลูกค้าประจำเรื่อยมา โดยไม่เคยแสดงตัวแต่อย่างใด หากคุณเป็นคนชื่นชอบไอศกรีมรสชาตอเข้มข้น คุ้มเกินราคา ดิฉันขอแนะนำซันเซ็ทเจลาโต้ ซึ่งมีสาขามากมายหลายที่ทั้งเป็นร้านให้นั่ง สาขาถนนศรีนวล เปิดบริการทุกวันตั้งแต่มื้อเที่ยง 11:30 - 21:00 น. สาขาตลาดต้นตาล อยู่ใกล้ ๆ ร้านโมชิโมชิ เปิดบริการตั้งแต่เวลา 17:00 - 22:00 น. และ สาขากังสดาล มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดบริการตั้งแต่เวลา 12:00 - 21:00 น. นอกจากนั้นยังพบปะได้ตามงานอีเว้นท์เก๋ไก๋ต่าง ๆ ยังไม่เท่านั้นทางร้านยังมีบริการส่งทั่วตัวเมืองขอนแก่นด้วยนะคะ นอกจากนั้นยังสามารถสั่งจากแอพพริเคชั่นดิลิเวอร์รี่ต่าง ๆ ได้ด้วยค่ะ *หากใครสนใจต้องการทำแบรนด์ไอศกรีม ซันเซ็ทเจลาโต้ยังมีบริการในส่วนนี้อีกด้วยนะคะ #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 2
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/02
scene type icon
เฝอท่าบ่อ อำเภอเมืองขอนแก่น อาหารเวียดนาม
ลูกครึ่งญวน ชวนกินโย่ย : รีวิว เฝอท่าบ่อ จ.ขอนแก่น นอกจากอาหารอีสาน ซึ่งเป็นอาหารประจำถิ่นแล้ว อาหารญวนนับเป็นอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดขอนแก่น ชนิดที่คนทั่วไปคาดไม่ถึง ในช่วงหนึ่งของชีวิตดิฉันได้ทานเมี่ยงญวน หรือปอเปี๊ยะสด เป็นประจำทุกสัปดาห์ เนื่องจากเป็นอาหารที่เตรียมได้ง่าย แม่จึงมักจะเกณฑ์ให้พวกเรามาช่วยกันล้างผัก ช่วยกันเตรียมอาหารจานนี้เป็นประจำ นับเป็นเมนูอาหารที่แม่โปรดปราน เพราะมีผักสดเป็นส่วนประกอบหลัก และสามารถประยุกต์เป็นอาหารมังสวิรัติได้ง่าย เพียงเปลี่ยนเนื้อทั้งหมดให้เป็นเต้าหู้ เพราะแม่ของดิฉันเป็นมนุษย์มังสวิรัติค่ะ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเพื่อนตั้งแต่สมัยประถมของดิฉัน ซึ่งเป็นลูกครึ่งเวียดนาม ได้ถามไถ่ว่าเคยทานเฝอหรือไม่ ดิฉันจึงได้ระลึกว่า ดิฉันทานเฝอเป็นประจำ ที่ร้านอาหารเวียดนามเมื่อตอนอยู่ที่ออสเตรเลียค่ะ เพราะมีความคล้ายคลึงกับก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กน้ำใสของไทย ซึ่งดิฉันไม่แน่ใจว่า เฝอ ที่ดิฉันได้ทาน เป็นเฝอตัวจริงหรือไม่ เพราะถึงแม้ว่ากุ๊กและเจ้าของร้านอาหารจะเป็นคนเวียดนามแท้ ๆ แต่แน่นอนว่าเฝอที่ออสเตรเลีย ย่อมรสชาติแตกต่างจากเฝอที่บ้านเรา เพราะวัตถุดิบในบ้านเมืองที่ไกลโพ้นจากดินแดนต้นกำเนิด ย่อมตามหาวัตถุดิบดั้งเดิมได้ยาก ทำให้มีรสชาติผิดเพี้ยนไปบ้าง แต่ก็ทำให้หายคิดถึงกันไปได้ เหมือนกินส้มตำไก่ย่างที่ต่างแดน ถึงอร่อยแต่ก็ไม่สุขใจเหมือนนั่งกินกับเพื่อน กับครอบครัวที่บ้านเราใช่ไหมค่ะ ร้าน เฝอท่าบ่อ เป็นร้านอาหารเวียดนามเก่าแก่ดั้งเดิม ที่เปิดบริการอยู่คู่กับจังหวัดขอนแก่นมากว่า 30 ปี ณ ปัจจุบันร้านตั้งอยู่ที่ ถ.ศรีนวล ใกล้กับวัดศรีนวล ร้านจะอยู่ตรงสามแยก เห็นประตูทางเข้าวัดพอดีเลยค่ะ ซึ่งแต่เดิมทางร้านเริ่มจากการขายเลือดแปลงเป็ดเป็นอย่างแรก ซึ่งเมื่อก่อนทางร้านจะต้องไปนั่งรอเลือด จากโรงเฉือดตั้งแต่ตอนเช้ามืด เพื่อนำวัตถุดิบสดใหม่ มาใช้ในการปรุงอาหารเป็นประจำทุกวัน แต่ดิฉันไม่กล้าทานค่ะ บอกตรง ๆ ว่ากลัวเลือดแดง ๆ เมื่อตัดสินใจไม่ทานเมนูฮิตที่หาทานที่อื่นไม่ได้แล้ว เพื่อนญวนของดิฉันจึงนำเสนอเมนูเด็ด ที่หาทานได้ยากยิ่ง และหาที่รสชาติดีงามได้แบบที่ เฝอท่าบ่อ นั้นเรียกว่ายากเสียยิ่งกว่าการงมเข็มในมหาสมุทรกันเลยทีเดียว นั้นก็คือ โย่ย เมนูที่แค่ชื่อก็ไม่คุ้นหูเสียแล้ว ดิฉันมาทานอาหารกับเพื่อน 3 คน โดยเพื่อนทั้งคู่มีเชื้อสายเวียดนาม ฉะนั้นทั้งคู่จึงคุ้นเคยกับอาหารญวนเป็นอย่างดี รู้ว่าอาหารญวนที่ดีเป็นอย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นดิฉันยังแอบโชคดี ที่ได้รู้จักกับทายาทเจ้าของร้านหลังจากที่เพิ่งทานอาหารเสร็จ ซึ่งได้เล่าเรื่องราวการเตรียมอาหารแต่ละชนิดให้ดิฉันฟังอย่างสนุกสนาน ราวกับดิฉันได้นั่งอยู่ข้างกะละมังช่วยล้างไส้หมูไปด้วยฟังไปด้วยจริง ๆ เฝอเนื้อ ราคา 50 บาท เพื่อนของดิฉันบอกว่า จริง ๆ แล้วเฝอดั้งเดิมมีเพียงเฝอเนื้อ ไม่มีเฝอหมู เฝอซีฟู้ดใด ๆ ทั้งสิ้น ดิฉันก็ได้แต่พยักหน้าตาม เพราะไม่มีความรู้ใด ๆ นอกจากนั้นเฝอที่ดิฉันทานเป็นประจำ เมื่อตอนอยู่ออสเตรเลีย ก็มักจะเป็นเฝอซีฟู้ดนั้นเอง ฮ่าฮ่าฮ่า ฉะนั้นดิฉันจึงแอบรู้สึกแปลก ๆ ที่อยู่ขอนแก่นมาตั้งนาน แต่เพิ่งจะได้ทานเฝอแท้ ๆ เอาตอนแก่นี่เอง โดยรวมทุกอย่างคือดีหมดเลยค่ะ คือจากราคา 50 บาท แล้วให้ปริมาณเครื่องเยอะขนาดนี้ ถือว่าตกใจมาก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมจึงเป็นร้านที่ฮอตฮิตขนาดนี้ แล้วยิ่งพอได้ทานแต่ละอย่างคือ แอบนั่งนิ่ง อึ้งในใจ ด้วยความที่เป็นคนชอบทำอาหาร รู้เลยว่าเครื่องแต่ละชนิดที่นำมาประกอบในเฝอถ้วยนี้ ผ่านกระบวนการคัดเลือก การผลิตที่ซับซ้อน และต้องใช้เวลาในการปรุงที่ยาวนาน กว่าจะได้คุณภาพตามที่ต้องการ ไม่มีอะไรต้องอธิบายมากจริง ๆ ค่ะ ถ้าทานเนื้อได้ แนะนำให้ทานเฝอเนื้อเลยค่ะ ดีต่อใจมากจริง ๆ ดิฉันมักจะทานอาหารโดยที่ไม่ปรุง แต่มักจะห้ามใจไม่ได้เสมอ หากเจอพริกป่นผัดน้ำมันอันหอมหวล ฉะนั้นต้องใส่ลงไปซักนิด เพื่อชีวิตที่สดใส แต่ไม่เพียงเท่านั้น กะปิ พริกสดเผา และซอสพริกศรีราชา ก็เป็นเครื่องปรุงที่ช่วยทำให้เฝอชามโปรด รสชาติดีงามเกินท้องเรื่องไปมากจริง ๆ ถ้าเป็นมือใหม่หัดใส่กะปิ ก็ลองแบ่งใส่นิด ๆ แล้วชิมในส่วนนั้นดูก่อนนะคะ ว่าถูกใจรึเปล่า มาถึง เฝอหมู ราคา 40 บาท ทางเลือกสำหรับคนไม่ทานเนื้อ ซึ่งแน่นอนว่าดีงามไม่แพ้เฝอเนื้อ แต่ด้วยความช่างสังเกตของคุณเพื่อนผู้เป็นลูกครึ่งญวน เพื่อได้ชี้ชวนให้ดิฉันพิจารณาดูเส้นเฝอ ที่มีขนาดไม่เท่ากัน ราวกับโดยตัดเส้นด้วยมือ! ซึ่งเมื่อเราได้พบกับทายาทเจ้าของร้านในภายหลัง ก็ได้พบว่าทางร้านตัดเส้นเฝอด้วยมือจริง ๆ จ้า... ตะลึงไปเลยจ้า... ทางร้านจะนำแป้งมาโม่เองด้วยมือ โดยไม่ใช้เครื่องโม่ด้วยนะจ๊ะ จากนั้นนำไปตากแดด ก่อนจะนำมาตัดด้วยมือ จึงทำให้ขนาดเส้นไม่เท่ากัน ซึ่งเส้นเฝอของทางร้านจะไม่นุ่มเหนียว เหมือนก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก แต่จะนุ่มเหนียวกรุบกรอบ ตามฉบับดั้งเดิมจ้า ซึ่งเมื่อก่อนนี้ในช่วงฤดูฝนทางร้านจะผลิตเส้นเฝอได้ไม่มาก เพราะไม่มีแดดให้ตากเส้น แต่ตอนนี้ไม่ต้องกลัวแล้วจ้า เพราะฝนไม่ค่อยตกแล้ว...ผิด ตอนนี้ทางร้านมีการพัฒนาวิธีการตากเส้นแล้วจ้า มาเมื่อไรฤดูไหนก็มีเฝอให้ทานไม่ต้องห่วงจ้า... มาถึงเมนูที่เพื่อนแนะนำ ว่าต้องไม่พลาด นั้นก็คือ โย่ย เมนูชื่อสะดุดหู ที่อ่านออกยากเหลือเกิน ถ้าเพื่อนไม่พูดคงต้องคิดอยู่นานว่าอ่านออกเสียงว่าอย่างไร โย่ย ราคา 50 บาท ซึ่งโย่ยนี้ คือ ไส้กรอกเวียดนามแท้ ๆ มีส่วนผสมคือ หมู เครื่องใน นำไปผสมกับเครื่องปรุง ผัก และ สมุนไพร จากนั้นนำมายัดลงไปในไส้หมู ซึ่งทางร้านจะเลือกไส้ส่วนที่เล็ก ๆ แตกต่างจากร้านอื่น ๆ เพราะจะมีขนาดพอดีคำ น่าทาน แต่กว่าจะได้ไส้หมูส่วนนี้มายัดไส้ เป็นขั้นตอนอันสุดแสนจะลำบาก เพราะไส้หมูส่วนที่เล็ก ๆ นี้ มีอยู่น้อย และนอกจากจะมีไม่มาก ยังล้างลำบากไปอีก... เพราะมันเล้กขนาดนี้จะไปล้างง่าย ๆ ได้อย่างไรกัน กว่าจะได้ไส้หมูสะอาด ๆ ปราศจากกลิ่นคาว จะต้องล้างไส้วนไปมาอยู่หลายรอบ แถมล้างไม่ดี ไม่ระวัง ไส้อันบอบบางก็แตก เสียของไปอีก... อุส่าห์ล้างมาตั้งนาน...เฮ้อ... รีวิวรสชาติของโย่ย โดยลูกอีสาน ให้ความเห็นว่า โย่ย ของเฝอท่าบ่อ รสชาตินุ่มละมุนมาก ด้วยความที่พิจารณาจากภายนอก ดิฉันคิดว่าจะเป็นไส้กรอกรสชาติจัดจ้าน เนื้อแน่น เหมือนไส้อั่ว แต่กลับมีรสอบอุ่นอ่อนละมุนอย่างน่าสนใจ วัตถุดิบทุกอย่างผสมผสานกันอย่างลงตัว ไม่มีกลิ่นคาว ไม่มีกลิ่นเครื่องปรุงใด ๆ แสดงตัวอย่างโดดเด่นจนเกินหน้าเกินตากัน เรียกว่าทุกอย่างจูงมือมาพร้อม ๆ กัน แล้วออกมาร้องเพลงสามัคคีชุมนุม เป็นเมนูที่ดิฉันลุกขึ้นปรบมืออยู่ในใจ พอมานั่งนึก ๆ ดิฉันรู้สึกเหมือนกำลังทานอาหารตะวันตก มากกว่าอาหารตะวันออก ดิฉันรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด เหมือนเคยทานมาก่อนแล้ว คล้ายกับผักโขมอบชีสจากโรงแรมห้าดาว ที่ผักโขมนุ่มนิ่ม ชีสรสละมุน ไม่เค็ม ไม่เลี่ยน แต่ผักโขมอบชีสจากโรงแรมห้าดาวนั้นราคาหลายร้อย ในขณะที่โย่ยจานนี้ราคาแค่ 50 บาท เท่านั้น! แล้วยิ่งเป็นเมนูหาทานได้ยากไปอีก ใครมาทานเฝอท่าบ่อ แนะนำให้สั่งมาแบ่งกันทานนะคะ นอกจากเมนูฮอตฮิต ดิฉันก็ไม่ลืมสั่งผ้าขี้ริ้วลวก ราคา 60 บาท ด้วยความที่ชื่นชอบผ้าริ้วอยู่แล้ว ปรากฏว่าไม่ผิดหวังจริง ๆ ค่ะ ไม่เหม็นคาว ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่สะอาด ไม่สุก และทางร้านลวกมากได้แบบมืออาชีพสุด ๆ นิ่มแต่กรอบ ดีงามน้ำตาไหล ยิ่งพอได้จิ้มกับน้ำจิ้มสูตรเด็ดของทางร้านเข้าไป ยิ่งทำให้ริ้วลวกจานนี้แซ่บสุดไปอีก... ถูกใจจริง ๆ เนื้อลายลวก ส่วยเพื่อนของดิฉัน ยินดีนำเสนอเนื้อลายลวก ราคา 60 บาท ซึ่งหากใครรักเนื้อน่อง กรุบ ๆ นุ่ม ๆ ต้องไม่พลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะเนื้อลายที่ร้านนั้น ไม่มีเหนียวเคี้ยวยากลำบากเหงือกและฟันค่ะ และน้ำจิ้มครอบจักรวาลของทางร้านนั้นรสแซ่บกลมกล่อม จิ้มอะไรก็ดีไปหมดจริง ๆ อยากให้มาลองนะคะ หมูยอและเมนูที่ลืมไม่ได้ ห้ามพลาดคือ หมูยอลวก ราคา 50 บาท ซึ่งดิฉันผู้ไม่นิยมหมูยอ บอกได้เลยว่าดี ต้องไม่พลาด เหมือนหมูยอนุ่มแน่น หมูยอมีน้ำปลาปรุงอยู่ในเนื้อหมูยออยู่แล้ว จะมีรสเค็มและหอมน้ำปลานิด ๆ น่าสนใจมาก ๆ นอกจากนั้นพริกไทยที่ปรุงมาในเนื้อหมูยอก็เลิศเป็นที่สุด เพราะเป็นหมูยอที่เผ็ดร้อน แต่ไม่เหม็นฉุน รสชาติของพริกไทยไม่กลบรสและกลิ่นแท้ ๆ ของหมูยอ ขนาดดิฉันไม่ใช่แฟนหมูยอ ยังว่าดี ใครชอบหมูยอยิ่งต้องไม่พลาดเลยจริง ๆ ค่ะ ในส่วนของน้ำดื่ม ทางเราพร้อมใจกันสั่ง เก๊กฮวยหวานชื่นใจราคาแก้วละ 15 บาท ทานเฝอร้อน ๆ แล้วดื่มน้ำเก๊กฮวยเย็น ๆ เป็นอะไรที่สดชื่นดีจริง ๆเลยค่ะ นอกจากน้ำเก๊กฮวยทางร้านมีน้ำชาเป็นกา ๆ ให้ดื่มฟรีได้เต็มที่เลยนะคะ หากคุณเป็นคนขอนแก่น ที่คุ้นเคยกับอาหารเวียดนามแต่ยังไม่เคยทานอาหารร้านเฝอท่าบ่อ ขอแนะนำให้ไปทานด่วน ๆ จะได้เอาไปแนะนำให้เพื่อน ๆ จากต่างถิ่นให้มาลองทานกันได้ และถ้าหากคุณไม่ใช่คนขอนแก่น แต่กำลังจะมาเยือนขอนแก่น เฝอท่าบ่อ เป็นร้านอาหารที่ดิฉันแนะนำว่าต้องมาทานให้ได้จริง ๆ ค่ะ #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 3
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/02
scene type icon
เล้ง เย็นตาโฟ
รีวิว เล้ง เย็นตาโฟ ถนนกลางเมือง จ.ขอนแก่น โดยลูกค้าที่กินเมนูเดิมมาตลอด 20 ปี เล้งเย็นตาโฟ เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดัง ในตัวจังหวัดขอนแก่น ตั้งอยู่บนถนนกลางเมือง ซึ่งดิฉันเป็นลูกค้ารับประทานเมนูเดิม ๆ มาเป็นเวลา 20 ปีแล้วค่ะ แต่ร้านตั้งมาตั้งแต่ปี 2527 นะคะ เมื่อ 20 ปี ที่แล้ว ใส่คอซองกระโปรงจีบบานมาทานกับเพื่อน หลังเลิกเรียนเป็นประจำ ตอนนั้นรสชาติดีอย่างไร ตอนนี้ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงค่ะ และดิฉันก็ยังชอบนั่งโต๊ะตัวเดิม ๆ เพราะความเคยชินอีกด้วย เป็นร้านที่ทานอยู่เป็นประจำมาอย่างยาวนาน จะไม่เขียนรีวิวก็รู้สึกนอนตายตาไม่หลับ ตะขิดตะขวงใจ ไม่ได้ทำหน้าที่ลูกค้าที่ดีอย่างเต็มที่ ฮ่าฮ่าฮ่า บรรยากาศเล้งเย็นตาโฟตั้งอยู่ในซอย ติดริมถนนกลางเมือง ข้าง ๆ 7-11 ที่จอดรถคือริมฟุตบาท หรือ ที่จอดรถเอกชนฝั่งตรงข้ามค่ะ เปิดตั้งแต่ 7 โมงเช้า จนถึงตี 4 มาทานได้ตั้งแต่มื้อเช้า มื้อเที่ยง มื้อเย็น และมื้อเช้ามาก โต๊ะเก้าอี้ของทางร้านสะอาดสะอ้านดีมากนะคะ มีพัดลมคลายร้อน และหลังคากันฝนเรียบร้อย บรรยากาศคงเดิมเหมือนเมื่อตอน 20 ปี ก่อนไม่เปลี่ยนเลยค่ะ แต่ตอนนี้มีห้องแอร์ไว้บริการแล้วด้วยนะคะ เดินถัดเข้าไปด้านหลังอีกหน่อยเท่านั้นเองค่ะ แต่ดิฉันนิยมบรรยากาศเดิม ๆ ขอนั่งตากลมอยู่ด้านนอกตามเดิมเหมือนเมือน 20 ปีที่แล้วดีกว่าค่ะ เมนูทางร้านมีเมนูมากมายนะคะ เมนูที่ดิฉันชื่นชอบ สั่งสลับกันไปมาก็คือ เย็นตาโฟ เย็นตาโฟต้มยำ และเครื่องปรุงที่ชื่นชอบมาก ๆ คือพริกน้ำส้ม เพราะตัวพริกสดสะอาด เผ็ดเปรี้ยวสะใจดีมาก ๆ ทานพร้อมกับเย็นตาโฟแล้วดีสุด ๆ เย็นตาโฟนั่งรอไม่นานเมนูที่คุ้นเคยก็มาถึง นี้คือเส้นใหญ่เย็นตาโฟพิเศษ ราคา 60 บาท ลูกชิ้นที่เห็นทั้งหมดนี้ ทางร้านเป็นผู้ผลิตเอง สดใหม่ทุกวันนะคะ รสชาติดี คุณภาพงามมากค่ะ ลูกชิ้นเด้งมาก สำหรับดิฉันมนุษย์ผู้ไม่ปรุงก๋วยเตี๋ยวใด ๆ เพราะต้องการทานอาหารตามรสชาติดั้งเดิม ที่ทางร้านนำเสนอแก่ลูกค้า ซึ่งซอสเย็นตาโฟของทางร้านมีรสชาติที่ดีแล้ว ไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มเลย ยกเว้นความชื่นชอบส่วนตัวในการทานพริกน้ำส้มพร้อม ๆ กับก๋วยเตี๋ยวแต่ละคำ เมื่อก่อนรสชาติเป็นอย่างไร วันนี้ยังคงเดิม แต่ที่เพิ่มเติมคือคนกินที่แก่ลงไปเรื่อย ๆ เย็นตาโฟต้มยำธรรมดา ราคา 50 บาท ดิฉันชอบเย็นตาโฟของร้านเล้งเป็นพิเศษ เพราะเครื่องของเย็นตาโฟที่ดีงาม นอกเหนือจากลูกชิ้นต่าง ๆ แล้ว หมึกแช่ด่างที่ทางร้านใช้ ก็กรอบเด้ง ไม่มีกลิ่นคาวแปลก ๆ ชวนอ้วก ไม่เหนียวนิ่มเละ กัดลงไปแล้วเปื่อยยุ่ย ชวนสยอง ที่ชอบสุด ๆ แต่ที่ชอบที่สุด คือ เผือกทอด เครื่องเย็นตาโฟที่ทำให้ดิฉันหลงรัก จนต้องสั่งมาทานแยกต่างหากเลยทีเดียว เผือกทอดเผือกทอด และลูกชิ้นกุ้ง ราคา 60 บาท ราคาตกชิ้นละ 5 บาทค่ะ เผือกทอดที่นี่ไม่อมน้ำมัน ไม่นิ่มเหี่ยว เผือกทอดกรอบสุด ๆ เหมือนเผือกเส้นทอดกรอบที่บรรจุถุงเป็นขนมกรุบกรอบ ถ้าเหงือกและฟันไม่แข็งแรง แนะนำให้ทานแบบที่แช่น้ำซุปนะคะ เพราะยังคงรสชาติดั้งเดิม เพิ่มเติมคือเคี้ยวง่ายขึ้นค่ะ เกี๊ยวห่อไข่ ราคาไม้ละ 10 บาท หนึ่งไม้มี 3 ลูก เมนูทานเล่นที่ทำให้ย้อนนึกถึงอดีตตอนเป็นเด็ก ๆ เกี๊ยวด้านนอกกรอบมาก ๆ ไข่สด ทานได้แบบสบายใจ ไม่ต้องกลัวจะเจอไข่เก่าค้างปีสอดไส้ น้ำจิ้มรสเด็ดเปรี้ยวหวานเค็ม กลมกล่อมดีต่อใจมาก ๆ น้ำส้มน้ำส้มคั้นสด ราคาขวดละ 12 บาท น้ำนางเอกที่คนอื่นสั่งแล้วคนเสิร์ฟมักนำมาวางด้านดิฉันเป็นประจำ หอมกลิ่นส้ม หวานเปรี้ยว สวยงามตามฉบับนางเอกสุขภาพดี *เมื่อ 20 ปีก่อนดิฉันดื่มชามะนาว หรือน้ำอัดลม แต่คนเสิร์ฟจะวางน้ำส้มด้านของดิฉันเป็นประจำ ตอนนี้ดื่มน้ำเปล่าค่ะ แก่แล้ว เกี๊ยวเกี๊ยวทอดกรอบ ถุงละ 10 บาท หลาย ๆ ท่านอาจจะสงสัย ว่าทำไมเย็นตาโฟของทางร้านไม่มีเกี๊ยวมาด้วย นั้นก็เป็นเพราะว่า เกี๊ยวที่นี้ดีงามมาก ใส่จานมาชิ้นเดียวมันไม่พอ! เลยใส่ถุงมาไว้เลยตามโต๊ะ อยากใส่เยอะแค่ไหนเอาเลยจ้า.... กรอบเพลินเกินห้ามใจมาก เล้งเย็นตาโฟ เป็นร้านเย็นตาโฟดีงามในดวงใจ รสชาติดีงามยั่งยืน เข้าสู่ปีที่ 36 แล้วนะคะ ใครมาขอนแก่น แล้วมองหาร้านก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟรสชาติดี ไม่มีผิดหวัง ขอแนะนำเล้งเย็นตาโฟ ถนนกลางเมือง ร้านดี ร้านดัง ใจกลางเมืองขอนแก่นค่า... #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 2
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/02
scene type icon
เจ๊หงส์ โจ๊ก จั๊บ ต้มเส้น อำเภอเมืองขอนแก่น สตรีทฟู้ด/รถเข็น
เจ๊หงส์ โจ๊ก จั๊บ ต้มเส้น ถ.หน้าเมือง จ.ขอนแก่น ใกล้เข้าสู่ปีใหม่ อากาศที่จังหวัดขอนแก่น ก็เริ่มอุณหภูมิลดลงอีกระรอก ทำให้ดิฉันรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ คล้ายจะมีไข้ ต้องการจะทานอะไรร้อน ๆ โดยที่ไม่ต้องลุกขึ้นมาทำอาหารทานเอง เพื่อนสนิทของดิฉันจึงได้เชิญชวน ให้แต่งตัวออกจากบ้านแล้วไปหาอะไรอุ่น ๆ ร้อน ๆ ทานในตัวเมือง เราสองคนขับรถผ่าน ร้านอาหารสองข้างทาง ร้านแล้วร้านเล่า ในวันเสาร์สิ้นเดือน ใกล้ปีใหม่แบบนี้ ที่ไหน ๆ ก็มีคนออกมาทานข้าวนอกบ้าน เต็มไปหมด ก้มมองดูนาฬิกา เพิ่งจะหนึ่งทุ่มตรงแท้ ๆ แต่หาที่จอดรถยากเย็นเหลือเกิน ดิฉันและเพื่อนเป็นคู่หู ที่มีทัศนคติที่ดี ในการหาที่จอดรถ ไม่ว่าเราสองคนจะไปที่ไหน หาที่จอดรถยากเพียงไร เราสองคนก็จะหาที่จอดรถดี ๆ ใกล้ ๆ ได้เสมอ อย่างไม่น่าเชื่อ เราสองคนขับรถมาถึง ร้านเจ๊หงส์ โจ๊ก ก๋วยจั๊บ ต้มเส้น และมาม่า ณ ถนนหน้าเมือง ถนนเส้นที่มีร้านโจ๊ก จั๊บ ต้มเส้น เปิดขายอยู่หลายเจ้า ด้วยกัน เจ้หงส์ เป็นร้านที่มีชื่อเสืองล่ำลือมานาน ว่าดีงามหนักมาก ไม่แพ้ร้านก๋วยจั๊บใด ๆ ในโลกหล้า เราสองคนจึงตาลุกเป็นประกาย เมื่อหาที่จอดรถได้ใกล้ร้านเจ๊หงส์สุด ๆ แถมลูกค้าในร้านก็ยังไม่แน่นมาก ดิฉันจึงรีบตรงดิ่งเข้าไป ที่ตู้ก๋วยจั๊บที่หน้าร้าน ยืนพิจารณาเมนูด้วยความตั้งใจ แล้วตัดสินใจสั่งอาหารกันมา 3 อย่าง เนื่องจากความหิวโหย โดยทางร้านจะมีกระดาษและปากกา ให้จดรายการอาหารที่ต้องการ ด้วยตนเอง โดยสามารถเขียนรายการอาหาร ที่ต้องการสั่งกลับบ้านใส่กระดาษอีกแผ่น แล้วส่งให้คุณพนักงานไปทีเดียวพร้อม ๆ กันได้เลย โดยระบุให้ชัดเจน ว่ากลับบ้านหรือทานที่นี่ ดิฉันและเพื่อนสนิท ได้สั่งอาหารมาด้วยกัน 3 เมนู แต่ได้อาหารมา 4 ชามค่ะ ทานเสร็จขอบอกเลยว่าอิ่มไปจนถึงสมองเลยจริง ๆ ค่ะ ไม่น่าเลย ไม่เคยทานมาก่อน ไม่รู้ว่าทางร้านให้ปริมาณเยอะขนาดนี้ สั่งกันมาซะเต็มโต๊ะเลย เพราะทุกอย่างมันน่าทานจริง ๆ ไม่รู้ว่าจะเลือกไม่ทานอะไรดี ฮ่าฮ่าฮ่า เมนูแรก คือ ก๋วยจั๊บ เส้นบีบสด น้ำซุปใส มีเครื่องคือ ตุ๋นกระดูกอ่อนหมู หมูยอใบเตย ราคา 40 บาท น้ำซุปหวานกลมกล่อม รสชาติดีงามมาก ๆ ไม่เค็ม ไม่ชูรส ไม่ใช่แบบซดเข้าไปแล้ว ปากคอแห้ง ต้องดื่มน้ำตามเป็นลิตร ๆ เส้นก๋วยจั๊บบีบสด เส้นอวบสั้นพอดีตักเข้าปาก ไม่ยาวแบบตักลำบาก ตักขึ้นมาเส้นดีดตา ดีดน้ำซุปใส่หน้าอะไรแบบนั้น แล้วเส้นก็นุ่มดีสุด ๆ กล้าพูดว่าดีที่สุด ในบรรดาเส้นก๋วยจั๊บทั้งจักรวาล ที่ดิฉันเคยได้ทานมา จนปัจจุบันกาล กระดูกอ่อนหมู ตุ๋นมาแบบกระดูกนุ่ม เนื้อหมูนิ่ม ไม่เปื่อยจนเนื้อหลุดหลุ่ย ซื้อกลับบ้านไปอุ่นซ้ำได้ ไม่ต้องกลัวกระดูกหมูสลายร่าง หมูยอเนื้อแน่น รสละมุนดีงาม ใช่หมูยอประเภทแป้ง ๆ รสพริกไทย ที่กระหน่ำใส่พริกไทย จนไม่ได้รสชาติอะไรทั้งสิ้น เป็นก๋วยจั๊บน้ำใส ที่ประทับใจ และอยากบอกต่อจริง ๆ ค่ะ เมนูต่อมาคือ ต้มเส้น ซึ่งมีเครื่องคือ ขาไก่ เลือดไก่ ไก่ฉีก หมูยอสด และหมูยอทอด ราคา 40 บาท สำหรับชาวขอนแก่น รู้จักต้มเส้นกันเป็นอย่างดี แต่เมื่อเพื่อน ๆ จากต่างแดนมาเยี่ยมเยือน ก็มักสงสัย ไม่รู้จักเมนูนี้ เมื่อปีก่อน เพื่อนดิฉันซึ่งเป็นชาวโคราช มาเยี่ยมที่บ้าน ดิฉันก็เอ่ยปากชวนไปทานต้มเส้นกัน เพื่อนถึงกับ งง ว่าต้มเส้นมันเป็นยังไง เกิดมาไม่เคยรู้จักไม่เคยได้ยิน ต้มเส้นเป็นเมนูสุดฮิตอีกเมนูหนึ่ง ที่ชาวอีสานนิยมชมชอบ ไม่ว่าจะทานเป็นอาหาร เช้า เที่ยง หรือมื้อดึก เส้นที่กล่าวถึงคือวุ้นเส้น ซึงคนขอนแก่นจะเรียกสั้น ๆ เส้น ถ้าแกงอะไรใส่วุ้นเส้นเป็นส่วนประกอบ ชาวไทยขอนแก่น ก็มักจะออกปากเรียกว่าแกงเส้น ต้มเส้นนี้จะมาในน้ำซูปใส สีน้ำตาล หอมเครื่องแกง จากนั้นจึงใส่เครื่องต้มเส้น แล้วปรุงรส โดยทั่วไปจะปรุงรสให้แซ่บ ด้วยน้ำส้มสายชู และพริกป่นผัดน้ำมัน เป็นเมนูที่ดิฉันชื่นชอบมาตั้งแต่เด็ก เพราะดิฉันถูกใจทุก ๆ อย่าง ที่อยู่ในเมนูจานนี้ เมนูต่อมา คือ เกาเหลา ราคา 50 บาท สามารถเลือกอะไรก็ได้ตามใจชอบ ทางเราได้เลือก หมูเด้ง กระดูกอ่อนหมู เลือดไก่ และหมูยอทอด เรียกว่าทานกันจนจุก จะทานไม่หมดห็ไม่สบายใจ เพราะทุกอย่างคือดีงามต่อจิตใจของพวกเรากันมาก ๆ จริง ๆ นอกจากเมนูทั้งสามที่เราสั่งแล้ว ยังมีเมนูฟรี! คือน้ำซุปโครงไก่ รสชาติเลิศเลอ ที่ดิฉันกับเพื่อนแย่งกัน จนแทบต้องเป่ายิงฉุบ เพื่อวัดดวงชะตาของเราทั้งคู่ ทีเด็ด ที่ดิฉันของบอกว่าเด็ดไม่แพ้เมนูอาหารทั้งหมด คือ พริกป่นผัดน้ำมัน ซึ่งเผ็ดจริง แค่นิดเดียวก็เผ็ดแล้ว แต่มันเผ็ดแบบพริกผู้ดีมาก ๆ เลยค่ะ เผ็ดแบบสดชื่น ทานแล้วสมองปลอดโปร่ง กลิ่นก็หอมมาก หอมอโรม่ามาก ๆ เกิดมาไม่เคยเจอพริกผัดน้ำมันที่ไหน ดีขนาดนี้มาก่อนเลย ถึงขนาดดิฉันจะทานเผ็ดไม่ค่อยได้ ก็ขอเอาตัวเข้าสู้ แล้วค่อยลุกไปตักน้ำดื่ม น้ำแข็งฟรี ๆ ของทางร้าน มาดับร้อนเอาทีหลัง ดีงามขนาดนี้ ก็ต้องซื้อกลับบ้านไปฝากบุพการีด้วย อะไรกินดี กินแล้วถูกใจ เราต้องเอาไปสู่พ่อแม่ของเรา... หากใครต้องการไปพิสูจน์ความดีงาม ของเมนูต่าง ๆ ที่เจ๊หงส์นำมาเปิดประสบการณ์แก่พวกเรา สามารถไปทานกันได้ทุกวัน ตั้งแต่ 17:00 - 04:00 น. ค่า #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 4
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/02
scene type icon
รุมยำ อำเภอเมืองขอนแก่น ยำ
รุมยำ ร้านยำบรรยากาศเก๋ ถ้าพูดถึงเมนูโปรดของสาว ๆ หลาย ๆ คน ยำ คงจะเป็นหนึ่งในเมนูยอดนิยมอันดับต้น ๆ ที่สาว ๆ เลือกรับประทาน ด้วยรสชาติที่จัดจ้าน และเมนูที่หลากหลาย ที่สามารถปรุงขึ้นได้ ตรงตามแต่ใจของผู้รับประทานจะปรารถนา ด้วยความนิยมนี่เอง ทำให้ถนนทุกสายในตัวเมืองขอนแก่น มีร้านยำเปิดบริการมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อรองรับจำนวนของผู้ที่ชื่นชอบยำ แต่ละร้านก็จะมีจุดขายที่แตกต่างกันไป เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้า ที่หลากหลาย ร้านรุมยำ เป็นร้านยำที่อยู่ใจกลางเมือง ซึ่งเป็นทำเลที่โดดเด่น มองหาได้ง่าย สามารถจอดรถจักรยานยนต์ได้ที่หน้าร้าน และมีที่จอดรถแบบเสียค่าจอดรถเป็นรายชั่วโมง ถัดออกไปไม่ไกลจากตัวร้าน จึงถือเป็นร้านที่สะดวกในการมาใช้บริการอย่างยิ่ง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ดิฉันได้มาลิ้มลองฝีมือยำ ของร้านรุมยำ ด้านหน้าร้านด้านหน้าร้าน ด้านขวามือของภาพเป็นโต๊ะตั้งบริเวณป้ายรถสองแถว สิ่งที่ประทับใจเป็นสิ่งแรก คือ การตั้งโต๊ะนอกร้าน บริเวณป้ายรถสองแถว บนทางเท้า ในเวลากลางคืน ซึ่งหมดเวลาที่รถสองแถวให้บริการแล้ว ดิฉันคิดว่าเป็นไอเดียที่สนุกดีจริง ๆ มันเก๋มาก ๆ ที่เราสามารถนั่งทาน ยำ ริมฟุตบาท กลางใจเมือง ใต้หลังคาป้ายรถสองแถว และแน่นอนว่าโต๊ะที่ป้ายรถสองแถว ต้องได้รับความนิยมสูง ดิฉันและเพื่อน จึงไม่ได้นั่งทานอาหารที่ป้ายรถสองแถว การตกแต่งร้าน เรียบ ๆ เก๋ ๆ เน้นโครงสร้างโปร่ง เพื่อระบายอากาศ ในเวลากลางวัน ส่วนในฤดูหนาว เวลากลางคืนขอบอกว่า หนาวได้ใจมาก ๆ เหมือนนั่งทานข้าวในตู้เย็นก็ไม่ปาน เมนูทางร้านมีหลากหลายมาก ไม่ได้มีแต่ยำอย่างเดียว และน้ำยำก็มีให้เลือกทั้งแบบไม่ใส่ปลาร้า และแบบที่ใส่น้ำปลาร้า จานช้อน แก้วน้ำเมื่อเลือกเมนูได้แล้ว ก็เดินไปตักน้ำ หยิบจานช้อนส้อม ได้ตามอัธยาศัย (หนาวมาก แต่ทางร้านก็เปิดพัดลมสงสัยไล่ยุง... ฮือ...หนาว) พ่อครัวแม่ครัว และพนักงานต้อนรับ ตั้งใจทำงานและสุภาพกันทุกคนเลยค่ะ ประทับใจมาก ๆ อยากแอบถ่ายภาพต้องที่พ่อครัวบรรจงตกแต่งจานด้วยมะนาวจริง ๆ แต่ไม่กล้า ฮ่าฮ่าฮ่า ดิฉันคิดว่านี่คงจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผล ที่ทำให้ร้านรุมยำลูกค้าเยอะมาก นอกจากรสชาติของยำ ที่ถูกอกถูกใจค่ะ รอไม่นานคอหมูทอดก็มา หมูทอดรสชาติดี ไม่เค็มไตพัง จานนี้ราคา 60 บาท ซึ่งมาพร้อมกับน้ำจิ้มรสชาติละมุน เกิดมาเพิ่งจะเคยเจอ น้ำจิ้มคอหมูที่รสชาติไม่เค็มปี๋ แต่กลมกล่อมละมุน ปกติดิฉันไม่ชอบจิ้มน้ำจิ้มใด ๆ แต่น้ำจิ้มของร้ายรุมยำ ทำได้ดีจริง ๆ ค่ะ เสียดายที่อากาศหนาวมาก ๆ คอหมูทอดไว้ไม่นานเลยก็เย็นเสียแล้ว ถ้าได้ทานตอนร้อน ๆ คงจะสุขใจดีแท้ ทานคอหมูทอดไปได้ครึ่งทาง เมนูยำมะม่วงกุ้งสุก(80 บาท) เพิ่มมะม่วง(บวก 20 บาท) ก็ตามมา เพื่อนผู้รักกุ้งเน้นย้ำกับดิฉันว่า ใครชอบกุ้งจะต้องชอบร้านนี้ เพราะกุ้งที่นี้ตัวขนาดพอดี ไม่ลวกแล้วกลายเป็นกุ้งฝอย และให้กุ้งมาในปริมาณที่มาก น่าพึงพอใจอย่างยิ่ง กุ้งของทางร้านลวกมาได้สุกพอดี ไม่มีส่วนดิบ และกุ้งมีรสหวานด้วยนะ ทำได้ดี ปรบมือ ๆ ค่า ในส่วนมะม่วงนั้นไม่ได้เปี้ยวจี๊ด... จนต้องหลับตา จึงดีต่อใจป้ามาก ๆ เพราะแก่แล้วเคี้ยวอะไรเปรี้ยวมาก ๆ จะเสียวฟันจ้า... ดีใจ ๆ ถ้าใครชอบแบบเปรี้ยวสุด ๆ คงจะต้องถามทางร้าน ว่าวันนี้มะม่วงเปรี้ยวมากรึเปล่าคะ จานต่อมาเป็น ยำเส้นแก้วปลาหมึกสาย ราคา 140 บาท เมนูนี้เพื่อนผู้ชอบหนวดปลาหมึกถูกอกถูกใจมาก ๆ เพราะหาได้ยากเย็นเหลือเกิน ที่จะมีร้านใดนำปลาหมึกสายมาปรุงอาหาร เพราะราคาสูงเหลือเกิน ซึ่งราคา 140 บาท ได้ปลาหมึกมากมายขนาดนี้ ถูกใจชาวรักหมึกมาก ๆ ค่ะ ปลาหมึกนั้นตัวโต ลวกสุกแล้วก็ยังไม่หดจิ๋ว และลวกมาได้กรุบกรอบดีงามค่ะ ถัดไปจานสุดท้าย ยำมาม่าเล็บมือนาง ราคา 60 บาท ซึ่งไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมเราทานกันได้เยอะขนาดนี้ ฮ่าฮ่าฮ่า ยำมาม่าจานนี้ถูกใจเพื่อนของดิฉันมาก เพราะน้อยนักที่ร้านยำ จะลวกเส้นมาม่าได้กรอบถูกใจเธอ ส่วนใหญ่เธอจะไม่ทานเส้นมาม่าที่ไหนเลย นอกจากที่ทำทานเอง มารอบนี้เธอถูกใจมาก ทานไปเยอะเลยค่ะ ใครที่ชื่นชอบมาม่าแบบกรอบ ๆ ดิฉันขอชี้เป้า มาที่ร้านรุมยำเลยนะคะ ถูกใจแน่ ๆ หลังจากทานยำ ดิฉันจะรอฟังผลก่อนว่า ท้องเสียรึเปล่า เพราะดิฉันเป็นคนธาตุอ่อน แต่หลังจากทานยำจากร้านรุมยำแล้ว ดิฉันและเพื่อน มีสุขภาพของระบบทางเดินอาหารเรียบร้อยดี ไม่มีปัญหาค่ะ ฉะนั้น หากต้องการไปนั่งทานยำรสชาติดี ในบรรยากาศเก๋ ๆ รุมยำเป็นทางเลือกที่ดีงาม ที่ดิฉันแนะนำค่า... ร้านรุมยำ เปิดทุกวันตั้งแต่ เวลา 16:30-23:30 น. ยกเว้นวันเสาร์ ราคาอาหารเริ่มต้นที่ 60 บาทเท่านั้นค่า... (ไม่นับรวม ข้าวเหนียว หรือ น้ำเปล่า ที่บริการฟรีนะคะ) #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 3
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/02
scene type icon
โจ๊กจั๊บบัตรคิว อำเภอเมืองขอนแก่น สตรีทฟู้ด/รถเข็น
โจ๊กจั๊บบัตรคิว ดียังไง ทำไมคนถึงยอมรอ ดิฉันเป็นคนหนึ่ง ที่หลีกเลี่ยงการไปทานอาหารร้านดัง ๆ ที่ต้องรอคิวยาวนาน  ถึงแม้ว่าความสุขจากการรับประทานอาหาร จะเป็นความสุขที่เข้าถึงได้ง่าย ๆ แต่ถ้าต้องรอคิวนาน ๆ ดิฉันขอเลือกที่จะเลี่ยงไปทานร้านอื่น ๆ มากกว่า เพราะดิฉันเชื่อว่า ร้านอาหารดี ๆ ที่ไม่โด่งดัง ก็มีมากมาย  ร้านโจ๊ก จั๊บบัตรคิว เป็นร้านโจ๊ก จั๊บ ต้มเส้น ที่โด่งดังสุด ๆ ในตัวจังหวัดขอนแก่น ดิฉันเอง แม้อาศัยอยู่ขอนแก่นมาแสนยาวนาน แต่ก็ไม่เคยได้ทานเสียที เนื่องจากท้อใจในการรอคิว ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม  แต่แล้วเพื่อนสนิทผู้พิชิตอารหารเริศรสก็มีความคิด และเวลาว่าง...มาก จึงพาดิฉันให้ไปรับบัตรคิว ยืนรอซื้อโจ๊ก ก๋วยจั๊บ และต้มเส้น ทุกเมนูที่ทางร้านมี เพื่อกลับบ้านมาลองรับประทานดู ประสบการณ์การยืนรอคิวครั้งแรกนั้น ทำให้ดิฉันนับถือใจ ของผู้ประกอบอาชีพรับซื้อและส่งอาหารมาก ๆ ค่ะ กว่าจะได้ค่าส่งอาหารไม่กี่สิบบาท ต้องยืนรออาหารอยู่นานแสนนาน ใจสู้สุด ๆ เมื่อได้ลองซื้อมาทานที่บ้านแล้ว ดิฉันก็เข้าใจว่าทำไมทุก ๆ คนจึงยินดียืนรอ ด้วยความอดทน ไม่มีใครเลยที่หงุดหงิดโวยวาย เพราะทุกคนเข้าใจดี ว่าต้องรอนานแน่ ๆ  ดิฉันและเพื่อนเป็นคนประเภท ซื้อมาลองทานให้ครบทุกเมนู เพื่อที่จะค้นหาเมนูที่เราชอบ ซึ่งหลังจากลองทาน โจ๊ก ก๋วยจั๊บ และต้มเส้น พวกเราสองคนชื่นชอบก๋วยจั๊บมากที่สุด  แต่ในที่สุดดิฉันก็ค้นพบว่า การทานที่ร้านเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด โดยปกติหลังจากที่สั่งรายการอาหาร ตามที่ต้องการแล้ว จะต้องใข้เวลารอคิวอาหารโดยเฉลี่ยประมาณ 30 นาที  ซึ่งดิฉันคิดว่าดีกว่ายืนรอคิวนะคะ อย่างน้อยก็ได้นั่งนะคะ  และถ้าต้องการสั่งกลับบ้าน ก็สามารถสั่งไปพร้อมกับรายการอาหาร ที่เราสั่งทานที่ร้านได้เลยค่ะ เขาจะลงคิวเราไว้ให้  เราก็นั่งรออาหารของเราไป พอทานเสร็จ  ซักพักเราก็จะได้อาหารที่สั่งกลับบ้าน เสร็จสรรพ พร้อมจ่ายเงินได้เลย ระหว่างที่นั่งรอ ก็คุยกับเพื่อนไป ดูพริกน้ำส้มไป จะเห็นได้ว่าพริกน้ำส้มของทางร้านสดมาก คงจะต้องทำใหม่ทุก ๆ วัน เพราะลูกค้าเยอะจริง ๆ ค่ะ  ส่วนพริกป่นก็สดใหม่ หอมเชียวค่ะ วัน ๆ นึงทางร้านจะต้องใช้พริกสด พริกป่น หมดกี่กิโลกรัมกันหนอ  ในที่สุดอาหารที่พวกเราสั่งก็มา...  จริง ๆ แล้วตัวดิฉันเองเป็นคนไม่ชอบทาน ก๋วยจั๊บเส้นโต ๆ อวบ ๆ แบบที่ทางร้านขาย แต่พอได้ทานแล้ว ความรักถึงกับสั่นคลอนเลยจริง ๆ เพราะเส้นก๋วยจั๊บที่นี่ นุ่ม เหนียว เด้ง สัมผัสที่ได้รับ มันช่างพอดิบพอดีเหลือเกิน  น้ำซุปกระดูกหมูก็หวานเข็มข้นกลมกล่อมสุด ๆ  เครื่องก๋วยจั๊บก็ให้เยอะมาก ๆ แค่ชามปกติก็อิ่มจนแน่นเลยค่ะ  แต่ดิฉันชอบกระดูกหมูของทางร้านมาก ๆ เลยสั่งพิเศษกระดูกหมู  ทานไปชามเดียว คือ อิ่มจนจุกเลยค่ะ นอกจากรสชาติจะดีไร้ที่ติแล้ว ราคาก็ดีงามน่าตกใจไปอีก ที่สำคัญคือเมื่อซื้อกลับบ้าน เอาไว้ทานวันรุ่งขึ้น เมื่ออุ่นแล้วเส้นก็จะยังคงนิ่ม เหนียว เด้ง ไม่ต่างจากที่ทานที่ร้านเลย เส้นไม่มีอืด หรือ ดูดน้ำซุปจนบวม น้ำซุปแห้งหาย กลายเป็นก๋วยจั๊บแห้ง เหมือนร้านทั่ว ๆ ไป  นอกจากนั้นยังให้กระเทียมเจียว และหอมซอยใส่ถุงแยก สำหรับกลับบ้านมาให้ เยอะชนิดที่ไม่กลัวต้นหอมหมดจักรวาล  นอกจากนั้นคุณน้าผู้หญิงเจ้าของร้าน ยังน่ารักมาก ๆ แม้จะต้องเจอลูกค้าสารพัดรูปแบบ แต่คุณน้าก็รับมือทุกสถานการณ์ได้อย่างสวยงาม พร้อมรอยยิ้มหวาน ๆ คำพูดเพราะ ๆ และใจเย็น ๆ  วันที่ดิฉันต้องยืนรอก๋วยจั๊บนานเป็นชั่วโมง บอกได้เลยว่าไม่เบื่อเลยค่ะ ยืนดู ยืนฟัง ซะเพลินเลย     ก๋วยจั๊บ พิเศษกระดูกหมู ไม่ใส่หมูยอ ราคา 40 บาท ชามเดียวอิ่มไปถึงพรุ่งนี้ ส่วนเพื่อนของดิฉัน ผู้ที่ไม่นิยมทานเส้น มาทานกันเมื่อไร ดิฉันต้องช่วยทานเส้นก๋วยจั๊บของเพื่อนทุกที เพราะคุณเธอทานไม่ไหว แต่ชอบกระดูกหมูมาก ๆ  และเราเพิ่งจะค้นพบว่า ทางร้านมีเมนูเกาเหลากระดูกหมูด้วย!  จึงนำความยินดีมาสู่คุณเพื่อนมาก ๆ ค่ะ เพราะนอกจากจะได้ทานกระดูกหมูของโปรดในปริมาณมหาศาลแล้ว ยังไม่ต้องเป็นภาระ ให้ดิฉันทานเส้นก๋วยจั๊บของคุณเธอด้วย เพราะแค่ทานของตัวเองก็อิ่มจนจุกจะแย่ แต่ถ้าเหลืออาหารไว้ก็ไม่ใช่เรื่องดี ดิฉันนิยมทานอาหารให้หมด ไม่เคยเหลือเลย ยกเว้นว่ารสชาติไม่ไหวจริง ๆ ชนิดที่ทานแล้ว ไตน่าจะอายุสั้น อย่างนี้เป็นต้น ภาพถ่ายทั้งหมดดิฉันใช้แฟลชในการถ่าย เพราะเราได้โต๊ะที่ห่างไกลแสงไฟและความเจริญ ฮ่าฮ่าฮ่า ถ้าไม่ใช้แฟลช ก็จะทำให้ได้เห็นบรรยากาศที่แท้จริง ของอาหารมื้อค่ำของพวกเราสองคน  ว่ามันโรแมนติกสุดมาก นั่งทานมื้อค่ำใต้ท้องฟ้า และไฟแสงจันทร์ หลังตลาดสด  แทะกระดูกหมูเพลินเลยค่ะ  ทางร้านจะมีจานใบเล็ก ๆ มาพร้อมกับอาหารของเรา เพื่อให้เราได้ใส่เศษกระดูกหมูด้วยนะคะ ไม่ต้องกังวลว่ากระดูกหมูที่ทานแล้ว จะมาปะปนกับอาหารในชาม   ทานเสร็จก็จ่ายสตางค์ ซึ่งสามารถจ่ายได้ทั้งที่โต๊ะ ถ้าเจ้าของร้านเดินผ่านมาพอดี หรือเดินไปที่ด้านหน้าร้าน แล้วชี้บอกว่าโต๊ะที่เรานั่ง อยู่ตรงไหน ทางร้านจะเช็คจากใบจดรายการ แล้วคิดเงินเราค่ะ  ร้านโจ๊ก จั๊บ ต้มเส้น บัตรคิว เปิดตั้งแต่ 18:30- เรื่อยไปจน 04:00 ของเช้าวันใหม่จ้า.... คุ้มค่าแก่การรอคอยจริง ๆ ค่ะ ใครมาขอนแก่นเขาว่าถ้าไม่ได้มาทานร้านนี้ ถือว่ามาไม่ถึงขอนแก่น ดิฉันอยู่ขอนแก่นมานานแสนนาน แต่ไม่ถึงขอนแก่นเสียที  ในที่สุดก็ถึงขอนแก่นแล้วค่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า  *สำหรับคนที่รอนาน ๆ ไม่ต้องกังวลใจเรื่องห้องน้ำนะคะ ถ้าเดินเข้ามาด้านใน ตรงสุดแถวท้ายของโต๊ะที่ทางร้านตั้งไว้ มีห้องน้ำบริการค่ะ (เสียสตางค์ค่ะ เตรียมเหรียญบาทไว้หยอดด้วยนะคะ) ห้องน้ำสว่าง ๆ สะอาดด้วยค่ะ (ดิฉันยังไม่เคยเข้า แต่เพื่อนบอกมา) #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 6
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/02
scene type icon
ข้าวต้ม 62 บ๊อก อำเภอเมืองขอนแก่น ร้านข้าวต้ม
ข้าวต้ม 62 บ๊อก ร้านข้าวต้มที่รักมาก จึงอยากแบ่งปัน เวลาป่วย ๆ หรือรู้สึกไม่ค่อยสบายกาย เหมือนมีไข้อ่อน ๆ ข้าวต้ม มักจะเป็นเมนูปลอดภัย ให้ความอบอุ่นกาย และให้กำลังแก่ผู้ป่วยที่ต้องการพักกาย  ลดการทำงานที่หนักหน่วง ของระบบทางเดินอาหาร จากการทำงานตามปกติ  คุณแม่ของดิฉันมักจะต้มข้าวต้มสารพัดธัญพืชให้ทานเมื่อรู้สึกไม่ค่อยสบาย ซึ่งแน่นอนว่าคุณแม่มีความหวังดี ต้องการให้ลูกรักได้รับประทานอาหารที่มีคุณค่า แน่นอนว่าอาหารของแม่เต็มไปด้วยความรัก  แต่ในบางครั้ง เราก็ต้องการทานอาหาร ตามที่หัวใจเรียกร้อง อาหารที่ดีนอกจากจะต้องเต็มเปี่ยมด้วยคุณค่า เพื่อร่างกายแล้ว ยังต้องมีรสชาติและสัมผัสที่ดีต่อใจด้วยนะคะ  บางทีอาหารที่ทำให้เรารู้สึกดี ก็เป็นอาหารที่ง่าย ๆ ที่เรารู้สึกคุ้นเคย และสบายใจสบายกายเมื่อได้ทาน  ดิฉันมักจะแอบออกไปทานข้าวต้ม กับเพื่อนสนิทเสมอ ๆ เมื่อรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ  ตัวรุม ๆ เหมือนจะเริ่มป่วยเป็นไข้อ่อน ๆ ร้านข้าวต้มในตัวจังหวัดขอนแก่น มีมากมายหลายร้าน ทั้งร้านเก่าแก่ และร้านน้องใหม่มาแรง ดิฉันและเพื่อนสนิท ได้ตะเวนชิมข้าวต้มมาแล้วหลายร้าน ในที่สุด เราก็ค้นพบร้านข้าวต้มที่ดีงาม เป็นร้านข้าวต้มที่เราทั้งคู่รักมาก จนเลิกทานข้าวต้มร้านอื่น ๆ ไปเลยค่ะ  ร้านข้าวต้มที่ว่านี้ ตั้งอยู่ในตลาด 62 บล็อค ริมถนน กัลปพฤกษ์  ถ้าเดินเข้ามาในตลาด ร้านจะตั้งอยู่ด้านในเกือบสุด ติดกับโทรทัศน์จอยักษ์ ที่เปิดให้ชมรายการโทรทัศน์ และฟุตบอลตามฤดูกาล ชื่อร้านก็ตั้งเรียบง่าย ตามชื่อของตลาด คือ ข้าวต้ม 62 บ็อก ในตอนแรกดิฉันและเพื่อนสนิทเพียงแค่ต้องการทานอะไรร้อน ในช่วงฤดูหนาว ไม่ได้คาดคิดเลย ว่าร้านข้าวต้มแห่งนี้ จะดีงาม มีคุณภาพและรสชาติเกินคาดหมายนัก ทางร้านจะมีรายการอาหารติดอยู่ด้านบน ให้เราได้พิจารณาแล้วหยิบกระดาษปากกา ขึ้นมาจดรายการอาหารที่ประสงค์ รายการอาหารทุกชนิด ราคา 30 บาท! และหากอาหารใดที่มีราคาแตกต่างไป ทางร้านก็ได้ติดราคาไว้อย่างชัดเจน ไม่มีตุกติก เมื่อเราสั่งแล้ว ทางร้านจะปรุงอาหารให้ตามรายการที่เราสั่ง จากนั้นก็จะเรียกให้มารับอาหารค่ะ ดิฉันผู้ไม่นิยมผงชูรส ก็ต้องเขียนทุกครั้งว่า ไม่ใส่ผงชูรส เพราะทานเมื่อไร ปากพอง ๆ แถมกระหายน้ำไม่หยุดทุกที ส่วนข้าวสวยและข้าวต้ม ราคาถ้วยละ 2 บาท เท่านั้นค่ะ! ข้าวสวยและข้าวต้ม เป็นข้าวหอมมะลิเมล็ดสวยนะคะ ไม่ใช่ข้าวแข็ง ๆ แห้ง ๆ ราคาถ้วยละ 2 บาทเท่านั้นเองด้วย ในครั้งแรกที่พวกเรามาทาน และเรารักทุก ๆ จาน มากี่ครั้งพวกเราก็ทำใจลำบาก เพราะเมนูเก่าที่ชื่นชอบก็อยากทาน แต่ก็อยากลองชิมเมนูอื่น ๆ ด้วย และเหล่านี้ คือเมนูที่พวกเรารัก และต้องสั่งเป็นประจำค่ะ... (ทานแค่สองคนนะคะ) จับฉ่าย ราคาถ้วยละ 30 บาท จับฉ่ายของทางร้าน รสชาติละมุนลงตัวมาก ๆ ค่ะ  โดยทั่วไปเราจะพบจับฉ่ายเค็ม ๆ หรือจืด ๆ ผักเละ ๆ แต่จับฉ่ายของทางร้าน รสชาติกลมกล่อมพอดีมาก ๆ หวาน เค็ม ลงตัวพอดี ผักตุ๋นก็นุ่มเปื่อยกำลังพอดี ไม่เละยุ่ย จนตักขึ้นมาแล้วขาดหลุดลุ่ยเป็นผุยผง และที่สำคัญคือ ไม่มัน! ไม่มีน้ำมันลอยเยิ้ม ชวนสยอง  ทานสบายรู้สึกอบอุ่นเหมือนตอนนอนหนุนตักแม่ ดื่มนมขวดอุ่น ๆ แล้วสบายใจ รู้สึกปลอดภัย กำลังจะเคลิ้มหลับ อะไรขนาดนั้นเลยเชียว   ผัดหมูหนำเลี๊ยบ จานละ 30 บาท  เป็นหมูผัดหนำเลี๊ยบที่รสชาติงดงามมากค่ะ เราจะพบบ่อย ๆ ที่หลาย ๆ ร้าน จะผัดหนำเลี๊ยบเค็มปี๋ ๆ และกระหน่ำใส่พริกไทย จนเผ็ดร้อน ไม่ได้รสชาติอะไรเลย เค้ม เผ็ด เหม็นฉุน ไร้ความสมดุลทางรสชาติ   ดิฉันจึงหลีกเลี่ยงที่จะสั่งเมนูนี้ เนื่องจากไม่ต้องการเสี่ยงสุขภาพไต ของตนเอง กับอาหารที่คาดเดาได้ว่าต้องเค็มมากแน่ ๆ  แต่ด้วยความที่เพื่อนสนิทของดิฉันไม่เคยทานหนำเลี๊ยบ คุณเธอจึงต้องการชิม โดยมีดิฉันเป็นกองกำลังเสริม ช่วยกันทานให้หมด หากรสชาติน่ากลัวจนทานคนเดียวไม่ไหว    ซึ่งดิฉันขออนุญาติตกใจ ในรสชาติที่ละมุนละไม ของหมูผัดหนำเลี๊ยบของทางร้านสักหน่อยนะคะ เ ไม่คาดคิดจริง ๆ ว่าหมูผัดหนำเลี๊ยบราคา 30 บาท จานนี้ จะมีรสชาติดีงาม จนเกินต้านทานจริง ๆ หมูบดที่นำมาผัด ก็เป็นเนื้อหมู ไม่ใช่ไขมันปนหมู จึงไม่เลี่ยนเอียนน้ำมัน สัดส่วนของหนำเลี๊ยบที่ใส่มา เหมือนได้รับการคำนวนมาแล้วว่า ใส่ปริมาณเท่านี้ จะได้ปรุงรสชาติที่เค็มได้พอดี  และใส่พริกไทยลงมา เพื่อให้ได้รสชาติพริกไทย ในผัดหนำเลี๊ยบ  ไม่ใช่ผัดหมูหนำเลี๊ยบรสชาติพริกไทยล้วน ๆ  ใครยังไม่เคยลองทานผัดหนำเลี๊ยบ แนะนะเริ่มต้นที่ตรงนี้นะคะ    กะหล่ำผัดน้ำปลา ราคา 30 บาท ดิฉันเป็นคนชอบทานผัก ซึ่งกะหล่ำผัดน้ำปลา เป็นเมนูที่ดิฉันและเพื่อนสนิทชื่นชอบกันทั้งคู่ แต่เราเลือกที่จะไม่ทำทานเองทั้งคู่ เพราะไม่ไหวจะต่อสู้กับกลิ่นของน้ำปลา ที่เกาะติดตัวและครัวของเรา ดังนั้น เมื่อเหลือบไปเห็นว่าทางร้านมีเมนู กะหล่ำผัดน้ำปลา พวกเราก็ตาลุกวาวในทันที พร้อมใจกันสั่งเมนูนี้ โดยไม่ต้องเสียเวลาพิจารณากันให้ยาวนาน    ทางร้านจะผัดกะหล่ำให้จานต่อจาน เราจึงได้ทานอาหารร้อน ๆ  ไม่ใช่ผัดใส่ถาดไว้ แล้วค่อยตักใส่จานให้นะคะ  ผักกะหล่ำนั้นมีความนุ่มพอดีมาก ๆ ราวกับผ่านการลวกมาให้นุ่มก่อน แล้วจึงนำมาผัด แล้วที่สำคัญที่ ทานไปจนหมดจาน เราไม่พบว่ามีผักชิ้นไหนเหนียวแข็ง เลยแม้แต่น้อย แสดงถึงความใส่ใจของทางร้าน ในการคัดเลือกผักในขั้นตอนการหั่นผัก เพื่อให้ได้กะหล่ำผัดน้ำปลาที่มีมาตรฐานดีงาม ดิฉันและเพื่อนไปทานกี่ครั้ง ก็ยังคงมาตรฐานเดิมนะคะ  ในส่วนของรสชาติ ก็เค็มพอดี ๆ เค็มแบบเรียบร้อย ๆ งาม ๆ กุลสตรี  เป็นอาหารจานที่รสชาติดีถูกใจมาก ๆ อีกหนึ่งจาน ที่ทำให้ทานผักได้อย่างสบายใจ และไม่ต้องกลัวไตพัง  คะน้าหมูกรอบ ราคา 30 บาท ที่เรารักกันมาก ๆ อีกเช่นกัน มาถึงเมนูง่าย ๆ จานที่พวกเราแนะนำ ว่าไม่ควรพลาด คือ คะน้าหมูกรอบรสดี ซึ่งหมูกรอบจริง และคะน้าดีจริง ในราคาเพียง 30 บาทนี้ ทางร้านได้คัดคะน้า ให้มีแต่ส่วนที่กรอบนุ่ม ไร้ส่วนก้านที่แข็งแรง เปี่ยมด้วยกากใย จนไม่สามารถเคี้ยวกลืนได้  ความใส่ใจนี้ แสดงถึงทัศนคติที่ดีงาม ในการดำเนินกิจการจริง ๆ นะคะ  นอกจากจะจริงจังในเรื่องรสชาติที่ดีแล้ว ยังเต็มที่ในเรื่องคุณภาพของวัตถุดิบ  ได้เจอร้านข้าวต้มคุณภาพดีแบบนี้  ก็ต้องรักมาก และอยากแบ่งปันให้ท่านอื่น ๆ ที่ชื่นชอบข้าวต้มได้ทานกัน  อยากให้ร้านอาหารที่น่ารักแบบนี้ ได้มีพื้นที่ส่งมอบความดีงามให้พวกเราไปนาน ๆ คะ  ใครยังคิดเมนูมื้อเย็นไม่ออก ลองชวนกันไปทานข้าวนอกบ้าน เปลี่ยนบรรยากาศกันดูก็ดีนะคะ ข้าวต้ม 62 บ๊อก ราคาน่ารักขนาดนี้ รับรองว่าทานแล้วอิ่มจนจุก แถมมีสตางค์เหลือ ไม่ต้องไปแย่งต่อคิวบุฟเฟต์ราคาแพง ๆ กันเลยหละค่ะ #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 3
  • 0
avatar image Parany Duang-Im
2020/02/02
scene type icon
น.ก๋วยเตี๋ยวผักสด อำเภอเมืองขอนแก่น ก๋วยเตี๋ยว
น ก๋วยเตี๋ยวผักสด ข้าวมันไก่ ร้านดีในดวงใจ น ก๋วยเตี๋ยวผักสด เป็นร้านที่เราอุดหนุนมานานตั้งแต่ ยังเป็นเต็นท์ริมทาง จนตอนนี้ร้านกลายเป็นตึกแล้วจ้า... ดีจริงๆ เลย เพราะตอนที่ไปทานเมื่อตอนเป็นเต็นท์ในฤดูหนาว มันหนาาวมากๆ ทานไปสั่นไป มาฤดูหนาวนี้ ไม่ต้องกลัวลมหนาวอีกต่อไป(ถ้าไม่เลือกไปนั่งรับลมที่ด้านนอกนะคะ)  จุดเด่นของทางร้านที่เราชื่นชอบมาก คือเราเป็นคนชอบทานผัก และทางร้าน ให้ลูกค้าสามารถหยิบผักเพิ่มเองได้ ตามความต้องการ ไม่คิดเงินเพิ่มค่ะ แต่เราไม่เคยได้หยิบผักสดเพิ่มเลยจริงๆ เพราะปริมาณอาหาร และผักในชามก็เยอะมากอยู่แล้ว  จึงเป็นร้านที่คนรักผักชื่นชอบกันเป็นพิเศษ  ร้าน น ก๋วยเตี๋ยวผักสด ข้าวมันไก่ เป็นติดริมถนน สามารถจอดรถริมถนนได้ ทั้งสองฝั่งทาง การตกแต่งร้านเรียบง่าย เน้นความเป็นระเบียบ และสะดวก  เมนูของทางร้านได้แก่ ข้าวมันไก่ ข้าวขาหมู ก๋วยเตี๋ยวน้ำตก หมูและเนื้อ เป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำตกสูตรพิเศษ ที่มีเครื่องปุรงหลากหลายสไตล์เฝอของเวียดนาม  ทีเด็ดคือที่ร้านนี้มีสไบนาง ซึ่งร้านทั่วไปๆ ไม่เสิร์ฟด้วยค่ะ  ด้วยจำนวนลูกค้าที่เข้าออกร้านตลอดเวลา ที่เราและเพื่อนทานอยู่ บอกได้เลยว่า น ก๋วยเตี๋ยวผักสด เป็นร้านขวัญใจชุมชนตัวจริง  เนื่องจากราคาที่ถูก รสชาติที่ดี และที่สำคัญคือความเอื้อเฟื้อ  มีทั้งน้ำแข็ง และผักสดให้เติมได้ฟรีๆ เลยค่ะ   ด้านซ้ายคือเคาน์เตอร์ข้าวมันไก่  ด้านขวาคือเคาน์เตอร์ก๋วยเตี๋ยว  ส่วนร้านข้างๆ ด้านขวาชื่อ นักรบชูส์ เมื่อก่อนขายรองเท้า เครื่องแบบตำรวจทหาร ข้าราชการ แต่ตอนนี้ขายสุกี้และแจ่วฮ้อน ซึ่งเราสามารถสั่งมาทานในร้าน น ผักสดได้ เขาไม่ว่าค่ะ เราสั่งแจ่วฮ้อนเนื้อมาทานกับเพื่อนด้วย คุณภาพและรสชาติถูกใจมากๆค่ะ แม้ในชามก๋วยเตี๋ยว ทางร้านจะลวกผักมาให้ ในปริมาณที่มากกว่าร้านทั่วๆ ไปแล้ว แต่ก็ยังมีผักสด พร้อมถาดและที่คีบ ให้ลูกค้าคีบผักได้ตามต้องการด้วยตัวเอง  ชอบที่ทางร้านสนับสนุนให้คนทานผักเยอะๆ ถูกใจคนชอบทานผักมากค่ะ นอกจากปริมาณของก๋วยเตี๋ยวน้ำตกที่เยอะเกินคุ้มแล้ว ยังมีดงเครื่องปรุงหลากชนิด ให้ลูกค้าได้ปรุงกันให้ถูกใจ นอกจากเครื่องปรุงพื้นฐาน คือ น้ำปลา น้ำตาล น้ำส้มสายชู ทางร้านยังมี พริกป่นผัดน้ำมัน กระเทียมสด พรืกขี้หนูสดเป็นเม็ด กะปิ และซอสพริก ซึ่งใช้ของดีทั้งนั้นเลยนะคะ ส่วนตัวเราไม่ชอบปรุงอาหารเพิ่มสักเท่าไร เพราะแค่น้ำซุปของทางร้าน  แบบไม่ต้องปรุงอะไร ก็ถูกใจเราแล้วค่ะ  น้ำแข็งฟรี ตักเอาเอง เลือกแก้วเลือกหลอดเอง และทางร้านมีน้ำดื่มเป็นเหยือกให้ฟรี ไม่คิดสตางค์ ในขณะที่หลายๆ ร้านในปัจจุบัน คิดค่าน้ำแข็งแก้วละ 2 บาท  เอาจริงๆ ก็สงสัยว่าได้กำไรจากตรงไหนบ้าง ฟรีเยอะขนาดนี้   และถ้าอยากดื่มน้ำเปล่าขวดๆ หรือน้ำสีสันต่างๆ ก็สามารถหยิบจากในตู้แช่ได้เองเลยค่ะ  รอไม่นานอาหารก็มา เส้นหมี่ เนื้อสด ลูกชิ้นและเนื้อตุ๋น พิเศษ ชามนี้ 50 บาท เท่านั้นค่ะ  ความดีงามของก๋วยเตี๋ยวชามนี้ คือเนื้อสด ที่สดจริง และเหนียวนุ่มกำลังพอดี ไม่เหนียวจนกัดไม่ขาด หรือนุ่มจนรู้สึกได้ว่าผ่านการหมักผงเนื้อนิ่มมา เนื้อตุ๋นก็ตุ๋นมาดีมาก นุ่มพอดี แต่ไม่ใช่เปื่อยจนยุ่ยแบบไม่ต้องเคี้ยวใดๆ น้ำซุปเค็มนำ ตามสไตล์ก๋วยเตี๋ยวน้ำตกทางภาคอีสาน  ทานชามนี้หมดก็จะอิ่มแบบเกินพอดีมานิดนึง เพราะปริมาณของก๋วยเตี๋ยวเยอะมากๆ  เยอะทุกอย่าง ทั้งเนื้อ ลูกชิ้น ผัก เส้น ไม่ใช่ประเภท เส้นเยอะๆ เนื้อต้องออกตามหา ถึงจะพบเจอ  เมนูเกาเหลา สไบนางล้วน ราคา 50 บาท เราเป็นคนชอบทานสไบนาง(มันคือกระเพาะของวัว) ซึ่งสไบนางที่ร้านสดใหม่มากๆ เรียกว่าสั่งปุ๊บ พ่อค้าเดินไปซื้อ ที่เขียงเนื้อฝั่งตรงข้ามปั๊บ (หมดพอดี)  ทางร้านลวกสไบนางได้กำลังดี กรอบ นุ่ม  ไม่ลวกนานไปจนเหนียว เคี้ยวไม่ขาด ไม่ลวกน้อยไปจนสไบนางไม่สุก(ไม่กล้าทาน)  และให้สินค้าในปริมาณที่เยอะมากๆ  มากจนเหมือนทำการกุศล  อีกหนึ่งเมนูที่นำเสนอ คือข้าวมันไก่ ซึ่งทางร้านทำได้ดีมากๆ เนื้อไก่นุ่มชุ่มมันกำลังพอดี แบบไม่เครียด ว่าทานแล้วต้องออกวิ่ง อีกกี่กิโลเมตร ถึงจะเอาพลังที่รับเข้าไป ออกมาได้หมด ส่วนเลือดไก่ก็จับตัวเป็นก้อน แข็งกำลังพอดี ไม่เละ ไม่มีกลิ่นคาว  ไม่น่ากลัว มาพร้อมกับน้ำจิ้มข้าวมันไก่ ที่ไม่มีกลิ่นฉุนใดๆ ให้ต้องหวาดกลัว (เราไม่ชอบกลิ่นน้ำจิ้มไก่) รสชาติน้ำจิ้มไก่ก็กลมกล่อมลงตัว ไม่เค็มจัด จนกลัวไตวาย  ที่ดีงามมากมาย คือการให้แตงกวาหนาๆ มาทานพร้อมกับไก่สับด้วย ไม่ใช่แตงกวาแบบบาง จะเอาส้อมจิ้มขึ้นมาทานที ก็กลัวจะปลิวหายไปกับสายลม  ไก่สับราคาจานละ  70 บาทนะคะ ใครสนใจ ทานก๋วยเตี๋ยว ที่รสชาติดี และเจ้าของร้านมีใจเอื้อเฟื้อ แนะนำร้าน น ก๋วยเตี๋ยวผักสด นะคะ ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 11:00- 02:00 น. อ่านไม่ผิดค่ะ เปิดจนถึงตีสอง  ใครหิวยามดึก นึกถึง น ก๋วยเตี๋ยวผักสดได้  ใครเดินซื้อของจนห้างปิด หิว แต่ไม่รู้จะทานอะไรดี เชิญมาทานอาหารสารพัดเมนู ในราคาที่เกินกว่าคุ้มได้ ที่ น ก๋วยเตี๋ยวผักสด นะคะ #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ เพิ่มเติม
  • 3
  • 0